blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ตะลอนเที่ยวชิซึโอกะ ขี่จักรยานชิวๆ รอบเกาะเบ็นเท็นจิมะ PART 2

ภูมิภาค
หัวข้อที่เกี่ยว
|
|
ฺBENTENJIMA

ผู้ร่วมเดินทาง

| เพื่อน |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 10000 - 19999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 2 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • SHIZUOKA
  • NIHONDAIRA
  • KUNOZAN TOSHOGU
  • HAMAMATSU
  • BENTENJIMA

แผนที่โน้ตการเดินทางนี้

โอฮาโย โกะไซมัส สวัสดีค่าาา เช้านี้ตื่นมาเที่ยวต่อกับทริปตะลอนเที่ยวชิซึโอกะ

https://ohhotrip.com/4507/

หลังจากค้างคืนกันที่ฮามามัตสึแล้ว ก็มาถึงทริปขี่จักรยานชิวๆ รอบเบ็นเท็นจิมะกันแล้วค่า แต่ก่อนจะไปขี่จักรยานกันนั้น เราก็ต้องนั่งรถไฟจากสถานีฮามามัตสึ ไปที่สถานีเบ็นเท็นจิมะกันก่อนนะคะ สองสถานีนี้ห่างกันไม่มากใช้เวลาเพียง 11-13 นาทีก็ถึงแล้ว ค่าเดินทางเพียง 240 เยนค่ะ

CR : Nam nalat

มาถึงสถานีแล้ว จะเจอป้ายต้อนรับแบบนี้เลย

เมื่อไปถึงสถานี Bentenjima เราก็เดินหาที่เช่าจักรยานกันเลยค่า ซึ่งก่อนไปเราก็ได้ค้นหาข้อมูลกันมาก่อนแล้วว่ามีที่เช่าจักรยานแห่งหนึ่งตั้งอยู่บริเวณ Bentenjima seaside park ซึ่งอยู่ติดกับทะเลเลยค่ะ เราก็มุ่งหน้าเดินไปทางทะเลกันเลย ที่เช่าจักรยานนี้ชื่อว่า ยูริน เร็นทะไซคุหรุ และใช้เวลาเดินจากสถานีเบ็นเท็นจิมะเพียงสามนาทีเท่านั้นเอง สำหรับค่าเช่านั้น จะคิดราคาเหมาต่อวัน ผู้ใหญ่ 510 เยน และเด็กต่ำกว่าประถม 300 เยน (ราคาอัพเดทปี 2018) ส่วนเวลาทำการ ในเดือนเมษายน-กันยายน จะเปิดตั้งแต่ 9.00-16.30 น.ส่วนเดือนตุลาคม-มีนาคม จะเปิดตั้งแต่ 9.00-15.30 ค่ะ

นอกจากค่าเช่าแล้ว ยังมีค่าประกัน 1000 เยนต่อรถจักรยาน 1 คัน ซึ่งเราจะได้คืนหากว่านำรถมาคืนที่จุดเดิมเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วที่นี่มีจุดให้เช่าจักรยานถึง 7 จุดเลยค่ะ แต่ละจุดก็จะมีเวลาเปิดปิดที่ต่างกัน


สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

http://www.bentenjima.jp/info/rental_cycle.html (ภาษาญี่ปุ่น)


     

CR : http://www.bentenjima.jp

เห็นร้านหน้าตาแบบนี้มั่นใจได้เลยว่ามาถูกที่แล้วค่าาา

พร้อมแล้วเราก็เข้าไปด้านในเพื่อขอเช่าจักรยานกันเลย พนักงานจะยื่นเอกสารให้เรากรอกข้อมูล เมื่อกรอกเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งเอกสารพร้อมพาสปอร์ตในการยืนยันตัวตน ก่อนจะเลือกหาจักรยานคันที่ถูกใจ พนักงานจะให้คำแนะนำถึงวิธีใช้จักรยาน ตรงนี้ถ้าเพื่อน ๆ มีคำถามอะไรสามารถสอบถามจากพนักงานที่นี่ได้เลยค่ะ เพราะที่นี่มีบริการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ด้วยนั่นเอง และแนะนำว่าให้ขอแผนที่หรือเอกสารแนะนำการท่องเที่ยวมาด้วยนะคะ เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันได้เลยยยย

CR : https://enjoy-hamamatsu.shizuoka.jp/enjoy/12992

หน้าตาของแบบฟอร์มเอกสารที่เราต้องกรอกกัน

และนี่คือเพื่อนเดินทางของเราในวันนี้!! ไม่ต้องห่วงเรื่องกระเป๋าเลย เพราะมีตระกร้าใส่ของ

