blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวฮาโกดาเตะ แบบครบรส กิน เที่ยว ช็อป ฟินกับบรรยากาศโรแมนติก

DSC01581

ผู้ร่วมเดินทาง

| เพื่อน |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 10000 - 19999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 1 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

รถไฟ | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • ตลาดเช้าฮาโกดาเตะอะสะอิจิ (Hakodate Asaichi Morning Market)
  • ป้อมโกเรียวโคคุป้อมปราการ (Goryokoku Area)
  • อ่าวฮาโกดาเตะ โกดังอิฐแดงคะเนะโมริ ( Hakodate Bay Area)
  • ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi Area)
  • เขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate)

สวัสดีคะ วันนี้พาลงไปทางใต้สุดของเกาะฮอกไกโดนั้นก็คือ  เมืองฮาโกดาเตะ (HAKODATE 函館)

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวฮาโกดาเตะ มาคะ เราเลือกที่จะพักที่นี่คืนหนึ่งเพื่อจะได้ผ่อนคลายและไม่เหนื่อยเกินไปคะ หากใครมีเวลาวันเดียวนะคะ จริงๆแล้วเพื่อนๆก็ไปเที่ยวได้เหมือนกันคะ ไปรถไฟรอบเช้าสุด กลับรอบดึกสุด แต่อาจต้องตัดกิจกรรมที่ใช้เวลานานๆไปบ้างคะ เพื่อนๆลองเลือกดูนะคะ ว่าอยากทำกิจกรรมอะไร ชอบที่แบบไหนมากกว่าก็ให้เวลาตรงนั้นเยอะหน่อยได้คะ การเดินทางของเราครั้งไปไปโดยรถไฟ JR เป็นวิธีเดินทางที่เร็วที่สุด ใช้เวลาเดินทาง3ชั่วโมงครึ่ง เราไปรอบเช้าสุด 6:22 (ถึงฮาโกดาเตะ10:12) ราคาตั๋ว 8,830เยนคะ/รอบ (ถ้าซื้อไปกลับจะถูกกว่ารอบล่ะ7,610 เยน)

เมืองนี้สำคัญอย่างไร ทำไมต้องไป

เมืองนี้เป็นเมืองท่าที่สำคัญของเกาะฮอกไกโดและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสาม ของเกาะฮอกไกโด ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งรุ่งอรุณ ตั่งอยู่บนคาบสมุทรโอชิมะ อาชีพหลักของคนเมืองนี้ก็แน่นอนคือ ประมงนั้นเองคะ และก็แน่นอนว่ามาที่นี่ก็จะได้ทานอาหารทะเลสดๆอย่างแน่นอน เมืองนี่เป็นเมืองสำคัญทางการค้ากับต่างประเทศ อย่างรัสเซีย และที่นี่ถือเป็นท่าเรือนานาชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นคะ มีการติดต่อการค้า แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และที่สำคัญด้วยโลเคชั่นอันงดงามที่นี่เองได้มีภาพยนต์มากมายมาถ่ายทำ อาทิเรื่อง แฟนเดย์ ภาพยนตร์ไทยของเราที่โด่งดังมากคะ และภาพยนตร์ญี่ปุ่น อาทิ"สัญญาระหว่าฉันกับน้องหมา10ข้อ"  "Little DJ" และหนังรักโรแมนติคอีกหลายเรื่องเลยทีเดียว ด้วยบรรยากาศที่โรแมนติค และมีความคลาสสิคอยู่ เอาจริงๆแน็ตว่ามากับแฟนนี้มันฟินอยู่น่ะ ประวัติเล็กๆการเปิดฮาโกดาเตะเล็กน้อยๆ เมื่อสมัยยุคเอโดะ ที่มีโตกูกาวะบาคุฟุ เป็นผู้สำเร็จราชการอยู่นั้น อเมริกาได้เข้ามาบีบให้ญี่ปุ่นยกเลิกนโยบายปิดประเทศ และขอทำสัญญาการค้ากับญี่ปุ่นในปี คศ.1854  และสืบเนื่องการสนธิสัญญามิตรภาพของอเมริกานี่เอง มีผลให้ที่ฮาโกดาเตะกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญนั้นเอง มีการนำเข้าสินค้าต่างประเทศ มีคนต่างชาติเข้ามา มีมิชชินนารีเข้ามา มีการก่อสร้างบ้านรูปทรงตามสไตล์ตะวันตก ซึ่งปัจจุบันยังคงหลงเหลืออิทธิพลอยู่ในปัจจุบัน ที่เห็นชัดๆก็คือ พวกโบสถ์ ต่างๆเต็มไปหมดเลยคะ แถมการจัดผังเมืองก็เป็นสไตล์ยุโรปด้วยคะ เนื่องจากพื่้นที่ถูกโอบล้อมไปด้วยทะเล และเนื่องจากภูมิอากาศแบบทะเล มีกะแสน้ำอุ่นสึชิมะ ทำให้เมืองฮาโกดาเตะมีอากาศไม่หนาวเท่าเมืองอื่นๆคะ แต่ก็มีหิมะนะคะ สำหรับเราเองยังไงก็คิดว่าหนาวอยู่คะ   555 หากคุณต้องการตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางในพื้นที่ Hokkaido ราคาพิเศษ โดยคุณสามารถโดยสารรถไฟ JR และรถโดยสารของ JR  ในพื้นที่ Hokkaido (ยกเว้น Shinkansen) ได้อย่างไม่จำกัด โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่.  3,4,5,7 วัน. พร้อมรับคูปองส่วนลดพิเศษ  สามารถจองได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่า มีบริการส่งตั๋วภายใน 7 วันหลังจากจองด้วยค่า

