blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

ตะลอน Noboribetsu หน้าหนาว กินปู ดูหมี แช่ออนเซ็น ดูนินจา

Noboribetsu top picture

ผู้ร่วมเดินทาง

| ครอบครัว |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 10000 - 19999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 2 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

รถโดยสาร | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ(Noboribetsu Date Jidaimura)
  • ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล(Noboribetsu Bear Park)
  • หมู่บ้านไอนุยูคารา (Yukara Inu Village)
  • บ่อจิโงคุดานิ(Jigokudani or Hell Valley)
  • รีวิวโรงแรมออนเซ็นมาโฮโรบะ Mahoroba

แผนที่โน้ตการเดินทางนี้

Noboribetsu (登別市) โนโบริเบทสึ เมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องน้ำพุร้อน หรือออนเซ็นธรรมชาติที่ขึ้นชื่อที่สุด ใน ฮอกไกโด และสถานที่ถ่ายทำฉากน่ารักๆ ของหนังเรื่องดัง "Fanday แฟนกันแค่วันเดียว" แล้วก็หนังเรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้เราก็อยากไปสัมผัสบรรยากาศของที่นี่   แน่นอนนักท่องเที่ยวที่มาตามรอยหนังก็มาเมืองนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนนักท่องเที่ยวก็หลั่งไหลกันมามากมาย ด้วยบรรยาการที่โรแมนติก อบอุ่น มีโรงแรม ออนเซ็นที่มีบรรยากาศธรรมชาติมากมาย แล้วที่นี่มีอะไรดีอีกบ้าง แล้วจะเล่าให้ฟัง

"Fanday … แฟนกันแค่วันเดียว " กับฉากที่โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)

「fanday」の画像検索結果

cr: https://www.nylonthailand.com/fan-day/


มุ่งหน้าสู่ Noboribetsu 


เริ่มแรกเราเดินทางกันจากสถานีซัปโปโรไปโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ด้วย รถไฟ JR สถานีซัปโปโร ไป สถานีโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง10นาที

หรือหากใครมีสัมภาระเยอะหรือต้องการความสะดวกสบาย สามารถจองแท็กซี่ล่วงหน้าได้จากสนามบินชิโตเสะในราคาพิเศษ. คลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่า

ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองซัปโปโร นอกจากนี้เมืองยังกินพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติชิโกสึ -โทยะ บางส่วนด้วย จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ออนเซ็น หรือ น้ำแร่ธรรมชาติที่โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) นั้นมีความหลากหลายมากมาย ถึง 9 ประเภท

☆ ออนเซ็นกำมะถัน  

☆ ออนเซ็นเกลือ

☆ ออนเซ็นโซดา 

☆   ซัลเฟต ออนเซ็น 

☆   อลูมิเนียมออนเซ็น 

☆   ออนเซ็นธาตุเหล็ก

☆  ออนเซ็นกรด 

☆  ออนเซ็นแบบเลเยอร์

☆  ออนเซ็นธาตุเรเดียม

※หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ ข้อควรรู้ "10 ประเภทออนเซ็นในญี่ปุ่น"

และแน่นอนออนเซ็นเหล่านี้ ได้รับการยอมรับในด้านคุณภาพจากนานาประเทศ บ่อน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงของเมืองโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ก็คือ Jigoku Velley หรือ เรียกว่า หุบเขานรก ที่นี่อัดแน่นไปด้วยแร่ธาติจากภูเขาไฟ และสามารถผลิตน้ำร้อนได้ 3000 ลิตร ต่อวัน  แต่นอกจากเรื่องออนเซ็นธรรมชาติชื่อดังแล้ว บรรยากาศเองก็ช่างมีเสน่ห์มากมายเหลือเกิน จนทำให้มีหนังหลายเรื่องมาถ่ายทำกันที่นี่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง


พอเข้าเมืองก็จะเจอเจ้ายักษ์ตัวแดงที่มาต้อนรับอยู่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้เลย เพราะมี หุบเขานรกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดังที่สุดในเมืองนี้เลยคะ

หลังจากลงที่สถานีโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) แล้ว ด้วยความที่งง เราก็เรียกแท็กซี่ ไปที่หมายกันเลยคะ 10นาทีก็ถึงคะ

.......

Contents
  1. ที่เที่ยว Noboribetsu 1 : ดาเตะจิไดมุระ โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu Date Jidaimura)
  2. ที่เที่ยว Noboribetsu 2 : ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล และหมูบ้านไอนุโคตัน (Noboribetsu Bear Park)
  3. ที่เที่ยว Noboribetsu 3 : หมู่บ้านไอนุยูคารา (Ainu kotan / Yukara no sato)
  4. ที่เที่ยว Noboribetsu 4 : บ่อน้ำพุร้อน จิโกคุดานิ (Jigokudani or Hell Valley)
  5. รีวิวโรงแรมในเมืองโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)  โรงแรม Mahoroba

ที่เที่ยว Noboribetsu 1 : ดาเตะจิไดมุระ โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu Date Jidaimura)

ที่เราเลือกมาที่นี่ก่อนเพราะเราเข้าใจว่าที่นี่มีการแสดงสามอย่าง และมีแค่ตอนเช้าเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเข้ามีอย่างล่ะ 4 รอบเลยคะ และมีการแสดง 4 อย่างเลยคะ แต่ก็เอานะ มาถึงแล้วและที่สำคัญที่นี้มันใกล้สุดมาเที่ยวตรงนี้ก่อนก็ได้เนอะ และเพื่อให้ได้ดูให้ครบ และไม่ต้องเบียดกับใครมากมาย เราก็มาถึงที่นี่ประมาณ 9:00 โมงเช้า ซึ่งเขาเพิ่งเปิดจำหน่ายตั๋ว ถือได้ว่าเราเป็นลูกค้ากลุ่มแรกเลยคะ และโชคดีที่มาเวลานี้คะ เพราะไม่มีคน เราเลยเดินถ่ายรูปสบายๆ

