ความพึงพอใจในการเดินทาง
Day2 : ตะลอนโตเกียวกับแฟน 1
เอาล่ะ วันที่สองนี้ เป็นวันแห่งการเที่ยว แฟนผมจะบินมาจากจังหวัดซากะบ้านเกิด มาถึงฮาเนดะก่อนเที่ยง เพราะตอนเย็นแฟนมีธุระต้องไปงานอีเว้นท์ของกลุ่มอาสาสมัครสมัยที่แฟนมาสอนภาษาญี่ปุ่นที่ไทยอยู่พักนึง ครั้งนี้เลยถือโอกาสเที่ยวด้วยกันที่โตเกียวด้วยเลย
ผมก็ไปรับแฟนที่สนามบินครับ เย้
ก่อนไปเช็คอินที่โรงแรม ก็แวะร้านอาหารไทยที่ผมเคยทำงานมาก่อน ที่Sangenjaya (ร้านเดียวกับที่ผมมาตอนบินมารอบที่แล้วครับ) อยากพาแฟนมาทานครับ แฟนเองก็ไม่ได้ทานอาหารไทยมาพักนึง ก็เลยพามาทานในโตเกียวนี่แหละ ฮ่าๆ
นี่ครับ เมนูที่สั่ง มีข้าวเหนียว ลาบเชียงใหม่ น้ำตกคอหมูครับ อิ่มกำลังดีเลย อร่อยมาก แฟนติดใจ
ด้วยความรู้จักกับร้าน ร้านเลยเซอร์วิสเครื่องดื่มให้คนละหนึ่งแก้ว ผมก็เลยจัดเบียร์ไป ส่วนแฟนก็จัดน้ำมะพร้าวครับ หะๆ จ่ายมื้อนี้ไป ¥2,360 ครับ
อิ่มแล้วก็กลับไปเช็คอินที่โรงแรม
ตกเย็นแฟนก็ต้องไปธุระที่บอกอะนะ แฟนต้องต่อรถไฟที่ Yotsuya ผมก็เลยติดไปลงที่นี่ด้วย ส่วนแฟนก็เปลี่ยนสายนั่งต่อไปอีกนิดนึง แฟนทำธุระประมาณ 2 ช.ม. ก็ตกลงกันว่าจะกลับมาเจอกันที่ Yotsuya ก่อนครับ ค่อยไปหาอะไรทานด้วยกันต่อ
มีเวลาประมาณ 2ช.ม. เลยว่าจะหาร้านแจ๊ส ที่มีดนตรีสด ไปนั่งดูเค้าแสดงหน่อย เสิชเจอร้านนึงอยู่ใกล้ๆ ก็เลยเดินไปถึงหน้าร้านละ แต่อ่านรายละเอียดดีๆอีกที ปรากฎว่าร้านนี้เป็นบาร์ที่เปิดเพลงแจ๊สเฉยๆ ไม่มีดนตรีสด ผมเลยไม่เข้า แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นฝั่งตรงข้ามมีร้านปาจิงโกะ...
