ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

What to wear in Japan – ไอเดียการแต่งตัวสำหรับเที่ยวญี่ปุ่น

Dress Cover

What to wear in Japan

ไอเดียการแต่งตัวสำหรับเที่ยวญี่ปุ่น

ว่าด้วยเรื่องแฟชั่น! แน่นอนว่า ด้วยสภาพสังคมเช่นนี้ เทรนด์การแต่งตัวคงไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เปิดตู้เสื้อผ้าของคุณดู ชุดส่วนใหญ่ก็ยังคงสวยทันสมัยและไม่เอ้าท์แต่อย่างใด จะมีก็แต่ “หน้ากากอนามัย” นี่แหละ ที่ถือเป็นไอเท่มใหม่สำคัญในยุคปัจจุบัน สำคัญในระดับที่แทบจะเป็นอีกอวัยวะของร่างกายไปแล้ว และสายคล้องแมสก์ก็กลายเป็นแฟชั่นสุดฮิตขึ้นมาทันทีอย่างช่วยไม่ได้

วันนี้เราเลยมีไอเดียการแต่งตัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นมานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางสำหรับทริปหน้าของเพื่อนๆทุกคน (เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายมากขึ้นกว่านี้)!

ไอเดียการแต่งตัวเที่ยวญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม/ เมษายน/ พฤษภาคม)

ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม/ เมษายน/ พฤษภาคม) เป็นฤดูแห่งการผลัดใบ อากาศยังหนาวเย็นแต่จะค่อยๆเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส ไอเดียสำหรับการแต่งตัว จึงควรเป็นเสื้อผ้าที่เบาสบายแต่ยังคงให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายได้ เช่น เสื้อสเว็ตเตอร์ + กางเกงขายาว ใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบ

1.1. เดือนมีนาคม: เดือนแรกของฤดูใบไม้ผลิ อากาศยังคงหนาว อุณหภูมิปกติจะอยู่ประมาณ 13 องศา แต่จะหนาวมากในช่วงเช้ามืด อุณหภูมิอาจลดถึง 10 องศา การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: ใส่เสื้อตัวในที่ให้ความอบอุ่น เช่น เสื้อแขนยาว หรือ สเวตเตอร์ ฯลฯ  กางเกงยีนส์เนื้อหนา หรือจะเป็นเลกกิ้งแล้วใส่กระโปรงด้านนอก จากนั้นใส่ทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาวหรือแจ็คเก็ตแฟชั่นตัวยาว คู่กับรองเท้าบูธหรือรองเท้าผ้าใบสวยๆ เสริมด้วยแอคเซสซอรี่สวยๆ เช่น หมวกไหมพรม ที่ครอบหู ผ้าพันคอ เป็นต้น การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: ใส่เสื้อตัวในที่ให้ความอบอุ่น เช่น เสื้อแขนยาว หรือ สเวตเตอร์ ฯลฯ  กางเกงยีนส์หรือสแล็คเนื้อหนา หรืออาจเปลี่ยนเป็นกางเกงวอร์มกันหนาวก็ได้ จากนั้นใส่ทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาวหรือแจ็คเก็ตแฟชั่นตัวยาว คู่กับรองเท้าบูธหรือรองเท้าผ้าใบเท่ๆ ส่วนแอคเซสซอรี่ ก็ได้แก่ หมวกไหมพรม ผ้าพันคอ เป็นต้น 1.2. เดือนเมษายน: เดือนที่ดอกซากุระบาน อากาศจะเริ่มอบอุ่นแต่ยังคงเย็นสบาย แต่อาจร้อนหรือเย็นกว่าปกติขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละวัน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ 15 องศา เริ่มมีฝนตกและบางวันอาจตกหนัก การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อยืดแขนยาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตผ้าร่ม หรือใส่สเวตเตอร์เดี่ยวๆเลยก็ได้ กางเกงยีนส์หรือกางเกงขายาวธรรมดา รองเท้าผ้าใบหรือหุ้มส้นที่ใส่สบาย อย่าลืมพกร่มพับได้หรือเสื้อกันฝนสวยๆสักตัว การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อยืดแขนยาวผ้าไม่หนามาก สวมทับด้วยแจ็คเก็ตผ้าร่ม รองเท้าผ้าใบหรือหุ้มส้นที่ใส่สบาย 1.3. เดือนพฤษภาคม: เดือนที่มีอากาศอบอุ่นที่สุดของฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิเริ่มตั้งแต่ 15 องศา และอาจสูงถึง 20 องศาในบางพื้นที่ มีฝนตกน้อยกว่าเดือนเมษายน การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อยืดแขนยาว เสื้อฮู้ดหรือสเวตเตอร์ตัวไม่หนามาก กางเกงขายาว หรือกระโปรงที่มิดชิด การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อยืดเนื้อผ้าไม่หนาไม่บาง ทับด้วยแจ็คเก็ตตัวบาง รองเท้าผ้าใบหรือหุ้มส้นใส่สบาย ดูตัวอย่างเพิ่มเติม: https://shopee.co.th/lucky72.th https://shopee.co.th/g0_wmr9vfs

ฤดูฝนและฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน/ กรกฏาคม/ สิงหาคม)

ด้วยอิทธิพลของลมมรสุม ทำให้มีฝนตกเกือบทุกวัน นอกจากนั้น สภาพอากาศยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ต้องพกร่มและยาแก้ไข้ติดตัวด้วย สำหรับไอเดียการแต่งตัวสำหรับฤดูที่ทั้งร้อนและชื้นแบบนี้ จึงควรเป็นเสื้อผ้าที่โปร่งสบายและคล่องตัว เช่น เสื้อยืดแขนสั้น + กางเกงขาสั้น ใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล เป็นต้น

2.1. เดือนมิถุนายน: ถือว่าอยู่ในย่านฤดูฝนที่อากาศยังไม่ถึงกับร้อนมาก แต่มีความชื้นในอากาศสูง ทำให้มีฝนตกเกือบทุกวัน การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อผ้าเนื้อบาง อาจจะเป็นเสื้อยืดแขนสั้น หรือเสื้อเชิ้ตผ้าบาง กางเกงขายาวเนื้อผ้าใส่สบาย หรืออาจจะเป็นกางเกงยีนส์ขาสั้น กระโปรงสั้น หรือเดรสยาวชิ้นเดียว รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล อย่าลืมเสื้อกันฝนและร่มแฟชั่น การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อยืดแขนสั้น หรือเสื้อผ้าเนื้อบาง กางเกงยีนส์หรือกางเกงผ้าร่มใส่สบาย รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล อย่าลืมเสื้อกันฝนและร่มแฟชั่น จะพกแว่นกันแดดด้วยก็ได้นะ 2.2. เดือนกรกฏาคม: เรียกว่าเป็นฤดูร้อนที่ยังมีฝน อุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดือนมิถุนายน แต่จะลดลงเมื่อฝนตก มีแดดร้อน การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อผ้าเนื้อบาง กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นแบบพลิ้วตามลม แจ็คเก็ตตัวบางสำหรับกันแดด รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล หมวกแฟชั่นและแว่นกันแดด และยังต้องพกร่มและเสื้อกันฝนติดตัวไว้เสมอ การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อผ้าเนื้อบาง กางเกงยีนส์หรือกางเกงผ้าขาสั้น แจ็คเก็ตตัวบางสำหรับกันแดด รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล หมวกแคปและแว่นกันแดด และยังต้องพกร่มและเสื้อกันฝนติดตัวไว้เสมอ 2.3. เดือนสิงหาคม: เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในรอบปี โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีอาคารสูงที่ดูดซับไอร้อนจากแดดและบังทางลม ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทและไม่มีฝนตก ทำให้อากาศร้อนตลอดวัน อุณหภูมิมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี มีรายงานพบผู้มีอาการ Heatstroke เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อผ้าเนื้อบาง เสื้อแขนกุดหรือเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงบางพลิ้ว แจ็คเก็ตตัวบางสำหรับกันแดด รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล หมวกแฟชั่นและแว่นกันแดด อย่าลืมพกร่มกันแดดและทิชชู่เปียกไว้ซับเหงื่อระหว่างวัน การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อผ้าเนื้อบาง เสื้อแขนกุดหรือเสื้อกล้าม กางเกงยีนส์ขาสั้น หรือกางเกงผ้าเนื้อบางขาสั้น แจ็คเก็ตตัวบางสำหรับกันแดด รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะแบบแซนดัล หมวกแคปและแว่นกันแดด พกทิชชู่เปียกไว้คอยซับเหงื่อระหว่างวัน

ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน/ ตุลาคม/ พฤศจิกายน)

ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน/ ตุลาคม/ พฤศจิกายน) เป็นฤดูกาลที่สวยงามที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ เพราะทั่วทั้งญี่ปุ่นจะถูกปกคลุมไปด้วยสีสันอันงดงามจากใบไม้เปลี่ยนสี อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศและอุณหภูมิจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดทั้งวันเนื่องมาจากอิทธิพลของลมมรสุม ไอเดียในการแต่งตัว น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบายและให้ความอบอุ่นเนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็น แล้วสวมทับเป็นชั้นๆเพื่อง่ายต่อการปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศ หรือจะใส่ยูกาตะเดินชมเมือง ก็เป็นอีกหนึ่งแฟชั่นที่นิยมอย่างมากในญี่ปุ่น 3.1. เดือนกันยายน: แม้จะเพิ่งผ่านพ้นซัมเมอร์ไป แต่กลิ่นไอความร้อนก็ลดลงไปมาก เป็นเดือนเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วงที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ทำให้มีฝนตกหนักบ้างเป็นบางวัน นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงเดือนนี้ ควรเช็คสภาพอากาศในแต่ละวันให้แน่นอนก่อนออกไปข้างนอก การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อแขนสั้น หรือเสื้อแขนยาวตัวบาง กระโปรงยาว หรือเดรสยาวตัวเดียว สวมทับด้วยเสื้อคาร์ดิแกนสีสันสดใส รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าส้นแบนใส่สบาย อย่าลืมพกร่มติดตัวไปด้วย การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อเชิ้ต หรือ เสื้อยืดทั่วไป เน้นแขนสั้นหรือแขนยาวกลางๆ กางเกงยีนส์ สวมทับด้วยแจ็คเก็ตหรือเสื้อคาร์ดิแกนตัวบางสำหรับผู้ชาย รองเท้าผ้าใบเท่ๆ พกผ้าเช็ดหน้าแบบแนวๆไปด้วยก็ดูเก๋ไปอีกแบบ 3.2. เดือนตุลาคม: เรียกได้ว่าเป็นเดือนที่บรรยากาศดีที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ เพราะไม่มีมวลอากาศร้อนมากวนใจอีกต่อไป ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 18 องศา อีกทั้งลมประจำฤดูได้พัดพาความกดอากาศจากลมมรสุมออกไป ทำให้แทบจะไม่มีฝนตก เหมาะอย่างมากกับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการเที่ยวชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสี การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อทั่วไป กางเกงยีนส์เดนิ่มใส่สบาย หรือจะใส่เดรสยาวตัวเดียวแล้วทับด้วยเสื้อคลุมกันลม หรือคาร์ดิแกนสีสดใส ใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าส้นแบนใส่สบาย เติมความน่ารักด้วยผ้าพันคอหรือถุงมือสักคู่ก็ดูดีแล้ว การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อยืดทั่วไป กางเกงยีนส์ผ้าหนาแต่ใส่สบาย เสื้อคลุมกันลมหรือแจ็คเก็ตเท่ๆที่ผ้าไม่หนามาก เติมความเท่ด้วยรองเท้าผ้าใบ กับผ้าเช็ดหน้าสไตล์วินเทจ ที่เข้ากันได้ดี 3.3. เดือนพฤศจิกายน: เป็นเดือนที่อากาศเริ่มเย็นลง หลายๆสถานที่เริ่มมีการตกแต่งอาคารที่พักเพื่อต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะย่างกรายเข้ามา อุณหภูมิในบางวันลดต่ำลงถึง 10 องศา ไอเดียในการแต่งตัว จึงควรมีเสื้อโค้ทกันหนาวตัวบางหรือแจ็คเก็ตคลุมทับให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อสเว็ตเตอร์ หรือคาร์ดิแกน กางเกงยีนส์ เสื้อโค้ทกันหนาวตัวบาง หรือแจ็คเก็ตกันหนาว ใส่คู่รองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ประดับด้วยผ้าพันคอ หมวกและถุงมือ เป็นต้น การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: เสื้อเชิ้ตแขนยาวหรือเสื้อไหมพรม กางเกงยีนส์ เสื้อโค้ทกันหนาวตัวบาง หรือแจ็คเก็ตกันหนาว ใส่คู่รองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบเท่ๆ จะใส่หมวกไหมพรมเพิ่มความคูลด้วยก็ได้

