blog ท่องเที่ยวญี่ปุ่น

เที่ยวโตเกียว 4 วัน 3 คืน ด้วยตัวเอง สไตล์ชิวๆ

ภูมิภาค
IMG_3369

ผู้ร่วมเดินทาง

| เพื่อน |

ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่อหนึ่งคน

| 20000 - 34999thb |

ระยะเวลาการเดินทาง

| 3 วัน |

ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง

|

เครื่องบินภายในประเทศ | 

รถไฟ | 

เที่ยวแบบไหน

| ไปด้วยตนเอง |

ชื่อสถานที่หรือภูมิภาคที่ไป

  • โตเกียว สกายทรี
  • วันเซนโซจิ อาซากุสะ
  • โอไดบะ แอเรีย
  • Tokyo Joypolis (โตเกียวจอยโปลิส)
  • ตลาดอะเมะโยโกะ
  • สวนอุเอโนะ

สวัสดีค่ะ  ครั้งนี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่โตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น การเดินทางเข้าเมืองหลวงของญี่ปุ่นของเราครั้งนี้ ไปกัน4วัน 3คืน แต่เราก็ตั่งใจว่าจะไปกันแบบชิวๆ ไม่เร่งรีบ สวนทางกับเมืองอันวุ่นวายอย่างโตเกียว   ที่นี่ติดอันดับจุดหมายปลายทางยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวทั่วเกือบทึประเทศ จากความที่มีทั้งความเจริญทันสมัยเต็มไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ และก็เต็มเปี่ยมด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อาหารการกินรวมไปถึงวิถีชีวิตที่อาจดูเร่งรีบต้องแข่งกับเวลา แต่อย่างที่บอกเราขอไปชิวๆ เพราะเราเป็นมือใหม่ค่ะ

DAY 1


โตเกียวสกายทรี- วันเซนโซจิ


   โตเกียวสกายทรี

ออกเดินทางจากโรงแรมไปยัง โตเกียวสกายทรี ด้วยรถไฟสถานีรถไฟโตเกียวสกายทรีเดิน 5 นาทีก็ถึงคะ ที่นี่ เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2012 ในย่านสุมิดะของโตเกียว เป็นหอคอยที่ได้รับการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเข้ากับเทคโนโลยีดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทำหน้าที่ในการกระจายคลื่นโทรทัศน์ดิจิตอลแทนโตเกียวทาวเวอร์รุ่นพี่ที่มีความสูงน้อยกว่า(สูง 333 เมตร)  มีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมล้ำสุดๆ และยังครองตำแหน่งหอคอยที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูง 634 เมตร แซงหน้าหอคอยในเมืองกว่างโจวประเทศจีนไปเลยคะ

CR:https://th.wikipedia.org/wiki/

ภาพตรงฐานโตเกียวสกายทรี มีปลาคราฟมาปลิวเต็มไปหมด สวยดีคะ

เข้ามาชั้นแรกก็จะเจอร้านค้ามากมาย โดยเฉพาะพวกตัวคาแรกเตอร์ต่างๆ และปิ๊กกะจูคะ

ถึงที่ขายตั๋วก็ไปซื้อตั๋วขึ้นไปดูสักหน่อยว่าวิวข้างบนเป็นไงเนอะ เขาบอกว่า ถ้าอากาศดีก็จะได้เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วยคะ แต่เราซื้อแค่ถึงชั้น 350เมตรพอคะ

หากใครต้องการตั๋วเที่ยวโตเกียวสกายทรีราคาพิเศษ ลด 18% จากราคาปกติ  เลือกได้ทั้งความสูง 350 และ 450 เมตร สามารถเข้าไปจองที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ เงื่อนไขเพียงแค่คุณต้องนำพาสปอร์ตไปแลกตั๋วจริงที่ชั้น 4 เพียงเท่านี้เราก็ได้ตั๋วราคาพิเศษและไม่ต้องรอคิวแล้วค่าาาาา

ขึ้นมาข้างบนก็ต้องดูวิวเมืองและขอมองลงไปข้างล่างหน่อย มันก็ไม่เท่าไหร่ เพราะเขามีกระจกอีกชั้นเลยรู้สึกปลอดภัย คะ

ภาพเมืองโตเกียว จากวิวบนโตเกียวสกายทรี มองลงไปเห็นบ้านเมือง ความวุ่นวาย ตึกเล็กตึกน้อยเบียดเสียดกันมากมาย นี่สินะเมืองหลวงญี่ปุ่น อย่างที่บอกว่าวันนี้มาชิวก็เลยอยู่ที่นี่กะให้คุ้มค่าขึ้นสักหน่อย ห้าๆๆๆๆ

จะนั่งรถไฟ หรือ Shuttle Bus ก็ได้นะคะ แต่เราไปด้วยรถไฟกันคะ หาง่าย มีป้ายบอกอยู่คะสะดวกอยู่คะ


