blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ตะลอนเที่ยวชิซึโอกะ ขี่จักรยานชิวๆ รอบเกาะเบ็นเท็นจิมะ PART 1

ภูมิภาค
หัวข้อที่เกี่ยว
|
|
SHIZUOKA

ผู้ร่วมเดินทาง

| เพื่อน |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 10000 - 19999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 2 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • SHIZUOKA
  • NIHONDAIRA
  • KUNOZAN TOSHOGU
  • HAMAMATSU
  • BENTENJIMA

แผนที่โน้ตการเดินทางนี้

สวัสดีค่าา วันนี้มาประเดิมทริปแรกกันด้วย ทริปตะลอนเที่ยวชิซึโอกะ พร้อมขี่จักรยานชิว ๆ ชมวิวรอบเกาะเบ็นเท็นจิมะ บอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบการขี่จักรยานชมวิวทะเลสาบสวย ๆ ไม่ควรพลาดทริปนี้ ว่าแต่ชิซึโอกะและเบ็นเท็นจิมะนี่อยู่ตรงไหนกันนะ ?? ก่อนออกเดินทาง เราไปทำความรู้จักกับที่นี่กันสักหน่อยค่ะ

ชิซึโอกะ (Shizuoka) ตั้งอยู่ในภูมิภาคจูบุ กึ่งกลางของประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดีเนื่องจากภูเขาไฟฟูจิที่มีชื่อเสียงที่สุดและสวยที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่ที่นี่นั่นเอง โดยเสน่ห์ของที่นี่ได้แก่ ไร่ชาเขียว นอกจากจะเป็นจังหวัดที่ส่งออกชาเชียวมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลองเก็บชาเขียวด้วยล่ะค่า

CR : http://www.visit-shizuoka.com

ภาพทิวทัศน์สวย ๆ ที่โด่งดังของจังหวัดชิซึโอกะ

ส่วน เบ็นเท็นจิมะ (Bentenjima) นั้น ตั้งอยู่ในเมืองฮามามัตสึ จังหวัดชิซึโอกะ ถูกรอบล้อมไปด้วยทะเลสาบฮะมะนะโกะ (Lake Hamanako) โดยมีจุดที่โดดเด่นก็คือ เสาแดงโทริอิต้นใหญ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบฮามะนะโกะนั่นเอง ซึ่งจุดเริ่มต้นของทริปนี้ ก็มาจากการที่เราได้เห็นภาพพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินลอดอยู่ระหว่างใจกลางเสาโทริอิสีแดงในภาพด้านล่างนี้นี่แหละค่า (แต่ว่าจะได้เห็นแบบในภาพนี้ไหมต้องไปลุ้นด้วยกันนะคะ)

CR : https://shizuokatourism.com

สำหรับการเดินทางไปเบ็นเท็นจิมะนั้น แนะนำว่าควรเดินทางไปที่ชิซึโอกะหรือที่ฮามามัตสึก่อน โดยสามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด จากโตเกียว, โอซาก้า หรือ นาโกย่า แต่หากเพื่อน ๆ อยากเดินทางในราคาประหยัดลงก็สามารถใช้บริการรถบัสได้เช่นกันค่ะ


รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดินทางไปชิซึโอกะ

http://www.visit-shizuoka.com/en/access

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดินทางไปฮามามัตสึ

https://hamamatsu-daisuki.net/lan/en/access

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถบัสและเส้นทาง

http://www.jrbuskanto.co.jp.e.wn.hp.transer.com

http://www.jrtbinm.co.jp.e.aco.hp.transer.com/mainbusroute

จองรถบัสออนไลน์

https://www.kousokubus.net/JpnBus/en


ทริปครั้งนี้เราได้เลือกเดินทางด้วยรถบัส โดยออกจากโตเกียวในตอนกลางคืน ประมาณห้าทุ่ม และมาถึงชิซึโอกะช่วงเช้ามืด (ซึ่งมืดจริง ๆ ค่ะ ถึงตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเลย) ค่าเดินทางประมาณ 3600 เยน โดยสาเหตุที่เราเลือกนั่งบัสกลางคืนมาลงที่ชิซึโอกะ ก็เพราะว่าอยากจะแวะเที่ยวชมรอบ ๆ ชิซึโอกะตั้งแต่เช้าสักหนึ่งวัน ก่อนจะไปเบ็นเท็นจิมะนั่นเอง และด้วยความที่ไปถึงเช้ามาก ห้างร้านต่าง ๆ จึงปิดให้บริการหมดเลยค่ะ โชคดีที่สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่น จะเปิดไฟไว้ตลอด จึงสามารถนั่งรอที่สถานีได้ เราแวะเข้าห้องน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า เช็ดตัวกันเรียบร้อย ก็มานั่งรอร้านเปิด ร้านมะคุโดะนารุโดะหรือที่เรารู้จักกันดีว่าแมคโดนัลด์นั่นเองค่า ฮ่าๆ พอ 6 โมงเช้าปุ๊ปร้านก็เปิดปั๊ป  เลยได้เวลาย้ายร่างพร้อมสัมภาระไปสิงกันในร้าน พร้อมกับทานอาหารเช้าเบา ๆ รองท้อง รอ Tourist Information เปิดตอน 9 โมงเช้าค่า

