ความพึงพอใจในการเดินทาง
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนหนีความฟุ้งซ่าน ความไม่สบายใจในช่วงโควิดไปชมความงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ใช่ทัวร์แสวงบุญใด ๆ แต่เป็นการเที่ยวแบบปล่อยความรู้สึกไปกับบรรยากาศรอบ ๆ ให้ธรรมชาติ ให้สีสันของต้นไม้ใบไม้เยียวยาเรา
การเดินทางถึงโคยะซัง
เช่นเคยเราใช้ Kansai Thru Pass เดินทางไปยังโคยะซัง โดยการเดินทางของเราในวันนี้คือ
- จากโรงแรมย่านสถานีรถไฟ Dobutsuen-Mae (動物園前駅)
- ขึ้นสถานีรถไฟใต้ดินไปต่อเพื่อไปต่อสาย Nankai-Limited Express Rinkan 3
- นั่งมาจนถึงสถานีรถไฟฮาชิโมโตะ (Hashimoto Station : 橋本駅) ก็เปลี่ยนขบวนไปนั่งสาย Nankai-Koya line
- นั่งต่อมาจนถึงสถานีรถไฟโกคุระคุบาชิ (Gokurakubashi Station :極楽橋駅) เราจะนั่งรถรางขึ้นเขากัน
- จนถึงสถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅) แล้วต่อรถบัสขึ้นเขาศักดิ์สิทธิ์ ฟังดูหลายต่อนิดนึงนะ55
แผนการเดินทางโคยะซัง
- สถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅)
- สุสานที่วัดโอคุโนอิน (Okunoin Cemetery : 奥の院墓地)
- ซุ้มประตูไดมง Daimon Gate (金剛峯寺大門)
- วัดดันโจ การัน(Danjo-garan temple : 壇上伽藍)
ออกเดินทางขึ้นเขากันเลย
หลังจากลงเครื่องและได้นอนหนึ่งคืนเต็มเเล้วนั้น เช้าวันนี้ที่สดใสของเรานั้นเราจะไปชมบรรยากาศใบไม้แดงบนภูเขา ด้วยตอนนี้ความพีคของใบไม้แดงบนภูเขาน่าจะสดใสกว่าตัวเมือง และด้วยความที่ว่ามาวันแรกๆ พลังงานการเดินของเรายังเต็มที่อยู่นั่นเอง 555 สำหรับที่ที่เราจะไปนั้นแนะนำว่าเก็บพลังงานการเดินไว้ค่อนข้างมากนิดนึงนะ ถึงแม้จะมีรถบัสวิ่งรอบ ๆ เมืองแต่การเดินดูอะไรรอบ ๆ เมือง เส้นทางที่มีไว้เดินโดยเฉพาะจะให้ความรู้สึกไปอีกแบบ ได้สังเกตอะไรรอบตัวมากขึ้น ได้จำจังหวะการเดินการหายใจ(เริ่มออกทะเล55) แต่จริง ๆ นะที่นี่มีรังสีแห่งความสงบสูงมาก จนบางช่วงเรายังคิดเลยว่าแอบเหมือนการเจริญสติ55
เราออกจากที่พักใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ Dobutsuen-Mae (動物園前駅) ซึ่งอยู่ในย่านนิชินาริ (Nishinari Ward : 西成区) หลาย ๆ คนเรียกว่าย่านสลัมโอซาก้า บางคนอาจจะไม่คิดจะมาพักย่านนี้เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นย่านไม่ปลอดภัยของญี่ปุ่น แต่สำหรับที่พักที่เราพักอยู่ใกล้สถานีรถไฟมาก ๆ และที่พักดีมากในราคาที่ถูกมากเช่นกัน เอาจริง ๆ ย่านนี้เป็นย่านที่พักที่ชื่นชอบของเหล่า Backpacker เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว
หลังจากต่อรถไฟสถานีนั้นมาลงสถานีนี้จนมาถึงสถานีรถไฟโกคุระคุบาชิ (Gokurakubashi Station :極楽橋駅) เราลงจากรถไฟเพื่อต่อรถรางขึ้นเขากัน

สถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅)
จนมาถึงสถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅) ประตูสู่ดินแดนแห่งความสงบ วิวหุบเขาใบไม้แดงก็จะตื่นเต้นสำหรับเรามาก55
สถานีนี้มีแกลอรี่เล็ก ๆ มีโมเดลรถไฟน่ารัก ๆ
ขึ้นรถบัสกัน รถบัสก็จอดอยู่หน้าสถานีรถรางนี่แหละ ไม่ต้องเดินหาไกล วิวบนรถก็จะอะไรแบบนี้
วิวเมืองจากบนรถ เรานั่งวนรอบเมืองเพื่อจะได้เห็นภาพรวมของเมืองก่อน จะได้เดินจุดที่เราคิดว่าสวยแหละ ต้นไม้เหลืองแดงนี้เดี๋ยวเจอกันนะจ๊ะ เล็งไว้ตั้งแต่บนรถเลยทีเดียว
เมืองสงบมากสมคำร่ำลือ
เราลงรถที่ Okunoin-mae (奥之院前バス停) เป็นป้ายสุดท้ายนั่นแหละ ลงแล้วก็เตรียมใจเดินเข้าวันโอคุโนอินกัน
สุสานที่วัดโอคุโนอิน (Okunoin Cemetery : 奥の院墓地)
ตอนแรกก็แอบวังเวงนะที่ต้องเดินผ่านสุสาน แต่มีคนเดินสวนไปมาเรื่อย ๆ ไม่วังเวงเกินไป แต่สงบมาก มีแต่เสียงของธรรมชาติ ทางเดินเจริญสติมาก ๆ
ระหว่างทางก็ได้ชมความงามของใบไม้แดงไปด้วย ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสีส้มสะท้อนกับแสงละมุนมาก

ระหว่างทางเดินก็จะได้เห็นสัญลักษณ์ทางความเชื่อต่าง ๆ
มาถึงตัววัดกันแล้ว วัดนี้เป็นวัดที่สำคัญในพระพุทธศาสนานิกายชินกอน และยังเป็นที่ตั้งสุสานของคูไค (Kukai) ผู้ก่อตั้งนิกายนี้ เราจึงพบเห็นผู้มาแสวงบุญเดินทางมาที่นี่เรื่อย ๆ

สะพานตรงนี้จะนำเราไป Kobo Daishi Mausoleum (弘法大師御廟 弘法大師御廟) ซึ่งพอข้ามไปแล้วเค้าห้ามถ่ายรูป และต้องอยู่ในความสำรวมนะ

หลังจากออกมาแล้วเราตัดสินใจเดินผ่านเส้นทางเดินในสุสานของวัดเพื่อไปออกในตัวเมือง

บรรยากาศวังเวงบ้างในบางจุดที่คนขาดตอน แต่มันสงบเยือกเย็นมาก ๆ กลิ่นของธรรมชาติ ลมอ่อน ๆ แสงแดดทะลุผ่านแมกไม้ มอสเขียว ๆ ขึ้นดูชุ่มชื้นมาก เหมือนได้หนีความฟุ้งซ่าน ความไม่สบายใจมาพักใจ ปล่อยลมหายใจไปกับบรรยากาศจริง ๆ
เราเดินจนออกมาสู่ตัวเมืองตรง Koyasan Okunoin Omotesando Ichinohashi (の橋) ก็จะเริ่มเห็นใบไม้สีเหลืองสีแดงรอต้อนรับ ถ้าใครอยากจะเดินเข้าทางนี้ก็ได้เหมือนกันนะ

บรรยากาศในเมืองสงบมาก เราเลือกเดินไปยังจุดหมายต่อไป เพราะรู้สึกดีกับบรรยากาศและการเดินไปเรื่อย ๆ แบบนี้
เป็นช่วงหาเสียงพอดี555 เพียงเคยเห็นรถหาเสียงของญี่ปุ่นจริง ๆ
เป็นเมืองที่เงียบมากแต่ไม่ได้รู้สึกเหงานะ รู้สึกแบบเย็น ๆ และสบายใจ บางช่วงไม่มีคนเลย เหมือนภาพแบบตามเวลาขายทีวี ที่เเบบได้ยินเสียงลม เสียงใบไม้