แต่การเดินทางของเราก็ชะงักด้วยความหิวโหยค่ะ ตึง!!! เราก็เลยแวะร้านสะดวกซื้อ Family Mart ที่อยู่ไม่ไกล หาของรองท้องและซื้อน้ำติดตัวกันซักหน่อย ก่อนจะแวะนั่งที่ศาลาเล็ก ๆ ติดชายหาด ดื่มด่ำกับลมทะเลที่พัดตึงเข้าสู่หน้าจนขนลุกชัน วันนั้นลมแรงมากจริง ๆ ค่ะ บริเวณหาดแทบไม่มีใครอยู่เลย เรานั่งกันอยู่ครู่หนึ่งเติมพลังด้วยของว่าง 

จอดจักรยานพักกันตรงนี้ได้เลย ขอแอบบอกว่าด้านหลังเป็นร้านขายเบอร์เกอร์ค่ะ

ร้านมีสองชั้น ด้านบนสามารถนั่งทานเบอร์เกอร์พร้อมกับชมวิวทะเลสาบไปด้วยได้

ด้านซ้ายมือเป็นศาลาพักผ่อน ส่วนแฟมิลิมาร์ทนั้นเป็นอาคารสีขาวชั้นเดียวที่ตั้งอยู่ด้านหลังต้นไม้นั่นเอง

แม้ว่าชายหาดญี่ปุ่นทรายจะไม่ได้ขาวละเอียด แต่ก็มีบรรยากาศดีไปอีกแบบ

ชักภาพพอเป็นพิธี แล้วก็ออกเดินทางไปตามแผนที่ที่ได้จากร้านเช่าจักรยานกันเลย

CR : http://www.hamanako-ct.jp

จริง ๆ แล้วคอร์สขับจักรยานแนะนำนั้น มีหลากหลายเส้นทางมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ขึ้นอยู่กับเวลา และความพร้อมของร่างกาย เพื่อน ๆ สามารถขี่จักรยานรอบทะเลสาบได้เลย เพราะที่นี่มีเส้นทางสำหรับรถจักรยานโดยเฉพาะ และยังมีห้องน้ำตลอดเส้นทาง หรือจะขี่เที่ยวแค่บางส่วนของเส้นทางก็ได้ ส่วนตัวเรานั้นยึดความชิวเป็นหลักก็เลยตั้งใจว่าจะขี่จักรยานเที่ยวรอบ ๆ เบ็นเท็นจิมะ เป็นระยะทางเพียงสั้น ๆ ใกล้ ๆ เท่านั้นเองค่ะ


สำหรับคนที่สนใจเส้นทางอื่น ๆ สามารถเข้าไปศึกษาเส้นทางเพิ่มเติมได้จากทางลิงก์ด้านล่าง

http://www.hamanako-ct.jp/en/index.html

https://hamamatsu-daisuki.net/course/course16.html (ภาษาญี่ปุ่น)


ยังไม่ทันขี่จักรยานไปไหนไกล เราก็แวะถ่ายภาพกับเสาโทริอิสีแดงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ แรงบันดาลใจที่ทำให้เรามาที่นี่นั่นเอง แต่ทว่าวันนี้น้ำลดจนเห็นแผ่นดิน....ซะงั้นค่ะ แต่เดี๋ยวไว้ช่วงเย็นเราจะกลับมาดูพระอาทิตย์ตกดินที่นี่อีกครั้ง ไว้มาลุ้นกันว่าในช่วงเย็นจะเป็นยังไงค่า ชักภาพกันพอหอมปากหอมคอแล้วก็ออกเดินทางกันต่อเลยยยย 

Cr : https://hamamatsu-daisuki.net

ขี่จักรยานท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบแบบนี้ ฟินสุดๆไปเลยล่ะค่า

ระหว่างที่ขี่จักรยานไปเรื่อย ๆ เลาะไปตามทางริมทะเลสาบ เราก็ได้ชื่นชมกับภาพทิวทัศน์สวย ๆ ของบ้านหลังเล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ที่เรียงตัวอยู่ริมทะเลสาบ และเรือลำน้อยใหญ่ที่จอดแน่นขนัดริมฝั่ง เราจอดรถ แวะถ่ายภาพบรรยากาศอันเงียบสงบของที่นี่ แล้วก็เดินทางกันต่อไป

เดินทางได้ไม่นาน เราก็มาถึงจุดหมายหนึ่งตามแผนที่แล้วค่ะ ผู้คนที่นี่เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า คิตะกังเก ถือเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง โดยเป็นท่าขึ้นเรือที่มีการสร้างพื้นด้วยกำแพงหินไล่ระดับจรดลงไปในน้ำ ซึ่งได้ถูกรักษาสภาพเอาไว้อย่างดีจนปัจจุบันมีอายุมากกว่า 200 ปีแล้ว