สถานที่ที่ไปมา  มี 5  ที่หลักๆคะ

ตลาดเช้าอะสะอิจิ Hakodate Asaichi Morning Market (函館朝市)

ป้อมโกเรียวโคคุป้อมปราการ Goryōkaku (特別史跡五稜郭跡)

อ่าวฮาโกดาเตะ และโกดังอิฐแดง Hakodate Bay Area (函館 金森赤レンガ倉庫

ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ  Motomachi Area(元町 エリア)

เขาฮาโกดาเตะ Mt.Hakodate(函館山)


ตลาดปลา Asaichi Morning Market

เริ่มต้นมาถึงก็กินก่อนคะ เพราะนั่งรถไฟมาตั่งเช้า กินข้าวโรงแรมอะไรคงไม่ทันคะ พอลงจากรถไฟ ก็เริ่มต้นที่ตลาดนี้เช้าฮาโกดาเตะนี่เลยคะ จะเปิดตั้งแต่เช้ามืด จะเที่ยวให้คุ้มก็ต้องเริ่มวันเช้าหน่อยเนอะ    ที่นี่เค้าจะขายอาหารสด อาหารทะเล ของฝาก ของกิน เสื้อผ้า ขนน ของกรุบกริบ มีร้านมากมายอยู่บนถนน และในอาคาร มากกว่า300 ร้าน นับว่าเป็นอีกตลาดที่มีชื่อเสียงบนเกาะฮอกไกโด มากมาย  ไฮไลท์คือมีบ่อตกปลาหมึกกลางตลาด กับร้านซูชิปลาดิบสดใหม่หลายร้านมากก มาถึงก็สั่งอาหารเช้าเป็นไคเซ็นดง (海鮮丼) ไม่รู้จะสั่งอะไรแบบไหนดี เลยสั่งแบบหน้ารวมไปเลยคะ เสริฟมาพร้อมน้ำซุปมิโซะ รสชาติกลมกร่อม และแตงกวาดองคะ  ฟินสุดๆ เสร็จแล้วก็เดินดูรอบๆ มีอาหารทะเลมากมายวางขาย กุ้งหอย ปูปลา มีครบทุกอย่าง จนเดินมาถึงด้านในตลาด มีร้านตกหมึกให้บริการอยู่ แน็ตก็เข้าไปตกมาได้1ตัว ลุ้นดีคะ เวลาตกให้เกี่ยวที่หางมันคะ  เขาก็แล่เป็นซาชิมิให้สดสด เลยคะ  ราคามีตั่งแต่ 500เยน -1500เยนคะ  ใครอยากทำกิจกรรมนี้ ทำเวลานิดหนึ่งนะคะ ถ้าเกิดคนเยอะอาจไม่สามารถตกได้คะ ยังไงไปเช้าๆหน่อยก็ดีคะ ร้านเปิด: 6:00~13:30(จนกว่าปลาหมึกหมด) ※ช่วงวันพุธที่ สัปดาห์ที่3ของ เดือนมกราคม-เดือนมิถุนายน .เดือนตุลาคม,เดือนพฤศจิกายน / วันที่ 1 มกราคมถึงวันที่ 5 / ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

ตกมาได้แล้วคะ ดิ้นกระแดวกระแดวเลยคะ ตัวใหญ่พอสมควรเลยคะ

พ่อค้าจับลอกหนัง ชำแหละ ให้ทันที เราไปยืนรอเอาได้เลยคะ

เสร็จแล้วก็มาลองทานคะ รสชาติหวานๆ กรึบๆ สดมาก และยังดิ้นอยู่ในปาก ห้าๆๆๆๆ

ใครอยากทดสอบก็เชิญได้เลยคะ มันสดมากคะ ตอนแรกแน็ตก็ไม่ค่อยกล้าทานเท่าไหร่  แต่เห็นคนอื่นทานก็ลองคะ หวานๆดีคะ พอทานเสร็จรู้สึกว่ามันยังขาดๆของหวานก็เลย ไปจัดเมลอน เสี้ยวล่ะ 300เยนมากันคะ หวานเจี๊ยบ ชุ่มฉ่ำมากมาย จนอยากขอเบิ้ล แต่เราต้องทำเวลาแล้ว เลยได้กินไปคนล่ะหนึ่งเสี่ยวคะ

