blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

อิบุสึคิ อนเซง คะโกชิมา (Ibusuki Onsen, Kagoshima) อนเซงที่ไม่เหมือนที่ใดในญี่ปุ่น

ภูมิภาค
ibusuki5

ผู้ร่วมเดินทาง

| คนเดียว |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 35000 - 49999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 7 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

รถโดยสาร | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • Ibusuki Onsen, Kagoshima

อุบุสึคิ องเซง เป็นที่เที่ยวที่อยู่ในซีรีส์ทริปล่องใต้ของโอชินชา ซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริป โอชินชาเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าองเซง เพราะอายที่ต้องแก้ผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะมาเที่ยวกี่ครั้งหรือมาอยู่ญี่ปุ่นกว่าสามปีก็ไม่เคยเข้า (แต่โอชินชาเคยมีประสบการณ์แก้ผ้าต่อหน้าชาวเกาหลีที่อนเซงที่เกาหลีใต้มาแล้ว หลอนมาจนถึงทุกวัน 555) แต่อุบุสึคิอนเซงเป็นอะไรที่แตกต่าง เป็นอะไรที่เข้าถึงได้ เป็นอะไรที่อยากจะร้องเพลงว่า มันดีกว่าที่คิด มันดีต่อหัวใจ…

เนื่องจากอยากลองมีประสบการณ์อนเซงและบอกใครๆว่า ฉันก็เคยเข้าอนเซง เลยยอมทุ่มทุนในการเข้าพักโรงแรมที่อิบุสึคิ คือถ้าปกติเดินทางไปเที่ยวจะพักโรงแรมไม่เกินห้าพันเยน แต่คราวนี้เกินหมื่นเยนก็ยอม นั่งรถไฟล่องใต้มาถึงเกือบใต้สุดของภูมิภาคคิวชูที่สถานีอิบุสึคิ แล้วก็เดินลากกระเป๋าชมวิวทิวทัศน์ไปจนถึงหน้าโรงแรม ช่วงที่ไปเป็นฤดูหนาววันธรรมดา นักท่องเที่ยวแทบไม่มี เช็คอินเสร็จก็ตกตะลึงกับสภาพในห้อง โอ้ นี่เราจะอยู่ห้องนี้คนเดียวจริงๆเหรอ มันกว้างไป 555 ถ้าคนเคยมาเที่ยวญี่ปุ่นจะรู้ว่าสภาพโรงแรมสำหรับธุรกิจเป็นอย่างไร เดินเข้าไปสองเก้าด้านขวามือห้องน้ำ เดินอีกก้าวถึงเตียง ถึงห้องจะเล็กแต่จะมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ครบครัน เวลาเดินทางโอชินชาเคยไปพักที่โฮสเตลหรือเรียวกัง พักแบบห้องน้ำอยู่ด้านนอก แชร์กับแขกคนอื่นๆ พอตอนเช้าตื่นมาเจอหนุ่มนักเดินทางต่างชาติแปรงฟันแล้วทักก็ตกใจ (ในใจ อัย…น่ารักจัง) จะเข้าห้องน้ำให้สบายใจก็เครียดกลัวเสียงจะดัง ช่วงหลังเวลาเที่ยวเน้นพักโรงแรมธุรกิจ แคบหน่อยแต่ปลอดภัย นานๆเจอห้องโรงแรมมีพื้นที่กว้าง ไม่ชิน ก็ตื่นเต้น 555

ชื่นชมสภาพห้องแล้วก็ออกไปเดินรอบๆโรงแรม เงียบมาก เลยเดินกลับมาแถวๆชายหาด เอิ่ม คนใต้จากไทยมาเจอหาดทรายสีดำก็แอบช็อก เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นเกาะที่มีภูเขาไฟจะให้ทรายมาขาวอย่างเมืองไทยนั้นคงไม่ได้ ในความดำของทรายนั้นสะอาดไม่ได้มีขยะหรือคราบสกปรก แต่อารมณ์เที่ยวหาดทรายสีดำกับสีขาวต่างกันแน่นอน ไม่แปลกใจที่ทำไมนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเวลาไปเที่ยวประเทศไทยถึงทำเสียงโอเว่อร์ ชมทะเลไทยได้ขนาดนั้น ลองคิดดูว่าตั้งแต่เกินมาไม่เคยเห็นหาดทรายขาว ไปเจอทรายที่อันดามัน เป็นใครก็กรี๊ด แต่ก็คิดสงสัยโอชินชาไม่เคยเห็นหาดทรายดำตั้งแต่เกิดเหมือนกัน ทำไมตกใจ ไม่กรี๊ดเหมือนคนญี่ปุ่นนะ เดินวนไปมาแล้วก็หนาว กลับโรงแรมเหอะ ไปลองอนเซงกันดีกว่า