ข้อมูลการท่องเที่ยว


เวลาทำการ :  8:00-22:00(เข้าได้ถึง21:00)

ค่าเข้าชม ซื้อบัตรเข้าTOKYO SKYTREE

TOKYO SKYTREE TEMBO DECK ระยะ 350 เมตร

  • อายุ 18 ปีขึ้นไป 2,060 เยน
  • อายุ 12-17 ปี  1,540 เยน
  • อายุ 6-11 ปี 930 เยน
  • อายุ 4-5 ปี 620 เยน
  • อายุ 0-3 ปี เข้าชมได้ฟรี

TOKYO SKYTREE TEMBO DECKระยะ 350 เมตร +TOKYO SKYTREE TEMBO GALLERIA 450เมตร

  • อายุ 18 ปีขึ้นไป 3,090 เยน
  • อายุ 12-17 ปี 2,360 เยน
  • อายุ 6-11 ปี 1,440 เยน
  • อายุ 4-5 ปี 930 เยน
  • อายุ 0-3 ปี เข้าชมได้ฟรี

การเดินทาง: ไปได้หลายเส้นทางอยู่คะ ดูเส้นทางได้ที่ คลิก

เว็บไซต์ ซื้อบัตรเข้าTOKYO SKYTREE ล่วงหน้าได้ที่...


วันเซนโซจิ 浅草寺 Sensō-ji

มีแต่คนรีวิววัดนี้ และก็เห็นมานานแล้ว อีกอย่างก็อยู่ใกล้ๆโตเกียวสกายทรีด้วยคะ เราเลยไปที่วัดนี้กันเลยคะ วัดนี้เป็นวัดพุทธที่อยู่ในย่านอาซากุสะ และเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิม คนญี่ปุ่นจะเรียกว่า "คันนง" คะ ส่วนตัวก็นับถือเจ้าแม่กวนอิมอยู่แล้วเลยรู้สึกมีความสนใจเป็นพิเศษคะ วัดนี้จริงๆยังดูใหม่อยู่เลย เขาบอกว่าที่เราเห็นเป็นวัดที่ถูก สร้างขึ้นมาใหม่คะ  สถานที่ดั้งเดิมถูกระเบิดเผาทำลายไปเกือบหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

จุดแรก ประตูคะมินะริ สัญลักษณ์ของอาซากุสะ

ที่ทางเข้าวัดมีประตูขนาดใหญ่ เรียกว่า ประตูคามินาริ (Kaminari-mon) หรือ "ประตูอสุนี" บนคานประตูแขวนโคมกระดาษขนาดใหญ่มีความสูงกว่า 5.5 เมตร อักษรสีดำพื้นแดงเขียนว่า คามินาริ นั้นเองคะ

จุดที่ 2 ถนนนากามิเซะ (Nakamisedori)

ย่านร้านค้าเก่าแก่ซึ่งเป็นถนนสายเล็กๆนี้ยาวไปจนถึงวัดเซ็นโซจิเลยคะ ความยาวของถนนประมาณ 250 เมตร นับตั้งแต่ประตูkaminari Mon จนถึง ประตู Hozo Mon ตลอดสองข้างเต็มที่มีกลิ่นอายในยุคสมัยเอโดะและการตกแต่งที่มีความเป็นญี่ปุ่นมากๆเลยคะ ร้านต่างๆในถนนสายนี้มีทั้งร้านขายขนมของฝากของที่ระลึกห่อสวยงามส่วนขนมที่ขึ้นชื่อ เช่นSoft ice cream, ซาลาเปา(Manjyu), ข้าวเกียบ (Kawarasenbe) และขนมหน้าตาแปลกมากมายวางขายเพียบเลยคะ

จุดที่ 3 ประตูโฮโซ

 เป็นประตูใหญ่ที่อยู่ถัดจากประตูแรก ประตูจะตั้งอยู่หน้าอุโบสถ มีรูปปั้นองค์เทพยักษ์สองตนคอยเฝ้าอยู่ด้วย

จุดที่ 4 เจดีย์ 5 ชั้น

ในบริเวณวัดเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ชั้น (Gojo no to) ขนาดสูง 64 เมตร สร้างขึ้นใหม่แทนของเดิมในปี ค.ศ.1973 ที่นี่และอาคารหลักที่เป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม

จุดที่ 5 วิหารหลัก วัดเซนโซจิ

ด้านหน้าวิหารหลักมี “กระถางธูป”ไว้สำหรับปักธูปมีความตั้งแต่สมัยก่อนว่าหากร่างกายส่วนที่รู้สึกไม่สบายได้สัมผัสควันจากธูปที่กระถางนั้นแล้วจะฟื้นสภาพดีขึ้น ดังนั้นลองทดลองดูก็ไม่เป็นไรเนอะ  สำหรับใครที่ต้องการจุดธูปสามารถซื้อได้ที่อาคารที่อยู่ข้างๆ ในราคากำละ 100เยนคะ

