ความพึงพอใจในการเดินทาง
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมบรรยากาศฤดูใบไม้ร่วง ความงามธรรมชาติที่เราต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งในชีวิต และที่ที่ขึ้นชื่อว่าใบไม้แดงสวยงามติดอันดับโลกจะต้องมีเกียวโต (Kyoto) รวมอยู่แน่นอน ญี่ปุ่นครั้งนี้ของเราเป็นทริปครอบครัว เราจึงเลือกภูมิภาคคันไซ (Kansai) เพราะว่าเป็นโซนที่ธรรมชาติสวยงามโซนนึงของญี่ปุ่น วันนี้เราจะพาไปเที่ยวอาราชิยาม่า (Arashiyama) สถานที่เช็คลิสต์ของเกียวโตก็ว่าได้ เราจะเริ่มต้นด้วย Landmark ที่สำคัญ ๆ ของเกียวโต ใครมาเกียวโตต้องไม่พลาดสถานที่เหล่านี้แน่นอน ส่วนตอนบ่ายนั้นเราจะไปที่ที่ unseen ของญี่ปุ่น(สำหรับเรา55) และเป็นที่ที่ประทับใจและได้ความรู้สึกใหม่ ๆ กับประเทศนี้
- ว่าด้วยเรื่องที่พักในเกียวโต
- ว่าด้วยเรื่องของการเดินทางในเกียวโต
- แม่น้ำคัตสึระ (Katsura River)
- Arashiyama Park Observation Deck
- สวนป่าไผ่อาราชิยาม่า Arashiyama Bamboo Grove
- วัดเท็นริวจิ Tenryuji temple
- เดินเล่นโซนเมือง ระหว่างทางเดินไป สถานีรถไฟ Saga - Arashiyama
- Hozukyo Station
- ทุ่งนาญี่ปุ่นชานเมืองเกียวโต สถานีรถไฟ Umahori
ว่าด้วยเรื่องที่พักในเกียวโต
ด้วยความที่เป็นทริปครอบครัว เรื่องวัยจึงเป็นหนึ่งปัจจัยที่เราให้ความสำคัญ ถึงผู้สูงอายุในทริปเราจะแข็งแรง คล่องแคล่ว แต่เราก็เลือกที่พักที่ใกล้สถานีรถไฟไว้ก่อน เพราะเดินในสถานีรถไฟเองก็ไกลแล้ว 55
เราพักที่ที่พักยอดฮิตของคนไทย55 Piece Hostel Kyoto จากรูปคือมองออกไปก็เห็นสถานีเลย
ว่าด้วยเรื่องของการเดินทางในเกียวโต
ด้วยความที่แม่มาญี่ปุ่นครั้งแรกและอยากลองนั่งชินคันเซ็น (Shinkansen) บวกกับความเหมาะสมของทริป เราเลยเลือกซื้อ JR-west Rail Pass แบบ 5 วัน กับ Kansai Thru Pass แบบ 2 วัน แต่วันนี้เราจะใช้เจอาร์พาสสำหรับไปอาราชิยาม่ากัน
แผนการเดินทาง
ช่วงเช้า - อาราชิยาม่า (Arashiyama) สะพานข้ามจันทร์ (Toketsu-Kyo) และเดินริมแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River)
- ชมวิวหมอกและใบไม้เเดงบน Arashiyama Park Observation Deck
- เดินทะลุผ่าน สวนป่าไผ่อาราชิยาม่า Arashiyama Bamboo Grove
- นั่งชมสวนเซนที่วัดเท็นริวจิ (Tenryuji temple)
ช่วงบ่าย - กินข้าวและเดินเล่นรอบ ๆ เมืองระหว่างทางเดินไปสถานีรถไฟซากะอาราชิยาม่า (Saga - Arashiyama)
- แวะชม พิพิธภัณฑ์รถไฟจำลอง (Diorama Kyoto)
- ชมวิวฤดูใบไม้ร่วงที่สะพานข้ามแม่น้ำ คัตสึระ (Katsura River) ที่สถานีรถไฟ Hozukyo Station
- เดินชมทุ่งนาข้าง ๆ สถานีรถไฟ Umahori Station
พร้อมแล้วไปเที่ยวเกียวโตในฤดูใบไม้ร่วงกันเลย
ตื่นเช้ามาด้วยบรรยากาศที่น่านอนสุด ๆ ฝนตกกับฤดูใบไม้ร่วง เป็นอะไรที่มองออกไปแล้วได้บรรยากาศมาก แต่! มันไม่ดีกับการเที่ยวนี่สิ 55 มันจะเฉอะแฉะ เดินทางไม่สะดวกหรือเปล่า แต่ก็โชคดีที่มันเป็นฝนแบบปรอย ๆ หมอก ๆ ได้ feeling ไปอีกแบบนึง ที่ญี่ปุ่นนี่ดีอย่างแม้แต่โฮสเทลก็มีร่มให้เรายืมฟรี ๆ ประเด็นเกี่ยวกับร่มนี่ก็เยอะเหมือนกัน แต่ขอให้จำของตัวเองให้ได้ไว้ละกัน 55
