ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวโทจิงิเพียงนั่งรถไฟ 50 นาทีจากโตเกียว เพื่อมาสัมผัส 7 สถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่โด่งดังในฤดูใบไม้ผลิในโทจิงิ

ภูมิภาค
หัวข้อที่เกี่ยว
|
|
s-0000

คุณรู้จักจังหวัดโทจิงิหรือไม่?

แน่นอนถ้าคุณเป็นแฟนตัวยงในการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น คุณต้องรู้จักอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณยังรู้สึกไม่คุ้นหู หากเราพูดถึงนิกโกแล้วล่ะก็ ทุกคนต้องร้องอ๋อกันแน่นอนเลย เพราะนิกโกตั้งอยู่ในจังหวัดโทจิงินั่นเองครับ โดยนอกจากเมืองนิกโกแล้ว จังหวัดโทจิงิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมายที่รอให้ทุกคนสัมผัส หากคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่และต้องการไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยวางแผนที่จะเดินทางในภูมิภาคคันโต ไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนโทจิงินะครับ

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับการเที่ยวชมและอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดโทจิงิ ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 50 นาทีโดยรถไฟจากโตเกียว!

จังหวัดโทจิงิอยู่ที่ไหน

อันดับแรกหากใครไม่รู้ว่าโทจิงิอยู่ที่ไหน เราขอแนะนำดังนี้ครับ จังหวัดโทจิงิมีพื้นที่ 6,408.09 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตอนบนของภูมิภาคคันโต และมีอาณาเขตติดต่อกับภูมิภาคโทโฮกุ โดยพรมแดนด้านทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดฟูกูชิมะ ส่วนอีกสามด้านล้อมรอบด้วยจังหวัดในภูมิภาคคันโตสามจังหวัด

CR : https://en.wikipedia.org/wiki/Tochigi_Prefecture

การเดินทางมายังจังหวัดโทจิงิจากโตเกียว

สามารถเดินทางมาได้หลายวิธี ทางที่สะดวกที่สุดและรวดเร็วนั้นก็คือรถไฟ ซึ่งใช้เวลาเดินทางมาถึงยังเมืองอุตสึโนมิยะซึ่งอยู่ใจกลางจังหวัดโทจิงิโดยใช้เวลาเพียง 50นาที จากนั้นสามารถนั่งรถไฟสายท้องถิ่นเดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองอื่นๆได้เลย

CR – https://travel.tochigiji.or.jp/th/transport/

หากท่านใดมี JR Railpass, JR Tokyo Widepass หรือ JR Eastpass สามารถใช้เดินทางไปยังโทจิงิโดยรถไฟของ JR ได้เลยครับ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้ว สะดวกและประหยัดมากครับ หรือหากใครเดินทางหลายคน หรือเดินทางกับผู้ใหญ่ แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับท่องเที่ยวจากโตเกียวก็สะดวกดีครับ สามารถแวะเที่ยวได้ตลอดเส้นทางในจังหวัดโทจิงิได้เลย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงฤดูใบไม้ผลิของโทจิงิมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ

สถานที่ท่องเที่ยวในโทจิงิ: สวนดอกไม้อาชิคางะ

สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ถือว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สวนดอกไม้อาชิคางะ. สามารถเข้าชมดอกไม้ตามฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ ซุ้มต้นวิสทีเรียหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า ดอกฟูจิ ต้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุถึง 150 ปี โดยที่กิ่งของต้นวิสทีเรียนั้นสามารถแผ่กิ่งก้านไปได้มากกว่า 1,000 ตารางเมตร โดยช่วงที่ดอกวิสทีเรียบานสะพรั่งและสวยงามที่สุดคือช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมครับ ทั้งดอกวิสทีเรียยังมีหลากหลายสี ทั้งสีม่วง ชมพู ขาว เหลือง นอกจากที่ในฤดูอื่นๆยังมีดอกไม้ตามฤดูกาลให้ได้เยี่ยมชม และบานสะพรั่งเต็มสวนตลอดทั้งปี ใครได้มาเที่ยวจังหวัดโทจิงิห้ามพลาดที่จะมาเยือนที่นี่นะครับ


