ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

ทำความรู้จักความหมายของดอกไม้ชื่อดังในญี่ปุ่น: Hanakotoba

Hanakotoba Cover

ทำความรู้จักความหมายของดอกไม้ชื่อดังในญี่ปุ่น

Japanese Flowers & Their Meaning: Hanakotoba

“ดอกซากุระ (桜, sakura) หรือ Cherry Blossom” และ “ดอกเบญจมาศ หรือ “คิคุ” (Kiku, 菊)” ถูกยกให้เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น เนื่องมาจากความงดงามอันโดดเด่นชวนหลงใหลจนกลายเป็นที่รักของชาวญี่ปุ่นและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศมาอย่างยาวนาน แต่นอกจากดอกไม้ประจำชาติทั้งสองชนิดนี้แล้ว ที่ญี่ปุ่นยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ที่ทั้งสวยและมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่ ถึงขนาดว่า ชาวญี่ปุ่นเคยมีภาษาดอกไม้ หรือ Hanakotoba (花言葉) คือ การใช้ดอกไม้เพื่อสื่อถึงความหมายบางอย่างที่อาจจะพูดออกมาตรงๆไม่ได้ แต่ในปัจจุบัน ภาษาดอกไม้จะค่อยๆเลือนหายไป และชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่รู้ความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดแล้วด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ภาษาดอกไม้ยังคงมีปรากฏให้เห็นอยู่เรื่อยๆในวัฒนธรรมสมัยนิยม (Pop Culture) เช่น ในมังงะหรืออนิเมะ รวมไปถึงนิยายและบทความต่างๆ ฯลฯ

ซึ่งในบทความนี้ ผู้เขียนจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักดอกไม้แต่ละชนิดที่มีชื่อเสียงและได้รับการพูดถึงในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งความหมายของมันด้วย;

Contents
  1. ดอกกุหลาบแดง (Akaibara, 赤い薔薇) หาชมได้ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน
  2. ดอกกุหลาบขาว (Shiroibara, 白い薔薇) หาชมได้ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน
  3. ดอกซากุระ (Sakura, 桜) บานสะพรั่งงดงามในช่วงปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนเมษายน
  4. ดอกสึบากิ (Tsubaki, 椿) หาชมได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ – กลางเดือนมีนาคม
  5. ดอกฟูจิ หรือ ดอกวิสทีเรีย (Wisteria, 藤) หาชมได้ในช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม
  6. ดอกเบญจมาศ หรือ “คิคุ” (Kiku, 菊) หาชมได้ช่วงเดือนกันยายน – กลางเดือนพฤศจิกายน
  7. ดอกฮิกังบานะ (Higanbana, 彼岸花) เบ่งบานงดงามที่สุดช่วงปลายเดือนกันยายน
  8. ดอกคาร์เนชั่น (Kaneshon, カーネーション) หาชมได้ช่วงเดือนพฤษภาคม
  9. ดอกทิวลิปสีแดง (Akai Churippu, 赤いチューリップ) บานสะพรั่งช่วงกลางเดือนมีนาคม – เดือนเมษายน
  10. ดอกเนโมฟีล่า (Nemophila, ネモフィラ) บานสะพรั่งที่สุดช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม

ดอกกุหลาบแดง (Akaibara, 赤い薔薇) หาชมได้ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ ความโรแมนติก

ความหมายของตะวันตก คือ ความโรแมนติก

ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ดอกกุหลาบแดงยังคงเป็นตัวแทนของ ความรักในแบบ Romantic Relationship ที่คลาสสิคอยู่เสมอ และยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ทุกยุคสมัย

สถานที่ชมดอกกุหลาบแดงในญี่ปุ่น: ได้แก่ Keisei Rose Garden จังหวัดชิบะ, Jindai Park กรุงโตเกียว, Ibaraki Flower Park จังหวัดอิบารากิ เป็นต้น

ดอกกุหลาบขาว (Shiroibara, 白い薔薇) หาชมได้ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ ความใสซื่อ ความไร้เดียงสา ความสงบสุขุม