จุดที่ 6 จุดชำระล้างก่อนการสักการะ

ภาพน้ำไหลออกมาจากปากของมังกร 8 ตัว ตรงนี้เป็นส่วนก่อนเข้าไปสักการะด้านใน ให้เรามาชำระล้างมือ ล้างปากให้สะอาดกันก่อน คะ

※ โดยล้างมือซ้าย และ ขวา แล้วก็ บ้วนปาก เสร็จแล้วก็ ล้างกระบวยแล้ววางที่เดิมคะ

เสี่ยงเซียมซีกันไหมคะ

ไปเสี่ยงทายกันคะ อันนี้เขาบอกมีโชคแต่น้อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีเนอะ เพื่อนแน็ตนี่เสี่ยงทายเกือบทุกอันรอบวัดเลยก็ได้ ไม่มีโชค เลยรู้สึกว่าตัวเองก็ดีกว่า แล้วล่ะมั้ง ><"

พออิ่มบุญกันแล้ว เราก็ออกมาที่ถนนนากามิเสะทางด้านหน้าวัด ตรงทางเข้า มีอาหารขายอยู่มากมาย และก็มีทางแยกแต่ล่ะบล็อกก็มีร้านขายของอยู่มากมายเลยคะ

เดินกินโน้นนี่นั้นก็อิ่มแล้วคะเช่น ไดฟุกุ เมลอนปัง แล้วก็ไปนั่งร้านกาแฟด้านหน้าเลยคะ มีร้านอยู่ด้านขวามือ อยู่ชื่อร้าน ชาโคอิฉะ สวีท คามินาริ (お濃茶スイーツ専門店 雷一茶)เป็นร้านชาเขียวโดยเฉพาะมีของหวานเกี่ยวกับชาเขียวอยู่หลายอย่างคะ ใครเดินเมื่อยแล้วก็ไปนั่งดื่มกาแฟ ชา กันที่นี่ก็ได้นะคะ


ข้อมูลการท่องเที่ยว


เวลาทำการ :

  • บริเวณวัดเปิดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
  • ศาลาวัด 6:00 – 17:00 และในเดือนตุลาคม – มีนาคมเปิด 6:30 – 17:00

ไม่มีค่าเข้าชม

การเดินทาง:

 JR ลงที่ Ueno แล้วต่อ Subway มาลงสถานี Asakusa (G19, A18) ทางออกหมายเลข 1 หรือ 3

สรุปค่าใช้จ่าย 

ค่ารถ +ค่าเข้าโตเกียวสกายทรี+ค่าอาหาร 


DAY2  


เดินเล่นโตเกียว โอไดบะ สวนสาธารณะ/ชายหาดในเมืองหลวง/อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลอง /ช็อปปิ้งห้าง Aqua City -เล่นเครื่องเล่นในตึกที่ Tokyo Joypolis

วันที่สองเราไปแหล่งเจริญหูเจริญตากันบ้างนะคะ ไปดูความทันสมัยของโอไดบะเป็นที่เจริญหูเจริญตามากเลยคะ ที่นี่มีพวกนักธุรกิจ พวกพนักงานจากฟูจิทีวี มีห้างมากมายเป็นแหล่งช้อปปิ้งและย่านความบันเทิงที่ได้รับความนิยม แต่ในความเจริญหูเจริญตานั้น รอบๆก็มีชาดหาด สวนหย่อม ทำให้รู้สึกสดชื่น ได้ผ่อนคลายความเครียดของคนเมืองกัน ที่สำคัญเราเห็นคู่รักมากันหลายคู่กันเลยทีเดียว ก็ใช่สิ มีหลายอารมณ์ขนาดนี้ ใครๆก็คงอยากมาเดทกันที่นี่สิเนอะ มาที่เดียวคุ้มเลย

ภาพส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะรอบๆมองเห็นสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)ด้วยคะ  ชื่อสะพานสายรุ้งนี่มาจากตอนกลางคืนวิวที่สะพานจะเห็นแสงสีมากมายจากฝั่งโตเกียวเปรียบเสมือนสีของรุ้งที่มีหลากสี นอกจากนั้นเรายังสามารถมองเห็น Tokyo Tower จากจุดนี้ได้ด้วยคะแต่วันนี้ฝนตกเลยเห็นแค่ลางๆนะคะ เพื่อนๆลองสังเกตุดูนะคะว่าอยู่ตรงไหน (เฉลย ตรงสะพานด้านขวามือของภาพคะ)

ชายหาดหน้าร้อน ณ เมืองหลวงแห่งนี้ ทำให้คนที่นี้ดูผ่อนคลายกันมากเลยนะคะ

นี่คือเทพีเสรภาพ(Statue of Liberty)นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปที่นี่กันเยอะมากเลยคะไม่ต้องนั่งเครื่องข้ามซีกโลกกันแล้วเนอะ แค๋ญี่ปุ่นก็พอ ห้าๆๆๆๆ