ค่าเข้าชม – ผู้ใหญ่ ตั้งแต่ 300 – 1800 เยน เด็กตั้งแต่ 100 – 900 เยน โดยค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาของดอกไม้บาน
วันเปิดปิด – สวนเปิดให้บริการตลอดทั้งปี ปิดเฉพาะช่วงวันพุธ,พฤหัสบดีที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์และวันที่ 31 ธันวาคม เวลาเปิดทำการ 9:00 – 18:00 (ในฤดูร้อนและฤดูหนาวเปิด 10:00 – 17:00 และช่วงเทศกาลประดับไฟจะปิดให้บริการดึกกว่าปกติ)
สถานที่ตั้ง – 607 ตำบลฮาซามะ อำเภออาชิคางะ จังหวัดโทจิงิ
การเดินทาง – การเดินทางไปสวนดอกไม้อาชิคางะ สามารถไปได้หลายวิธี แต่เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือทางรถไฟ โดยคุณสามารถนั่งรถไฟจากโตเกียวเพื่อไปยังสถานีสวนดอกไม้อาชิคางะได้เลย. โดยตัวสถานีตั้งอยู่ด้านหน้าของสวนดอกไม้ เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็จะได้ชมดอกไม้สวยๆกันแล้วครับ และหากใครมี JR Railpass , JR Tokyo Widepass , JR East Pass ก็สามารถใช้เดินทางมายังสวนดอกไม้อาชิคางะได้ฟรีๆ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มครับ
และหากใครเช่ารถขับเองก็เดินทางง่ายๆ โดยใช้เส้นทางทางด่วน โตโฮคุ ลงที่ด่านซาโนะ ฟุจิโอกะ แล้วขับรถมาอีกไม่ไกล (ประมาณ 20 นาที) ก็จะถึงสวนดอกไม้อาชิคางะครับ. ที่จอดรถเยอะมาก ไม่ต้องเป็นห่วงครับ
Website – https://www.ashikaga.co.jp/thailand/index.html

CR : https://www.ashikaga.co.jp/thailand/access.html

สวน Ichikaicho Shibazakura

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม บริเวณสวน Ichikaicho Shibazakura จะปกคลุมไปด้วยสีชมพูของมอสสีชมพูกว่า 200,000 ต้นที่บานสะพรั่งพร้อมกันในพื้นที่กว่า 2.4 เฮกเตอร์ ซึ่งเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงามสุดๆ โดยคนญี่ปุ่นนิยมพาครอบครัวออกมาปิกนิกกัน หรือไปรับประทานอาหารที่ร้าน Hana ซึ่งมีอาหารขึ้นชื่ออย่างเส้นโซบะที่ทำเองและนำผักที่ปลูกจากท้องถิ่นมาประกอบอาหาร เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชมสักครั้งหนึ่งครับ


ค่าเข้าชม – ฟรี
วันเปิดปิด – แนะนำไปช่วงกลางเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
สถานที่ตั้ง – 614-1 Miage, Ichikai-machi, Haga-gun, Tochigi
การเดินทาง – ทางรถไฟให้นั่งรถไฟจากโตเกียวไปลงที่สถานี JR Karasuyama จากนั้นเดินทางต่อด้วย Taxi อีกประมาณ 15 นาที
ทางรถยนต์ – เดินทางจากโตเกียวด้วยทางด่วนสายคิตะ – คันโต ลงด่าน Utsunomiya-Kaminokawa IC และขับรถต่อไปอีกประมาณ 40 นาที
Website – https://travel.tochigiji.or.jp/th/things-to-do/59/

สวนสนุก Edo Wonderland (Nikko Edomura)

Edo Wonderland (Nikko Edomura) เป็นสวนสนุกขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองนิกโกะ จังหวัดโทจิงิ บรรากาศภายในสวนสนุกแห่งนี้เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนสวนสนุกไหนในโลก คือจะทำให้คุณรู้สึกย้อนอดีตไปสู่ยุคสมัยเอโดะช่วงปี ค.ศ.1603 – 1868 ทั้งสถาปัตยกรรม ตัวอาคาร กิจกรรมต่างๆรวมถึงการแต่งกายแบบชาวเมืองโบราณ ชุดนินจา และเหล่าซามูไร นักท่องเที่ยวสามาถเช่าชุดและนำมาสวมใส่เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของที่นี่ได้เลยครับ ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้มีเครื่องเล่นหวาดเสียวเหมือนสวนสนุกอื่นๆ ทั่วไป แต่ยังมีกิจกรรมต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่นี่ที่จะทำให้คุณรู้สึกสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นวงกตนินจา บ้านภาพลวงตา บ้านผีญี่ปุ่น (น่ากลัวมาก) หรือการแสดงในโรงละครที่ย้อนไปยังยุคสมัยเอโดะ รับรองว่าหากคุณได้มาที่นี่คุณจะมีความสุขกับบรรยากาศและกิจกรรมต่างๆของที่นี่อย่างแน่นอนครับ


