blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

Hiroshima & Miyajima 2 วัน 1 คืน รีวิวเดียวจบ สำหรับคนงบน้อย : ผู้หญิงคนเดียวเที่ยวได้สบายๆ

Hiroshima & Miyajima 2 วัน 1 คืน รีวิวเดียวจบ สำหรับคนงบน้อย : ผู้หญิงคนเดียวเที่ยวได้สบายๆ

ผู้ร่วมเดินทาง

| คนเดียว |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 10000 - 19999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 2 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | รถโดยสาร | เรือ | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

หลายคนคงกังวลว่าเป็นผู้หญิงเที่ยวคนเดียวจะน่ากลัวไหม เราเองก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากที่ได้ลองเที่ยวเองคนเดียวแล้ว มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด กลับกันเราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง และชักเริ่มจะติดใจการเที่ยวคนเดียวซะเเล้วสิ 🙂  ครั้งนี้เราได้ไปเที่ยวเมืองฮิโรชิมะและเกาะมิยาจิมะ 2 วัน 1 คืน ถึงจะมีเวลาไม่เยอะ แต่ก็ได้เที่ยวเกือบครบอยู่นะ เลยอยากจะมาแชร์ข้อมูลที่เที่ยวที่เราไปมา เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวในแถบนี้อยู่ เราเดินทางช่วงต้นเดือนธันวาคม ไม่มีหิมะ แต่อากาศค่อนข้างหนาวเลยทีเดียว ใครที่จะไปเที่ยวช่วงนี้แนะนำให้เตรียมเสื้อขนเป็ดไปด้วยจะดีกว่า  ฮิโรชิมะตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโงะขุ (ด้านทิศตะวันเฉียงใต้ของญี่ปุ่น) มีประวัติศาสตร์สำคัญยากที่จะลืม เพราะเป็นเมืองที่ถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก เราอยากไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพและโดมปรมาณู เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวในช่วงเวลานั้นมากขึ้น และไม่ไกลจากฮิโรชิมะก็มีเกาะมิยาจิมะ เกาะที่เชื่อกันว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่ ซึ่งไฮไลท์ของเกาะนี้ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดีนั่นก็คือ ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ และเสาประตูโทริอิสีแดงที่ตั้งตะหง่านอยู่กลางน้ำ การเดินทางในเมืองฮิโรชิมะและเกามิยาจิมะ เราใช้ตั๋ว “Visit Hiroshima Tourist Pass 2 Day SMALL Area Tourist Pass” ราคา 1,500 เยน ของบริษัท Hiroshima Electric Railway ตั๋วนี้รวมการเดินทางแบบ Unlimited ทั้งรถราง รถบัสปกติ รถบัสวิ่งวนรอบเมือง HIROSHIMA Sightseeing Loop Bus meipuru~pu (อ่านว่า เมปุรุ~ปุ) และเรือเฟอร์รี่ไป-กลับเกาะมิยาจิมะ ยังไม่พอตั๋วพาสยังใช้เป็นส่วนลดค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวได้อีกนะ มีแค่ตั๋วนี้ใบเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับทริป 2 วัน 1 คืน เราซื้อตั๋วนี้ที่ KLOOK ก็จะได้รับ e-voucher แบบ QR code มา หลังจากนั้นก็นำไปแลกเป็นตั๋วจริงที่เคานเตอร์แลกตั๋วในฮิโรชิมะแล้วใช้เที่ยวได้เลย (ขอบอกว่าช่วงไหน KLOOK มี Promo code แจก เราก็สามารถใช้โค้ดเป็นส่วนลดเพิ่มได้อีกด้วยนะ คุ้มมาก) 

cr: https://www.hiroden.co.jp/en/e-vhtp.html

เริ่มต้นทริปนี้ตั้งแต่เช้าที่สถานีรถไฟ JR Hiroshima ก่อนอื่นต้องไปแลกตั๋ว Visit Hiroshima Tourist Pass ซึ่งเคานเตอร์แลกตั๋วจะอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟ JR Hiroshima ใกล้กับจุดขึ้นรถราง Hiroshima Electric Railway หรือเรียกสั้นๆว่า “รถราง Hiroden” เจ้าหน้าที่จะให้ตั๋วพาสเรามาพร้อมสมุดคูปองส่วนลด อ้อ! อย่าลืมขอเเผนที่รถบัส meipuru~pu มาด้วยนะ (สำคัญมาก) 

DAY 1 : สถานีรถไฟ JR Hiroshima – พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ – สวนอนุสรณ์สันติภาพ – โดมปรมาณู – สวนชุกเคเอ็น – ปราสาทฮิโรชิมะ – เดินเล่นถนนช้อปปิ้งฮนโดริ เอบิสุ และนากาเระคาวะ