ภาพคู่เดทกำลังขึ้นจากสวนไปบนห้างต่างๆด้านบน

ห้าง Aqua City Odaiba และตึกแปลกข้างๆคือ Fuji TVคะ  ตึกฟูจิทีวี (Fuji TV Building) เป็นตึกสำนักงานใหญ่ของ สถานีโทรทัศน์ฟูจิ เป็นตึกที่สูงและมีขนาดใหญ่ สร้างด้วยความอลังการยิ่งใหญ่อย่างมาก ด้านบนเปิดเป็นหอสังเกตการณ์ สามารถขึ้นไปชมวิวเกาะ โอไดบะได้  จากตรงนี้จะมีทางเดิน Sky walk ไปยังห้าง Palette Town สถานี Aomi หรือถ้าขี้เกียจเดินก็นั่งรถไฟไป 4 สถานี แต่เดินไปก็ไม่ไกลนะเท่าไหร่คะ เดินเรื่อยๆมีอะไรให้ดูตามทาง  ประมาณ 5 นาทีได้   รถไฟมันจะวิ่งอ้อมเฉยๆนะเราว่า     เราก็เข้าไปช็อปปิ้งกันได้เลยคะ

เข้าไปแว็บๆมานิดหน่อย เห็นสเต็กน่ากินเราก็เลยจัดไปคนล่ะเซ็ตเลยคะ แต่ไม่มีของที่อยากได้เลยได้แต่ดูอย่างเดียวเลยคะ

นั่งชิงช้าชมเมืองที่พาเลตทาวน์ (Palatte Town) ชิงช้าสวรรค์เฟอริส (Ferris Wheel)เป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุด ติดอันดับของโลก โดยมีความสูงจากพื้นดินประมาณ 115 เมตร คนนิยมขึ้นไปชมวิวอ่าว โตเกียว และ เกาะโอไดบะกันคะ ในห้างนี้ก็มีสินค้าแฟชั่นต่างๆบ้านผีสิงด้านในด้วยคะ


เล่นเครื่องเล่นที่ Joypolis (จอยโพลิส) ห้าง Deck

เมื่อเราทานข้าวเสร็จแล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็มาเข้าสวนสนุกกันคะ ที่นี่เป็นสวนสนุกในร่มที่สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมายกว่า 20 แบบได้ในแห่งเดียว เช่น รถไฟเหาะ, เครื่องเล่นสไตล์สัมผัสประสบการณ์ และบ้านผีสิง เป็นต้น  เครื่องเล่นแต่ละชิ้นมีคุณภาพสูง ที่นี่จึงนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ สำหรับการเดทหรือผ่อนคลายกับเพื่อนๆเลยค่ะ แต่แน็ตเองก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ แต่แฟนอยากเล่นมาก บอกจะเอาเป็นแพ็คเกจ เพราะกลัวไม่คุ้ม เราก็คิดว่าเหอะๆ เครื่องเล่นในที่ร่มก็คงเบาๆแหละ แต่เอาเข้าจริง ก็อ้วกจริงอ้วกจังไปเลยคะ เอาเสต็กเราออกมาซะเกือบหมดเลยคะ แต่ก็เอามาแชร์เพื่อนๆ เพื่อใครไม่กลัวความสูง ไม่กลัวความมึน และยังมีนวัตกรรมเทคโนโลยีของ เครื่องเล่นต่างๆข้างในให้ตื่นตาตื่นใจอยู่พอสมควรเลยคะ

TRANSFORMERS HUMAN-ALLIANCE SPECIAL เล่นเกมส์ไป หมุนไปตามเนื้อเรื่องของเกมส์ เวียนหัวดี แต่ยังถือว่าซอฟต์ซอฟต์อยู่นะคะ

Gekion Live Coaster เล่นเกมส์ไป หมุนไปก็ โอเคอยู่คะ มันจะเสียวๆตอนที่ออกมาวิ่งตามรางที่ติดตรงเพดาน กลัวความสูงก็แพ้ไป ห้าๆๆๆ

Halfpipe Tokyoเล่นเป็นคู่ ช่วยกันเล่นเกมส์เหยีบปุ่มตามเกมส์  สนุกดีคะ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา

นอกจากเครื่องเล่นมากมายด้านใน ยังมีเทคโนโลยีต่างๆมากมายให้ได้เล่นระหว่างทางด้วยคะ

นอกจากนี้แล้วคุณยังสามารถจองตั๋วราคาพิเศษสำหรับเข้า Tokyo Joypolis ที่ Odaiba ได้ด้วย โดยตั๋วที่จองนี้คุณสามารถเข้าไปภายในสวนสนุกและเล่นเครื่องเล่นได้ทุกอย่างภายในสวนสนุกของ SEGA  เมื่อจองแล้วคุณจะได้รับ QR Code สามารถใช้เข้าที่นี่ได้เลยผ่านการ Scan ในมือถือโดยไม่ต้อง Print  และตั๋วสามารถเก็บไว้ใช้ได้ถึง 90 วันหลังจากจองเลยน้าาา จองที่นี่ลดพิเศษ 8% จากราคาปกติ. กดจองที่ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยค่าาาา