CR : https://tabelog.com/rvwr/fj041254

ถือเป็นร้านที่เราไปสิงกันประจำเวลาไปไหนเช้าหรือดึก เพราะเปิดบริการแต่เช้า บางร้านก็เปิด 24 ชั่วโมง

CR : http://www.visit-shizuoka.com/en/useful_info

เมื่อพร้อมออกเดินทางแล้ว เราจึงนำกระเป๋าไปฝากในล็อกเกอร์ และแวะ Tourist Information เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเส้นทางการท่องเที่ยว และขอรอบรถบัส จากนั้นก็ไปรอรถบัสหน้าสถานีชิซึโอกะ ทางออกทิศเหนือ ที่ป้ายรถบัสหมายเลข 11 โดยเราจะขึ้นบัสหมายเลข 42 ซึ่งจุดหมายแรกของเราในวันนี้ก็คือ Nihondaira ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ค่ารถ 580 เยนค่ะ เราลงกันที่ป้าย Nihondaira Ropeway สังเกตไม่ยาก คือหลังจากขึ้นภูเขามาแล้ว จะมีป้ายที่คนลงเยอะ ๆ นั่นเอง ^^ จะมีลานจอดรถกว้างๆค่ะ ด้านล่างจะเป็นแผนที่คร่าว ๆ ของ Nihondaira โดยจุดที่ลงรถคือจุดเดียวกับที่ขึ้น Ropeway ค่า

CR : http://www.nihondairakankou.com

CR : https://www.google.co.jp/maps

ส่วนอันนี้เป็นสรุปแผนการเดินทางง่าย ๆ แบบฉบับตามใจพวกเรา แหะๆ

หลังจากเราลงจากรถมาแล้ว ก็จะมีความงง ๆ กันเล็กน้อยว่าจะไปทางไหนกันดี สุดท้ายเราก็ตัดสินใจเดินตามสัญชาตญาณ ก็คือเดินตามคนอื่น ๆ ไปนั่นเองค่า แฮ่! เดินขึ้นบันไดไป จะมีเนินกว้าง ให้เดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จนสุดทางแล้วเลี้ยวขวา ก็จะมาถึงจุดชมวิวสวย ๆ ที่บอกเลยว่าพลาดไม่ได้

ถึงจุดชมวิวกันแล้วค่าาา เย้ๆๆๆ

นิฮงไดระ (Nihondaira) ถือเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยสามารถชมทิวทัศน์ของเมืองริมทะเลโดยมีภาพของภูเขาไฟฟูจิอยู่เบื้องหลัง แต่แน่นอนว่าดวงดี ๆ แบบเราก็ดันมาเจอวันที่ฟูจิหนีไปแอบกันเสียอย่างนั้น ถ่ายภาพกันอยู่ครู่หนึ่ง เราก็เดินลงเขาตามหาไร่ชาสวย ๆ ที่เคยเห็นในภาพ

แต่เดินเท่าไหร่ก็ไม่เจอสักที สุดท้ายเราเลยสปีคเจแปนนีสฟุดฟิดฟอไฟถามคุณลุงญี่ปุ่นแถวนั้น คุณลุงชี้มือชี้ไม้บอกทาง แต่สุดท้ายก็พาเราเดินมาส่งถึงที่ ชวนคุยกันเล็กน้อย เลยขอชักภาพกับลุงเป็นที่ระลึก บอกเลยว่าลุง ๆ ป้า ๆ ญี่ปุ่นเนี่ยน่ารักมาก ๆ เลยล่ะค่า

แม้ว่าจะมาฟูจิซังจะเขินอาย หนีหน้าเราไปเสียนี่ แต่วิวไร่ชาก็ปลอบใจเราได้ไม่น้อย

สีเขียว ๆ ของใบชาตัดกับท้องฟ้าสดใส

ถ่ายภาพกันอยู่พักใหญ่ รอฟูจิซังอยู่แป๊ปนึง เราก็ตัดใจบอกลา คงไม่มีวาสนาได้เจอกัน T T แล้วก็เดินกลับไปหาอะไรทานกันด้วยความหิวโหย ใครที่กลัวมาหิวที่นี่ ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีร้านขายชา ขายของฝากแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลายประเภทอีกด้วย