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม: https://shopee.co.th/anneecloset https://shopee.co.th/style.co

ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม/ มกราคม/ กุมภาพันธ์)

สภาพอากาศโดยทั่วไปจะหนาวเย็นและแห้งในระดับที่แทบจะไม่มีความชื้นในอากาศ อุณหภูมิจะอยู่ตั้งแต่ 15 องศา ลดลงไปเรื่อยๆจนถึงติดลบ ช่วงเวลากลางวันจะสั้นกว่ากลางคืน โดยบางแห่ง พระอาทิตย์จะตกดินตั้งแต่ประมาณ 4-5 โมงเย็น ไอเดียในการแต่งตัวจึงต้องเน้นเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เสื้อโค้ทกันหนาวเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าใส่สบายทับกันเป็นชั้นๆยังคงจำเป็นอยู่ เพราะอากาศภายนอกและภายในอาคารค่อนข้างแตกต่างกันตามแต่ละสถานที่ ควรพกลิปบาล์มไว้เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากอันแห้งผาก 4.1. เดือนธันวาคม: บรรยากาศแทบไม่หลงเหลือกลิ่นอายของฤดูใบไม้ร่วง อากาศหนาวเย็น มีหิมะตกในหลายพื้นที่ และจะตกหนักตั้งแต่กลางเดือนเป็นต้นไป พระอาทิตย์ตกดินตั้งแต่ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นเดือนที่พระอาทิตย์ตกเร็วที่สุดในรอบปี อุณหภูมิระหว่างกลางวันกับกลางคืนแตกต่างกันมาก การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อยืดหนานุ่มที่ให้ความอบอุ่น กับสเว็ตเตอร์ตัวหนา กางเกงขายาว สวมทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาวหรือแจ็คเก็ตกันหนาวตัวยาว สวมคู่กับรองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ประดับด้วยผ้าพันคอ หมวกและถุงมือไหมพรม การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: คล้ายกับการแต่งกายของผู้หญิง คือใส่เสื้อด้านในที่ให้ความอบอุ่น กางเกงขายาว สวมทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาวหรือแจ็คเก็ตกันหนาวตัวยาว รองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ประดับด้วยผ้าพันคอ หมวกและถุงมือไหมพรม 4.2. เดือนมกราคม: เป็นเดือนที่หนาวเย็นที่สุดในรอบปีของญี่ปุ่น โดยเฉพาะช่วงวันที่ 20-21 ที่จะเป็นวันเริ่มของ “ไดกัน” หรือฤดูที่หนาวเย็นที่สุด ไอเดียในการแต่งตัวจึงต้องเน้นความอบอุ่นแก่ร่างกายถึงขั้นสุด การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อไหมพรมหรือเสื้อด้านในบุขนหรือเส้นใยที่ให้ความอบอุ่น กางเกงขายาว แจ็ตเก็ตกันหนาวตัวยาวผ้าบาง สวมทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาวผ้าวูล สวมคู่กับรองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ถุงเท้าหนานุ่ม เสริมด้วยผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ ที่ครอบหู รวมไปถึงเตรียมรองเท้าสำหรับลุยหิมะไปด้วย การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: สเว็ตเตอร์ตัวหนาหรือเสื้อไหมพรมหนานุ่ม กางเกงขายาว แจ็คเก็ตกันหนาวตัวยาว และสวมทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาว ใส่คู่กับรองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ถุงเท้าหนานุ่ม ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ ที่ครอบหู และรองเท้าสำหรับลุยหิมะ 4.3. เดือนกุมภาพันธ์: กลิ่นไอความเย็นเฉียบยังคงอยู่ หิมะพอตกให้เห็นบ้างไม่มากมาย อุณหภูมิอบอุ่นขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา อากาศดีต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ หายใจสะดวกขึ้นมากจริงๆ การแต่งกายสำหรับผู้หญิง: เสื้อฮู้ดกันหนาว เสื้อสเว็ตเตอร์ หรือเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น เสื้อโค้ทกันหนาวผ้าวูลหรือแจ็คเก็ตกันหนาว ยังคงต้องใส่คู่กับรองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ถุงเท้าหนานุ่ม ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ และที่ครอบหู การแต่งกายสำหรับผู้ชาย: สเว็ตเตอร์ตัวหนา หรือเสื้อไหมพรม กางเกงขายาว แจ็คเก็ตกันหนาวตัวยาว และสวมทับด้วยเสื้อโค้ทกันหนาว ใส่คู่กับรองเท้าบู้ทหรือรองเท้าผ้าใบ ถุงเท้าหนานุ่ม ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม: https://shopee.co.th/ready4girl