บรรยากาศด้านในโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ดาเตะ จิไดมุระ หมู่บ้านย้อนยุคสมัยเอโดะ ของโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)  ที่ให้บรรยากาศใกล้กับหมู่บ้านนินจา ที่นี่มีเรือนไม้ เป็นแถวยาวในแบบฉบับเอโดะ สุดเรือนเหล่านี้ก็มีบึงกว้าง ซึ่งจะจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็งหมดแล้วคะ หลังจากเดินครบแล้วเราก็ไปชมการแสดงตามเวลาเลยคะ

CR:http://edo-trip.jp/th/map/

เดินชมรอบหมู่บ้าน นินจา

 คุมะซังนากายะ

ภาพหุ่นจำลองวิถีชีวิตคนญีุ่่นเอโดย รู้สึกเหมือนอยู่ในหนังญี่ปุ่นเก่าๆเลยคะ ซึ่งเขาได้สร้างไว้สมจริงมากคะ

ย่านร้านค้า พิพิธภัฑณ์ และหอเฝ้าระวังไฟไหม้

เดินชมย่านร้านค้า เขาวงกต พิพิธภัณฑ์ และหอคอยมองวิวรอบๆเมืองเอโดะ จากหอคอยสูงตระหง่าน หอระวังไฟ เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเอโดะ ในชั้นที่ 2 ถูกปรับเป็นจุดชมวิว ถ่ายรูปสวยๆ สามารถมองเห็นเมืองโดยรอบได้ บนความสูง 7 เมตร

คาตาคุระโคะจูโร่ยะชิกิ

คฤหาสน์จำลองของทหารเอกท่านดาเตะ มาซามูเนะ นามว่า คาตากุระ โคจุโร่  สามารถรับชมการจัดสวนแบบญี่ปุ่นอันสวยงามได้ และยังมีต้นสนที่มีตำนานเล่าขานไว้ว่า หากได้ถ่ายรูปคู่กับต้นนี้แล้วจะมีความร่ำรวยด้วยนะคะ

ศูนย์ให้ความรู้นินจา

นินจา คือเหล่าผู้ต่อสู้ในเงามืด ในช่วงสงครามญี่ปุ่น จนถึงสมัยเอโดะ ท่านสามารถรับชมการจัดแสดงเครื่องมือต่างๆที่นินจาใช้จริงเช่น มีด,ดาบ, ดาวกระจายต่างๆ ได้ที่นี่

หลังจากได้เดินชมบริเวณรอบๆอย่างอิ่มหน่ำใจแล้ว ก็ได้เวลาการแสดงต่างๆแล้วก็ไปเข้าได้เลยคะ ..

การแสดงแรก การแสดงนินจาที่ บ้านนินจาคาสุมิ (忍者かすみ屋敷)

รับชมการต่อสู้ที่ร้อนแรง ระหว่างนินจาในบ้านนินจาที่เต็มไปด้วยกลไกลับต่างๆ

เนื้อเรื่อง สารลับ ตำนานโอโซโตคิ

ในยุคสมัยมาซามูเนะ ตระกูลดาเตะปกครองภูเขาทามายามะคินซานที่สืบทอดต่อกันมา นินจาคุโรฮาบากิกุมินามว่า ซาเก็ง ได้ขุดหลุมในภูเขานี้ ตามคำสั่งของคาตากุระ โคจุโร่แห่งตระกูลดาเตะ ทว่า การขุดนั้น ไม่เจอทองคำ แต่ทำให้ซาเก็งได้พบกับอุโมงค์ของเหมือง ซาเก็งสับสนไม่รู้ทำอย่างไรดี เพื่อนของเขานามว่า ริคุ ได้นำสารลับมามอบให้ สิ่งที่เขียนไว้คือ แผนการของโทคุกาว่าที่จะยึดเอาภูเขาทามายามะคินซานไว้ และยังมีแผนการป้องกันภูเขาแห่งนี้จากโคจุโร่แนบมาด้วย … แล้วการแสดงเป็นอย่างไร สามารถเข้าไปดูกันได้คะ การแสดงนี้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างตื่นตาตื่นใจกันมาก ทั้งวิชาแบบนินจาที่เอามาใช้แสดง กลไกต่างๆ ทำให้คนต่างชาติอย่างเรารู้สึกตื่นเต้นดีคะ

การแสดงสนุกดีคะ(⋈◍>◡<◍)。✧♡ ถึงฟังไม่ออกก็ดูเข้าใจง่ายคะ

แอบไปแอบมา หมุนไปหมุนมา เปนการแสดงแบบ360องศาจริงๆ


บ้านนินจาคาสุมิ นินจาโชว์ [20 นาที]    ตารางเริ่มการแสดง  9:30/11:30/13:30/15:45


การแสดงที่สอง โรงละครวัฒนธรรมญี่ปุ่น[โออิรันโชว์]日本伝統文化劇場[花魁ショー]

การแสดง ดราม่า คอมเมดี้ ร่วมเล่นเกม กับเหล่านักแสดง  ตามแบบฉบับค่ำคืนของผู้ร่ำรวยในสมัยเอโดะ