เข้าไปเล่นสักนิดดีมั้ยนะ ฮ่าๆ คือมันก็เป็นการพนันอย่างหนึ่งอะนะ แต่เป็นการพนันที่ถูกต้องตามกฎหมาย จริงๆไอนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเก่งไม่เก่งอะไรเลย ขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆเลยครับ ถ้าคุมตัวเองไม่อยู่ ก็เสียเยอะเลยนะ บางคนก็หมดตัวไปกับสิ่งนี้ เพื่ออะไร หะๆ แต่มันเป็นอะไรที่ฆ่าเวลาได้ดีมากๆเลยนะ คือถ้ารู้จักควบคุมวงเงิน กำหนดซะแต่แรกว่าตัวเองจะเล่นไม่เกินเท่านี้ๆ มันก็เป็นอะไรที่สนุกดีครับ เพลิน เวลาไหลเร็ว ดังนั้นใครจะเล่นก็ต้องระวังหน่อยนะฮะ
ซึ่งผมเป็นคนดวงดี และมั่นใจในความดวงดีของตัวเองครับ ดูสิ
ได้มาเต็มกระตัก
อันนี้กระตักแรกวางอยู่ที่พื้น
ผมกำหนดไปว่าจะเล่นไม่เกิน ¥3,000 ก็เล่นเต็มวงเงินเลย
พอได้รางวัลแล้วก็แลกเป็นชิพเพื่อไปแลกเป็นเงินที่ข้างนอกอีกที ได้มา¥7,500 (พวกเศษนิดๆหน่อยๆเค้าจะให้แลกเป็นพวกขนมอะไรงี้ครับ)
ก็เท่ากับได้กำไรเป็นเงินเต็มๆ ¥4,500 ครับ ฮ่าๆๆ ดวงดีมั้ยล่ะ (พูดไปนั่น ถ้าหมดตัวนี่ตอนมาเขียนบล็อกนี้ คงเขียนออกมาเป็นอีกอารมณ์นึง)
เลยทักแฟนไปว่า มื้อเย็นวันนี้เราเอาเงินนี้มากินของอร่อยๆกัน ฮ่าๆ
พอแฟนเสร็จธุระ ก็กลับมาเจอกันไปหาอะไรทานกันครับ มาลงเอยที่สถานี Kanda
ผมอยากกิน ToriBeer มาก เป็นร้านเมนูไก่ต่างๆ ซึ่งแกล้มเบียร์ได้เด็ดมาก http://toribeer.co.jp แต่ไปถึงแล้วเต็ม แง ด้วยความที่เป็นเย็นวันศุกร์เงินเดือนออกด้วย คนเลยแออัด มีแต่ผู้คน ไปถึงที่ร้านก็เกือบ 3ทุ่มแล้ว ไม่แปลกที่ร้านจะเต็ม เลยทำใจ ไปหาร้านอื่นแทน แต่เรายังคงอยากทานไก่ย่าง ก็เลยมาลงเอยที่ร้าน Torimero ที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งเป็นร้านไก่เช่นกัน https://torimero.com
ร้านนี้ก็คนแน่นอีก โชคดี ตอนไปถึงมีโต๊ะนึงกำลังจะว่าง ก็เลยรอแปปนึงก็ได้นั่ง
มาแว้ว เมนูไก่ดิบ(กินเหมือนซาชิมิ) กับยำหนังไก่ญี่ปุ่น
อร่อยยย
ไก่ย่างญี่ปุ่นนี่อร่อยจัง
กะหล่ำปลีอะไรไม่รู้โคตรอร่อย(เติมฟรี)
สั่งแต่ของกรุบกริบแกล้มๆ ซึ่งถ้ากินเยอะๆก็อิ่มได้ แต่เลือกจะไม่สั่งต่อ เพราะกะลุ้นไปร้าน ToriBeer อีกที ฮ่าๆ (จะอยากไปไหน)
ปรากฏว่าคนโล่งเลย แอบเขินนะ ที่ดื้อด้านมาอีก แต่เราอยากกินนี่ เข้าร้านซะเลย ฮ่าๆๆ
สมกับที่รอคอย
ดื่มต่ออีกนิด อิอิ
อันนี้เมนูที่รอคอยมานาน ข้าวหน้าไก่ดิบ(อีกแล้ว)ต้นตำรับของร้านนี้เลย
บอกเลยว่าไม่คาวนะ อร่อยมาก ผมชอบ
เป็นอันจบโปรแกรมวันนี้
Day3 : ตะลอนโตเกียวกับแฟน 2
วันนี้แฟนต้องบินกลับซากะไฟลท์เย็น พอแฟนเช็คเอาท์ ก็ฝากสัมภาระไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วก็ไปเที่ยวกันครับ มีเวลาถึงเย็น