ที่อยู่9-19 Wakamatsucho, Hakodate, Hokkaido Prefecture 040-0063, Japan
วิธีเดินทางนั่งรถไฟ JR สาย Hakodate Line มาลงสถานี Hakodate แล้วเดินอีก 2 นาที
เวลาทำการมกราคม-เมษายน : 06.00-12.00 น., พฤษภาคม-ธันวาคม : 05.00-12.00 น.
ราคาไม่เสียค่าเข้า
WebsiteHakodate Asaichi Morning Market

ป้อมปราการ Goryokaku (特別史跡五稜郭跡)

ป้อมปราปราการรูปดาว  5แฉก แบบรัซเซีย และมีการสร้างป้อมสไตล์ยุโรปแห่งแรก ถูกสร้างขึ้นเมื่ปีคศ.1857  โดยผู้ออกแบบคือ นาย ไอกิซาบุโระ ทะเกะดะ(ศาสตราจารย์ด้านเทคโนโลยีและวิทยาการยุโรป  ซึ่งเป็นป้อมปราการที่ก่อด้วยหิน สำหรับเป็นที่ทำการของกรมการเมือง และเป็นที่ทำการป้องกันการรุกราน การก่อสร้างที่นี่ใช้แรงงานคนจำนวนมาก ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี คศ.1864 ใช้เวลา7ปี   ที่นี่กลายเป็นศูนย์กลางของการเมือง การป้องกันและการทูตของภาคเหนือ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากสร้างที่นี่ไม่นาน ในปีคศ. 1868 ก็มีสงครามระหว่างตระกูลโตกูกาวะบาคุฟุ และพัธมิตรยกพลขึ้นบก เนื่องจากตอนนั้นมีพายุหิมะและลมแรงมาก ทหารเสีชีวิตจากเรือล่ม ดังนั้นผู้ที่รอดชีวิตก็มุ่งหน้าไปที่ป้อมปราการแห่งนี้ และเข้ามารบกับรัฐบาลใหม่ของฮาโกดาเตะ และชนะได้สำเร็จแจากนั้นก็ยึดป้อมแห่งนี้ไว้ได้ จากนั้นก็มีการสู้รบกับตระกูลมาซึมาเอะ และก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง จึงได้ยึดเมืองฮาโกดาเตะและเมืองใกล้เคียง และจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นมา 1 ปีต่อมา ในช่วงยุคของจักรวรรดิแห่วราชวงศ์เมจิ เป็นรัฐบาลใหม่ ก็จัดตั่งกองทัพปราบปราม จัดการกับกองทัพตระกูลโตกูกาวะบาคุฟุ  และตอนนั้นเองตระกูลโตกูกาวะบาคุฟุ ก็พ่ายแพ้ต่อกองทัพของจักรวรรดิแห่วราชวงศ์เมจิ และตกลงยอมแพ้เพื่อไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และจะยุติสงครามต่อหน้าพระ ที่ศาลเจ้า หลังจากสงครามจบลงที่นี่กลายเป็นสวนสาธารณะ และในปี1952 ได้ถูกให้เป็นอุทยาทแห่งชาติประวัติศาสตร์พิเศษ แต่มองจากข้างล่างอาจมองไม่เห็นเป็นรูปดาวคะ เลยสร้างหอคอยสูง60เมตร เพื่อให้ได้ขึ้นไปชมวิวรอบๆ ภายในหอคอยมีการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ เล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของที่นี่ ที่นี่มีพื้นที่ใหญ่มากเลยที่เดียว มีสวนที่เดินเล่นได้สบายๆ อายุของสถานที่แห่งนี้มีมานานกว่า 150 ปีแล้ว รอบคูป้อมนั้นรายล้อมไปด้วยต้นซากุระจำนวนมากกว่า 1,600 ต้น ทำให้ที่นี่ถือเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง มีบ่อน้ำให้ลงไปพายเรือเล่นสำหรับคนมาเป็นคู่ น่าจะดีมากมากเลยคะ

ภาพนี้คือภาพตอนช่วงเดือนพฤษภาคมที่ซากุระบานเต็มที่แล้วคะ งดงามสุอลังคะ

ภาพที่มองลงมาจากบนหอคอย จะเห็นสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นรูปดาวคะ คิดดูถ้ามช่วงซากุระนะ จะงดงามขนาดไหน คงฟินมากเลยเนอะ ที่นี่มีการ  จัดสร้างที่ทำการของกรมการเมือง(箱館奉行所)  แบบเดียวกับของจริง สามารถเดินเข้าไปชมกันได้คะ