การเดินทาง DAY 1

ตั๋วพาสนี้ใช้ขึ้นยานพาหนะได้หลายอย่าง แต่สำหรับวันแรกเราเลือกใช้เเค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ รถราง Hiroden กับรถบัสวิ่งวนรอบเมือง meipuru~pu ส่วนที่เหลือก็เดินต่ออีกนิดหน่อย 

วิธีขึ้นรถราง Hiroden

- เริ่มเดินทางจากหน้าสถานีรถไฟ JR Hiroshima โดยรถรางจะมีอยู่ 4 สายด้วยกัน คือ สาย 1, 2, 6, 5 และมีจุดขึ้นรถทั้งหมด 2 จุด (จุดแรกของสาย 1, 2, 6 และอีกจุดเฉพาะของสาย 5) ดูเส้นทางรถรางทั้งหมดได้ที่นี่ https://www.hiroden.co.jp/en/s-routemap.html   - วิธีการขึ้นรถรางก็ไม่ยาก ให้ดูจุดขึ้นรถและสายที่จะขึ้นว่าวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปไหม เมื่อขึ้นไปแล้วให้โชว์ตั๋วพาสให้เจ้าหน้าที่ดู แค่นี้ก็เรียบร้อย  - ประตูขึ้น-ลงรถรางคนละประตูกัน ต้องระวังให้ดี หากใครไม่มีตั๋วพาสก็จ่ายค่าโดยสารด้วยเหรียญหรือบัตร IC card แทนได้ (จ่ายตอนจะลงจากรถ) และบนรถรางมีเครื่องให้เเลกเหรียญ   - เมื่อได้ยินเสียงประกาศชื่อป้ายที่เราต้องการจะลง ให้เรากดปุ่มจอดรถแล้วเตรียมตัวไปรอใกล้ประตูลงรถ รถรางบางขบวนอาจไม่มีปุ่มจอดรถให้กด เนื่องจากมีผู้คุมรถรางประกาศเอง ให้เราไปรอใกล้ประตูเพื่อเตรียมลงจากรถได้เลย  - สำหรับคนเที่ยว 2 วันแบบเราที่จะไปเกาะมิยาจิมะด้วย แนะนำว่าซื้อตั๋วพาสไปเลยจะคุ้มกว่า มีตั๋วพาสใบเดียวจบ ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมเศษเหรียญจ่ายค่ารถให้วุ่นวาย และตั๋วพาสยังเป็นส่วนลดค่าเข้าชมที่ท่องเที่ยวด้วย (ตั๋วพาสมีหลายชนิด ทั้งแบบ 2 วัน 3 วัน และ 4 วัน ให้เลือก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.hiroden.co.jp/en/e-vhtp.html)   

cr: https://www.hiroden.co.jp/en/m-hiroshimasta.html

จุดขึ้นรถราง Hiroden หน้าสถานี JR Hiroshima

หน้าตารถราง Hiroden สุดคลาสสิค

ิธีขึ้นรถบัสวิ่งวนรอบเมือง HIROSHIMA Sightseeing Loop Bus meipuru~pu 

- รถบัส meipuru~pu เป็นรถบัสวิ่งวนรอบเมือง โดยเส้นทางรถจะครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆในใจกลางเมืองฮิโรชิมะ มีทั้งหมด 4 สาย คือ  Orange route, Lemon route, Green route และ Blue route รถบัสนี้สะดวกมากๆ เพราะมีจำนวนรถบัสที่วิ่งวนค่อนข้างถี่ ดูเส้นทางและตารางเวลารถบัสได้จากเว็บไซต์หรือป้ายขึ้นรถบัส http://www.chugoku-jrbus.co.jp.e.aec.hp.transer.com/teikan/meipurupu/   จริงๆรถบัส meipuru~pu เองก็มีตั๋วพาสแบบ 1 วันขายด้วย ชื่อว่า Meipuru-pu One-day ticket ราคา 400 เยน นั่งได้ไม่จำกัดเที่ยว เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวเมืองฮิโรชิมะแค่ 1 วัน แต่ไม่อยากซื้อ Visit Hiroshima Tourist Pass  