ออกจากโรงแรม 10โมง มาเดินเล่นแถวๆสถานีอาสะคุสะบาชิกันก่อน ก็ไปเจอร้านขายเครื่องหนังร้านนึง แฟนถูกใจถุงมือที่วางอยู่หน้าร้าน เลยเดินเข้าไปดู เห็นของอย่างอื่นในร้านก็น่าสนใจดี เลยเข้าไปเดินเล่นนิดนึง
มีของหลากหลายดี น่าสนใจครับ
แล้วก็แวะร้าน TOKYO MELONPAN เพื่อซื้อขนมปังเป็นอาหารเช้า
ผมได้กลิ่นหอมอบอวลของขนมปังเมล่อนจากร้านนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ วันนี้เลยว่าต้องมากินหน่อย ผมกับแฟนจัดกันไปคนละหนึ่งชิ้น ผมเลือกขนมปังเมล่อนรสชาติมาตรฐานมาอันนึง ส่วนแฟนเลือกครัวซ็องไส้ช็อกโกแลต
แล้วก็ไปหาที่นั่งกินครับ ไปเข้าแฟมมิลี่มาร์ทที่มี Eat-in space (อันนี้เป็นภาษาอังกฤษแบบญี่ปุ่นสร้างขึ้นมาเอง คล้ายๆคำว่า“โกอินเตอร์”ของบ้านเรา จริงๆควรเป็น Eating space อะไรแบบนี้เนอะ หะๆ)
ซึ่งญี่ปุ่นมีคอมบินิที่มีโซนแบบนี้เยอะนะ ผมไม่แน่ใจว่าที่ไทยตอนนี้มีมากน้อยแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ มีแฟมมิลี่มาร์ทสาขาที่พร้อมพงษ์ครับ ที่มีโซนแบบนี้สไตล์ญี่ปุ่นเลย
ทานไปด้วย(อร่อย) วางแผนไปด้วยว่าวันนี้จะไปไหนกันดี
สรุปกันว่าจะมาเดินเล่นกันแถว Nihonbashi สะพานแห่งประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นครับ
(ไม่ใช่สะพานสีเขียวข้างบนนั่นนะ ฮ่าๆ สะพานข้างล่างนะจ๊ะ) แต่ไม่ได้มาดื่มด่ำอะไรกับตัวสะพานเลยครับ ฮ่าๆๆ เดินผ่านเลยไปเลย แล้วก็ไปห้างTakashimayaครับ เดินเล่นดูนั่นนี่ในห้างไปเรื่อยเปื่อย
https://www.takashimaya.co.jp/tokyo/store_information/index.html
พอถึงเวลามื้อเที่ยง เราก็ตกลงจะกินโซบะกัน
ก็เลยไปร้านโซบะที่อยู่ใน YAESU SHOPPING MALL ซึ่งอยู่ใต้ดินครับ
http://www.yaechika.com/english/
ร้าน MIYOTA ครับ ยืนรอคิวนิดนึง ใกล้จะได้กินแว้วว
ของแฟน โซบะเย็นกับข้าวหน้าเทมปุระ
ของผม โซบะเย็นกับข้าวหน้าไก่ไข่ตุ๋น
2คน ¥1,630 ครับ ถูกนา อร่อยด้วย
เวลาใกล้หมด ก่อนกลับแวะร้านขายยา คือผมแอบปวดหัวนิดหน่อยครับวันนี้ ทำท่าจะไม่สบาย ยาก็ไม่ได้พกมา แฟนก็แนะนำที่ปกติเคยใช้แล้วว่าดี ผมก็ซื้ออันนั้น
ก็ดีขึ้นนะ เตรียมจะกลับละ แฟนขอแวะ Takashimaya อีกทีเพื่อไปดูของที่หมายตาไว้ตอนแรก และก็เกิดเหตุที่ไม่คาดคิด
ระหว่างเดินๆ ผมจับหน้าตัวเอง เห้ย โดนตัวอะไรกัดป่าวหว่า มันบวมๆ โดนแมลงกัดมั้ง ตอนแรกไม่คิดอะไรมาก แต่พอเดินผ่านกระจกเห็นหน้าตัวเอง อือหืม นี่ไม่ธรรมดาแล้ว เรียกแฟนดู แฟนก็ตกใจ คือหน้าผมแบบว่า มันมีปูดเล็กปูดน้อยบวมขึ้นมาหลายจุด