เนื้อเรื่อง เฮียะกะเรียวรัน

ณ ห้องทาทามิแบบญี่ปุ่นของ ทาคาโอะ ดายู โออิรันซึ่งเป็นตัวแทนของโยชิวาระ เธอกำลังรอต้อนรับท่านเศรษฐีที่จะมาเยือนในคํ่าคืนนี้พร้อมกับเหล่าหญิงสาวฝึกหัด ชื่อ ซัทสึกิ และโมมิจิ เศรษฐีผู้นั้น เป็นโชกุนผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น จะมีการเลือกผู้ชม 1 คนขึ้นไปรับบทอันทรงเกียรตินี้ โดยมีนักแสดงไปเลือก และแนะนำการละเล่นของให้ มาร่วมเล่นกันนะคะ โดยในบทบาทท่านโชกุน ท่านจะได้ลองการละเล่นแบบญี่ปุ่นในห้องเสื่อทาทามิ ทั้ง “โทระโทระ” และ “โทวเซงเคียว” อย่างเป็นกันเองด้วยคะ ซึ่งก็สร้างความสนุกสนานได้ ทั้งๆที่เราฟังมีนักท่องเที่ยวที่ฟังญี่ปุ่นไม่ได้ ก็เรียกว่าสามารถเข้าในเนื้อเรื่องได้ สนุกสนานดีคะ

การแสดงนี้ก็ตลกดีคะ โดยเฉพาะเสียงของสาวๆนั่นเองคะ


โรงละครวัฒนธรรมญี่ปุ่น โออิรันโชว์[25 นาที]  ตารางเริ่มการแสดง 10:05/12:30/14:00/16:15


การแสดงที่สาม   โรงละครโอเอโดะ[ละครเนียงมาเก]大江戸劇場[ニャンまげコメディ]

พบกับละครแสนสนุก กับเจ้าเหมียวเนียงมาเก ขำขันดีคะ แต่อันนี้อยากให้อ่านเนื่อเรื่องไปก่อนก็ดีไม่งั้นอาจไม่เข้าใจ

เนื่อเรื่อง ประกาศจับเจ้าเหมียวมาเกะ ~แมวปีศาจ แมวถูกทิ้ง แมวกวัก~

ข่าวลือล่าสุดแพร่สะพัดทั่วเมืองเอโดะถึง “แมวปีศาจพูดได้” ที่ปล้นเงินผู้ที่ผ่านไปมา นักสืบ ชื่อเฮจิและลูกน้องชื่อ ฮาจิ ได้พยายามสืบสวนคดีประหลาดนี้ วันหนึ่ง ทั้งสองคนเดินทางไปยังแม่นํ้านอกตัวเมือง สายตาจึงได้สะดุดเข้ากับสองพี่น้องยากจน ชื่อ ทสึเนะโยชิและซัทสึกิ พร้อมกับแมวหน้าตาประหลาด เหมียวมาเกะ ซึ่งเป็นแมวถูกทิ้งที่สองพี่น้องเก็บมาเลี้ยงจนโต เจ้าเหมียวมาเกะที่น่ารักตัวนั้น จะเป็นแมวปีศาจอย่างที่เขาลือกันหรือเปล่า?  แล้วเมื่อความจริงถูกเปิดเผย เรื่องราวการจับกุมครั้งใหญ่อันอลม่านของคนกับแมวจึงได้เริ่มขึ้น ไปติดตามเรื่องราวต่อกันได้ที่โรงละครโอเอโดะได้เลยคะ

ด้วยความที่เนื้อเรื่อค่อนข้างเข้าใจยากเขาก็มีการแปลให้ได้เข้าใจง่ายขึ้น สนุกดีคะ (^^)


โรงละครโอเอโดะ ละครเนียงมาเก [25 นาที]  ตารางเริ่มการแสดง  10:10/11:40/13:15/15:05


การแสดงที่สี่ หอคอยนินจา [การแสดงโชว์กลางแจ้ง]忍者砦[野外アクションショー]

การแสดงนินจากกลางแจ้งอันตื่นตาตื่นใจ  กับการแสดงโลดโผนบนหอคอยและท้องฟ้าอังยิ่งใหญ่

※กรณีฝนตก หรือลมแรงจะเปลี่ยนการแสดงเป็น“ห้องเรียนปาอาวุธ”

เนื้อเรื่อง ซารุโทบิ ซาสึเกะ การรบตัดสินแพ้ชนะที่ป้อมปราการบนเขาบงเทนแห่งโคงะ

เวลาขณะนั้นคือ ปีเคโชที่20 (1615) ซานาดะ ยูกิมูระ ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นวีรบุรุษยอดนักรบผ่านการสร้างความจงรักภักดีต่อตระกูลโทโยโตมิ โดยในปีนี้เองเขาได้เสียชีวิตกลางสนามรบในสงครามฤดูร้อนที่โอซากะอย่างสมเกียรติ นินจาโคงะ นามว่า ซารุโทบิ ซาสึเกะ ผู้ซึ่งเป็นลูกน้องนั้นได้เดินทางกลับถึงบ้านเกิดอย่างปลอดภัย เพื่อที่จะทำตามคำสั่งลับสุดท้ายจากนายให้สามารถสำเร็จได้อย่างลุล่วง เขายอมถอยห่างจากสงครามและรอดตายได้ในที่สุด ทั้งซาเฮอิจิพ่อเขารวมทั้งโอเรียว คู่หูที่เป็นนินจาหญิง ได้มีความกังวลถึงความปลอดภัยของซาสึเกะอย่างมาก เมื่อได้พบเขาอีกครั้ง ต่างก็ดีใจอย่างเหลือล้น แต่ทว่า ความสงบสุขมาเยี่ยมเยียนเขาได้ไม่นาน ผู้ไล่ล่าของฝ่ายโทกุงาวะพยายามที่จะกำจัดถอนรากถอนโคนผู้รอดชีวิตของโทโยโตมิ ได้เข้ามาใกล้อย่างกระชั้นชิดทุกช่วงเวลาแล้ว……!