วิวระหว่างทางเดินไปพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ

ที่เเรกที่เราไป คือ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Museumที่นี่จะนั่งรถราง หรือ รถบัส meipuru~pu ไปก็ได้ แต่เราเลือกนั่งรถราง เรานั่งรถรางสาย 1 จากหน้าสถานี JR Hiroshima ไปลงป้าย Fukuromachi แล้วเดินต่ออีก 10 นาทีก็จะถึงพิพิธภัณฑ์  ด้านในพิพิธภัณฑ์มีนิทรรศการหลายส่วน โดยจะเล่าถึงลำดับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากระเบิดปรมาณูในช่วงเวลานั้น เราใช้เวลาเดินดูที่นี่หลายชั่วโมงเลยทีเดียว ค่อยๆดูรูปภาพและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆที่ถูกนำมาจัดแสดง ของบางชิ้นทำให้เราถึงขั้นน้ำตาซึม บางทีก็ได้ยินเสียงร้องไห้กระซิกเบาๆจากคนญี่ปุ่นรอบข้างที่มาชมเหมือนกัน เรารู้สึกหดหู่ใจมากอย่างบอกไม่ถูก อดนึกไม่ได้ว่าเหยื่อระเบิดพวกเขาจะต้องทุกข์ทรมานมากขนาดไหน เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปด้านในมาให้ดู เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสอยากแนะนำให้เพื่อนๆลองมาที่นี่ดูสักครั้ง และหากเป็นไปได้ให้ศึกษาเรื่องราวสงครามมาก่อนเข้าชมจะทำให้เราอินไปกับที่นี่มากขึ้น 

Hiroshima Peace Memorial Museum

ค่าเข้าชม: 200 เยน  เวลาเปิด-ปิด: 8:30 – 17:00, 8:30 – 18:00, 8:30 – 19:00 (เวลาปิดต่างกันตามฤดูกาล)  Website: http://hpmmuseum.jp/

ทางเดินไปสวนอนุสรณ์สันติภาพ

สวนอนุสรณ์สันติภาพ (Hiroshima Peace Memorial Park) ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ตกแต่งเรียบๆและสวยงามให้ความรู้สึกเงียบสงบ มีอนุสรณ์สถาน  Children’s Peace Monument ที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่า “ซาดาโกะ ซาซากิ” เหยื่อจากระเบิดที่เชื่อว่าหากตนพับนกกระเรียนมากกว่าพันตัวจะสามารถขอพรให้ตัวเองหายป่วยได้ จากสวนเดินต่อไปอีกนิดจะพบกับโดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ โดมนี้ถูกแรงระเบิดแต่บางส่วนยังไม่ถูกทำลาย และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก 

โดมปรมาณูท่ามกลางใบไม้แดง

จากโดมปรมาณู เราเปลี่ยนมานั่งรถบัส meipuru~pu บ้าง รถบัสมีหลายสายอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับแผนที่รถบัสสักหน่อย และระวังอย่าขึ้นผิดสายเพราะบางสายจะวิ่งอ้อม ทำให้เราเสียเวลาเที่ยวได้ เมื่อขึ้นรถบัสให้โชว์ตั๋วพาสให้พนักงานขับรถดู เราขึ้นรถสาย Green route จากป้าย Genbaku Domu-mae ไปลงที่ป้าย Shukkeien mae เเล้วเดินต่ออีก 2 นาทีก็จะถึงสวนชุกเคเอ็น    สวนชุกเคเอ็น (Shukkeien Garden) เป็นสวนเก่าแก่แบบญี่ปุ่นอายุ 400 ปี สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1620 ภายในสวนจำลองวิวธรรมชาติของภูเขา แม่น้ำ ต้นไม้ ดอกไม้หลายสายพันธุ์ และยังมีปลาคราฟลวดลายสวยงามว่ายอยู่ในสระน้ำ โดยที่นี่ได้ทำเส้นทางเดินชมไว้อย่างเป็นระเบียบ มีเนินเล็กๆ สะพาน และจุดถ่ายรูปสวยๆหลายจุด ทำให้เราสนุกไปกับการเดินชมสวน โชคดีช่วงที่เราไปได้เห็นใบไม้แดงและต้นกิงโกะสีเหลืองพอดี ต้นกิงโกะขนาดใหญ่นี้เคยโดนแรงระเบิดปรมาณูแต่ไม่ตาย ยังอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบัน และออกใบสีเหลืองอร่ามสวยงามมาก ตรงทางเข้าสวนก็มีคาเฟ่ด้วยนะ เดิมชมสวนเสร็จก็มานั่งจิบชาต่อ พักให้หายเหนื่อยน่าจะดีอยู่ไม่น้อย 

Shukkeien Garden

ค่าเข้าชม: 260 เยน  เวลาเปิด-ปิด: 9:00 – 17:00, 9:00 – 18:00 (เวลาปิดต่างกันตามฤดูกาล)  Websitehttps://shukkeien.jp/