CR : https://www.google.com/maps

ใครมองหาร้านอาหาร ตามภาพนี้เลยค่า มีทั้งตึกซ้ายและตึกขวาเลยค่ะ

CR : http://nihondairashimizuya.jp

ตึกด้านซ้ายมือคือ ร้านซึกิฮิโบชิ (Tsuki hi boshi) ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของฝากต่าง ๆ ส่วนชั้นสองเปิดเป็นร้านอาหาร ที่สามารถนั่งทางพร้อมกับชมวิวสวย ๆ ของภูเขาไฟฟูจิไปด้วยได้ โซนร้านอาหารจะเปิดบริการตั้งแต่ 10.00-14.00 น.

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม http://nihondairashimizuya.jp/english

CR : http://www.n-kawasakiya.com

ส่วนตึกด้านขวามือคือ ร้านนิฮงไดระ คาวาซากิ (Nihondaira Kawasaki) เปิดให้บริการทั้งร้านขายของฝาก และร้านอาหาร ที่ชั้นหนึ่ง ส่วนชั้นสองมีพื้นที่รองรับสำหรับกลุ่มที่มาเป็นหมู่คณะ ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00-15.00 น.

หลังจากไปส่องเมนูแล้วพวกเราก็ตัดสินใจเข้าร้านนิฮงไดระ คาวาซากิ จัดเต็มกันด้วยราเม็ง แกงกะหรี่หมูทอดและไก่คาราอาเกะ >< เติมพลังก่อนจะเดินทางกันต่อไป

หมูชาชูเต็มจานฟินสุด ๆ ไปเลยยยย

แวะชิมช็อปกันพอประมาณ ก็เดินไปสถานี Ropeway กันเลย ไปเที่ยวต่อกันที่ ศาลเจ้าคุโนะซังโทโชะกุ (Kunozan Toshogu) โดยนั่งกระเช้าข้ามภูเขา ใช้เวลาครู่เดียวเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ก็สามารถไปถึงที่ศาลเจ้าแล้วค่ะ


ข้อมูลการเดินทางด้วย Ropeway

กระเช้าออกทุก ๆ 10-15 นาที

ค่าใช้จ่าย ขาเดียว 600 เยน / ไปกลับ 1,100 เยน

เวลาทำการ : เดือนเมษายน - 15 ตุลาคม เปิดบริการ 9.10-17.00 น.

16 ตุลาคม - มีนาคม เปิดบริการ 9.10-16.00 น.


CR : Nam nalat

ขึ้น Rope way กันเลย เตรียมกล้องให้พร้อมลั่นชัตเตอร์ เพราะมันไวมากกก

CR : Nam nalat

ประเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้วค่า หลังจากลงกระเช้ากันแล้ว ก็จะเจอป้ายต้อนรับเข้าสู่คุโนะซัง

เข้าประตูศาลเจ้ากันเลย

ศาลเจ้าคุโนะซังโทโชะกุ (Kunozan Toshogu) ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม บนภูเขาอุโด ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ ภายในศาลเจ้าบรรจุอัฐิของโชกุนโทคุกาวะ อิเอยาสึ นอกจากนี้ในบริเวณด้านนอกศาลเจ้า ยังมีพิพิธภัณฑ์จัดเเสดงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณให้เราได้เข้าชมและศึกษาประวัติศาสตร์

เพื่อน ๆ สามารถชื่นชมกับสถาปัตยกรรมแบบชินโตที่งดงามได้ที่นี่

ภาพสลักลวดลายต่าง ๆ ภายในอาคารมีสีสันสดใสและมีลวดลายงดงาม

ขอพรอะไรดีน้าาาา

เมื่อเดินไปสุดอีกด้านหนึ่ง ก็จะพบกับวิวสวย ๆ ของทะเลและเส้นขอบฟ้า มองลงไปด้านล่างจะเห็นบ้านเรือนมากมาย และไร่สตรอเบอร์รี บริเวณนี้จะมีทางเดินขึ้นมาบนศาลเจ้า เป็นบันไดหิน จำนวนถึง 1,159 ขั้น!!! ผู้คนที่นี่มีความเชื่อว่า หากเดินขึ้นมาจากทางด้านล่าง ขึ้นมาถึงศาลเจ้าได้ จะได้รับพลังพิเศษด้วยล่ะค่า

เดินเหนื่อย ๆ มาเจอวิวแบบนี้ คือยิ้มออกเลยยยย

แต่เราก็ไม่มีเวลาชื่นชมวิวมากนัก เพราะต้องรีบไปขึ้นรถกลับกัน ว่าแล้วเราก็ลงบันไดกันพันกว่าขั้น เพื่อจะไปขึ้นบัสป้าย Kunou yamashita เพื่อกลับสถานีชิซึโอกะค่ะ

เดินลงนี่ได้พลังพิเศษไหมไม่รู้ แต่ได้เหงื่อยกใหญ่เลยล่ะค่า


ข้อมูลการท่องเที่ยว

เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน 9.00-17.00 น. (ยกเว้น เดือนตุลาคม-มีนาคม เปิดถึง 16.00 น.)

ค่าเข้าชม : 500 เยน (สำหรับเข้าชมศาลเจ้า)
400 เยน (สำหรับเข้าชมพิพิธภัณฑ์)
800 เยน (สำหรับเข้าชมศาลเจ้าและพิพิธภัณฑ์)


หลังจากหอบสังขารเดินลงมาจากเขา สุดท้ายเราก็ตกรถค่ะ 5555 หัวเราะทั้งน้ำตาเลย TT ไหน ๆ ก็ตกรถแล้ว ระหว่างรอบัสรอบถัดไปก็เลยชักชวนกันไปนั่งริมชายฝั่งทะเลรับคลื่นลมซักหน่อย

CR : Nam nalat

แวะไปเดินเที่ยวรอบ ๆ สุดท้ายก็ได้สตรอเบอร์รี่มาหนึ่งกล่อง สดมาก ๆ อร่อยอย่าบอกใคร

ระหว่างรอก็แอบแวะเล่นกับน้องหมาญี่ปุ่น

ใกล้เวลาเราก็รีบเดินไปที่ป้ายรถบัส คราวนี้ต้องไม่พลาดแน่นอน 55 เพราะจริง ๆ เรามีนัดกับเพื่อน T_T ถึงสถานีปุ๊ปก็จัดมื้อใหญ่ด้วยบุฟเฟ่ต์ชาบูชาบู เม้ามอยอยู่พักใหญ่ก็แยกย้ายกัน จากนั้นก็ไปเอาสัมภาระที่ฝากไว้ในล็อกเกอร์ แล้วรีบเดินทางกันต่อค่า โดยนั่งรถไฟจากสถานีชิซึโอกะ ไปสถานีฮามามัตสึ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ ค่ะ ส่วนค่าเดินทางอยู่ที่ 1320 เยน

คืนนี้เราพักค้างคืนกันที่ฮามามัตสึค่ะ ซึ่งเราได้เลือกพักที่ Hotel Select Inn Hamamatsu Ekimae เนื่องจากโรงแรมนี้ตั้งอยู่ใกล้สถานีมาก ๆ สามารถเดินถึงได้ภายใน 5-10 นาทีเท่านั้น และค่าที่พักก็ถือว่าไม่แพงค่ะ 2 คน เพียง 5500 เยน เฉลี่ยราคาต่อคนไม่เกิน 900 บาทค่ะ ถ้าใครสนใจพักค้างคืนที่ฮามามัตสึสักคืน บอกได้เลยว่าที่นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่า

CR : https://select-hotels.jp/hamamatsu

Hotel Select Inn Hamamatsu Ekimae

ที่อยู่

335-14 Sunayamacho, Nakaku, ฮะมะมัตสึ, ฮะมะมะสุ, ญี่ปุ่น, 430-0926

วิธีเดินทาง

เดินประมาณ 3 นาทีจากสถานี JR Hamamatsu

Check in/out

15.00 / 10.00

ราคา

750 บาท (ต่อคืน ต่อคน โดยประมาณ / ขึ้นอยู่กับเรทแลกเงิน และฤดูกาล)

โทรศัพท์

+81 53-455-1188


ว่าแล้วก็ขอนอนพักค้างกันซักคืน แล้วค่อยไปต่อทริปขี่จักรยานชิว ๆ ที่เบ็นเท็นจิมะกันนะคะ ใครชื่นชอบการขี่ลมชมวิว อย่าลืมติดตามตอนต่อไปน้าาาา โอยะสุมิค่า !

ฺBENTENJIMA
ตะลอนเที่ยวชิซึโอกะ ขี่จักรยานชิวๆ รอบเกาะเบ็นเท็นจิมะ PART 2โอฮาโย โกะไซมัส สวัสดีค่าาา เช้านี้ตื่นมาเที่ยวต่อกับทริปตะลอนเที่ยว...
ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
shockkcohs
ไม่หลงไม่ไป LET's GET LOST
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!