เราเดินออกจากโฮสเทลเพื่อเดินไปสถานีรถไฟ Kyoto ก่อนออกเดินทางไปยังอาราชิยาม่า (Arashiyama) แนะนำว่าควรออกจากที่พักเช้า ๆ เพราะที่ที่เราจะไปวันนี้คนเยอะม๊ากกก วันนี้เราจะใช้พาส JR-west Rail Pass เป็นวันสุดท้าย เดินโชว์ตั๋วให้เจ้าหน้าที่เพื่อผ่านไปยังชานชาลา รอรถไฟที่จะนำเราไปสถานี Saga- Arashiyama
แม่น้ำคัตสึระ (Katsura River)
เราเดินจากสถานีรถไฟ แวะกินขนมบ้างจนมาถึงแล้ว! อาราชิยาม่า(Arashiyama) เราเดินมาจนเจอสะพานข้ามจันทร์ (Toketsu-Kyo) ที่ข้ามแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) พร้อมกับหมู่มวลมหาประชาชีนักท่องเที่ยว ฝนพรำแอบเฉอะแฉะนิดหน่อย แต่มันสวยตราตรึงมาก
ด้วยความที่ละอองฝนบวกกับความสีสันของใบไม้ร่วงสีแดง สีเหลือง สีส้ม เหมือนภาพความฝันเลยแหละ นี่แหละญี่ปุ่นที่เราวาดภาพไว้ ต้องมาเห็นด้วยตัวเองจริง ๆ เพราะถ่ายรูปมาแล้วสวยสู้ของจริงไม่ได้ จริงๆเกือบทุกที่เลยที่รู้สึกว่า ภาพถ่ายเป็นเหมือนเครื่องเตือนความจำ ความรู้สึก ที่เราได้เคยดื่มด่ำกับบรรยากาศ สถานที่ที่เราได้ไป
เราตัดสินใจไม่เดินข้ามสะพาน เราเดินเลียบแม่น้ำชมความงามของใบไม้แดงตามเนินเขา จะมีเรือสไตล์ญี่ปุ่นพายผ่านมาเป็นระยะ ถ้าใครสนใจล่องเรือก็เดินตามทางนี้ไปนี่แหละเดี๋ยวจะเจอท่าเรือที่รับนักท่องเที่ยวล่องเรือชมบรรยากาศแม่น้ำคัตสึระ ตรงที่มีเรือจอดอยู่เยอะ ๆ
เดินมาถึงต้นไม้ต้นนี้ สีแดงอมชมพู เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คนึงของอาราชิยาม่าเลย 55 มันอยู่ถูกจังหวะถ่ายภาพจริง ๆ ยืนพักสักตรงนี้รอจังหวะเรือพายผ่านจะได้ภาพบรรยากาศกลับบ้านเก๋ ๆ
Arashiyama Park Observation Deck
เราเดินขึ้นเนินเขาเพื่อจะไปอีกจุดชมวิวที่สำคัญ มาเมืองธรรมชาติก็ต้องขึ้นไปมองวิวจากด้านบน เราจะเดินขึ้นไปที่ “Arashiyama Park Observation Deck” เดินไม่นานและไม่เหนื่อยมากเกินไปก็มาถึง
เหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกในหุบเขา หายเหนื่อยเลย รู้สึกสบายใจที่จะหายใจให้สุดปอดมาก เหมาะแก่การหนีฝุ่น PM 2.5 สุด ๆ 55
สวนป่าไผ่อาราชิยาม่า Arashiyama Bamboo Grove
เดินลงเนินกันต่อเพื่อไปป่าไผ่ พอลงมาเรื่อย ๆ ฝนก็เริ่มหยุดแล้ว ผู้คนเริ่มออกมาเที่ยวเยอะขึ้นด้วย อย่างที่บอกว่าควรมาเช้า ๆ คนจะน้อยกว่านี้ ถ่ายรูปสะดวกกว่า แต่ก็อยู่ที่จังหวะนะบางทีเจอทัวร์ลงคนอาจจะเยอะหน่อย พอเค้าไปแล้วก็จะโล่งลง
แต่เดินผ่านป่าไผ่นี้แม้จะคนเยอะแต่มันยังได้ความสงบ เกิดสติ 55 ด้วยธรรมชาติที่รายล้อมเราไว้ บวกกับแสงแดดอ่อน ๆ จากช่องระหว่างกอและใบไผ่
วัดเท็นริวจิ Tenryuji temple
อีกหนึ่ง Landmark ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือวัดเท็นริวจิ (Tenryuji temple) ที่ออกมาจากป่าไผ่ก็เจอทางเข้าเลย อาราชิยาม่าวางเส้นทางท่องเที่ยวไว้อย่างเป็นระเบียบขั้นตอนดีนะ 55 เราสามารถไปได้หลายที่ในละแวกเดียวกัน ๆ ได้ในวันเดียว