           ? เข้าไปเดินดูห้องแบบสมัยก่อนแล้วด้านนอกมาให้เช่าชุดซามุไรอะไรไม่รู้อยู่ข้างหน้า ใครอยากเช่ชุดถ่ายรูปเป็นที่ละรึกสักหน่อย ก็เชิญเลยคะ เพราะที่นี่เมื่อก่อนถูกปกครองโดยซามุไรนั้นเองคะ ราคาจำไม่ได้แล้วจริงๆคะ ต้องขออภัยด้วยคะ

 

ที่อยู่44 Goryokaku-cho, Hakodate
วิธี เดินทาง●รถบัสมาลงที่ป้าย"Goryokoku Koen Iriguchiแล้วเดินต่อไป 7นาที ●นั่งStreetcar มาลงที่ป้าย “Goryokoku Koen Mae”ปละเดินต่อ 15 นาที ●นั่งรถไฟ JR สาย Hakodate Line มาลงสถานี Hakodate แล้วนั่งรถรางสาย 2 หรือ 5 ที่มุ่งหน้าไปทาง Yunokawa ลงที่ป้าย Goryokaku koenmae และเดินต่อราว 15-20 นาที
เวลาทำการสวนสาธารณะ และหอคอย เดือนเมษายน - ตุลาคม08:00-19:00/เดือนพฤศจิกายน - มีนาคม  09:00- 18:00 สำนักงาน เดือนเมษายน - ตุลาคม 09:00- 18:00/เดือนพฤศจิกายน - มีนาคม 09:00-17:00 ※ ปิดทำการวันที่ 31 ธันวาคม -3 มกราคม
ราคาค่าขึ้นหอคอย :ผู้ใหญ่ 840 เยน,เด็กมัธยม 630เยน ,เด็กประถม 420เยน ค่าเข้าสำนักงานฯ :ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250เยน ผู้สูงอายุ(65ปีขึ้นไป) ครึ่งราคา ※ เด็กที่ยังไม่เข้าเรียนอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เข้าฟรี
โทรศัพท์0138-21-3456
เว็บไซต์http://www.goryokaku-tower.co.jp/

พอเดินเล่นไปเสร็จก็ออกมาด้านนอก สอบถามคนในพื้นที่ว่าแถวนี้มีอะไรแนะนำ เขาก็แนะนำร้าน แฮมเบอร์เกอร์Lucky Pierrot  ซึ่งคนเมืองนี้เขาบอกแน็ตมาว่า อร่อยมาก ตอนที่เขาบอกเราก็เซ็งนิดหน่อย เพราะไม่รู้จักร้านนี้มาก่อน อะไรน่ะ แฮมเบอร์เกอร์เหรอ? แต่แฟนแน็ตเป็นยุ่นนะคะ เขารู้จัก เขาก็เลยจะไปให้ได้ เราก็เลยตามๆไป ร้านนี้มีการตกแต่งร้าน Circus Style ไว้ได้น่าสนใจ พร้อมทั้งเมนูที่แปลก น่าลิ้มลองไปซะทุกอย่าง ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย ทำให้บางทีต้องมีคนเข้าคิวยาวตั้งแต่ร้านเปิดกันเลยทีเดียว โชคดีตอนที่เราไปไม่ค่อยมีคนคะ  แต่ยังไม่หิวนะสิคะ เลยได้แค่เข้าไปชมบรรยากาศและ ดื่มเครื่องดื่มแล้วก็ กินเฟรนฟรายเท่านั้นคะ  เพื่อนๆจะข้ามตรงนี้ไปเลยก็ได้นะคะ เพราะร้านนี้มีหลายสาขาอยู่คะ เมนูเบอเกอร์เริ่มต้นที่ 350 เยน โดยมีเมนูยอดนิยม 5 อันดับแรกได้แก่ – Chinese Chicken Burger 350 เยน – Lucky egg Burger 390 เยน – Tonkatsu Burger 380 เยน – Teriyaki Burger 330 เยน – Special Bacon Egg Burger 480 เยน ※ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงยังไงไปดูที่ร้านอีกทีนะคะ อาจมีโปรโมชั่น หรือราคาเพิ่ม

บรรยากาศในร้านก็สไตล์อเมริกัน เก่าๆดีคะ มีการขายของจากผลิตภัณฑ์ของทางร้านเอง ทั้งราเมง เครื่องดื่ม ขนมต่างๆ

แค่เครื่องดื่มอย่างเดียวก็ชนะขาดแล้วไหมนี่ ดูการใส่ใจในรายละเอียดของเขา ทั้งแก้ว กระป๋องน้ำอัดลม กล่องเค้ก


อ่าวฮาโกดาเตะ & โกดังอิฐแดงคะเนะโมริ ( Hakodate Bay Areaベイエリア & Red Brick Warehouses )

บริเวณอ่าวด้านหน้าท่าเรือฮาโกดาเตะมอบทิวทัศน์อันกว้างไกลของอ่าว บริเวณนี้มีอาคารอิฐสีแดงเป็นแนวยาว  และด้วยสิ่งก่อสร้างที่ดูคลาสสิก   โดยเดิมทีที่นี่เคยเป็นคลังสินค้าอิฐสีแดงที่เคยใช้ค้าขายในปลายสมัยเอโดะ   ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นศูนย์การค้าอันเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแวะซื้อของหรือพักดื่มชากาแฟ และที่นี่ก็มีร้านแฮมเบอร์เกอร์Lucky Pierrot เราเลยกะว่าจะต้องทาน แฮมเบอร์เกอร์ที่เป็นเมนูดังสาขานี้ ให้ได้คะ บริเวณ Bay Area นี้จะอยู่ติดกับ Hakodate Port ค่ะ  ช็อปปิ้งงานหัตถกรรม ของที่ระลึกต่างๆ และร้านอาหาร ริมอ่าวมีวิวสวยๆเรือจอดเรียงรายอยู่มากมาย ตึกอาคารแทบนี้ถูกปรับปรุงมาจากโกดังในสมัยก่อนที่มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ทำให้ Red-Brick Warehouse นี้กลายเป็นอีกหนึ่ง landmark ที่โดดเด่นของ Hakodate ที่นี่มีจักรยานให้เช่าปั่นเล่นชิวๆด้วยนะ    แสดงพาสปอร์ตและกรอกชื่อเพื่อใช้บริการ สามารถใช้บริการได้ช่วงปลายเดือนเมษายนจนถึงปลายเดือนตุลาคม    1,000 เยน/1 คัน (10:00-17:00 น.) บรรยากาศด้านใน มีความคลาสิค โรแมนติคเบาๆ น่ามาถ่ายพรีเวดดิ้งเนอะ ห้าๆๆๆ สินค้ากระจุกกระจิกต่างๆในโกดัง ราคาแอบสูงอยู่บ้าง แต่มันคืองานศิป์อ่ะเนอะ ก็คงแพงอยู่ แต่แน็ตไม่ได้อะไรสักอย่างเลยคะ เสร็จแล้วก็ออกมาที่ท่าเรือ เพื่อจะขึ้นเรือไปชมบรรยากาศ กินลมทะเลอันแสนสดชื่นของ เมืองท่าแห่งนี้สักหน่อย เรือล่องอ่าวฮาโกดาเตะ(Blue Moon Cruise)  เรือนี้ สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 200คน ซึ่งเรือนี้จะพาเราไปชมบรรยากาศรอบๆอ่าว ช่วงกลางวัน ให้บริการรอบล่ะ 30นาที กลางคืน รอบล่ะ  60 นาที เปิดให้บริการในช่วงเดือนเมษายน- เดือนพฤศจิกายน มีวันล่ะ 8 เที่ยวด้วยกันคะ  นี่ล่ะมันโรแมนติกจังเลยคะ คู่รักอย่าพลาดนะคะ ค่าธรรมเนียม ล่องเรือเวลากลางวัน ผู้ใหญ่1,800เยน เด็ก(อายุถึง12ปี)900เยน เด็กทารก(อายุ3-6ขวบ)350เยน

บรรยาการรอบๆอ่าว มีเรือเล็กเรือน้อยเต็มไปหมดเลยคะ ลมทะเลก็เย็นสบายๆเลยคะ

และหลังจากลงจากเรือ เราก็หิวแล้ว เลยขอฝากท้องไว้ที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์Lucky Pierrot นั้นเองคะร้านติดกับท่าเรือ เลยคะ  สาขานี้คนเยอะมากคะ ใช้เวลาเลยทีเดียว เหมือนว่าร้านนี้มีแฮมเบอร์เกอร์ยักษ์ด้วยนะ รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ดูแตกต่างแถมเล็กพอพอกับแมคโดนัลล์เลย แต่ที่เด็ด บอกเลย ไส้ข้างในไก่กรอบ อร่อยเหาะเลย คือรู้แหละว่าทำไมถึงดังคะ ทานเสร็จก็ต่อของหวานเลยคะ  ฟินเวอร์เลย ทานเสร็จแล้วใครจะไปแวะซื้อของฝากก็ได้นะคะ แต่เรายังไม่พร้อมเสียทรัพย์หรือหิ้วอะไรก็เดินขึ้นเขาไปเที่ยว ย่านโมโตมาจิต่อคะ อ่าวฮาโกดาเตะ & โกดังอิฐแดง คาเนะโมริ  ที่อยู่:14-12 Suehiro-cho, Hakodate เวลาเปิด: 9:30 am - 7:00 pm ■ฮาโกดาเตะเบียร์ฮอลล์[วันธรรมดา] 11:30-22:00 น. [วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุด] 11:00-22:00 น. ■ร้านอาหารริมอ่าว [วันธรรมดา] 11:30-21:30 น. [วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุด] 11:00-21:30 น. วิธีเดินทาง 

  • เดินทาง 5 นาทีโดยรถรางไปยังป้าย "Jujigai" แล้วเดินเท้า 5 นาที
  • การเดินทาง รถโดยสาร:ขึ้นรถไฟรางจากสถานี JR Hakodateและลงที่ป้ายSuehiromachiเดินต่ออีก15นาทีจากที่นั้น
  • รถยนต์ใช้เวลา25นาทีจากสนามบินฮาโดดาเตะ

เว็บไซต์


เดินชมย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi Area 元町エリア)

บริเวณโมโตมาชิ เป็นย่านชุมชนชาวต่างชาติ ตั่งอยู่บริเวณเนินเขาHakodate  ถนนเส้นยาวราว 500 เมตร คู่ขนานกับแม่น้ำนากามูระ    ที่นี่มีประวัติสืบเนื่องมาจากที่ชาวต่างชาติได้พากันขามาอาศัยทำการค้าและตั่งรกรากตั่งแต่ปี1850 ในช่วงที่มีการเปิดประเทศนั้นเองคะ จึงทำให้มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก อยู่ทั่วไปเลย ปัจจุบันที่นี่ก็ยังถูกรักษาเรื่องราวความเป็นมา ตลอดจนประวัติศาตร์ของเมืองฮาโกดาเตะไว้ได้เป็นอย่างดีโดยมีสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจมากมาย เช่น ศาลประชาคมหลังเก่า โบสถ์เก่าแก่ต่างๆ วัด และ บ้านรูปทรงแบบญี่ปุ่นต่างๆ ศาลประชาคมหลังเก่า (OLD HAKKODATE PUBLIC HALL旧函館公会堂) สร้างขึ้นในยุคเมจิ ปีคศ.1909 สร้างเสร็จในปี คศ"1910 เป็นอาคารไม้ 2ชั้น สไตล์ยุโรป ด้านล้างเป็นห้องต่างๆ ไว้ว่าราชการด้านบนเป็นหอประชุม ที่สงวนไว้สำหรับแขกพิเศษ สมาชิกราชวงศ์ของญี่ปุ่นเคยเข้าพักในห้องเหล่านี้มาแล้ว เมื่อคราวเสด็จมาเยือนฮาโกดาเตะ    อาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฮาโกดาเตะ ที่ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ *ปิดทำการตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2018 เพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่

ที่นี่มีการขายของที่ระลึกสไตล์ยุโรป และมีการให้แต่งชุตสไตล์ยุโรปย้อนยุค ผู้ดีสมัยก่อนด้วยคะ ซึ่งแน็ตก็ไปเช่าถ่ายรูปที่นี่ด้วยคะ ทำผมแล้วก็แต่งหน้าแบบง่ายๆ ไม่เข้มคะ

ที่อยู่: 11-13 Motomachi, Hakodate เบอร์โทร:(0138) 22-1001 เวลาทำการ:

  • เมษายน - ตุลาคม 9:00 am - 7:00 pm
  • พฤศจิกายน - มีนาคม 9:00 am - 5:00 pm   ※ ปิดทำการวันที่ 31 ธันวาคม -3 มกราคม *ปิดทำการตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2018 เพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่

●    ค่าธรรมเนียมเข้าชมศาลาประชาคม ผู้ใหญ่ 300เยน เด็ก  150เยน

● ค่าเช่าชุด(20นาที) 1,080เยน

● ค่าทำผม แต่งหน้า แบบง่ายๆ1,080เยน

เว็บไซต์: www.zaidan-hokodate.com

พอเดินออกมาเรื่อยๆก็เจอร้านค้าต่างๆ เป็นสไตล์ย้อนยุค คลาสสิคมากคะ มีไอศกรีม จำหน่าย เครื่องดื่ม อาหารด้วยคะ

โบสถ์ คาทอลิก ต่างๆ หลากสไตล์ 

โบสถ์รัสเซียออโธด็อกซ์(Hakodate Orthdox Church 函館ハリストス正教会)

พิกัด:3-13 Motomachi, Hakodate

  • วันธรรมดา 10:00 am - 5:00 pm, วันเสาร์ 10:00 am - 4:00 pm, วันอาทิตย์ 1:00 pm - 4:00 pm
  • ปิดทำการ26 ธันวาคม - กลางเดือนมีนาคม
  • ค่าธรรมเนียม 200 เยน (เงินบริจาคคะ)

โบสถ์ โรมันคาทอลิคโมโตมาจิ(Motomachi Roman Catholic Churchカトリック元町教会)