ข้อมูลการท่องเที่ยว


ที่อยู่:  ชั้น 3 - 5 เด็กซ์โตเกียวบีช 1-6-1 ไดบะ เขตมินาโตะ   รหัสไปรษณีย์:135-0091

เวลาทำการ:10:00-22:00 น. (เปิดให้เข้าสถานที่จนถึงเวลา 21:15 น.)
※ เวลาเปิดบริการจะอาจเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและช่วงเวลา

วันหยุดประจำ/วันปิดทำการ: ไม่กำหนดเวลาแน่นอน

ค่าใช้บริการ:

●ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 500เยน

●พาสปอร์ต (ค่าเข้า+ ค่าเครื่องเล่นต่างๆด้านในกว่า20 รายการ ตอนกลางวัน): ผู้ใหญ่ 4300เยน เด็ก 3300เยน

※เล่นแบบไม่อั้น เข้าๆออกๆได้ตลอด จนปิดเลยคะ

●Night Passport (ค่าเข้า+ ค่าเครื่องเล่นต่างๆด้านในกว่า20 รายการ ตอนเย็น):ผู้ใหญ่ 3300เยน เด็ก 2300เยน

※วันธรรมดา ซื้อได้ตอน17:00,วันเสาร์-อาทิตย์ 16:00

การ์ดที่สามารถใช้ได้:
Visa | Mastercard | American Express | China UnionPay |

การเดินทาง :

จากสนามบินฮาเนดะ:
- สถานีฮาเนดะแอร์พอร์ต สายเคย์คิว - สถานีชิมบาชิ (เปลี่ยนสาย)
- สถานีชิมบาชิ สายยูริคาโมเมะ - สถานีโอไดบะไคฮิงโคเอ็น
- สถานีฮาเนดะแอร์พอร์ต โตเกียวโมโนเรียล - สถานีเท็นโนสุไอรุ (เปลี่ยนสาย)
- สถานีเท็นโนสุไอรุ สายริงไก - สถานีโตเกียวเทเลพอร์ต

โดยรถไฟ:
- เดินประมาณ 2 นาทีจากสถานีชิมบาชิ สายยูริคาโมเมะ
- เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานีโตเกียวเทเลพอร์ต สายริงไก

โดยรถบัส:
- อุมิ 01 ลงป้ายไดบะนิโจเมะ ถึงทันที
- นิจิ 01 ลงป้ายไดบะนิโจเมะ ถึงทันที
- โท 01 ลงป้ายไดบะนิโจเมะ ถึงทันที

หากใครเดินเล่นบริเวณโอไดบะจนเหนื่อยแล้ว. สามารถเข้ามาพักผ่อนแช่น้ำร้อนได้ที่ Oedo Onsen ซึ่งตั้งอยู่ที่โอไดบะ. โดยที่นี่สามารถเข้ามาแช่น้ำพุร้อนขนาดใหญ่ รวมถึงมีร้านอาหาร การละเล่นแบบพื้นเมืองญี่ปุ่น สปาและนวด. ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้  โดยสามารถซื้อตั๋วเข้าราคาพิเศษได้ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ ได้ส่วนลดจากราคาปกติ 12% โดยคุณสามารถนำ Code ที่ได้รับหลังจากการจองไปใช้เข้าที่ Oedo Onsen ได้เลย


มื้อค่ำของวันที่สอง หลังจากเราเหนื่อยมาพอสมควร เราก็ไปฝากท้องที่ร้านใต้ดิน ตรงสถานี ชิมบาชิ

สาวก Ultraman ต้องไม่พลาดร้านนี้ ร้านนี้มีชื่อว่า Kaiju Sakaba (怪獣酒場 新橋蒸留所)เป็น Bar and reataurant โดยมีคำว่า Sakaba 酒場 แปลได้ว่า บาร์และ คำว่า Kaiju怪獣 แปลว่าสัตว์ประหลาดร้าย โดยมีแรงบันดาลใจมาจากการ์ตูนเรื่อง Ultraman นั่นเอง ภายในร้านถูกทำให้คล้ายๆกับที่หลบซ่อนตัวของปีศาจร้าย โดยมีป้ายเขียนไว้ว่า ULTRA HEROES NOT ALLOWED! แปลง่ายๆว่าห้ามพวก Ultraman เข้า!!!