หลังจากขี่จักรยานชมพื้นที่รอบ ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลากางแผนที่อีกครั้ง เรียกได้ว่าเป็นทริปขี่จักรยานสุดชิลล์ที่ไม่เน้นแผนการใด ๆ เห็นที่ไหนในแผนที่ก็จิ้มแล้วตัดสินใจไปกันเลยค่ะ เราตัดสินใจขี่จักรยานกลับไปทางเดิม บริเวณ Bentenjima seaside park ก่อนจะข้ามถนน เพื่อไปยังจุดหมายแห่งใหม่ ที่รูปปั้น Unagi Kannon เพื่อน ๆ สามารถดูเส้นทางที่พวกเราขับขี่กันมั่ว ๆ แต่ชัวร์ว่าถึง ได้จากแผนที่ด้านล่างเลยค่า

CR : https://www.google.co.th/maps

ระหว่างทางเราก็แวะถ่ายภาพใต้สะพานแห่งนี้  บรรยากาศดีไม่น้อยเลยทีเดียว

แวะถ่ายภาพจุใจกันแล้ว ก็ตรงไปยังจุดหมายกันเลยค่ะ ใช้เวลาประเดี๋ยวเดียว ก็มาถึงรูปปั้น Unagi Kannon กันแล้วล่ะค่า รูปปั้นนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการเลี้ยงปลาไหลของทะเลสาบฮามานะโกะ

ถ้าขับ ๆ ไปเจอรูปปั้นแบบนี้ก็มั่นใจได้เลยว่ามาถูกที่แล้วค่า

CR : Nam nalat

และต้องบอกเลยว่าเซอร์ไพลส์มากกกกกกก กับวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบบริเวณนี้ เราเลยแวะนั่งเล่น ชมวิว สูดบรรยากาศสดชื่นจนเต็มปอดกันเลย จริง ๆ คือถ่ายภาพกันที่นี่อยู่นานมาก ๆ เลยค่ะ แฮ่ ๆ 

จุดนี้ขอแนะนำมาก ๆ เลยว่าถ้าได้มาเบ็นเท็นโจ ควรแวะมาชื่นชมกันให้ได้นะคะ

ทริปจักรยานก็ต้องถ่ายภาพวิวสวย ๆ คู่กับจักรยานคู่ใจกันหน่อย

เส้นทางขี่จักรยานรอบทะเลสาบ สามารถขี่ตรงไปได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ

เป็นแหล่งธรรมชาติที่มีบรรยากาศเงียบสงบและงดงามมากจริง ๆ ค่ะ

และแล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว... ด้วยความที่เราชิวกันมากนั่นเองค่ะ ฮ่าๆ สุดท้ายเราเลยตัดสินใจไม่ขับไปจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่อ และกลับมาที่ Bentenjima seaside park เนื่องจากว่าต้องรีบไปคืนรถจักรยานที่ร้านเช่าให้ทันเวลาก่อนที่ร้านจะปิด เมื่อทำเรื่องคืนรถจักรยานเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินเล่นบริเวณชายหาดเพื่อรอชมพระอาทิตย์ตกดิน

พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วววว นอกจากชาวต่างชาติอย่างเราแล้ว แอบเห็นคนญี่ปุ่นมารอชมเหมือนกันนะ

ภาพพระอาทิตย์และเสาโทริอิสีแดงที่เราวาดฝันไว้ใกล้จะเป็นจริงแล้ว!!!!.....ซะเมื่อไหร่ล่ะคะ 555555 

เนื่องจากช่วงที่เราไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ พระอาทิตย์ไม่ได้ตกดินฝั่งเสาแดงโทริอินั่นเองค่ะ.... เมื่อกลับมาศึกษาข้อมูลอีกครั้งถึงทราบว่าเราจะสามารถชื่นชมภาพพระอาทิตย์ตกดินลอดผ่านช่องระหว่างเสาโทริอิสีแดงได้ในช่วงฤดูหนาว....ป๊าดติโถ่วววว

แต่แม้จะไม่ได้เห็นภาพที่จินตนาการไว้ แต่ภาพแสงสีทองของพระอาทิตย์ที่กระทบคลื่นน้ำจนส่องแสงอร่ามขณะเคลื่อนตัวลงจากขอบฟ้าจนลับสายตาไป ก็ไม่ได้สร้างความผิดหวังใด ๆ ให้แก่เรา นับเป็นอีกหนึ่งความประทับใจ ที่งดงามไม่แพ้กันทีเดียว เราดื่มด่ำกับภาพตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโบกมือลาไปพร้อมกับรอยยิ้ม นับเป็นทริปหนึ่งวันที่เรียบง่ายแต่ผ่านไปกี่ปี เราก็ยังคงไม่เคยลืมเลือน

ทริปหน้าเราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวที่ไหน อดใจรอติดตามได้เลยเร็ว ๆ นี้ค่า

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
shockkcohs
ไม่หลงไม่ไป LET's GET LOST
RELATED POST
kawagoe-top
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

หนึ่งวันในคาวาโกเอะ (Kawagoe) ลิตเติ้ล เอโดะ ย้อนบรรยากาศเมืองเก่าและขอพรศาลเจ้าความรักชื่อดัง ฮิกาวะ

15/04/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!