จากห้องพักเดินไปหลังโรงแรมตรงด้านหลัง โรงแรมที่ไปพักยังไม่ใช่ระดับสี่ห้าดาว เพราะนั้นส่วนที่เป็นอนเซงสปาของโรงแรมจะไม่ได้อยู่บนหาด แต่โรงแรมจะมีส่วนกั้นสำหรับเข้าไปให้เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดยูกะตะ เย่ ไม่ต้องโป๊ เก็บสิ่งของเรียบร้อยก็เดินมาในส่วนที่เป็นอนเซงทรายดำอบ มีคุณพี่พนักงานท่านหนึ่งกำลังเคลียร์ทรายให้ คุณพี่ก็พูดทักทายด้วยความเร็วแรงกว่าไวไฟ จับได้หนึ่งคำว่าที่ไหน อืม คุณพีต้องถามแน่ว่ามาจากไหน ตอบไปว่ามาจากไทยค่ะ คุณพี่พูดไรอีกไม่รู้ ฟังไม่ออกได้แต่ยิ้มให้ไป แล้วคุณพี่ก็บอกว่า นอนลงตรงนี้ พร้อมมือชี้ๆ โอชินชาถือมือถือมาหนึ่งเครื่องเพื่อการถ่ายภาพ ก็เอาไปวางตรงที่วางของ แล้วก็ลงไปนอน คุณพี่บอกว่าให้ใช้ผ้ารอหัวไว้ แล้วก็เริ่มโกยทรายใส่ตัวจนเต็มเหลือแต่หน้าโผล่ออกมา แล้วคุณพี่พนักงานก็ถามว่าถ่ายรูปให้ไหม แน่นอนค่ะ มาคนเดียวแล้วโดยฝังแบบนี้จะให้ใครช่วยถ่ายละคะ 555 คุณพี่ถ่ายรูปมาให้ตอนนอนที่เห็นแต่หน้าอย่างสวยงาม แล้วก็บอกว่าใช้เวลาประมาณ 10 -15 นาที โอชินชาก็เริ่มผ่อนคลาย ปิดตา ค่อยๆผ่อนคลาย ไอทรายจะค่อยๆเริ่มร้อนขึ้น รู้สึกเหงื่อออก อุณหภูมิของทรายน่าจะอยู่ประมาณ 50-55 องศา ซึ่งช่วยในการกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด เพิ่มออกซิเจน และขับของเสีย เรียกว่าจะได้ผลเหมือนกับการเข้าอนเซง ความร้อนจากทรายได้มาจากไอความร้อนของภูเขาไฟใต้พื้นดิน ซึ่งที่คิวซูก็มีภูเขาไฟที่ยังปะทุอยู่ชื่อ อะโสะซัง อยู่ตรงกลางของคิวซู

ครบสิบห้านาที คุณพี่พนักงานก็มาเอาทรายออกให้ ก่อนจะออกจากอนเซงก็มีการถ่ายรูปในชุดยูกะตะให้อีก คือตอนที่ไป ไม่มีแขกคนอื่นเลย ทั้งโรงแรมเราเหมาไว้ 555 ออกมาร่างกายโล่งสบายแทบจะกระโดดตัวลอยได้ จากนั้นก็กลับไปกลิ้งนอนเล่นในห้องจนได้เวลาอาหารเย็นที่สั่งไป เพราะไม่อยากไปเดินหนาวหาของกิน เข้าไปในส่วนร้านอาหารมีแขกโต๊ะข้างๆอีกโต๊ะ เซ็ทอาหารจัดให้มาหลายอย่าง อย่างละนิดละหน่อย มีเนื้อดิบ ปกติโอชินชาไม่ชอบกินอาหารดิบ แต่ตอนนั้นเสียดายตังส์ จ่ายไปแล้วต้องกินให้หมดก็ทนกินไปจนเกลี้ยงจนถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเนื้ออะไร 555 จากนั้นก็กลับเข้าห้องพักที่พนักงานมาปูฟูกไว้ตอนที่เราไปทานข้าว กลิ้งนอนดูทีวีมีรายการเลดี้กาก้ามาให้สัมภาษณ์ แล้วก็เข้านอนอย่างเร็วเพื่อจะดูพระอาทิตย์ขึ้นทางหน้าต่างยามเช้า ซึ่งคุณพระอาทิตย์ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จบทริปด้วยความผ่อนคลาย พร้อมเดินทางชีวิตกันต่อไป


ข้อมูลทั่วไป

อิบุสึคิ อนเซง เดินทางโดยรถไฟ Kyushu Shinkansen จากสถานีคะโกชิมะ (Kagoshima station) สามารถใช้เจอาร์เรลพาสได้ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง แล้วไปเปลี่ยนสายธรรมดาเส้น Ibusuki-Makurazaki ลงสถานีอิบุสึคิ และสามารถเลือกหาโรงแรมได้ตามเว็บไซต์

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
OchinChaDamYen
OchinChaDamYen แต่งงานและย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นกับครอบครัวสามี วันทำงานก็มีงานทำงานเต็มเวลา มีเวลาว่างก็ออกไปชื่นชมประเทศญี่ปุ่นบ้าง ดีใจที่มีโอกาสได้มาเล่าให้ผู้สนใจท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!