ถึงแม้ว่าปราสาทจะแตก แต่พวกเราจะต้องมีชีวิตรอด นี่คือกฎเหล็กของนินจา—
ซารุโทบิ ซาสึเกะ vs. ฮัตโตริ ฮันโซ, ฮีโร่นินจาผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง ต่อสู้ปะทะกันที่โคงะ!

การแสดงอันตื่นตาตื่นใจนี่ จะเป็นอย่างไรสามารถไปสัมผัสได้ คะ

CR:http://edo-trip.jp/show/program/


หอคอยนินจา การแสดงโชว์กลางแจ้ง [15 นาที]  ตารางการแสดง 10:40/14:40


หลังจากดูการแสดงกันครบแล้ว เราก็เริ่มหาของทานกันแล้วคะ เราเลือกทานขนมที่ร้านวาราจิยะ

ภาพดังโงะจากร้านวาราจิยะ   ถ้าพูดถึงของดังๆในจิไดมุระละก็ ต้องเป็นดังโงะลูกใหญ่ๆนี่ล่ะคะ มีรสชาติให้เลือก 5 รส เช่นถั่วแดง, มิตะราชิ,คินาโกะ,งาและ บ๊วย สามารถเดินทานพร้อมชมเมืองไปด้วย และยังมีเครื่องดื่มต่างๆให้เลือกดื่มอีกด้วย

★ดังโงะ อันล่ะ 250เยน

และที่ร้านเดียวกันนี้เราก็เห็นว่ามีโอโคโนมิยากิด้วยเลยสั่งมาลองสักหน่อย จานนี้ไม่ใหญ่มาก ราคา350เยน

เช่าชุดการถ่ายรูปที่ อุทสึโรอิคัง

แปลงร่างเป็นขุนนาง เจ้าหญิง นินจาเด็ก นินจาผู้ใหญ่ ซามูไร ลูกสาวนักรบ ชุดยูกาตะสำหรับผู้หญิงและเด็กสาวชาวเมือง พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก! รูปถ่ายจะมอบให้ตรงนั้นในทันที และสามารถเช่าชุดใส่ไปหามุมถ่ายรูปในหมูบ้านได้ทั้งวัน!

CR:http://edo-trip.jp/th/disguise/

หลังจากทานอาหารที่นี่พออิ่มท้องแล้วก็ไปเดินเลือกของฝาก มีด้วยกัน 3 ร้าน   ซึ่งร้านของฝากจะอยู่ตรงด้านหน้าคะ ของฝากแนะนำก็คือ เซมเบ้ รูปนินจาแมว ลองซื้อกลับไปฝากเพื่อนๆดูนะคะ


ข้อมูลการท่องเที่ยว


ที่อยู่: 53-1นากะโนโบริเบทสึโจ เมืองโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) ฮอกไกโด059-0463

เบอร์โทร: 0143-83-3311

เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมตลอดปี ตั้งแต่่เวลา 9.00-17.00 น.
(ในช่วงฤดูหนาวเปิดถึงเวลา 16.00 น.  วันหยุดเพื่อเช็คสภาพอาคาร ระหว่าง วันที่ 4-7 มีนาคม 2562 )

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 2,900 เยน เด็กประถม 1,500 เยน เด็กอนุบาลตั่งแต่ 4 ขวบ 600เยน

➡ ส่วนลดผู้ทุพพลภาพ ค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (ระดับมัธยมต้นขึ้นไป) 1,800 เยน เด็กประถม 900 เยน  เด็กอนุบาลตั่งแต่ 4 ขวบ 500เยน 

  • ต้องมีใบรับรอง (สมุดประจำตัว)
  • ผู้ดูแล 1 ท่านก็จ่ายค่าเข้า 1,800 เยน
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นได้

➡ ส่วนลดผู้สูงอายุ65 ปีขึ้นไป 2,100 เยน 

  • ต้องใช้หลักฐานแสดงอายุ
  • ไม่สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่นได้

เว็บไซต์: http://edo-trip.jp/th/

วิธีการเดินทาง

จากสนามบินชินชิโตเซะ นั่งรถไฟสาย Rapid Airport ไปลงที่สถานี Minami Chitose และนั่งรถไฟด่วน Ltd. Exp. Super Hokuto วิ่งตรงมาที่สถานี JR Noboribetsu ได้เลยใช้เวลา 50 นาที แล้วนั่งรถบัสต่อมาที่หมู่บ้านนินจาอีกประมาณ 8 นาที

จากสถานีรถไฟซัปโปโร ไป สถานีโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ประมาณ1ชม.10นาที แล้วนั่งรถบัสต่อมาที่หมู่บ้านนินจาอีกประมาณ 8 นาที

จากโนโบริเบทสึฮิกาชิIC ประมาณ 3 นาที โดยรถยนต์

จากโนโบริเบทสึออนเซ็นประมาณ 15นาที โดยรถยนต์

ดาวโหลดแผ่นพับได้ที่ PDF


ที่เที่ยว Noboribetsu 2 : ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล และหมูบ้านไอนุโคตัน (Noboribetsu Bear Park)

ก่อนที่แสงจะหมดไป เราขอไปที่สวนหมีหรือที่เรียกันในภาษาญี่ปุ่นว่า "โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) คุมะโบคุโจ" ก่อนแล้วกันคะ เพราะอย่างที่ทราบหน้าหนาวที่ฮอกไกโดมืดเร็ว เราเลยรีบไปที่ศูนย์หมีก่อนเลยคะ สองพี่น้องอย่างเราใช้บริการแท็กซี่อีกแล้วคะ ประมาณ10นาทีคะก็ถึงที่หมาย แต่มีวิธีเดินทางที่อาจประหยัดกว่านั้น เพื่อนๆสามารถนั่งรถบัสDonun ลงที่สถานีโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ออนเซ็น แล้วเดินต่อไปที่สวนหมีเมืองโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ได้เหมือนกันคะ