บรรยากาศภายในสวนชุกเคเอ็น

ต้นกิงโกะยักษ์ที่เคยถูกแรงระเบิด

ปราสาทฮิโรชิมะ (Hiroshima Castle) ที่เที่ยวสุดท้ายของวันก่อนไปเดินเล่นย่านถนนคนเดิน จากป้าย Shukkeien mae นั่งรถบัส meipuru~pu สาย Orange route หรือ Lemon route ไปลงที่ป้าย Hiroshima Castle (Hiroshima Gokoku Shrine) แล้วเดินต่ออีก 15 นาที เราไปถึงที่นี่ค่อนข้างเย็น เลยมีเวลาเดินดูข้างในไม่มาก ในปราสาทจะจัดแสดงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตัวปราสาทและเมืองฮิโรชิมะ แต่ส่วนตัวเเล้วเราชอบด้านนอกปราสาทมากกว่า ถ้าเทียบกับปราสาทเมืองอื่นๆที่เคยไปมาแล้ว ปราสาทแห่งนี้ไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ก็ถ่ายรูปได้สวยอยู่นะ มีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปคู่กับปราสาทเยอะเลย 

Hiroshima Castle

ค่าเข้าชม: 370 เยน  เวลาเปิด-ปิด: 9:00 – 17:00, 9:00 – 18:00 (เวลาปิดต่างกันตามฤดูกาล)  Websitehttp://www.rijo-castle.jp/index.html

หน้าปราสาทฮิโรชิมะ

จากปราสาทขึ้นรถบัส meipuru~pu สาย Orange route ที่ป้าย Hiroshima Castle (Hiroshima Gokoku Shrine) ไปลงที่ป้าย Hatchobori แล้วเดินต่อไปยังถนนฮนโดริ (Hondori) ย่านช้อปปิ้ง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนเอบิสุ (Ebisu) และถนนนากาเระคาวะ (Nagarekawa  ถนนฮนโดริ (Hondori Street) มีห้าง ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านขายของเยอะแยะมากมาย ถูกใจขาช้อปแน่นอน เที่ยวมาทั้งวันใจนึงก็อยากจะลองโอะโคโนมิยากิพิซซ่าญี่ปุ่น แต่ด้วยความหนาวและเหนื่อย เลยทานอะไรง่ายๆแล้วกัน เราเเวะทาน ICHIRAN Ramen หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่า “ราเม็งข้อสอบ” ครั้งแรกกับการทาน ICHIRAN Ramen พอเข้าไปในร้านก็จะงงๆนิดนึง 555 พนักงานร้านเลยเชิญให้เราไปนั่งโต๊ะคล้ายบาร์ที่มีไม้กั้น (แบบนั่งคนเดียว) แล้วให้เราเขียนเลือกสิ่งที่อยากใส่ลงไปในชามราเม็งของเรา มีตั้งแต่ขนาดและความนุ่มของเส้น ชนิดน้ำซุป ประเภทเนื้อ และท้อปปิ้งอื่นๆ เลือกตามใจชอบได้เลย ราคาจะขึ้นอยู่กับปริมาณที่เราเลือก   จริงๆแล้วฮิโรชิมะมีอาหารขึ้นชื่อหลายอย่าง อยากแนะนำให้ไปลองทานกัน เช่น โอะโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) ฮิโรชิมะทซึเคเมน แกงกะหรี่ และโดยเฉพาะหอยนางรมนี่ห้ามพลาดเลยล่ะ   Hiroshima Hatsuhana Hostel ที่พักราคาถูกสำหรับคนเดินทางคนเดียว ทริปนี้เราเลือกพักที่โฮสเทล เพราะต้องการประหยัด ที่สำคัญที่นี่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ JR Hiroshima มาก เดินแค่ 5 นาทีก็ถึง เราเลือกพักห้อง 4-Bed Female Dormitory Room ตกคืนละ 600 กว่าบาทเอง สต๊าฟโฮลเทลพูดภาษาอังกฤษได้ดีเลย และยังมีห้องฝากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ได้ด้วย คนที่มีงบจำกัดและไม่ซีเรียสเรื่องที่พักเท่าไหร่ เราว่าการนอนโฮเทลก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะ   ปล. หากไม่คุ้นทางในตอนแรกโฮสเทลจะค่อนข้างหายากนิดนึง แต่พอเริ่มชินทางก็ไม่หลงแล้วล่ะ สะดวกมากๆ ดูเว็บไซต์โฮลเทลได้ที่นี่ https://hiroshima.hanahostel.com/