ความหมายของตะวันตก คือ ความบริสุทธิ์ ความมีคุณธรรม พรหมจรรย์

ดอกกุหลาบขาวก็เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ยอดนิยมสำหรับความรักในแบบ Romantic Relationship เช่นกัน เป็นตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์และการให้ที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่มีความเชื่อแบบสากลอีกอย่างว่า หากกุหลาบขาวร่วงโรย ก็เปรียบเหมือนความรักที่จืดจาง

สถานที่ชมดอกกุหลาบขาวในญี่ปุ่น: เช่นเดียวกับกุหลาบแดง นักท่องเที่ยวสามารถหาชมดอกกุหลาบขาวในญี่ปุ่นได้ที่ Keisei Rose Garden จังหวัดชิบะ, Jindai Park กรุงโตเกียว, Ibaraki Flower Park จังหวัดอิบารากิ เป็นต้น

ดอกซากุระ (Sakura, 桜) บานสะพรั่งงดงามในช่วงปลายเดือนมีนาคม – กลางเดือนเมษายน

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ ความงามของสตรี ความรักและความหวัง การประสบความสำเร็จ

ความหมายของตะวันตก ไม่มี

ดอกซากุระ ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นต้องมีเทศกาลชมดอกซากุระบานโดยเฉพาะ หรือ “ฮานามิ” ที่เกิดขึ้นในทุกปี นอกจากนั้นภาพของดอกซากุระยังปรากฏอยู่บนธนบัตรราคา 1,000 เยน และเหรียญ 100 เยน ตอกย้ำความเป็นดอกไม้ประจำชาติอย่างแท้จริง

สถานที่ชมดอกซากุระในญี่ปุ่น: ด้วยความที่เป็นดอกไม้ประจำชาติ การชมดอกซากุระบานในญี่ปุ่นจึงสามารถหาชมได้ทั่วไป ทั้งตามวัดวาอารามหรือสถานที่สำคัญต่างๆ ส่วนสถานที่ขึ้นชื่อ ได้แก่ โยชิโนะยามะ, ฟูจิยามะ ฯลฯ

ดอกสึบากิ (Tsubaki, 椿) หาชมได้ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ – กลางเดือนมีนาคม

ความหมายในภาษาดอกไม้ สำหรับคนทั่วไป แปลว่า “ความรักที่ให้เกียรติกัน” และยังเป็นตัวแทนของ ความอ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงความชื่นชม ความสุขุมรอบคอบ ฯลฯ

ความหมายของตะวันตก หมายถึง “อุดมคติอันสูงส่ง” ซึ่งเป็นความหมายทั่วไปในระดับสากล

ดอกสึบากิ หรือชื่อสากลคือ “ดอกคาร์มีเลีย” เป็นดอกไม้ที่คนรักมักมอบให้แก่กันเพื่อแสดงถึงการให้เกียรติและฝากความหวังไว้กับอีกฝ่าย

แต่ความหมายสำหรับซามูไร จะแปลว่า “โชคร้าย” เพราะดอกร่วงหล่นง่ายคล้ายโดนบั่นหัวในดาบเดียว

สถานที่ชมดอกสึบากิในญี่ปุ่น: ได้แก่ เกาะอิซึโอชิมะ ทางตอนโต้ของโตเกียว และ ป่าสึบากิ (Tsubaki no Mori) ทางเหนือของโอซาก้า ฯลฯ แต่จริงๆแล้ว ดอกสึบากิสามารถพบเห็นทั่วไปในญี่ปุ่นในช่วงที่ดอกไม้บาน

ดอกฟูจิ หรือ ดอกวิสทีเรีย (Wisteria, 藤) หาชมได้ในช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม

ความหมายในภาษาดอกไม้ หมายถึง “การอวยพรให้มีชีวิตที่ยืนยาว”

ความหมายของตะวันตก ไม่มี

เป็นดอกไม้ที่สวยแต่รูปจูบไม่รอดจริงๆ เพราะส่วนประกอบของต้นฟูจินั้นมีพิษตั้งแต่ลำต้นจนถึงดอกแสนสวย โดยเฉพาะส่วนเมล็ดและฝัก ความรุนแรงของพิษขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่ก็ยังไม่ปรากฏว่ามีผลร้ายแรงจนถึงชีวิตแต่อย่างใด