    โบสถ์คาทอลิกแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1877 ตัวอาคารที่มีอยู่ปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในปี 1923 แท่นบูชางามวิจิตรในมหาวิหารนั้นถูกส่งมาจากพระสันตะปาปา โบสถ์นี้ยังคงใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนาอยู่คะ พิกัด:15-30 Motomachi, Hakodate เปิดทำการ: :10:00am-4:00pm (เว้นเช้าวันอาทิตย์และเวลาสักการะ) วันหยุด:   30 ธันวาคม - 5 มกราคม *หยุดให้บริการเมื่อมีการใช้สถานที่โบสถ์ ค่าธรรมเนียม: ฟรี

โบสถ์อีพิสโคพัลฮาโกดาเตะ(Hakodate Episcopal Church 函館聖ヨハネ教会 )

เป็นโบสถ์ที่มีจุดเด่นที่หลังคาเป็นรูปไม้กางเขน ก่อตั้งขึ้นโดยบาทหลวงชาวอังกฤษซึ่งเดินทางมาเยือนฮาโกดาเตะในปี 1874 ตัวอาคารเดิมสร้างเสร็จในปี 1979 พิกัด:3-23 Motomachi, Hakodate เปิดทำการ: 10:00am-4:00pm (เว้นเวลาสักการะ) วันหยุด:พฤศจิกายน  - เมษายน ค่าธรรมเนียม: ฟรี

วัดฮิงาชิฮอนงันจิ สาขาเมืองฮาโกดาเตะ 

     วัดนี้เป็นวัดที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นเมื่อปี 1915 และถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของฮาโกดาเตะอีกด้วยคะ กระเบื้องหลังคาสีดำมันวาวขนาดใหญ่งดงามมากคะ พิกัด:16-15 Motomachi, Hakodate เปิดทำการ: 07:00-17:00 (เว้นเวลาสักการะ) วันหยุด:ไม่มีวันหยุดคะ ค่าธรรมเนียม: ฟรี จริงๆแล้วเดินไปเรื่อยลงไปบรรจงกับอ่าว ก็ได้คะ แต่ว่า ที่ต่อไปที่เราจะไปต่อไปก็คือ  เขาฮาโกดาเตะคะ


เขาฮาโกดาเตะ (Mt.Hakodate函館山)

ภูเขาฮาโกดาเตะ(Mount Hakodate)  เป็นอีกที่ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยงามมากคะ เขาแห่งนี้มีความสูงอยู่ที่334 เมตร เหนือน้ำทะเล ฟังแล้วดูเหมือนไม่สูงแต่เราก็ไม่เดินขึ้นไปแน่นอนคะ ห้าๆๆๆ ที่นี่มีบริการกระเช้าไฟฟ้าMt.Haokodate Ropeway  ขึ้นสู้ยอดเขาใช้เวลา 3 นาที จากสถานีด้านล่าง คนส่วนใหญ่จะใช้บริการRopeway  มากกว่าคะ

พิกัด  : 19-7 โมโตมาจิ เมืองฮาโกดาเตะ ฮอกไกโด 040-0054

โทรศัพท์ : (0138)23-3105 อัตราค่าโดยสาร         ไปกลับราคา 1280 เยน และราคา 780 เยนสำหรับเที่ยวเดียว  หลีกเหลี่ยงช่วงก่อนและหลังจากอาทิตย์ตก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเห็ยวิวที่สวยงาม   อาจมีการยกเลิกบริการอาจ หากมีลมพัดแรงกว่าที่กำหนดไว้  ในฤดูใบไม้ร่วงระเช้าจะหยุดบริการเพื่อปรับปรุง 2 สัปดาห์

ขึ้นมาแล้วประมาณ5โมงได้คะ โชคดีคนยังมาไม่เยอะเลยมามุมถ่ายรูปเป็นการใหญ่

เสร็จแล้วเราก็นั่งรอเวลาให้ฟ้าเริ่มมืดลง เพื่อจะได้ถ่ายรูปวิวตอนกลางคืนที่งดงาม ..

 ณ เวลานี้ แน็ตหิวอีกแล้วคะ เราเลยพากันเข้าไปในร้าน Genova ชั้น2  เราสามารถเห็นวิวจาในร้านนี้ได้เลย

และมันก็งดงาม  และคุ้มกับที่รอคอยมาก

พอเราดูวิวคุ้มแล้วก็กลับคะ กลับโดยกระเช้าไฟฟ้าเหมือนเดิมนี่แหละคะ  แต่ขอบอกเลยว่าตอนกลับนี้คนอย่างเยอะคะ ต่อแถวยาวเลยเชียว และก็เหลือบไปเห็นภาษาไทยด้วย ก็เลยคิดว่าคนไทยเราก็มาเยอะไม่แพ้ใครเหมือนกันนะเนี๊ยะ   ถ้าหากใครอยากไปเที่ยวฮาโกดาเตะแบบทั่วๆ เจาะลึกพร้อมไกด์ทัวร์ เราขอแนะนำบริการไกด์ทัวร์ในฮาโกดาเตะ สามารถเลือกได้ทั้งแบบเต็มวันและครึ่งวัน โดยจะนำเราไปท่องเที่ยวยังสถานที่ยอดนิยม เช่น โรงงานอิฐแดง ตลาดเช้า Motomachi area ชมวิวที่บนเขา Hakodate ที่ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น หอคอย Goryokaku