ทีนี่ได้รวมเหล่าพี่หมีสีน้ำตาลที่มีอยู่ในเกาะฮอกไกโดส่วนหนึ่งเอาไว้เพื่อให้พวกเราได้เห็นมันง่ายขึ้น และเป็นหมีที่เป็นมิตร เพราะปกติพวกมันจะไม่ออกมาให้ใครเห็นง่ายๆและไม่ได้น่ารักเหมือนหน้าตานะคะ  ถ้าบังเอิญขับรถไปตามทางป่าเขาก็อาจเจอได้ ซึ่งส่วนตัวเคยเจอลูกหมี ครั้งนั้นก็ตกใจมาก คิดว่าดีแล้วที่เจอแค่หมีตัวเล็กๆ

ภาพจากกล้องหน้ารถ หมีที่เจอระหว่างทางไปฟุราโนฮอกไกโด

แต่ที่นี่พวกมันน่ารักกันจริงๆ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด และฟาร์มหมีสีน้ำตาลแห่งนี้ก็เป็นอีกที่ ที่น่าท่องเที่ยวสำหรับทุกคนนะคะ

ที่นี้ต้องนั่งกระเช้า ขึ้นไปยังสวน เพราะฉะนั้นจึงต้องมาที่Ropeway Station กันก่อนนะคะ และเจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นRopeway หรือกระเช้าไปที่สวนหมีกันคะใช้เวลาเดินทางขึ้นไปประมาณ6-10นาที

สามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหมีตัวใหญ่นี้ได้ ก่อนไปขึ้นรอปเวย์คะ เราไม่สามารถถ่ายรูปกับหม๊ตัวจริงได้ก็ถ่ายกับตัวนี้ไปก่อนแล้วกันคะ

ภาพระหว่างขึ้นกระเช้าไปสวนหมี เจอะกระเช้าข้างๆกำลังลำเลียงอาหารให้เจ้าหมีแน่นอนเลยคะ

ภาพแผนที่ในสวนหมี จุดถ่ายรูปต่างๆ

ที่นี่มีการสร้างปลอดภัย มีรั่วรอบขอบชิดดี เจ้าหมีพวกนี้ก็แสนรู้มาก เราสามารถโยนแอปเปิ้ล หรือขนมปังกรอบให้เจ้าหมีพวกนี้ได้ ซึ่งเมื่อมีคนเข้ามาชม พวกมันก็จะมาทักทาย โบกไม้โบกมือ  ทำท่าขอขนมจากนักท่องเที่ยว จนพวกเราอดไม่ได้ที่จะต้องวิ่งไปซื้อขนมมาโยนให้กัน เพราะเราก็อยากเห็นความน่ารักน่าเอ็นดูที่หาดูได้ยากแบบนี้เหมือนกันคะ มีทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ ให้ชมมากมาย

ดูท่าเจ้าหมีพวกนี้สิคะ  พอนักท่องเที่ยวมาพวกมันก็โบกไม้โบกมือให้ แล้วรอให้พวกเราเอาขนมมาให้กัน แย่งกันจ้าละหวั่นเลยคะ

  ที่นี่นอกจากจะมีน้องหมีฮอกไกโดแล้ว ยังมีเจ้าเป็ดแสนรู้อยู่ข้างๆด้วยคะ ที่นี่ก็มีเป็ดวิ่งแข่ง, กรงกระรอก, มีร้านอาหาร,  พิพิธภัณฑ์หมีสีน้ำตาล, จุดชมวิวทะเลสาบคุตตะระ (Lake Kuttara)  และการจัดแสดงหมู่บ้านชาวไอนุอีกด้วย  เอาเป็นว่าแวะมาโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) แล้วนอกจากออนเซ็นแสนสบาย  ก็อย่าลืมขึ้นมาดูฟาร์มหมีกันน๊าาาา

ภาพจุดชมวิวทะเลสาบคุตตะระ (Lake Kuttara)  ที่แข็งเป็นนำแข็งไปแล้วคะ สามารถลองส่องกล้องดูได้คะ


ข้อมูลการท่องเที่ยว


ฟาร์มหมีโนโบริเบทสี (Noboribetsu Bear Park)

ที่อยู่ : 224 Noboribetsu-Onsen, Noboribetsu, Hokkaido, GPS :42.492890, 141.144540

เบอร์โทร: +81-143-84-2225

เวลาทำการ :กุมภาพันธ์-มีนาคม 8:30-16:00 (ปิดขายบัตร 15:20)

เมษายน-มิถุนายน และตุลาคม-ธันวาคม 8:30-16:30 (ปิดขายบัตร 16:30)

ค่าเข้าชม :ผู้ใหญ่ 2,592    เด็ก 1,296 (เด็กอายุน้อยกว่า3ขวบเข้าฟรี)

การเดินทาง:

จากสถานี JR Sapporo ไปสถานีโนโบริเบ็ทสึ (ใช้เวลาเดินทาง1ชม.10นาที)     ต่อรถDonan Bus ไปยัง Noboribetsu Onsen Bus Terminal   ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามแล้วเดินขึ้นเนินไปยัง Ropeway (ใช้เวลาเดิน 5-10นาที) แล้วนั่งกระเช้าขึ้นไป(ใช้เวลาเดินทาง7นาที) ไปยัง Bear Park 