นี้มันอาการแพ้แน่ๆ แต่นึกไม่ออกเลยว่าจะแพ้อะไรได้ คิดว่าน่าจะเป็นที่ยาที่เพิ่งกินเข้าไปนี่แหละ เพราะปกติผมไม่ค่อยกินยา แล้วยิ่งยาญี่ปุ่นนี่ไม่ได้กินนานมากแล้วมั้ง สมัยเรียนอยู่ญี่ปุ่นก็เอาพารามาด้วย ไม่ได้พึ่งยาญี่ปุ่นเลย ร่างกายเลยอาจไม่คุ้น (เดา 555)
ถ่ายมาให้ทุกท่านได้ชม แอบน่ากลัวเนอะ
แต่สุดท้ายหลังจากนั้นประมาณชั่วโมงก็หายเป็นปกตินะ ขอไม่โพสต์ภาพยานะครับ ไม่มั่นใจว่าเป็นที่ยาจริงมั้ย เพราะปกติแฟนกินก็ไม่เป็นไร
เอาเป็นว่าใครที่เดินทาง ก็พกยาส่วนตัวที่ใช้อยู่ปกติไปเองจะดีกว่าเนอะ
เอาล่ะ กลับโรงแรมเสียที
แฟนต้องกลับแว้ว
พวกผมอยู่ด้วยกันจนเฉียดๆเวลาไฟลท์บิน
ผมไปส่งถึงฮาเนะดะ แล้วเราก็ลากันที่สถานีรถไฟเลย แฟนก็รีบไปเช็คอินแล้วบินกลับครับ
วันนี้ผมไม่มีแพลนอะไรแล้วล่ะ
ผมแวะลงที่ Shimbashi กะหาของฝากคนที่บ้านที่นี่แล้วก็ทานข้าวเย็น
แล้วผมก็เจอร้านปาจิงโกะร้านนึง ครุ่นคิดพักใหญ่ว่าจะเข้าไปดีมั้ย ฮืมม เข้าแล้วกัน (ซะงั้น ฮ่าๆ ได้ใจไง) แต่เพราะรู้สึกว่า ดวงไม่น่าจะมากันติดๆ วันนี้เราเปลี่ยนมาเล่นสล็อตแทนก็แล้วกัน ซึ่งก็ตั้งกฎให้ตัวเองอีกเช่นเดิมว่า เราจะเล่นไม่เกิน ¥3,000
สุดท้าย หมดตัวครับวันนี้… ฮ่าๆ หมดเกลี้ยง ¥3,000 ได้มาแต่ความเพลิดเพลิน โอเคไม่คิดมาก สนุกๆ รางวัลเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น (ฮือ) ฮ่าๆๆ
มันมีความลุ้นความเพลินตลอดจริงๆนะ อิอิ
ออกมาก็หิวละ ไปกินข้าวหน้าทะเล ที่หมายตาไว้ตอนเดินผ่านดีกว่า
ร้านนี้เลย
¥850 อร่อยอีกเช่นเคย (กินอะไรก็อร่อยไปหมด ฮ่าๆๆ)
วันนี้ไม่มีอะไรละครับ
Day4 : Session กับเพื่อนที่Shinjuku
แพลนหลักวันนี้คือไปเล่นที่ร้านเพื่อน ร้านเดียวกับที่ไปครั้งก่อน ร้าน Golden Egg http://www.g-egg.info/top.html นอกนั้นไม่ได้ทำอะไรเลย อยู่พักผ่อนจิบกาแฟทำงานชิวๆ
พอไป session กับเพื่อนเสร็จ ก็บึ่งไปถึงฮาเนดะแบบเฉียดๆ
Day5 : ออกจากฮาเนะดะ บินกลับไทย ทำงานต่อ
วันเวลาก็เลยเข้าวันที่ 5 นะครับ วันนี้เครื่องบินออกตรงเวลา ที่ 00:05
เลยมา 5 นาทีก็ขอนับเป็น Day5 นะที่อยู่ญี่ปุ่น ฮ่าๆ
บินกลับมาถึงไทยตี 4 ครึ่งแน่ะ ก็ตรงเข้าออฟฟิสทำงานต่อเลยครับ
(สรุปว่าก็ไม่ได้อาบน้ำอีกแล้ว จุ๊ๆนะ อิอิ)
ทริปนี้ผมมีค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่ญี่ปุ่น(รวมค่าที่พัก)ประมาณ ¥40,000 ครับ
ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ ฿12,000 +ค่าเครื่องบินอีก ฿20,000 ก็ ฿32,000ครับ
จบแล้วครับทริปนี้
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ
