ความพึงพอใจในการเดินทาง
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนบินลัดฟ้าข้ามเวลาหนีโควิดไปเที่ยวญี่ปุ่นกันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบาย ๆ ของฤดูใบไม้ร่วง ในตอนนี้จะเป็นวันแรกของทริปกับสถานที่เช็คอินยอดฮิตในโอซาก้า และเราไม่ลืมที่จะพาไปพบประสบการณ์นก ๆ แบบฉบับทาสแมวที่วากายาม่าด้วยกันค่ะ
การเดินทาง
จากแผนการเดินทางในแต่ละวัน และความอยากลองนั่ง “ชินคันเซ็น (Shinkansen)” เราเลยเลือกใช้ JR-west Rail Pass แบบ 5 วัน และ Kansai Thru Pass แบบ 2 วัน เพื่อความเหมาะสมและความคุ้มค่าของทริป
แผนการเดินทาง
แผนการเดินทางทั้ง 7 วันของเรา
Day 0
- ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เครื่องถึงญี่ปุ่นในช่วงดึก ๆ เราแวะพักย่านสถานีรถไฟ Izumisano Station (泉佐野駅) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินคันไซ (Kansai International Airport : 関西国際空港) มากนัก
Day 1
- ไปวากายาม่า Wakayama ชิมราเมงร้าน Sarashina Honten (更科 本店)
- นั่งรถไฟแมว Wakayama Electric Railway สาย Kishigawa มาหาท่านทามะนัมเบอร์ 2 (นิทามะ : Nitama)
- เที่ยวชมปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle : 大阪城)
- เดินเล่นยามค่ำคืนที่ Namba Park (なんばパークス)
Day 2
- เที่ยวโอคายาม่า (Okayama)
- นั่งรถไฟข้ามทะเลเซโตะไปชมวิวที่ทาคามัตสึ (Takamatsu)
- เดินเล่นย่านโดทงโบริ (Dōtonbori : 道頓堀) เยี่ยมชมป้ายกูลิโกะสัญลักษณ์สำคัญอีกที่หนึ่งของโอซาก้า
Day 3
- ไปตามหาน้องกวางที่นารา (Nara) รอดเสาในตำนานที่วัดโทไดจิ (Tōdai-ji : 東大寺)
- เดินเล่นชิลล์ ๆ ริมทะเลที่โกเบ (Kobe)
Day 4
- เที่ยวอุจิ (Uji) วัดเบียวโดอิน (Byodoin : 平等院)
- รอดซุ้มประตูสีแดงที่ศาลเจ้าจิ้งจอก (Fushimi Inari Taisha : 伏見稲荷大社)
- ชมวิวกลางคืนที่สถานีรถไฟเกียวโต (Kyoto Station)
Day 5
- เที่ยวอาราชิยาม่า (Arashiyama)
- สวนป่าไผ่อาราชิยาม่า Arashiyama Bamboo Grove
- ชมวิวฤดูใบไม้ร่วงที่สะพานข้ามแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River)
- ชมทุ่งนาย่านชานเมืองริมทางรถไฟ
Day 6
- นั่งรถไฟชมใบไม้แดงระหว่างทางไปคุรามะ
- เดินเล่นชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สถานีรถไฟคิบุเนะกุจิ (Kibuneguchi Station)
- ถ่ายรูปสไตล์ฮิปสเตอร์ระหว่างรอรถไฟที่สถานีรถไฟ Demachiyanagi
- บรรยากาศยามค่ำคืนที่วัดน้ำใส หรือ วัดคึโยมิสึ (Kiyomizu-dera)
Day 7
- ไปตลาดนิชิกิ (Nishiki Market : 錦市場) และเดินเล่นบริเวณรอบ ๆ
- นั่งรถไฟกลับมาโอซาก้าแล้วไปแวะริงกุเอาท์เล็ต (Rinku Premium Outlets : りんくうプレミアム・アウトレット) ชอปปิ้งและทานมื้อเย็น
- ดูสรุปทริปและค่าใช้จ่ายได้ที่นี่ค่ะ
ออกไปเห็นญี่ปุ่นกันเถอะ
วันนี้เป็นวันแรกของทริป หลังจากตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวพักเอาแรงจนเต็มที่แล้วเราจะออกเดินทางกัน พูดถึงที่พักคืนแรกสักหน่อย ถึงแม้ที่พักจะไม่ใช่เรียวกังแต่ก็ทำให้เราได้ความรู้สึกเหมือนมาพักบ้านคนญี่ปุ่นจริง ๆ
