blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

Autumn in Kansai ตอน ตามหาความสงบท่ามกลางใบไม้แดงบนภูเขาแห่งความศักดิ์สิทธิ์

A7011F1B-3D95-40D8-BE89-A29FA8EEC311

ผู้ร่วมเดินทาง

| คนเดียว |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 10000 - 19999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 1 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

รถโดยสาร | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • Kansai
  • Wakayama
  • Osaka
  • Koyasan
  • Okunoin
  • Danjo garan
  • Daimon Gate

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนหนีความฟุ้งซ่าน ความไม่สบายใจในช่วงโควิดไปชมความงามของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ นี่ไม่ใช่ทัวร์แสวงบุญใด ๆ แต่เป็นการเที่ยวแบบปล่อยความรู้สึกไปกับบรรยากาศรอบ ๆ ให้ธรรมชาติ ให้สีสันของต้นไม้ใบไม้เยียวยาเรา

การเดินทางถึงโคยะซัง

เช่นเคยเราใช้ Kansai Thru Pass เดินทางไปยังโคยะซัง โดยการเดินทางของเราในวันนี้คือ

  • จากโรงแรมย่านสถานีรถไฟ Dobutsuen-Mae (動物園前駅)
  • ขึ้นสถานีรถไฟใต้ดินไปต่อเพื่อไปต่อสาย Nankai-Limited Express Rinkan 3
  • นั่งมาจนถึงสถานีรถไฟฮาชิโมโตะ (Hashimoto Station : 橋本駅) ก็เปลี่ยนขบวนไปนั่งสาย Nankai-Koya line
  • นั่งต่อมาจนถึงสถานีรถไฟโกคุระคุบาชิ (Gokurakubashi Station :極楽橋駅) เราจะนั่งรถรางขึ้นเขากัน
  • จนถึงสถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅) แล้วต่อรถบัสขึ้นเขาศักดิ์สิทธิ์ ฟังดูหลายต่อนิดนึงนะ55

แผนการเดินทางโคยะซัง

  • สถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅)
  • สุสานที่วัดโอคุโนอิน (Okunoin Cemetery : 奥の院墓地)
  • ซุ้มประตูไดมง Daimon Gate (金剛峯寺大門)
  • วัดดันโจ การัน(Danjo-garan temple : 壇上伽藍)

ออกเดินทางขึ้นเขากันเลย

หลังจากลงเครื่องและได้นอนหนึ่งคืนเต็มเเล้วนั้น เช้าวันนี้ที่สดใสของเรานั้นเราจะไปชมบรรยากาศใบไม้แดงบนภูเขา ด้วยตอนนี้ความพีคของใบไม้แดงบนภูเขาน่าจะสดใสกว่าตัวเมือง และด้วยความที่ว่ามาวันแรกๆ พลังงานการเดินของเรายังเต็มที่อยู่นั่นเอง 555 สำหรับที่ที่เราจะไปนั้นแนะนำว่าเก็บพลังงานการเดินไว้ค่อนข้างมากนิดนึงนะ ถึงแม้จะมีรถบัสวิ่งรอบ ๆ เมืองแต่การเดินดูอะไรรอบ ๆ เมือง เส้นทางที่มีไว้เดินโดยเฉพาะจะให้ความรู้สึกไปอีกแบบ ได้สังเกตอะไรรอบตัวมากขึ้น ได้จำจังหวะการเดินการหายใจ(เริ่มออกทะเล55) แต่จริง ๆ นะที่นี่มีรังสีแห่งความสงบสูงมาก จนบางช่วงเรายังคิดเลยว่าแอบเหมือนการเจริญสติ55

เราออกจากที่พักใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟ Dobutsuen-Mae (動物園前駅) ซึ่งอยู่ในย่านนิชินาริ (Nishinari Ward : 西成区) หลาย ๆ คนเรียกว่าย่านสลัมโอซาก้า บางคนอาจจะไม่คิดจะมาพักย่านนี้เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นย่านไม่ปลอดภัยของญี่ปุ่น แต่สำหรับที่พักที่เราพักอยู่ใกล้สถานีรถไฟมาก ๆ และที่พักดีมากในราคาที่ถูกมากเช่นกัน เอาจริง ๆ ย่านนี้เป็นย่านที่พักที่ชื่นชอบของเหล่า Backpacker เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว


หลังจากต่อรถไฟสถานีนั้นมาลงสถานีนี้จนมาถึงสถานีรถไฟโกคุระคุบาชิ (Gokurakubashi Station :極楽橋駅) เราลงจากรถไฟเพื่อต่อรถรางขึ้นเขากัน

สถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅)


จนมาถึงสถานีโคยะซัง(Kōyasan Station : 高野山駅) ประตูสู่ดินแดนแห่งความสงบ วิวหุบเขาใบไม้แดงก็จะตื่นเต้นสำหรับเรามาก55


สถานีนี้มีแกลอรี่เล็ก ๆ มีโมเดลรถไฟน่ารัก ๆ


ขึ้นรถบัสกัน รถบัสก็จอดอยู่หน้าสถานีรถรางนี่แหละ ไม่ต้องเดินหาไกล วิวบนรถก็จะอะไรแบบนี้


วิวเมืองจากบนรถ เรานั่งวนรอบเมืองเพื่อจะได้เห็นภาพรวมของเมืองก่อน จะได้เดินจุดที่เราคิดว่าสวยแหละ ต้นไม้เหลืองแดงนี้เดี๋ยวเจอกันนะจ๊ะ เล็งไว้ตั้งแต่บนรถเลยทีเดียว


เมืองสงบมากสมคำร่ำลือ


เราลงรถที่ Okunoin-mae (奥之院前バス停) เป็นป้ายสุดท้ายนั่นแหละ ลงแล้วก็เตรียมใจเดินเข้าวันโอคุโนอินกัน

สุสานที่วัดโอคุโนอิน (Okunoin Cemetery : 奥の院墓地)


ตอนแรกก็แอบวังเวงนะที่ต้องเดินผ่านสุสาน แต่มีคนเดินสวนไปมาเรื่อย ๆ ไม่วังเวงเกินไป แต่สงบมาก มีแต่เสียงของธรรมชาติ ทางเดินเจริญสติมาก ๆ






ระหว่างทางก็ได้ชมความงามของใบไม้แดงไปด้วย ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสีส้มสะท้อนกับแสงละมุนมาก



ระหว่างทางเดินก็จะได้เห็นสัญลักษณ์ทางความเชื่อต่าง ๆ




มาถึงตัววัดกันแล้ว วัดนี้เป็นวัดที่สำคัญในพระพุทธศาสนานิกายชินกอน และยังเป็นที่ตั้งสุสานของคูไค (Kukai) ผู้ก่อตั้งนิกายนี้ เราจึงพบเห็นผู้มาแสวงบุญเดินทางมาที่นี่เรื่อย ๆ


สะพานตรงนี้จะนำเราไป Kobo Daishi Mausoleum (弘法大師御廟 弘法大師御廟) ซึ่งพอข้ามไปแล้วเค้าห้ามถ่ายรูป และต้องอยู่ในความสำรวมนะ



หลังจากออกมาแล้วเราตัดสินใจเดินผ่านเส้นทางเดินในสุสานของวัดเพื่อไปออกในตัวเมือง



บรรยากาศวังเวงบ้างในบางจุดที่คนขาดตอน แต่มันสงบเยือกเย็นมาก ๆ กลิ่นของธรรมชาติ ลมอ่อน ๆ แสงแดดทะลุผ่านแมกไม้ มอสเขียว ๆ ขึ้นดูชุ่มชื้นมาก เหมือนได้หนีความฟุ้งซ่าน ความไม่สบายใจมาพักใจ ปล่อยลมหายใจไปกับบรรยากาศจริง ๆ


เราเดินจนออกมาสู่ตัวเมืองตรง Koyasan Okunoin Omotesando Ichinohashi (の橋) ก็จะเริ่มเห็นใบไม้สีเหลืองสีแดงรอต้อนรับ ถ้าใครอยากจะเดินเข้าทางนี้ก็ได้เหมือนกันนะ



บรรยากาศในเมืองสงบมาก เราเลือกเดินไปยังจุดหมายต่อไป เพราะรู้สึกดีกับบรรยากาศและการเดินไปเรื่อย ๆ แบบนี้