แค่ดูป้ายก็ก็รู้ได้เลยเนอะว่าข้างในต้องตกแต่งดี

พนักงานที่ร้านออกมาบอกให้เราเอามือวางในปากเพื่อยืนยันว่าไม่ใช่พวกอุลตร้าแมน

ร้านถูกตบแต่งคล้ายๆกับถ้ำและกำแพงจะเป็นก้อนหินคะ  มีหน้าต่างรับแสงแดดด้วยกระจกรูปลวดลายต่างๆสวยสดงดงาม

เข้ามาปุบก็มีถั่วปากอ้ามารอ อันนี้ไม่ฟรีนะคะ แต่ไม่เอาไม่ได้คะ อันนี้ก็เป็นวัฒนธรรมร้านเหล้าของญี่ปุ่นแท้เลยคะ แค่เข้ามานั่งก็เสีย500เยน ต่อคน แต่ยังมีของชำร่วยเป็นที่รองแก้วให้เอากลับบ้านได้เลยคะ

สั่งเบียร์สดมาซดแก้ร้อนคนล่ะแก้ว แก้วล่ะ 600 เยน  แก้วก็ยังมีดีไซน์เลยคะ

เมนูแซนวิชกุ้งทอด หน้าตาดี ราคาเซ็ตนี้ 1,380 เยน ดูแล้วเหมือนสัตว์ประหลาดจริงๆเลยคะ

กินไปสนุกกับหน้าตาอาหารไป สัตว์ประหลาด ก็มา ใครสนใจก็ไปสัมผัสได้คะ

  • website : http://kaiju-sakaba.com/shimbashi/information/
  • โทรศัพท์: 03-6228-5355
  • วันเวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – เสาร์ 11.00 – 23.30 น. วันอาทิตย์ 11.00 – 23.00 น.
  • ที่ตั้ง :ภายในตึก Keikyu Shopping Plaza Wing Shimbashi, East Entrance Chikagai No. 1, 2-chome Shimbashi, Minato-ku, Tokyo 105‐0004, Japan

Day 3


ตลาดอะเมโยโกะ-สวนอุเอโนะ

วันที่สามนี้เราขอไปตลาดเก่าแก่เดินช็อปของถูก เดินทานอาหารสไตล์สตีทฟู้ด อย่างที่เพื่อนๆทราบญี่ปุ่นเป็นเมืองที่ไม่ค่อยเดินทานกัน บางครั้งเราก็รู้สึกอึดอัดบ้าง เพราะอย่างเดินทานไป เที่ยวไป หรือบางทีเจอของที่อยากทานแต่ยังไม่หิว ก็อยากซื้อไว้ก่อน แต่เราก็เข้าใจว่าญี่ปุ่นเขาต้องการรักษาความสะอาดของเมืองเขา ถ้าเราเดินทาน แล้วเราทิ้งขยะกันสุ่มสี่สุ่มห้า ประเทศเขาก็ไม่สะอาด สวยงาม แต่ที่นี่ก็คือตลาดอะเมะโยโกะ มีอาหารแนวสตีทฟู้ดขายเยอะมากคะ ส่วนตัวรู้สึกว่าชอบมากคะ ได้ทานอาหารหลากหลาย อย่างล่ะนิดล่ะหน่อย บางที่ก็ทำที่ให้เราได้ยืนทาน นั่งทาน แล้วแต่พื้นที่และชนิดของอาหารคะ

ที่ตั้งอยู่ระหว่างสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) และสถานีโอคาชิมาชิ (Okachimachi Station) ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตลาดสุดฮอตฮิตของเมืองโตเกียวเลยทีเดียวค่ะ เดินไปทางไหนก็เจอคนไทย แถมที่นี่ก็มีอาหารไทยขายด้วยคะ ใครอยากลองทานอาหารไทยในญี่ปุ่นก็สามารถลิ้มลองกันได้คะ

ดูได้จากบรรยากาศการค้าขายภายในตลาดที่คึกคักคนเยอะอยู่ตลอดเวลา ซึ่งที่นี่จะเป็นตลาดกลางวันที่ร้านส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดทำการตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้าไปจนถึงช่วงเย็นๆ เลยคะ

สิ่งที่น่าจะเป็นจุดเด่นของที่ตลาดแห่งนี้ก็นาจะเป็นสินค้าที่หลากหลายมากๆมีทั้งของสดไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆอย่าง เครื่องสำอาง กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา ทั้งของญี่ปุ่นและของนำเข้าจากต่างประเทศ อาหารทะเล ผลไม้ ผักสด ร้านขนมของกินเล่น ทาโกะยากิยักษ์ โมจิ ขนมเค้ก ช็อคโกแลต ไอศครีม ชานมไข่มุก  และร้านอาหารญี่ปุ่น อย่างราเม็ง ซูชิ ข้าวหน้าปลาไหล พื้นที่ตลาดใหญ่  กินพื้นที่ไปหลายซอยรวมถึงชั้นใต้ดินด้วย เรียกได้ว่าในห้างมีอะไรที่นี่จัดมาครบแถมมาในราคาที่ถูกกว่าในห้างทั่วไปด้วยคะ

ที่สำคัญบางร้านนี่ยังสามารถต่อรองราคาได้อีกด้วย บอกเลยว่าถ้าใครอยากช็อปปิ้งแต่อยากได้บรรยากาศแนวตลาดๆหน่อยล่ะก็ลองมาเดินที่อะเมโยโกะดูสิคะ  รับรองว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่ๆ