เราเช็คเอ้าท์ออกจากเกสต์เฮาส์ครอบครัวคุณลุงชาวญี่ปุ่น แล้วออกเดินทางไปวากายาม่า (Wakayama : 和歌山県) กันเลย นั่งรถไฟมาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงสถานีรถไฟวากายาม่า (Wakayama Station : 和歌山駅) เราไม่รอช้ารีบจัดแจงฝากกระเป๋าอย่างรวดเร็วเพราะหิวมาก555
ร้าน Sarashina Honten (更科 本店)
ร้านนี้เป็นร้านแนะนำอยู่ในหนังสือไหนซักเล่มนี่แหละ ไหน ๆ เรามาแล้ว หิวด้วย555 และร้านก็เดินไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก เดินชิลล์ ๆ 5 นาทีก็ถึง
ตอนแรกไม่แน่ใจด้วยว่าร้านเปิดมั้ย แต่ในที่สุดเราก็ได้กิน ชามใหญ่มากกกก และอร่อยมากด้วย เหนือความคาดหมายมาก ๆ เพราะไม่ได้หวังว่ารสชาติอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับจะถูกปากเราขนาดนั้น คิดว่ามันคงจืด ๆ 55 ด้วยความไม่คาดหวังของเรานั้น ทำให้อาหารที่อร่อยอยู่แล้วอร่อยเข้าไปอีก ไม่พอที่เราชอบที่สุดคือน้ำชา มันหอมมาก ระหว่างกินไปพ่อครัวก็คอยชำเลืองมอง5555 เหมือนรอดูว่าผลตอบรับเป็นยังไง คือมันอร่อยมากแต่เสียอย่างเดียวให้มาเยอะไปกินเกือบไม่หมด555 ถ้ากินไม่หมดเราคงเสียใจและเสียดายมากอ่า ถือว่าเป็นร้านราเมงที่อร่อยที่สุดในทริปคันไซของเราเลย
ความแปลกใจของแม่ในวันนี้คือการเห็นผู้สูงอายุหลาย ๆ คนที่พบเจอระหว่างทางเดิน และเค้าเหล่านั้นดูแข็งแรงเดินขึ้นรถ ขึ้นบันได และพบเจอค่อนข้างเยอะกว่าวัยอื่น ๆ
ความนกในวันแรกของทริปที่ รถไฟแมว Wakayama Electric Railway สาย Kishigawa
หลังจากอิ่มหนำสำราญจากมื้อกลางวันเรียบร้อย เราพกใจที่เบิกบานเพื่อไปตามหาท่านทามะทู (Tama II) หรือ นิทามะ (Nitama) นายสถานีขนสามสี ทาสแมวต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี คือมันเป็นอะไรที่น่ารักมากนะมีแมวเป็นนายสถานี
ความตกแต่งต่าง ๆ น่ารักถูกใจทาสมากค่ะ
แต่ยังไม่ทันจะหายตื่นเต้นกับความมุ้งมิ้งต่าง ๆ
Day off! นกสินะ555 ร้องไห้หนักมาก คาดหวังไว้มาก ทาสแมวอย่างเราก็จะนอย ๆ เล็กน้อยถึงมาก55 ถ้าใครไม่อยากนกแบบเราแนะนำให้ดูตารางการทำงานของเจ้าเหมียวนายสถานีได้ที่นี่นะ https://www.wakayama-dentetsu.co.jp/en/ ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เจ้าเหมียวนิทามะตัวเดียวแล้วยังมีเจ้าเหมียวโยนะทามะ นายสถานีอิดากิโสะ แมวสามสีอีกเช่นกัน
หลังจากนกการนั่งรถไฟแมวฟรุ้งฟริ้งไปแล้ว เราก็เอากระเป๋าเดินทางกลับโอซาก้ากัน
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle : 大阪城)
เราเดินทางกลับเข้ามาในโอซาก้าเก็บกระเป๋าที่โรงแรมข้างสถานีรถไฟชินอิมามิยะ (Shin-Imamiya Station : 新今宮駅) แล้วนั่งรถไฟไปเดินเล่นชมปราสาทโอซาก้ากัน
ระหว่างทางเดินมีความร่มรื่นแต่คลีน สะอาดสะอ้าน มีกลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังค่อย ๆ เปลี่ยนสีกำลังรอวันที่สีสันสดใสเต็มที่
ดอกไม้ต่าง ๆ เรียงรายดูสบายตาตลอดทางเดิน
สังเกตอย่างนึงคือปราสาทต่าง ๆ จะมีคูน้ำล้อมรอบ เป็นเสมือนกำแพงป้องกันข้าศึก อารมณ์เดียวกับเกาะกลางอยุธยายังไงยังงั้น
การเดินขึ้นมาบนนี้ทำให้เราได้เห็นมุมมองจากด้านบนของเมืองโอซาก้ากับใบไม้แดง ใบไม้เหลืองที่กำลังเปลี่ยนสีสัน บวกกับลมเย็น ๆ บนที่สูง เป็นเวลาและบรรยากาศดี ๆ สำหรับการเที่ยวแบบครอบครัวอย่างยิ่ง
ความงามของปราสาทก็เด่นเป็นสง่าสมเป็นแลนด์มาร์คของเมือง