ดอกฟูจิ หรือ ดอกวิสทีเรีย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้ปรากฎโฉมให้เห็นในอนิเมะชื่อดัง “Kimetsu No Yaiba หรือ ดาบพิฆาตอสูร” จนทำให้มีกระแสตามรอยอนิเมะไปชื่นชมดอกฟูจิถึงที่กันเลยทีเดียว

สถานที่ชมดอกฟูจิในญี่ปุ่น: โดยปกติจะพบเห็นได้ทั่วไป (ในช่วงที่ดอกไม้บาน) เช่นเดียวกับดอกซากุระ แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวแนะนำ ได้แก่ Ashikaga Flower Park จังหวัดโทชิงิ, Kameido Tenjin Shrine กรุงโตเกียว ฯลฯ

ดอกเบญจมาศ หรือ “คิคุ” (Kiku, 菊) หาชมได้ช่วงเดือนกันยายน – กลางเดือนพฤศจิกายน

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ “ความบริสุทธิ์ใจ”

ความหมายของตะวันตก คือ ตัวแทนแห่งความรื่นเริง

เชื่อกันว่า ผู้ที่ให้ดอกเบญจมาศกับผู้อื่น มักเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี ร่าเริงสดใสและบริสุทธิ์ใจกับผู้รับ นอกจากนั้นดอกเบญจมาศยังเป็นดอกไม้มงคลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “ความอายุยืน”

ดอกเบญจมาศเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น ในวันที่ 9 กันยายนของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาล “คิคุ โนะ เซ็คคุ” (Kiku no Sekku, 菊の節句) ที่จัดขึ้นเพื่อขอพรให้อายุยืนยาวและขับไล่สิ่งเลวร้ายต่างๆ นอกจากนั้น รูปของดอกเบญจมาศยังมีปรากฏตามสิ่งของต่างๆของชาวญี่ปุ่น เช่น ดอกเบญจมาศสีทองบนหน้าปกหนังสือเดินทางญี่ปุ่น และ รูปดอกเบญจมาศบนเหรียญ 50 เยน

สถานที่ชมดอกเบญจมาศในญี่ปุ่น: สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในฤดูกาลที่ดอกไม้บาน แต่ก็มีแหล่งแนะนำเป็นพิเศษ ได้แก่ Kasama Inari Jinja Shrine จังหวัดอิบารากิ, Yushima Tenjin กรุงโตเกียว, วัดอาซากุสะ กรุงโตเกียว ฯลฯ

ดอกฮิกังบานะ (Higanbana, 彼岸花) เบ่งบานงดงามที่สุดช่วงปลายเดือนกันยายน

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ ความตาย การบอกลา

ความหมายของตะวันตก คือ ความคลั่งใคล้ไหลหลง

ดอกฮิกังบานะ หมายถึง ดอกไม้ที่จะเบ่งบานในช่วงวันวสันตวิษุวัต คือฤดูกาลที่กลางคืนและกลางวันยาวนานเท่ากัน มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละภาษา เช่น “ดอกลิลลี่แมงมุมสีแดง” หรือ “ดอกพลับพลึงสีแดง”

ดอกฮิกังบานะ เป็นดอกไม้หน้าตาสวยแต่มีพิษรุนแรง มักจะปลูกรอบๆสวนและสุสานเพื่อไล่แมลงตัวเล็กๆ นอกจากนั้นยังมีความเชื่อและตำนานมากมายที่กล่าวว่าดอกฮิกังบานะ เป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับความตาย

สถานที่ชมดอกฮิกังบานะในญี่ปุ่น: ได้แก่ Kinchakuda Manjushage Park จังหวัดไซตามะ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลชมดอกฮิกังบานะที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น, Gongendo Park จังหวัดไซตามะ, Koishikawa Korakuen Garden กรุงโตเกียว ฯลฯ

ดอกคาร์เนชั่น (Kaneshon, カーネーション) หาชมได้ช่วงเดือนพฤษภาคม

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ ความรักที่แท้จริง หรือ ความหลงใหล

ความหมายของชาวตะวันตก จะมีความหมายแตกต่างกันไปตามแต่ละสี โดยสีแดงหมายถึง ความรักโรแมนติก ส่วนสีเหลือง หมายถึง การปฏิเสธ ฯลฯ