TIP:ที่นี่มีที่จอดรถ ค่าที่จอดรถยนต์ธรรมดา 520เยน, รถสูง5 เมตรขึ้นไป 1000เยน,รถมอเตอร์ไซต์ 200เยน

TIP:หากลงมาจากสวนหมีแล้วอยากไปที่หุบเขานรก เขามีรถบริการพาไปส่งฟรี

TIP:มีไวไฟฟรี

TIP:มีรถเข็นเด็กให้ยืมฟรี

เว็บไซต์:https://bearpark.jp/

แผ่นพับ https://bearpark.jp/wp-content/themes/dazzling-child/image/2017en.pdf


ที่เที่ยว Noboribetsu 3 : หมู่บ้านไอนุยูคารา (Ainu kotan / Yukara no sato)

สัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรม ของคนฮอกไกโดพื้นเมืองเดิม นั้นก็คือชาวไอนุ (Ainu) "โคทัน"หมายถึง หมู่บ้าน ในภาษาไอนุ   ส่วน  ซาโต Sato ก็หมายถึง หมู่บ้าน ในภาษาญี่ปุ่น  เพราะฉะนั้นจริงๆแล้วหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า หมู่บ้าน ไอนุ ยูคารา  ซึ่งปัจจุบันชาวไอนุค่อยๆหายกลมกลืนไปกับชาวญี่ปุ่นที่อพยพย้ายเข้ามาอาศัยกันที่เกาะฮอกไกโดแห่งนี้ ปัจจุบันยังคงมีหมู่บ้านไอนุอีกหลายแห่งที่ยังคงได้เห็นกันอยู่ ทั้งที่เมืองชิราโอ   เมืองอะคัง เป็นต้น

หมู่บ้านนี้อยู่บริเวณสวนหมีสีน้ำตาล ซึ่งใครขึ้นไปดูหมีก็สามารถแวะหมู่บ้านนี้ได้ด้วยเลยคะ ที่นี่ก็เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชิวิตของชนเผ่าไอนุในช่วงยุคเมจิ  สามารถเข้าไปลองใส่ชุดชนเผ่าไอนุได้ ค่าเช่าชุด   (500 เยน /  คน) และมาเรียนรู้วิถีชีวิตชาวไอนุในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ชม  poloship (เรือใหญ่) Thamasai (สร้อยคอ), เครื่องครัว และ Emi (ดาบ) ต่างๆ ที่ทำด้วยภูมิปัญญาของชาวไอนุ ได้ที่นี่

※ปิดช่วงหน้าหนาวตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคมถึงสิ้นเดือนเมษายน

Cr:https://bearpark.jp/yukar/

ภาพเจ้าหน้าที่ประจำหมู่บ้าน หน้าร้อน


ข้อมูลการท่องเที่ยว


ที่อยู่ : 224 Noboribetsu-Onsen, Noboribetsu, Hokkaido, GPS :42.492890, 141.144540

เบอร์โทร: +81-143-84-2225

เวลาทำการ :เปิดเฉพาะหน้าร้อน เดือนพฤษภาคม ถึง เดือน ตุลาคม

ค่าเข้าชม :ฟรี

การเดินทาง: จากสถานี JR Sapporo ไปสถานีโนโบริเบ็ทสึ (ใช้เวลาเดินทาง1ชม.10นาที)     ต่อรถ Donan Bus ไปยัง Noboribetsu Onsen Bus Terminal   ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามแล้วเดินขึ้นเนินไปยัง Ropeway (ใช้เวลาเดิน 5-10นาที) แล้วนั่งกระเช้าขึ้นไป(ใช้เวลาเดินทาง7นาที) ไปยัง Bear Park  แล้วเดินเข้าไปที่ หมู่บ้านยูคาริ


ที่เที่ยว Noboribetsu 4 : บ่อน้ำพุร้อน จิโกคุดานิ (Jigokudani or Hell Valley)

หุบเขานรก หรือ จิโกคุดานิ หรือหุบเขานรก(Hell Velly) แห่งเมืองโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ที่มีบ่อโคลนเดือดตามธรรมชาติ อันเป็นแหล่งความร้อนจากภูเขาไฟที่ทำให้น้ำและกำมะถันพุ่งเป็นไอขึ้นมาให้เห็นเป็นจุดๆ

สถานที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Noboribetsu Onsen การค้นพบหลุมอุกกาบาตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 450 เมตร เป็นแหล่งที่มาของ Noboribetsu Onsen ที่จะปล่อยน้ำพุร้อนได้มากถึง 3000 ลิตรต่อนาที   เมื่อคุณก้าวเข้าสู่ Jigokudani กลิ่นของกำมะถันจะเตะจมูกมาจากไกลๆแม้คุณจะยังอยู่บริเวณที่ยังไม่สามารถมองเห็นได้ก็สามารถรับรู้ได้ว่าถึงแล้วคะ

เมื่อเดินมาประมาณ 5 นาทีเข้ามาบริเวณด้านในก็รูสึกว่ากลิ่นแรงขึ้นเรื่อยๆคะ หากใครทนไม่ด้านเอามาร์คไปด้วยก็ได้คะ แต่ส่วนตัวทนได้คะ

ระหว่างทางสามารถเพลิดเพลินกับร้านค้าข้างทาง และแวะสักการะศาลเจ้าเอ็นมาโด(閻魔堂) อีกหนึ่ง สัญลักษณ์ของเมืองโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)

และเดินมาเรื่อยเราก็ได้เจอกับจิโกคุดานิ หรือหุบเขานรกแล้ว รู้เลยว่าทำไมถึงเรียกว่าหุบเขานรก ก็รู้เลยว่าทำไมถึงชื่อหุบเขานรก เพราะลักษณะเหมือนนรกอยู่นะคะ  และที่สำคัญกลิ่นแรงมากคะ