อิ่มอกอิ่มใจก็กลับไปที่พักได้ค่ะ โรงแรมที่เราไปพักที่โรงแรม


โรงแรมที่พัก Super Hotel Hakodate

    เป็นโรงแรมกะทัดรัด เหมือนBusiness Hotel มากคะ ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะประทับใจการบริการที่สาขา สุสุกิโนะ ที่ตอนนั้นพาครอบครัวเข้าไปพักที่ซัปโปโร เลยคิดว่าสาขาฮาโกดาเตะก็น่าจะดีเหมือนกัน และเขาก็ราคาไม่ได้แพง มีออนเซ็น(ไม่ได้ธรรมชาตินะคะ) รวมอาหารเช้าบริการ สถานทีสะดวก สะอาดดีคะ ตอนเช้ากลับสะดวกคะ ก็ใกล้สถานีรถไฟ ใกล้ตลาดเช้าเดินเพียงไม่ถึง 10 นาทีหรือถ้ารู้สึกขี้เกียจหรือมีสัมภาระมาด้วยก็นั่งรถแท็กซี่ เพียง3นา 30 วินาทีก็ มีร้านขายยา อยู่ใกล้ๆ สะดวกมากคะ

ราคาต่อคืน1,500บาท ต่อคนโดยประมาณ( ขึ้นอยู่กับเรทแลกเงิน และฤดูกาลนะคะ)  

CR:https://www.booking.com/hotel/jp/superhotelhakodate.th.html

CR:https://www.booking.com/hotel/jp/superhotelhakodate.th.html

CR:https://www.booking.com/hotel/jp/superhotelhakodate.th.html

CR:https://www.booking.com/hotel/jp/superhotelhakodate.th.html

เว็บไซต์ : www.superhotel.co.jp

Super Hotel Hakodate

ที่อยู่

1-10, Matsukaze-cho, Hakodate-shi, Hokkaido

วิธีเดินทาง

เดินประมาณ 8 นาทีจากสถานีฮาโกะดาเตะ

Check in/out

15.00 / 10.00

ราคา

1,500บาท (ต่อคืน ต่อคน โดยประมาณ / ขึ้นอยู่กับเรทแลกเงิน และฤดูกาล)

โทรศัพท์

0138-22-9000


★ อย่างที่บอก มาเที่ยวฮาโกดาเตะวันเดียวก็เที่ยวได้คะ แต่ เราไม่วัยรุ่นแล้ว วิ่งๆๆๆไม่ไหว เลยขอทิ้งร่างกายไว้ที่นี่สักคืน แล้วก็ชิวๆนิดหนึ่ง ร่างกายก็จะได้ไม่หักโหมเกินไป ยิ่งถ้ามาหน้าหนาว อาจจะเดินลำบากขึ้น ยังไงใครสะดวกแบบไหนก็จัดไปกันเลยคะ งบน้อยงบมากมาเที่ยวได้เหมือนกัน

★ของฝากจากฮาโกดาเตะก็มีมากมาย อาทิผลิตภัณฑ์จากปลาหมึก ปลาหมึกใส่ข้าว หมีกแห้ง โยกัง(ขนมถั่วแดง) ขนมเค้กชีสต่างๆ สามารถซื้อกลับไปกันได้คะ แต่แน็ตอยู่ที่ฮอกไกโดมาสักพัก เห็นจนเบื่อแล้ว เลยไม่ได้ซื้ออะไรเลยคะ เอาจริงๆเราสามารถหาซื้อได้ที่ซัปโปโรเหมือนกันนะคะ หรือที่สนามบินคะ ใครขี้เกียจหิ้วไปมาก็ไปซื้อที่ซัปโปโรน่าจะดีกว่านะคะ

 เที่ยวให้สนุกกันนะคะ แล้วมาบอกเล่าเก้าสิบกันบ้างนะคะ ไว้เจอกัใหม่นะคะ  มะตะแนะまたね!

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
nattyrakuraku
แน็ตมาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ฮอกไกโดมาตั่งแต่ปี2014 แบบไม่มีความรู้เรื่องญี่ปุ่นเลย มาทำงานที่นี่และพัฒนาภาษาตนเอง ได้ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวมีบัตรนำเที่ยวที่ญี่ปุ่นถูกต้องตามกฎหมาย ยิ่งได้ทำงานนี้ก็ยิ่งชอบฮอกไกโมากขึ้น อากาศดี ผู้คนใจดี อาหารอร่อยเงียบสงบ ยิ่งอยู่ยิ่งหลงรักฮอกไกโด และอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆกันคะ
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!