ใบไม้ต้นนี้แบบกำลังแปลงร่างเป็นสีแดง ค่อย ๆ กลืนด้วยสีแดง สวยงาม


เราเดินผ่านวัดนู้นวันนี้ไปเรื่อยก็เริ่มหิว เช่นเคยแวะหาของกินก่อนเดินต่อ
ทางเข้าวัดSainanin (別格本山 西南院) ใบไม้แดงงามมากเด้อ
Daimon Gate (金剛峯寺大門)
เดินมาจนถึงซุ้มประตูไดมง จะเจอเทพผู้พิทักษ์ซึ่งสององค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดและการตาย

เราเดินย้อนกลับเพื่อไปวัดดันโจกัน

วัดดันโจ การัน(Danjo-garan temple : 壇上伽藍)
เราเดินจนมาถึงวัดดันโจ อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาโคยะซัง ซึ่งวัดนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาบนเขานี้ทีเดียว

บรรยากาศร่มรื่นสงบตามสไตล์เจแปน

ความตื่นเต้นคือวันนี้มีพระมาทำพิธีอะไรก็ไม่รู้เต็มเลย เหมือนทุกอย่างเงียบไปชั่วขณะ ทุกคนใจจดใจจ่อและมีสมาธิดูพระท่านดำเนินกิจกรรมทางสงฆ์กัน แสวงบุญที่แท้ทรูเลยวันนี้ของเรา

เราเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ วัด
เหมือนเดินตามพระท่าน
มีทางเดินสายใบไม้แดงด้วย คนก็จะพลุกพล่านหน่อย ๆ แต่ไม่แออัดจนเกินไป
เรามาช่วงนี้ยังไม่ได้แดงเต็มที่ ยังมีส้ม ๆ เหลือง ๆ ปนอยู่ ถ้ามาช่วงที่แดงทั้งต้นนี่คงเป็นอะไรที่ฟินน่าดู

แต่สีสันสลับกันแบบนี้ก็ฟินไม่แพ้กันเลย

หลังจากเดินจนข้อเท้าเริ่มไม่ไหว555 เราก็ตัดสินใจเดินทางกลับ ละแวกบ้านเมืองคือเงียบสงบร่มเย็นใจ

รถหาเสียงอีกแล้ว คันนี้พร๊อบเยอะกว่าเดิมไปอีก

เรานั่งรถบัสกลับไปขึ้นรถรางเหมือนขามา แล้วโบกมือบ๊ายบายหุบเขาแห่งความสงบ ทิวเขาใบไม้สีแดงสลับทิวสน เห็นแล้วเพ้อมาก ตกหลุมรักฤดูใบไม้ร่วงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจริง ๆ

รอรถไฟกลับแล้ว เราจะพบเห็นเหล่านักเดินเขาหรือคนญี่ปุ่นสายลุยตามที่ท่องเที่ยวแบบนี้ และพวกเขาแข็งแรงจริง ๆ คือวัยรุ่นอย่างเรายังอาย กลับไปต้องฟิตร่างกายหน่อยแล้วจะได้เดินได้ไกลขึ้น55
จบวันด้วยภาพบรรยากาศชานเมืองจากบนรถไฟ วันนี้เป็นวันที่จิตใจปลอดโปร่งเป็นพิเศษ เหมือนได้ทบทวนสิ่งต่าง ๆ ได้คุยกับตัวเองระหว่างเดินอย่างมีสติ มันเหมือนได้ใช้เวลา ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ได้ยินเสียงลมพัด ได้ยินเสียงใบไม้ไหว ได้หยุดจากความรีบเร่งสังเกตธรรมชาติรอบตัว มันเป็นวันที่ได้หนีจากความวุ่นวาย ความฟุ้งซ่านจริง ๆ เหมือนเป็นวันที่ได้มีสติทำความเข้าใจตัวเองระหว่างเที่ยวยังไงยังงั้น

ขอบคุณค่ะ