ดอกคาร์เนชั่นสีแดง เป็นดอกไม้ประจำวันแม่ของชาวญี่ปุ่น เป็นของขวัญวันแม่ที่ทรงคุณค่ามากที่สุด

สถานที่ชมคาร์เนชั่นในญี่ปุ่น ได้แก่ เมืองยามาโตะ โคริยามะ เมืองเล็กๆในจังหวัดนารา และสามารถหาชมได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น

ดอกทิวลิปสีแดง (Akai Churippu, 赤いチューリップ) บานสะพรั่งช่วงกลางเดือนมีนาคม – เดือนเมษายน

ความหมายในภาษาดอกไม้ คือ การมีชื่อเสียง

ความหมายของตะวันตก หมายถึง รักอันเป็นนิรันดร์

ดอกทิวลิปสีแดงมีความหมายในทางที่ดีและโรแมนติกแบบสุดๆ เป็นตัวแทนขแงพลังบวกทุกชนิดก็ว่าได้ ในขณะที่ ”ดอกทิวลิปสีเหลือง (Kiiroichurippu, 黄色 チューリップ)” กลับมีความหมายในเชิงลบทั้งในความเชื่อญี่ปุ่นและตะวันตก คือ “ความรักที่ไม่สมหวัง” นั่นเอง

สถานที่ชมดอกทิวลิปในประเทศญี่ปุ่น: ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ได้แก่ ที่เมืองซากุระ ในจังหวัดชิบะ ที่จะมีการจัดงานเทศกาล “Sakura Tulip Festa หรือ เทศกาลชมดอกทิวลิปแห่งเมืองซากุระ” ในวันที่ 1-29 เมษายน ของทุกปี


ดอกเนโมฟีล่า (Nemophila, ネモフィラ) บานสะพรั่งที่สุดช่วงปลายเดือนเมษายน – กลางเดือนพฤษภาคม

ความหมายในภาษาดอกไม้ หมายถึง ความน่ารักน่าเอ็นดู หัวใจที่สดใส

ความหมายของตะวันตก หากแปลจากรากศัพท์ภาษากรีก จะมีความหมายว่า “ทุ่งแห่งความรัก”

ดอกเนโมฟีล่า มีชื่อเรียกอีกชื่อ คือ “Baby Blue Eyes” แปลตรงตัวว่า “นัยน์ตาสีฟ้าของเด็กทารก” ซึ่งเป็นความหมายที่ตรงกับภาพของดอกไม้พันธุ์เล็กชนิดนี้ที่งดงามตราตรึงใจราวกับดวงจาสีฟ้าของเด็กน้อย โดยดอกเนโมฟิลา จะบานสะพรั่งเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น

สถานที่ชมดอกเนโมฟีล่าในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Hitashi Seaside Park จังหวัดอิบารากิ ฯลฯ


อย่างไรก็ตาม ความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดที่กล่าวมาเบื้องต้น จะถูกแปลแตกต่างกันไปตามความเชื่อของแต่ละคน ซึ่งแม้แต่ในภาษาดอกไม้ของญี่ปุ่นเอง ก็ยังถูกแปลไปในความหมายที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น หากคุณต้องการใช้ดอกไม้เป็นสื่อกลางแทนใจจริงๆ อย่าลืมบอกใบ้เป็นนัยๆให้ผู้รับสักนิดนึงนะ รับรองว่าจะเป็นอะไรที่น่ารัก แถมยังดูสนุกน่าค้นหาไปในตัวอีกด้วย

By Pok Safin

18716_CV-1ccea5e9
ทุ่งดอกไม้หลากสีทั่วญี่ปุ่น...ที่คุณห้ามพลาด!ในวันที่ท้องฟ้าสว่างสดใส คงดีไม่น้อยหากได้เดินทอดน่องช้าๆ เพื่อชื่นช...

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://hitachikaihin.jp/en/flowers/nemophila/

https://travel.trueid.net/detail/4klYGjyZQ72

https://www.daco-thai.com/kiku-sakura-national-flower/

https://www.ashikaga.co.jp/season/season03.html

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!