เป็นช่วงหาเสียงพอดี555 เพียงเคยเห็นรถหาเสียงของญี่ปุ่นจริง ๆ



เป็นเมืองที่เงียบมากแต่ไม่ได้รู้สึกเหงานะ รู้สึกแบบเย็น ๆ และสบายใจ บางช่วงไม่มีคนเลย เหมือนภาพแบบตามเวลาขายทีวี ที่เเบบได้ยินเสียงลม เสียงใบไม้



ใบไม้ต้นนี้แบบกำลังแปลงร่างเป็นสีแดง ค่อย ๆ กลืนด้วยสีแดง สวยงาม


เราเดินผ่านวัดนู้นวันนี้ไปเรื่อยก็เริ่มหิว เช่นเคยแวะหาของกินก่อนเดินต่อ

ทางเข้าวัดSainanin (別格本山 西南院) ใบไม้แดงงามมากเด้อ

Daimon Gate (金剛峯寺大門)


เดินมาจนถึงซุ้มประตูไดมง จะเจอเทพผู้พิทักษ์ซึ่งสององค์นี้เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดและการตาย

เราเดินย้อนกลับเพื่อไปวัดดันโจกัน

วัดดันโจ การัน(Danjo-garan temple : 壇上伽藍)

เราเดินจนมาถึงวัดดันโจ อีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาโคยะซัง ซึ่งวัดนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาบนเขานี้ทีเดียว

บรรยากาศร่มรื่นสงบตามสไตล์เจแปน


ความตื่นเต้นคือวันนี้มีพระมาทำพิธีอะไรก็ไม่รู้เต็มเลย เหมือนทุกอย่างเงียบไปชั่วขณะ ทุกคนใจจดใจจ่อและมีสมาธิดูพระท่านดำเนินกิจกรรมทางสงฆ์กัน แสวงบุญที่แท้ทรูเลยวันนี้ของเรา


เราเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ วัด



เหมือนเดินตามพระท่าน

มีทางเดินสายใบไม้แดงด้วย คนก็จะพลุกพล่านหน่อย ๆ แต่ไม่แออัดจนเกินไป



เรามาช่วงนี้ยังไม่ได้แดงเต็มที่ ยังมีส้ม ๆ เหลือง ๆ ปนอยู่ ถ้ามาช่วงที่แดงทั้งต้นนี่คงเป็นอะไรที่ฟินน่าดู

แต่สีสันสลับกันแบบนี้ก็ฟินไม่แพ้กันเลย


หลังจากเดินจนข้อเท้าเริ่มไม่ไหว555 เราก็ตัดสินใจเดินทางกลับ ละแวกบ้านเมืองคือเงียบสงบร่มเย็นใจ


รถหาเสียงอีกแล้ว คันนี้พร๊อบเยอะกว่าเดิมไปอีก

เรานั่งรถบัสกลับไปขึ้นรถรางเหมือนขามา แล้วโบกมือบ๊ายบายหุบเขาแห่งความสงบ ทิวเขาใบไม้สีแดงสลับทิวสน เห็นแล้วเพ้อมาก ตกหลุมรักฤดูใบไม้ร่วงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจริง ๆ


รอรถไฟกลับแล้ว เราจะพบเห็นเหล่านักเดินเขาหรือคนญี่ปุ่นสายลุยตามที่ท่องเที่ยวแบบนี้ และพวกเขาแข็งแรงจริง ๆ คือวัยรุ่นอย่างเรายังอาย กลับไปต้องฟิตร่างกายหน่อยแล้วจะได้เดินได้ไกลขึ้น55

จบวันด้วยภาพบรรยากาศชานเมืองจากบนรถไฟ วันนี้เป็นวันที่จิตใจปลอดโปร่งเป็นพิเศษ เหมือนได้ทบทวนสิ่งต่าง ๆ ได้คุยกับตัวเองระหว่างเดินอย่างมีสติ มันเหมือนได้ใช้เวลา ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ได้ยินเสียงลมพัด ได้ยินเสียงใบไม้ไหว ได้หยุดจากความรีบเร่งสังเกตธรรมชาติรอบตัว มันเป็นวันที่ได้หนีจากความวุ่นวาย ความฟุ้งซ่านจริง ๆ เหมือนเป็นวันที่ได้มีสติทำความเข้าใจตัวเองระหว่างเที่ยวยังไงยังงั้น

ขอบคุณค่ะ

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Let_me_go_there
Instagram: Let_me_go_there
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!