ความพึงพอใจในการเดินทาง
หากถามว่ามีเวลาแค่ 1 วันในโตเกียว แต่อยากจะขอพร ชอปปิ้ง และได้กินของอร่อยด้วย ทำได้มั้ย?
ขอตอบว่า ได้แน่นอนค่ะ! ที่ฮาราจูกุ
ศาลเจ้าเมจิ
ก่อนออกไปช้อป เราก็ต้องไปไหว้ขอพรกันก่อนที่ ศาลเจ้าเมจิ หลายคนเคยไปแล้วแต่ไม่รู้ว่าเราไปไหว้ขอพรจากอะไร ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่สักการะดวงวิญญาณของจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็ง พื้นที่ทั้งหมด 700,000 ตร.ม. ของศาลเจ้านี้เป็นป่าปลูกทั้งหมด เพื่อต้องการทำให้เป็น Eternal Forest จึงมีการรับบริจาคต้นไม้กว่า 100,000 ต้นจากทั่วทั้งญี่ปุ่นมาปลูกที่พื้นที่แห่งนี้ตั้งแต่ตัวศาลเจ้าถูกสร้างขึ้น ภาพจำของศาลเจ้านี้ก็คือ เสาไม้โทริอิขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าสีเขียว ดังนั้น สาว ๆ สายมูเตลูทั้งหลายเตรียมกล้ามเนื้อขาให้พร้อมไว้เลย เพราะเราต้องใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีจากทางเข้าศาลเจ้า ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฮาราจูกุ จึงจะถึงตัวศาลเจ้าค่ะ
สำหรับศาลเจ้าเมจินี้สามารถมาขอพรได้ทุกเรื่อง ทั้งการงาน การเรียน ความรัก ครอบครัว สุขภาพ แต่ถ้ายังไม่อุ่นใจพอเค้าก็มีเครื่องรางที่ช่วยในเรื่องต่าง ๆ ให้เช่ากันด้วยค่ะ และด้วยความที่ศาลเจ้านี้เป็นศาลเจ้าที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมาก จึงเป็นที่ที่คนนิยมมาจัดพิธีแต่งงานกันค่ะ ถ้าโชคดีก็อาจจะได้เห็นพิธีแต่งงานแบบชินโตก็ได้นะคะ สำหรับเรามาศาลเจ้านี้ 2 ครั้ง ก็ได้เห็นทั้ง 2 ครั้งเลยค่ะ : )
Eiswelt, Takeshita Street
หลังจากขอพรเรียบร้อยก็ได้เวลาที่สาว ๆ รอคอย ไม่มีอะไรจะมีความสุขไปกว่าการเดินชอปปิ้งอีกแล้วค่ะ พวกเราออกจากศาลเจ้าเมจิมาทางประตูเดิม เลี้ยวซ้ายย้อนลงมาทางสถานีฮาราจูกุแล้วข้ามถนน จากนั้นเดินไปเรื่อย ๆ ประมาณ 5 นาที จนถึงสามแยกไฟแดง เราจะเจอกับถนนทาเคชิตะ ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแฟชั่นญี่ปุ่น มีทุกอย่างทั้งร้านขนม เสื้อผ้าหลากหลายละลานตาไปหมด มีทั้งวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวเดินบนถนนเส้นนี้แน่นมาก พวกเราก็เดินซึมซับบรรยากาศ Pop Culture ของญี่ปุ่นไปเรื่อย ๆ จนสุดถนน แล้วก็มาสะดุดที่ร้านไอติมร้านนี้ค่ะ Eiswelt Gelato (ไอซ์เวลท์ เจลาโต) พวกเราสามคนมองหน้ากันแล้วก็รู้ใจ สั่งไอติมคนละอันตาม character ที่ชอบทันที : P
จากร้านไอติม เราจะเจอกับถนนใหญ่ขวางหน้าเราอยู่ โซนนี้ทั้งโซนคือแหล่งชอปปิ้งทั้งหมด ไม่ว่าจะเสื้อผ้าแฟชั่น รองเท้า แบรนด์เนมหรือสินค้าการ์ตูนต่าง ๆ ซึ่งเราจะชี้เป้าตามที่เราไปมา ถ้าใครชอบก็ตามมาเลยค่ะ
LINE FRIENDS Flagship Store Harajuku
พวกเราเดินเลี้ยวขวาพร้อมกับกินไอติมไปด้วย ย้อนขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับ LINE FRIENDS Flagship Store อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเดินเข้าไปในร้านก็จะเจอพี่หมีบราวน์ตัวใหญ่นั่งอยู่กลางร้าน สาขานี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวเลย มี 3 ชั้น ความพิเศษคือชั้นบนสุดจะขายสินค้า BT21 ซึ่งเป็นตัว character ที่ออกแบบโดยหนุ่ม ๆ วง BTS ทั้ง 7 คน แต่ของที่ถูกใจเราที่สุดเห็นจะเป็นตุ๊กตาหมีบราวน์กวัก และแซลลี่กวัก จะช่วยกวักอะไรได้มั้ยไม่รู้ รู้แต่ว่าน้องเรียกให้พากลับบ้านด้วย ฮ่า ๆ
Tokyu Plaza Omotesando Harajuku
เดินออกมาจาก LINE FRIENDS Flagship Store ก็เลี้ยวซ้ายเดินต่อไปทางเดิมจนถึงสี่แยก เราจะเจอกับห้าง Tokyu Plaza ตั้งอยู่ที่หัวมุมถนน เรามาที่นี่เพื่อจะพามาถ่ายรูปกับทางเข้าห้างที่เป็นเหมือนอุโมงค์กระจกขึ้นสู่ชั้นสองของอาคาร ซึ่งการถ่ายรูปตรงบริเวณนี้มีข้อควรระวังนิดนึงเรื่องการกีดขวางทางเดิน เพราะฉะนั้นเราควรจะยืนเล็งมุมให้ดีก่อน แล้วถ่ายรูปให้เสร็จอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้สร้างความรำคาญใจให้คนอื่นเนอะ
Kiddy Land แดนมหัศจรรย์
ที่นี่คือจุดหมายปลายทางในวันนี้ของเราเลยค่ะ และน่าจะเป็นสวรรค์ของคนรักการ์ตูน สาขานี้มีทั้งหมด 5 ชั้น เป็นเหมือนดินแดนที่ไม่มีกาลเวลา เข้าแล้วออกยากมาก ดูแล้วดูอีก คิดแล้วคิดอีก เพราะมีแต่ของน่ารักเต็มไปหมดและมีสินค้าตัวการ์ตูนใหม่ ๆ อัพเดตตลอด เรียกได้ว่าเสียทรัพย์ง่ายมากเพราะแพ้ความน่ารักของน้องนั่นเองค่ะ
จริง ๆ แล้ว ฮาราจูกุสำหรับนักช้อปทั้งหลาย เวลาเพียงวันเดียวคงไม่พอค่ะ เพราะนอกจากจะมีร้านค้าเยอะมาก ๆ แล้ว แต่ละร้านก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มากี่ครั้งก็จะเจออะไรใหม่ ๆ เสมอ พูดได้เลยว่าถ้ามาโตเกียวแล้วไม่แวะฮาราจูกุ ก็อาจจะกลับบ้านไปแบบไม่สบายใจได้ค่ะ : )