DAY 2 : สถานีรถไฟ JR Hiroshima – เกาะมิยาจิมะ (ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ – กระเช้า Miyajima Ropeway – จุดชมวิวชิชิอิวะ – ยอดเขามิเซ็น – สวนโมมิจิดานิ – เจดีย์ห้าชั้น) – งานประดับไฟกลางคืน Hiroshima Dreamination

การเดินทาง DAY 2

วันนี้นั่งรถราง Hiroden ไปเกาะมิยาจิมะ เริ่มจากจุดขึ้นรถรางหน้าสถานีรถไฟ JR Hiroshima เหมือนเดิม ให้ขึ้นสาย 2 แล้วนั่งไปสุดสาย ไปลงที่ป้าย Hiroden miyajima-guchi ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นิดๆก็จะถึงท่าเรือ Ferry และใช้ตั๋วพาสอันเดิมขึ้นเรือต่อไปอีก 10 นาที เพื่อข้ามฟากไปยังเกาะมิยาจิมะ (ตั๋วพาสใช้ขึ้นเรือของ Miyajima Matsudai Kisen และ JR Nishinihon Miyajima Ferry ได้ ดูตารางเวลาเรือได้ที่นี่ Miyajima Matsudai Kisen http://miyajima-matsudai.co.jp/english/fares-timetable/index.html และ JR Nishinihon Miyajima Ferry http://jr-miyajimaferry.co.jp/en/timetable/) 

Hiroden miyajima-guchi สถานีสุดท้ายของรถรางสาย 2

ท่าเรือ Ferry อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถราง

เรือ JR Nishinihon Miyajima Ferry ที่เรานั่งมา

เราตื่นเต้นมากเมื่อใกล้ถึงเกาะมิยาจิมะ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าเสาโทอิริสีแดงที่ตั้งใจมาดูนั้นกำลังปิดซ่อมเเซมอยู่ เลยได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไว้ซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ถ้ามีโอกาสจะกลับมาดูอีกครั้ง T_T  เกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island) ลงจากท่าเรือแล้วให้เดินไปทางขวา และเดินตามทางไปเรื่อยๆเพื่อไปยังศาลเจ้า ระหว่างทางมีร้านอาหารและร้านขายของมากมาย สักพักก็จะเห็นฝูงน้องกวางเดินมาทักทาย บางตัวก็กำลังนอนเล่นอย่างสบายใจเฉิ่ม บนเกาะมิยาจิมะนี้มีกวางเยอะมาก น้องกวางจะค่อนข้างสันโดษ เรียบร้อย ไม่ดุดันเท่ากวางนารา 555  

เหล่าน้องกวางมายืนรอต้อนรับนักท่องเที่ยว

เสาประตูโทริอิที่กำลังปิดซ่อมเเซมอยู่ T_T

แวะชิมหอยนางรมย่างราดซอส อร่อยมากๆ ไม้ละ 500 เยน

ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) ศาลเจ้าชินโตชื่อดังแห่งเกาะมิยาจิมะที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตัวศาลเจ้าใหญ่และสวยงามมาก ที่สำคัญมีบางส่วนของศาลเจ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ทะเลทำให้เวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนศาลเจ้ากำลังลอยอยู่บนทะเล จากศาลเจ้าสามารถมองเห็นประตูโทอิริสีแดงได้อย่างชัดเจน ว่ากันว่าสมัยก่อนจะต้องนั่งเรือลอดผ่านโทริอิเข้ามาเพื่อมาสักการะที่ศาลเจ้าแห่งนี้ 

Itsukushima Shrine

ค่าเข้าชม: 300 เยน (เฉพาะศาลเจ้า) ค่าเข้าส่วนอื่นอาจต้องจ่ายเพิ่ม  เวลาเปิด-ปิด: 6:30 – 17:00, 6:30 – 17:30, 6:30 – 18:00, 6:30 – 18:30 (เวลาปิดต่างกันตามฤดูกาล)  Website: http://www.en.itsukushimajinja.jp/index.html

วลาน้ำขึ้นศาลเจ้าอิทสึคุชิมะจะดูเหมือนกำลังลอยอยู่บนทะเล

ทั่วทั้งเกาะมิยาจิมะมีศาลเจ้าหลายแห่ง มีเส้นทางเดินเขาสำหรับสายลุย และยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำด้วย ถ้าจะเที่ยวให้ครบหมดทุกที่สำหรับเราวันเดียวน่าจะไม่พอ เราเลยเลือกเดินเล่นวัดและศาลเจ้าใกล้ๆศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ ไปขึ้นกระเช้า Miyajima Ropeway เพื่อไปจุดชมวิว และเดินเขาต่อไปยังยอดเขามิเซ็น  การเดินทางไปยังจุดขึ้นกระเช้า Miyajima Ropeway จะต้องนั่งรถ Free shuttle bus ขึ้นไป ซึ่งจุดขึ้นรถบัสจะอยู่ตรงถนนเล็กๆก่อนทางเดินไปยังสวน Momijidani Park รถบัสจะเริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 9:45 มาทุกๆ 20 นาที ใช้เวลานั่งรถประมาณ 3 นาที สามารถดูตารางเวลาวิ่งของรถบัสได้ที่นี่ http://miyajima-ropeway.info/access/   กระเช้า Miyajima Ropeway มีด้วยกัน 3 สถานี คือ Momijidani – Kayatani – Shishiiwa รวมเเล้วใช้เวลานั่งทั้งหมดประมาณ 15 นาที ระหว่างทางนั่ง Ropeway จะเห็นวิวต้นไม้ด้านล่างและทะเลรอบเกาะสวยงามมากๆ ช่วงที่เราไปเเม้จะเป็นต้นเดือนธันวาคม แต่ก็ยังพอมีใบไม้แดงให้ชมบ้าง Ropeway จะจอดที่สถานีสุดท้าย คือ Shishiiwa (ชิชิอิวะ) ที่สถานีนี้มีตู้ล็อคเกอร์ฝากของ ใครอยากไปเดินขึ้นยอดเขามิเซ็นต่อ มาฝากของที่นี่ได้เลย และยังมีห้องน้ำ ร้านอาหาร เครื่องดื่มให้บริการด้วยนะ พอเดินออกมาจากสถานีก็จะพบกับจุดชมวิวชิชิอิวะที่มองเห็นวิวทะเลรอบเกาะได้ 

Miyajima Ropeway

ค่าขึ้นกระเช้า: ไป-กลับ 1,840 เยน  เวลาเปิด-ปิด: 9:00 – 16:30, 9:00 – 17:00 (เวลาปิดต่างกันตามฤดูกาล)  Website: http://miyajima-ropeway.info/english/

วิวสวยๆขณะนั่งกระเช้า Miyajima Ropeway

จุดชมวิวชิชิอิวะ

สำหรับสายโหดขาลุย! เรามีเส้นทางเดินเขามาแนะนำ จากสถานีชิชิอิวะจะมีทางเดินขึ้นไปยังยอดเขามิเซ็นได้ ซึ่งวิวด้านบนสวยมากๆ คุ้มค่าเหนื่อย (รึป่าวนะ?) แต่ขอเตือนก่อนว่าเส้นทางนี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือคนที่เข่าไม่ค่อยเเข็งเเรง เพราะทางเดินค่อนข้างโหดอยู่ในบางจุด และอาจจะมีหินลื่นต้องคอยระวังให้ดี (เราเห็นคนลื่นล้มมาแล้ว) เดินจากสถานีไปยังยอดเขาใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที ไป-กลับก็เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว แนะนำให้พกของว่างเพิ่มพลังไปทานระหว่างเดิน ควรเผื่อเวลาเดินเขาให้ดีๆ คำนวณรวมเวลาแวะพักเหนื่อย และอย่าลืมเช็คเวลารอบกระเช้าเพื่อนั่งกลับลงไปขึ้นเรือข้ามฝากด้วยนะ  ภูเขามิเซ็น (Mount Misen) ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่สูงที่สุดในเกาะแห่งนี้ สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 535 เมตร จากยอดเขาจะเห็นวิวเมืองฮิโรชิมะและทะเลสุดลูกหูลูกตา มีจุดชมวิวรับลมเย็นๆนั่งพักผ่อนให้หายเหนื่อย ระหว่างทางเดินขึ้นไปบนยอดเขาจะมีป้ายบอกทางอยู่เป็นระยะๆ มีศาลเจ้าและรูปปั้นพระพุทธรูปให้เราแวะสักการะ เส้นทางเดินเขานี้ค่อนข้างโหดสำหรับเรา สาวออฟฟิศผู้ไม่เคยออกกำลังกาย 555 ประกอบกับวันที่ไปมีฝนตกปรอยๆลงมาเล็กน้อย เลยต้องหยุดแวะพักบ่อยๆ ตอนที่เราไปเดินมีทั้งนักท่องเที่ยวคนญี่ปุ่นและต่างชาติให้เห็นบ้าง เลยรู้สึกอุ่นใจ แต่จริงๆไม่ค่อยแนะนำให้มาเดินคนเดียวเท่าไหร่ เพราะเส้นทางค่อนข้างไกล หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วจะแย่เอา -_ - 

รูปปั้นพระพุทธรูประหว่างทางเดินขึ้นยอดเขา

จุดชมวิวสูงสุดบนยอดเขามิเซ็น

วิวจากกระเช้าขากลับ

หลังจากชมวิวอยู่สักพักจนพอใจเเล้ว เราก็เดินลงมาจากยอดเขา ไปขึ้น Ropeway และต่อด้วยนั่งรถ Free shuttle bus เพื่อลงไปด้านล่าง (ไปยังจุดขึ้นรถบัสที่เเรก) จากนั้นจากป้ายรถบัสเราเดินย้อนขึ้นไปทาง Ropeway อีกนิด เพื่อแวะสวน Momijidani Park ดูใบไม้แดงสักหน่อย 

Momijidani Park

ค่าเข้าชม: ฟรี  เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอด 24 ชม.  Websitehttps://www.miyajima.or.jp/english/spot/spot_momiji.html

สวนโมมิจิดานิยังคงมีใบไม้เเดงหลงเหลือให้เห็นอยู่

ยังพอมีเวลาก่อนจะไปขึ้นเรือข้ามฝาก ระหว่างทางกลับเราแวะถ่ายรูปเจดีย์ห้าชั้น (Five-storied Pagodaและเดินเล่นถนนช้อปปิ้งต่อ  

เจดีย์แดงห้าชั้น

มาถึงเกาะมิยาจิมะทั้งทีจะพลาดชิมหอยนางรมสดๆตัวใหญ่ๆไม่ได้ ด้วยความหิวโหยและเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เราเเวะร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นเรือ ระหว่างทางเดินไปขึ้นเรือมีหลายร้านให้เลือกเยอะมาก แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น คือ ดูรูปเมนูหน้าร้านแล้วก็เดินเข้าร้านเลย ขอสารภาพว่าจำชื่อร้านและราคาไม่ได้เเล้ว เพราะหิวมากกก จำได้แค่ว่าสั่งชุดข้าวหอยนางรมมากินอย่างหนำใจ ในเซ็ตมีทั้งข้าวหน้าหอย สลัดหอยทอด ซุปสาหร่ายหอย เครื่องเคียงหอย มีแต่หอย หอย หอยทุกอย่างเลย ฟินมากกกก  ถึงเวลาโบกมือบ๊ายบายเกาะมิยาจิมะแล้ว เราขึ้นเรือข้ามฝากและมองดูเกาะค่อยๆห่างออกไปทีละนิด เป็นการผจญภัยอีกหนึ่งวันที่เราจะไม่มีวันลืม หลังจากนี้ต้องนั่งรถรางกลับฮิโรชิมะอีก 1 ชม. เลยของีบหลับเก็บแรงอันน้อยนิดไว้ เพื่อไปดูงานประดับไฟกลางคืนของฮิโรชิมะที่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้ (ให้ลงรถรางที่ป้าย Fukuromachi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 12 นาที)    งานประดับไฟกลางคืน Hiroshima Dreamination เดินดูไฟคนเดียวมันก็จะเหงาๆหน่อย ที่ฮิโรชิมะก็มีไฟกลางคืนสวยๆให้เราได้ชมกัน ถึงจะไม่ได้จัดงานใหญ่โตโอ่อ่าเท่าที่อื่น แต่ก็พอเป็นสีสันให้เมืองได้ในช่วงฤดูหนาว และที่สำคัญชมฟรี 555  

Hiroshima Dreamination

ค่าเข้าชม: ฟรี  วันเวลาที่จัดงาน: วันที่ 17 พย. – 3 มค. ของทุกปี (แนะนำให้เช็ควันจัดงานทางเว็บไซต์ก่อนไปดู)  สถานที่จัดงาน: ใจกลางเมืองฮิโรชิมะ บริเวณถนนเฮวะโอโดริ (Peace Boulevard street)  Website: https://www.dreamination.com/ เที่ยวมาทั้งวันหมดแรงจะไปเดินเล่นถนนช้อปปิ้งแล้ว ประกอบกับความหนาวทำให้ท้องหิวบ่อย (เกี่ยวกันไหม?) ก่อนเข้าที่พักคืนนี้เพื่อไปเอากระเป๋าและเดินทางไปเมืองอื่นต่อ เลยแวะทานฮิโรชิมะทซึเคเมนของขึ้นชื่อที่นี่ เราคิดว่าร้านไหนก็น่าจะมีเมนูนี้นะ แต่อาจจะแตกต่างกันนิดหน่อยที่คุณภาพของเส้นและความอร่อย เหตุผลที่เลือกร้านนี้เพราะโลเคชั่นล้วนๆ ด้วยความที่เหนื่อยมากแล้ว เลยอยากได้ร้านที่ใกล้กับที่พัก ร้านนี้ชื่อว่า Bakudanya อยู่ติดกับห้าง EDION ข้างๆสถานีรถไฟ JR Hiroshima อยากกินต้องได้กิน! 