มารยาทและข้อแนะนำในการแต่งกายที่ญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยว

  1. ไม่มีข้อกำหนดเรื่องการแต่งตัว เราสามารถใส่กางเกงขาสั้น หรือเสื้อแขนกุด ได้ในสถานที่ปกติ แต่หากต้องเข้าไปในวัดหรือศาลเจ้า อาจต้องแต่งกายให้สุภาพมากขึ้น
  2. สามารถใส่ยูกาตะเดินตามสถานที่ทั่วไปได้
  3. ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดรึงเน้นสัดส่วนจนเกินไป เมื่อต้องอยู่ในที่รโหฐาน (เว้นแต่คุณอยู่ในศูนย์รวมแฟชั่นโดยตรง)
  4. พยายามใส่เสื้อผ้าที่ตัดเย็บเรียบร้อย ถุงเท้าขาดหรือเป็นรู ดูจะไม่เหมาะสมอย่างมาก เพราะคุณต้องถอดรองเท้าสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ไหว้พระ หรือ เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เป็นต้น
  5. สามารถใส่กางเกงยีนส์ได้ แต่ยีนส์ไม่ได้เป็นที่นิยมนักสำหรับผู้คนตามหมู่บ้านชานเมือง ดังนั้นถ้าเปลี่ยนจากสียีนส์เดนิ่ม เป็นยีนส์ดำ น่าจะปรับตัวเข้ากับสถานที่ได้ง่ายขึ้น
  6. ในวันที่อากาศหนาวมากๆ ให้พยายามใส่เสื้อเป็นชั้นๆเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดีกว่าใส่เสื้อตัวหนาๆแค่ตัวเดียว เพราะภายในและภายนอกอาคารนั้นแตกต่างกันมาก คงจะดีกว่าถ้าใส่เสื้อตัวบางลงเมื่ออยู่ในห้องที่อบอุ่น
  7. พยายามแต่งกายมิดชิดแต่สะดวกคล่องตัว เผื่อต้องเข้าห้องน้ำสาธารณะ สวมรองเท้าที่ถอดและใส่กลับไม่ยาก เช่น รองเท้าผ้าใบส้นไม่สูงมาก เพราะคุณต้องถอดรองเท้าสำหรับทำกิจกรรมหลายอย่างในแต่ละวัน

winter (1)
แนะนำอุปกรณ์กันหนาว from Japan “บางแต่อุ่น”ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีหิมะตกมากในเขตเอเชีย ทำให้ฤดูหนา...
โยะโกโคเกนรีสอร์ท YAP
5 ที่เล่นหิมะไปง่าย ใกล้โอซาก้ารู้กันหรือยังคะว่าถ้าอยากเล่นหิมะไม่ต้องไปไกลถึงฮอกไกโดก็ได้ แค่ออกจ...

ค้นหา JR Pass ราคาถูกใน Klook


By Pok Safin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!