ค่าเข้าวัดเทนริวจิ 500 เยน ซื้อตั๋วได้ที่ทางเข้าเลย เราจะเดินผ่านสวนเซน (Zen) ที่มีความเป็นสวนญี่ปุ่น กับใบไม้แดงตัดสลับทัศนียภาพโดยรอบวัด ให้ความสงบ นั่งพักในสวนมองธรรมชาติอีกแล้ว เพราะฝนตก แต่รู้สึกดีเพราะได้บรรยากาศถ้ามีชาร้อนนี่จะดีงามมาก
เดินชมบริเวณรอบ ๆ วัด ฤดูใบไม้ร่วงเหมือนคอยส่งเสริมให้แลนด์สเคปที่สวยอยู่แล้วสวยยิ่งขึ้น ๆ ไปอีก เราเห็นลูกพลับ เห็นต้นไม้ที่เรายังไม่เคยเห็น เป็นอะไรที่ตื่นเต้นสำหรับคนมาญี่ปุ่นครั้งแรกแบบเรา(โดยเฉพาะแม่55)จริง ๆ
เดินเล่นโซนเมือง ระหว่างทางเดินไป สถานีรถไฟ Saga - Arashiyama
เราออกจากวัดเพื่อเดินต่อไปที่สถานีรถไฟ Saga - Arashiyama เพื่อใช้พาสนั่งรถไปชานเมืองกัน
ระหว่างทางจะเห็นคนนำหินมาตั้งตามวิถีเซนเรียงรายตามข้างทาง ถือเป็นวัฒนธรรมนึงเลยของย่านนี้
ระหว่างรอรถไฟที่ข้าง ๆ สถานีมีพิพิธภัณฑ์รถไฟจำลอง (Diorama Kyoto) ให้เข้าชมราคา 500 เยน ใครที่ชื่นชอบโมเดล ชอบรถไฟไม่ควรพลาด โมเดลของเค้าน่ารักมีดีเทลสมความเป็นญี่ปุ่น แถมรถไฟแล่นไปมา ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่น่าเบื่อ เด็ก ๆ น่าจะชอบ
Hozukyo Station
เรานั่งรถไฟจากสถานี Saga - Arashiyama แปปเดียวก็มาถึงสถานี Hozukyo ความรู้สึกคือเหมือนเราลงรถไฟผิด เพราะไม่มีคนลงเลย 55 ถ้าใครชอบบรรยากาศคนน้อยวิวสวยก็แวะมาได้ใช้เวลาไม่นาน
เราจะเห็นรถไฟผ่านไปมา สักพักก็มีเรือโดยสารนั่งท่องเที่ยวผ่านไปมา ถ้าได้ล่องเรือคงได้บรรยากาศที่โรแมนติกมาก
ทุ่งนาญี่ปุ่นชานเมืองเกียวโต สถานีรถไฟ Umahori
แพลนเดิมคือเราจะขึ้นรถไฟเพื่อไปสถานี Umahori แล้วจากนั้นเดินต่อไปที่สถานี Torokko Kameoka และขึ้นรถไฟสายโรเเมนติก (Sagano Scenic Line) ชมฤดูใบไม้ร่วงที่เรามองจากสะพานข้างบนเมื่อกี้ แต่หลังจากคำนวณเวลาเดินกับความไหวของสมาชิกสว. ในกรุ๊ปแล้วนั้น เราจึงต้องยกเลิกเส้นทางนี้ไป แล้วไปรอชมความงามของฤดูใบไม้ร่วงบนรถไฟตอนไป Kibuneguchi พรุ่งนี้แทน
แพลนเลยเปลี่ยนเป็นเดินชมวิวทุ่งนารอบ ๆ สถานีรถไฟ Umahori เเทน ทำให้เราได้เห็นญี่ปุ่นในอีกมุมนึง ใครจะคิดว่าที่ที่ไม่ได้ตั้งใจมาจะกลายเป็นที่ที่เราชอบที่สุด
บางครั้งลองไปเที่ยวต่างประเทศในจุดที่ไม่มีอยู่ในรีวิวก็ดีเหมือนกันนะ มันได้ความรู้สึกอีกแบบนึงไปเลย เราเห็นวิถีชีวิตผู้คน นั่งรถจากเมืองมาลงสถานีเเล้วเดินผ่านทุ่งนากว้างไกลกลับบ้าน เราเห็นคนท้องถิ่นที่กำลังดูแลสวนของตัวเอง นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นที่ชอบมากที่สุดเลยก็เป็นได้ แถมได้รูปกับทุ่งนา ดอกหญ้าที่มีแบคกราวน์เป็นภูเขาสีสันใบไม้ร่วงอีกด้วย
เรารอรถไฟกลับโฮสเทลด้วยความประทับใจ วันนี้แม้จะคนเยอะบ้าง ฝนตกบ้าง ไม่ใช่วันที่สมบูรณ์แบบอะไร แต่วันนี้มันสวยงามด้วยตัวของมันเองล่ะ
อาริกาโตะ ขอบคุณค่ะ 🙂