ภาพร้านผลไม้ในย่านอะเมะโยโกะ ใครชอบผลไม้ชนิดไหนอยากซื้อกลับไทยก็ได้นะคะ

คนไทยมาซื้อสตอเบอรรี่ที่นี่กันเยอะเลยคะ

แวะทานทาโกะยากิในตลาดอะเมะโยโกะ 500เยนคะ เราเลือกยืนทานหน้าร้านเลยคะ จะได้ทิ้งตรงนั้นเลยคะ และบังเอิญหิ้วมากแล้ว ก็จัดกันสองคน 1ถาด เพื่อท้องไว้ทานอย่างอื่นบ้างคะ

ใครมาช่วงร้อนๆที่นี่มีซอฟต์ครีมหลากรสมากมายเลยคะ อันที่เห็นโตเกียวก็อร่อยเนียนไม่แพ้ฮอกไกโดเลยคะ และราคก็ไม่แพงด้วยคะ ปกติจะเห็นขายกันประมาณ 500เยน ที่นี่แค่300เยน ก็ต้องจัดหน่อยคะ

ภาพนี้รวบรวมสิ่งที่ได้ทานไปช่วงกลางวัน

☆彡หอยนางรมคะล่ะตัว ตัวล่ะ 500เยน

ราคาก็แพงอยู่แต่ให้อภัยเพราะความสดมากของหอยนางรมเขาเลยคะ

☆彡ไอศกรีมที่ยาวที่สุดในโลก ราคา 250เยน

ไม่ได้ทานแต่มีความน่าสนใจกับความยาวของไอศกรีม ใครสนใจเชิญลองได้เลยคะ ราคาแค่250เยนเองคะ

☆彡ไทยากิ     ราคา 150เยน 

ใครๆก็รู้จักเนอะ แต่ที่ชอบคือทำความนุ่มของแป้ง และอังโกะ ไม่หวานมาก

☆彡อาหารทะเลปิ้งย่าง ทอด ราคา หลากหลาย เริ่มต้นที่ 200เยน

ที่เราเลือกทานคือ ปลากหมึกย่าง ตัวล่ะ 400เยน 

☆彡 สตอเบอรรี่ และเมลอนแบบไม้ ราคา ไม้ล่ะ  200เยน


ข้อมูลการท่องเที่ยว


เวลาทำการ:10:00 - 19:00 น.

วันปิดทำการ:ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดวันพุธ

การเดินทาง:

ตลาดอะเมโยโกะเป็นถนนยาวจากสถานีรถไฟ Ueno Station - Okachimachi Station สามารถโดยสารรถไฟ JR  Yamanote Line หรือ JR Keihin-Tohoku Line

※เดิน 5 นาที จาก Ueno Station

※เดิน 5 นาที จาก Okachimachi Station


สวนอุเอโนะ(上野公園)

พอเดินช็อป เดินทานกันอิ่มแล้ว ก็ย้ายไปเดินย่อยที่สวนสาธารณะ อุเอะโนะ  ใกล้ๆตลาดอะเมะโยโกะ แค่เดินข้ามไปก็ถึงแล้วคะ ที่นี่เป็นสวนที่ใหญ่พอสมควรเลยคะ ภายในมีทั้งวัด ศาลเจ้า ทะเลสาบ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และสวนสัตว์ มีต้นไม้มากมาย ให้บรรยากาศร่มรื่นมากคะ ที่นี่ชาวโตเกียวนิยมมาพักผ่อนกันเยอะเลย มาเป็นครอบครัวบ้าง เป็นกลุ่มเพื่อนบ้าง เป็นคู่ หรือมาแบบเดี๋ยวก็มีคะ  แล้วแน่นอนช่วงที่พีคสุดๆก็ช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกๆปีนี่เองล่ะค่ะ เพราะที่นี่มีต้นซากุระเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างยาวไปตามทางเดินภายในสวน มีจำนวนมากกว่า 1,000 ต้น ซึ่งมักจะบานช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ใครมาช่วงนี้คงดีมากเลยคะ

นอกจากบรรยากาศที่สวยงาม ร่มรื่น ที่นี่ยังเป็นที่ประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ที่แห่งนี้เคยมีการสู้รบกัน (Boshin Civil War) ระหว่างฝ่ายรัฐบาลเมจิ (Meiji) และฝั่งโชกุน มีโชกุนโทคุกาวา (Tokugawa) เป็นแม่ทัพใหญ่ การสู้รบครั้งนี้ฝ่ายรัฐบาลเมจิได้รับชัยชนะ และได้จัดตั้งพื้นที่บริเวณนี้เป็นสวนอุเอะโนะ (Ueno Park) มีการสร้างอนุสาวรีย์ให้กับไซโกะ ทาคาโมริ (Saigo Takamori) ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ที่ทำให้รัฐบาลเมจิได้รับชัยชนะ