เมื่อเดินเข้ามาสักหน่อยเราก็ได้เจอกับบรรยากาศแบบที่เห็นในหนัง ตรงสะพานตรงนี้นี่เองคะ

และเมื่อเดินไปประมาณ 20 นาทีจาก Jigokudani จะพบกับร่องรอยระเบิดในยุค Taisho และสามารถเพลิดเพลินไปกับความลึกลับจาก "Taisho Hell" ที่มีสีของน้ำร้อนเปลี่ยนเป็น 7 สี


Jigokudani ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ ใบไม้ที่เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง มากมาย ไม่ว่ามาฤดูไหนก็สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติได้ตลอดเลยคะ และนอกจากนี้ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จะมีเทศกาล Onibi Michi ซึ่งแปลว่า ทางเดินแห่งไฟของปีศาจ จะมีการประดับไฟสวยงามตามทางเดินและมีการแสดงดอกไม้ไฟบริเวณรอบๆหุบเขาแห่งนี้ ด้วยคะ ยังไงผ่านมาเมืองนี้อย่าลืมมาแวะที่นี่ด้วยนะคะ


ข้อมูลการท่องเที่ยว


 ที่อยู่ :〒059-0551 Noboribetsu Onsen-Cho, Noboribetsu City,Hokkaido

เบอร์โทร:0143-84-3311

เวลาทำการ:เปิดตลอดเวลา

※ ช่วงเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม จะมีไกด์อาสาสมัครในท้องถิ่นนำชม ช่วงเวลา 10:00-15:00น.

(ในช่วงเดือนตุลาคมจะมีอาสาสมัครอยู่ในกรณีมีพายุ  สตาฟจะอยดูแลความเรียบร้อยและประกาศเตือนให้ยกเลิกการเที่ยวมีมีเหตุต่างๆ)

ค่าเข้าชม:ฟรี

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ Shin Chitose Airport ไปยัง Noboribetsu  ใช้เวลาประมาณ50นาที ต่อรถบัสที่สถานีรถไฟ JR Noboribetsu ไปยัง Noboribetsu Onsen ประมาณ15นาที

เว็บไซต์ :http://www.noboribetsu.tv/facil/jigoku.html


รีวิวโรงแรมในเมืองโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)  โรงแรม Mahoroba


ครั้งนี้เราเองก็ได้จองที่พักไว้ ที่โรงแรม Mahoroba (ホテルまほろば) เป็นโรงแรมที่ติดที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปถึงสามที่ นั้นก็คือ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล (Noboribetsu Bear Park) ,หุบเขานรก จิโงะกุดัง (地獄谷) และหมู่บ้านไอนุ ซึ่งโรงแรมตั้งอยู่ห่างจาก Noboribetsu Jigokudani 700 เมตร ห่างจาก Noboribetsu Bear Park 1.4 กิโลเมตร 

 และที่สำคัญโรงแรมนี้เขามีโปรโมชั่น ให้เลือกด้วยคะ คือสามารถเข้าเที่ยวที่เที่ยวได้ ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย สองที่ และรวมอาหารเช้า และเย็น และค่าออนเซ็นด้วยคะ ซึ่งเพื่อนๆสามารถเข้าไปจองผ่านเว็บของเขาถึงจะมีให้เลือกหลายแบบเลยนะคะ

จองผ่านเว็บ(โปรดเข้าเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น แล้วเข้าด้วย Chrome แล้ว translate in English เอาจะมีโปรโมชั่ให้เลือกเยอะกว่าคะ มีรถบัสส่งถึงซัปโปโร เสียค่าบริการ 500 เยน เท่านั้น )

http://www.489pro.com/asp/489/menu.asp?id=01160863&ty=ser&list=YES&liop=1

โรงแรมนี้ มีห้องอาบน้ำพุร้อนสาธารณะในสถานที่ซึ่งมีอ่างอาบน้ำและสปาที่แตกต่างกัน 30 ห้อง มีที่จอดรถส่วนตัวฟรีในสถานที่ และอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรีในพื้นที่ส่วนกลาง ห่างจากสถานี JR Noboribetsu Station ใช้เวลาเดินทางโดยรถประจำทาง 15 นาที ห้องพักบางห้องมีอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่ง

ห้องพักมีเครื่องปรับอากาศ ทีวี กาต้มน้ำไฟฟ้า ชุดชาเขียว ตู้เย็น เครื่องฟอกอากาศ / เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ เสื้อคลุมยูกาตะ ห้องน้ำในตัวพร้อมอ่างอาบน้ำ ฝักบัว เครื่องใช้ในห้องน้ำพวกแชมพู ยาสีฟันมีใหพร้อม รองเท้าแตะ เครื่องเป่าผม มีครบคะ

ด้านล่างมีร้านสะดวก สปาซึ่งมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม ในโรงแรมยังมีคาราโอเกะ และมีตู้จำหน่ายเครื่องดื่มคะ

มีห้องอาหาร แบบ Restaurant Liberty ให้บริการอาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก และอาหารจีน และ Green Terrace ให้บริการอาหารตามฤดูกาล และมีบริการอาหารญี่ปุ่นหลายคอร์สแบบดั้งเดิม

CR:https://www.booking.com/hotel/jp/h-mahoroba.th.html

      เมื่อเราเช็คอินเรียบร้อย ก็เปลี่ยนชุดเตรียมลงไปแช่ออนเซ็นให้สบายตัวกันเลยคะ

ที่นี่ได้เตรียมชุดยูคะตะไว้ให้เราเรียบร้อยมีหลายไซส์ให้เลือก แบบผู้หญิง แบบผู้ชาย แบบเด็ก ส่วนเตียงที่เราเลือกเป็นเตียงทั่วไปส่วนใครชอบแบบเรียวกังก็สามารถเลือกได้นะคะ