คนเยอะพอสมควรเลยที่นี่ เราเดินออกจากปราสาทก็เกิดอาการเมื่อยเล็ก ๆ นี่วันแรกเองนะ หรือเราอาจจะยังปรับตัวไม่ทัน555 เลยนั่งพักแวะกินขนมของว่างรองท้อง(สรุปว่าเมื่อยหรือหิวก็ไม่รู้55) อิ่มแล้วเราก็เดินทางกันต่อ
แม้จะนกจากเจ้าเหมียวสามสีนายสถานีรถไฟที่วากายาม่า แต่เราไม่นกการพบเจอน้องเหมียวที่สวนในปราสาทนะ น้องขนสั้นแต่ดูนุ่มนิ่มมากเด้อ
แต่ ไม่ว่าแมวที่ไหนก็เหมือนกันสินะ แมวเมิน55 ความเป็นนายทาสมีอยู่กับแมวทุกประเทศใช่มั้ยเนี้ย 555
นัมบะปาร์ค Namba Parks (なんばパークス)
หลังจากไปเยี่ยมชมสถานที่ที่ห้ามพลาดเมื่อมาโอซาก้าอย่างปราสาทโอซาก้าไปแล้ว สถานที่ต่อไปที่ต้องมาเช็คอินก็หนีไม่พ้นนัมบะปาร์คนี่แหละ เด็กสถาปัตย์อย่างเราพลาดไม่ได้ที่จะมาชมดีไซน์ไอเดียเก๋ ๆ ของที่นี่ (ความจริงคือเพราะเรานกรถไฟแมวทำให้เรามีเวลาเหลือมาเดินเล่นที่นี่ได้เร็วขึ้น)
เป็นการตกแต่งแลนด์สเคปที่เดินแล้วสบายตาสบายใจ เรามาถึงที่นี่ก็จวนจะมืดแล้ว บรรยากาศเริ่มสลัว ๆ
พอเริ่มมืด ความคึกคักก็เริ่มมา เราออกจากห้างมาเดินเล่นแถว ๆ Namba Nankaidori (なんば南海通) เพื่อหาของกิน5555
แถวนี้มีร้านของกินที่เป็นแนวสตรีทฟู้ดตามแนวตลอดทางเดิน ย่านนี้คึกคักไปด้วยผู้คน ร้านค้า ร้านของฝาก ร้านอาหารยามค่ำคืน ถ้าใครที่ยังไม่เมื่อยก็เดินไปย่านโดทงโบริที่มีป้ายกูลิโกะได้ต่อ แต่เรากะว่าไว้มาพรุ่งนี้ดีกว่า เพราะของกินยั่วเหลือเกินเด้อ555
จบวันแรกของทริป มีความเหนือความคิดที่คิดไว้ก่อนมาที่นี่มาก และคนก็เยอะกว่าที่คิดไว้มากโดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่คึกคักเป็นพิเศษ วันนี้ได้เห็นวิวเมืองที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีต่าง ๆ แล้วตื่นเต้น ด้วยความที่ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่ชอบมากที่สุดของเรา แต่พืชพันธุ์ไม้ที่นี่ก็ให้สีสันที่มันแบบฉูดฉาดกว่าที่อื่นด้วยใบเมเปิ้ลสีแดง มันเลยทำให้เราแบบรู้สึกดีที่เห็นวิวอาคารบ้านเรือนมินิมอล ๆ เป็นกล่อง ๆ ของญี่ปุ่นอยู่ท่ามกลางเส้นสายของธรรมชาติสีสันที่ต่างกันไปตามแต่ละชนิด มาวันแรกแม้จะเมื่อยบ้าง คนเยอะบ้าง แต่อาหารอร่อยนะ555 นอนคิดว่าพรุ่งนี้จะเจออะไรตื่นเต้นอีกมั้ย จะนกอีกมั้ย การพลาดรถไฟแมวก็ทำให้เราได้คิดว่าเที่ยวแบบไม่คาดหวังก็ดีนะ เราจะได้แฮปปี้มากขึ้นไปอีกถ้าเจออะไรดี ๆ และการพลาดรถไฟแมวก็สอนให้เรารู้ว่าควรเช็คข้อมูลให้ดีก่อน55 แม้จะชอบการเที่ยวแบบลุย เผชิญหน้าไปเล๊ย แต่ถ้าพลาดเราอาจจะต้องรอโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์ในทริปหน้าแทน555
ขอบคุณค่ะ
ติดตามทริปอื่น ๆ ได้ต่อที่นี่ค่ะ
Autumn in Kyoto ตอน ตามรอยท่านโชกุนที่วัดทอง เดินทอดน่องชมใบไม้เปลี่ยนสีที่หมู่บ้านทาคาโอะ
One day in Tokyo finding Cherry blossom ตามหาเจ้าซากุระและคุณน้าชาวญี่ปุ่นที่โตเกียว
Before Midnight in Fukuoka ฟุกุโอกะหนึ่งวันชิลล์ ๆ กับความหลากหลายยามค่ำคืน
Tohoku in Winter ตามหาหิมะและความเหงาที่โทโฮคุ
Autumn in Kansai ตอน ตามหาความสงบท่ามกลางใบไม้แดงบนภูเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์
Sunny day in Kansai ตอนปราสาทนกกระสาขาวกับดาวตอนกลางวันริมโอซาก้าเบย์เดินเซ ๆ ที่อาริมะ