เดินเข้ามาก็เห็นรูปปั้นของท่านไซโกะ ทาคาโมริ เป็นซามูไรอีกท่านที่มีชอิทธิพลในสมัยเอโดะ และช่วงต้นยุคเมจิ ได้รับขนานนามว่า ซามูไรแท้คนสุดท้าย (the last true samurai)

วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu Kannon Temple)  วัดเล็กๆ ในสวนอุเอะโนะ สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1631 เป็นส่วนหนึ่งของวัดคาเนจิ (Kaneiji) วัดนี้สร้างอยู่บนเนินมีระเบียงยื่นออกไปด้านนอก  ชาวญี่ปุ่นบอกว่าที่นี่ส่วนใหญ่เขามาเพื่อมาขอลูกกับเจ้าแม่กวนอิมที่วัดแห่งนี้คะ

เบนเทนโดะ (Bentendo) ศาลาวัด อาคารทรง 8 เหลี่ยม หลังคาสีเขียว อยู่ข้างทะเบสาบชิโนบาซุ  (ทะเลสาปดอกบัว)  วัดแห่งนี้เป็นตัวแทนของเทพธิดา ในช่วงเทศกาลชมซากุระจะมีร้านค้ามาเป็นอยู่หน้าทางเข้าวัด มีคนมาเที่ยวมากในช่วงนี้คะ ตอนที่เราไปก็มีร้านค้าอยู่เหมือนกันแต่ไม่คึกคักเท่าตอนช่วงที่มี ซากุระ ภาพนี้ถ่ายจากด้านใน สวนสัตว์ คะ

สวนสัตว์อุเอโนะ จุดมุ่งหมายของคนญี่ปุ่นหลายๆคนคือ เจ้าหมีแพนด้าน้อยเพิ่งเกิดชื่อเจ้าชางชาง แสนรู้น่ารัก ตัวนี้นั้นเองคะ   สวนสัตว์นี้ อยู่ในสวนสาธารณะอุเอโนะ มีผู้เข้าชมมากที่สุดในญี่ปุ่น สามารถชมสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่นและสัตว์แปลกๆของต่างประเทศก็มีให้ได้ชมคะ

☆彡เวลาเปิดปิด :  9:30 to 17:00 น. (ขายบัตรถึง 16:00 น.) ปิดวันจันทร์

☆彡ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน /ผู้สูงอายุ(65ปีขึ้นไป) 300 เยน/ เด็ก 13-15 ปี ราคา 200 เยน
อายุต่ำกว่า 12 เข้าฟรี!

เดินออกมาชม เบ็นเทนโดใกล้ๆ กันบ้าง ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1616 เพื่ออุทิศให้กับ Tokugawa Ieyasu ต้นตระกูลของโชกุนสกุล

☆彡เวลาทำการ: 9.00 ถึง 16.30 ทุกวัน

☆彡ไม่มีค่าเข้าชม (ยกเว้นค่าเข้าชมศาลเจ้าชั้นในซึ่งต้องเสียคนละ 500 เยน)


ข้อมูลการท่องเที่ยว


ที่อยู่:  5-20 UenokoenTaito 110-0007, Tokyo 

เวลาทำการ: 05.00-23.00 น.

การเดินทาง: 

● รถไฟ JR :ลงที่สถานี Ueno ทางออก Park Exit สวนอุเอะโนะอยู่ข้างสถานีรถไฟ

● รถไฟ Subway :ลงที่สถานี Ueno

● รถไฟ Keisei :ลงที่สถานี Keisei Ueno


สุดท้ายนี้หากคุณอยากเที่ยวโตเกียวแบบทั่วใน 1 วัน. เราขอแนะนำทัวร์แบบ 1 วันราคาพิเศษที่จะทำให้คุณเที่ยวทั่วโตเกียวได้แบบไม่ต้องขึ้นรถ รถไฟหรือเดินไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังอิมพีเรียล  อาซากุสะ ขึ้นชมวิวบนโตเกียวสกายทรี และที่อื่นๆรอบโตเกียว ทั้งยังมีบริการเครื่องแปลภาษาเป็นภาษาไทยด้วยนาา. สนใจคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยค่าาา

เป็นอย่างไรบ้างคะ รีวิวการท่องเที่ยวของเรา ชิวๆ เดินทางไม่เยอะ ใครมาโตเกียวอย่าพลาดที่เหล่านี้นะคะ

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
nattyrakuraku
แน็ตมาทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ฮอกไกโดมาตั่งแต่ปี2014 แบบไม่มีความรู้เรื่องญี่ปุ่นเลย มาทำงานที่นี่และพัฒนาภาษาตนเอง ได้ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวมีบัตรนำเที่ยวที่ญี่ปุ่นถูกต้องตามกฎหมาย ยิ่งได้ทำงานนี้ก็ยิ่งชอบฮอกไกโมากขึ้น อากาศดี ผู้คนใจดี อาหารอร่อยเงียบสงบ ยิ่งอยู่ยิ่งหลงรักฮอกไกโด และอยากจะแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆกันคะ
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!