ก่อนเข้าไปเพื่อนๆลองดูวิธีปฏิบัติเมืองเมื่อเข้าออนเซ็น ห้ามทำสิ่งเล่านี้นะคะ ยิ่งใครไปกินข้าวก่อนค่อยมาแช่อาจจะจุกเอาได้คะ เมื่อเข้าไปด้านที่นี่ถือว่าสะดวกมากเลยคะ มีของพร้อมมากเลย ผ้าขนหนูก็มีเตรียมไว้ให้ แต่ถ้าใครไม่อยากใช้ของโรงแรมสามารถเอาไปเองได้นะคะ ด้านในมีไดร์เป่าผม ครีมทาผิวสารพัดอย่างครีมทาผม  โลชั่นทาตัวเตรียมไว้ให้พร้อม บอกเลย ส่วนตัวประทับใจที่นี่มากคะ และก็กว้างดีคะ  และพอเราเข้าก็ต้องถอดออกให้หมด แล้วก็เข้าไปด้านใน มีบ่อออนเซ็นมากมายหลายแบบมีทั้ง Indoor และ Outdoor

มีห้องชาวน่าด้วยคะ เข้าไปเผาผลาญไขมันกันได้คะ

และเมื่อผ่อนคลายเรียบร้อยเราก็ได้เวลาลงไปหาของทานและอาหารที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวังมีมากมายหลากหลายให้เลือก รวมถึงปูด้วยคะ แต่ไม่ใช่ปู3อย่างนะคะ คอร์สของเรารวมแค่ปู2 อย่างคะ คือปูทาระบะและ ปูซูไว  แค่นี้ก็ฟินแล้วล่ะคะ

อาหารเย็น

ไลน์อาหารดูสะอาดตา และมีให้เลือกหลากหลายดีคะ เรียกว่าที่เผาผลาญออกไปเยอะก็ทานเต็มทีเลยคะ

ปูสองอย่างเสริฟพร้อมทาน ต้องมีเทคนิคในการทานนิสสสหนึ่งนะคะ ไม่งั้นเจ็บมือคะ ทางที่ดีใช้กรรไกรตัดดีกว่าคะ

อาหารเช้า

อาหารเช้า ที่เอามาทานก็ประมาณนี้คะ จริงมีไคเซ็นดง พวกอิกุระ ปลาทูน่า กุ้งหวานให้ตักกันได้แบบเต็มที่มากคะ ของหวาน นมเนย ก็เยอะมากคะ ถือว่าเรื่องกินที่นี่ไม่ขาดตกบกพร่องเลยคะ

ตอนกลับเราสามารถนั่งรถบัสกลับไปที่ซัปโปโรได้เลยคะ สะดวกมากคะ  ถ้าตอนมามีรถบัสไปรับด้วยจะดีมากเลยเนอะ


ข้อมูลการท่องเที่ยว


ที่อยู่:059-0551 ฮอกไกโด, โนโบริเบทสึ, Noboribetsu Onsen 65, ญี่ปุ่น

เบอร์โทร:0143-84-2211

เว็บไซต์:http://www.h-mahoroba.jp

Hotel Mahoroba Noboribetsu

ที่อยู่

65,Noboribetsu-city, โนโบริเบทสึ, โนโบริเบทสึ, ญี่ปุ่น, 059-0551

วิธีเดินทาง

นั่งรถบัสประมาณ 15 นาทีจากสถานี JR Noboribetsu

Check in/out

15.00 / 10.00

ราคา

3,200 บาท (ต่อคืน ต่อคน โดยประมาณ / ขึ้นอยู่กับเรทแลกเงิน และฤดูกาล)

โทรศัพท์

0143-84-2211

website

http://www.h-mahoroba.jp/

จองโรงแรมนี้ในราคาสุดคุ้มได้เลยที่นี่



ก็ต้องขอจบการรีวิวทริปนี้ไว้แค่นี้แล้วคะ จริงๆแล้วโนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu) ยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่เช่น  อควาเรียมและสวนสนุก (Marine Park Nixe) มีการแสดงปลาโลมาน่ารักรออยู่, Hiyoriyama Viewing Platform อยู่ที่ภูเขา Hiyori สามารถมองเห็นทะเลสาบ Oyunuma Lake วิวสวยจากบนภูเขาได้ เหมาะที่จะไปถ่ายรูปอย่างมากคะ,และยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ใครไปไหนมาแล้วอย่าลืมมารีวิวแชร์กันบ้างนะคะ

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
nattyrakuraku
แน็ตมาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ฮอกไกโดมาตั่งแต่ปี2014 แบบไม่มีความรู้เรื่องญี่ปุ่นเลย มาทำงานที่นี่และพัฒนาภาษาตนเอง ได้ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวมีบัตรนำเที่ยวที่ญี่ปุ่นถูกต้องตามกฎหมาย ยิ่งได้ทำงานนี้ก็ยิ่งชอบฮอกไกโมากขึ้น อากาศดี ผู้คนใจดี อาหารอร่อยเงียบสงบ ยิ่งอยู่ยิ่งหลงรักฮอกไกโด และอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆกันคะ
RELATED POST
kawagoe-top
blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

หนึ่งวันในคาวาโกเอะ (Kawagoe) ลิตเติ้ล เอโดะ ย้อนบรรยากาศเมืองเก่าและขอพรศาลเจ้าความรักชื่อดัง ฮิกาวะ

15/04/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!