ฮิโรชิมะทซึเคเมนของร้าน Bakudanya

จบทริปตะลุยเดี่ยวเที่ยว 2 วัน 1 คืนในงบจำกัด ทริปหลากอารมณ์ทั้งเศร้า ชิล เหนื่อย ฟิน ที่ทำให้เราหลงรักฮิโระชิมะ เมืองเงียบสงบที่น่ารัก นั่งรถรางชมวิวชิลๆ ขอบคุณตัวเองที่กล้าบ้าบิ่นไปเดินขึ้นเขาคนเดียว ทริปนี้เราได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ได้ตัดสินใจในเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เรียนรู้ที่จะอดทนและรักตัวเองมากขึ้น เพื่อนๆที่ยังไม่เคยลองเที่ยวคนเดียวอยากให้ลองทำดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าเที่ยวคนเดียวนั้นสนุกได้ไม่ยากเลย 🙂 

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้โดยประมาณ (เยน)

Day 1

ตั๋วพาส = 1,500  ค่าชมพิพิธภัณฑ์ = 200  อาหารกลางวัน (7-11) = 500  ค่าชมสวน = 260  ค่าชมปราสาท = 370  อาหารเย็น (ราเม็ง) = 790  ขนม = 540  ค่าที่พัก 1 คืน = 2,230 

Day 2

อาหารเช้า+กลางวัน (7-11) = 700  หอยนางรมย่างซอส = 500  ค่าชมศาลเจ้า = 300  Ropeway = 1,840  ขนม = 200  อาหารเย็น (ข้าวหน้าหอย) = 2,000  อาหารมื้อดึก (ทซึเคเมน) = 700  รวมทั้งหมด = 12,630 เยน (3,789 บาท) 


หมายเหตุ - ค่ากินของเราอาจจะไม่ได้เป็นยอดที่เป๊ะเท่าไหร่ เพราะมีอันที่จำได้ลางๆบ้างและจำไม่ได้บ้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอาหารที่เลือกทานและการช้อปปิ้ง  - ค่าเข้าชม ค่ากระเช้าต่างๆที่ระบุไว้ด้านบนเป็นราคาปกติที่ยังไม่ได้หักส่วนลด แนะนำว่าตอนซื้อบัตรเข้าชมทุกครั้งอย่าลืมโชว์ตั๋วพาสเผื่อได้รับส่วนลดเพิ่ม 


ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง  https://visithiroshima.net/  https://www.hiroshima-navi.or.jp/       

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
PP
PP
สาวออฟฟิศ หัดเที่ยวคนเดียว หลงใหลแมวสีส้ม :)
RELATED POST
ibusuki5
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

อิบุสึคิ อนเซง คะโกชิมา (Ibusuki Onsen, Kagoshima) อนเซงที่ไม่เหมือนที่ใดในญี่ปุ่น

อุบุสึคิ องเซง เป็นที่เที่ยวที่อยู่ในซีรีส์ทริปล่องใต้ของโอชินชา ซึ่งเ … 27/05/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวนารา ฤดูร้อน 2 วันหนึ่งคืน

เที่ยวนารา ฤดูร้อน 2 วันหนึ่งคืนโอ๊ะหา~ สวัสดีค่ะเพื่อนๆ และขอบคุณมากท … 11/07/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

From Nara to Kobe ตอน ไปตามหาน้องกวาง แวะเมืองเนื้อย่างโกเบ

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้หลาย ๆ คนคงอยู่ในช่วง Work from home กัน หลายคนคงเฉา  … 28/05/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

Senjojiki ที่ Japan Alps 1 วัน ของฉัน In Summer

สวัสดีค่ะตอนนี้เราจะมาพาทุกคนไปสัมผัสธรรมชาติที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจาก … 27/05/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
1 Day trip ลุยหิมะบุกเที่ยวเมืองโอตารุ ฮอกไกโด
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

1 Day trip ลุยหิมะบุกเที่ยวเมืองโอตารุ ฮอกไกโด

หนีร้อนมาเพลิดเพลินกับเมืองเล็กสุดคลาสสิกของญี่ปุ่นในฤดูหนาวที่เมืองโ … 04/01/2025
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

Golden week trip 14 days – ตอนที่ 5 Fuchu,Tokyo Kurayami Festival

ในตอนนี้เราได้เดินทางกลับมายังโตเกียวอีกรอบ เพื่อที่จะมาเทศกาล Kurayam … 27/05/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.