ค่าเข้าชม – 4,700 เยน (ช่วงบ่ายลดเหลือ. 4,100 เยน)
เวลาเปิดปิด – ปิดทำการทุกวันพุธ และวันที่ 8-21 เดือนธันวาคม โดยเปิดทำการตั้งแต่ 9:00 – 17:00 (ฤดูหนาว 9:30 – 16:00)
สถานที่ตั้ง – 470-2, Karakura Nikko-shi, Tochigi
การเดินทาง – จากสถานีรถไฟ Kinugawa Onsen ของรถไฟ Tobu สาย Kidogawa แล้วต่อรถโดยสาร Tobu bus ไปลงที่ Nikko Edomura (20 นาที 410 เยน บัสออกทุกๆ 20-30 นาที) สามารถใช้ตั๋ว Kinugawa Themepark Pass และ Marugoto Nikko Kinugawa Free Pass ได้
มีบริการรถบัสฟรีจาก Nikko Edomura ไปยัง Fujiya Kanko Center ใกล้ศาลเจ้าโทโชกุ ให้บริการวันละ 4-5 รอบ ใช้เวลา 35 นาที (บัสบางคันไปถึง JR Nikko Station)
Website – http://edowonderland.net/th/

ความพิเศษของโทชิงิ: Tochiotome (สตรอเบอร์รี่)

โทจิงิ เป็นจังหวัดที่มีการปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีการให้คำนิยามของสตรอเบอร์รี่ที่ปลูกในจังหวัดนี้ว่าเป็น ราชาของสตรอเบอร์รี่ เนื่องมาจากมีการคิดค้นและพัฒนาเทคนิคการปลูกสตรอเบอร์รี่เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี หวาน อร่อย สตรอเบอร์รีโทะจิโอะโทะเมะเป็นพันธุ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและเป็นที่นิยมมากเพราะมีรสชาติหวาน อร่อยที่สุด โดยมีฟาร์มสำหรับปลูกสตรอเบอร์รี่เพื่อขายและส่งออกทั่วจังหวัดโทจิงิ ทั้งนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการทานสตรอเบอร์รี่นั่นคือ การไปเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆจากฟาร์ม โดยกิจกรรมนี้จะจัดช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปเก็บ และกินสตรอเบอร์รี่สดๆจากฟาร์มโดยไม่จำกัด ในเวลา 30 นาที ฟาร์มที่แนะนำได้แก่ Nikko Strawberry Park สามารถชิมแบบบุฟเฟ่ต์ได้เป็นเวลา 30 นาที และยังมีนมข้นหวานสำหรับจิ้มกับสตรอเบอร์รี่อีกด้วย มีสตรอว์เบอร์รี่ 4 สายพันธุ์ประกอบด้วย “โทจิโอโตเมะ” สตรอว์เบอร์รี่ขึ้นชื่อประจำโทจิกิ, “สกายเบอร์รี่” สตรอว์เบอร์รี่สายพันธุ์ใหม่ ที่มีต้นกำเนิดในโทจิกิ, “เบนิฮอปเปะ” และ “ยาโยอิฮิเมะ”


ค่าเข้าชม – 1,600 – 1,800 เยนตามช่วงเวลา
*แนะนำให้จองบัตรเข้าสถานที่ล่วงหน้าจะได้สิทธิ์เข้าสถานที่ก่อนคนที่มาซื้อบัตรที่หน้าทางเข้าครับ สามารถจองบัตรได้ที่ [email protected] (จส่งอีเมล์จองเป็นภาษาอังกฤษได้, หากเป็นคณะทัวร์มากกว่า 20 คน ต้องจองบัตรล่วงหน้าเท่านั้น)
เวลาเปิดปิด – 8 ธันวาคม ถึง ต้นเดือนมิถุนายน ของทุกปี ปิดทุกวันอังคาร เวลาทำการ 10:00 – 16:00 (เข้าสวนได้ช้าสุด 15:30)
สถานที่ตั้ง – 3581 Serinuma, Nikkō-shi, Tochigi-ken
การเดินทาง – นั่งรถไฟ JR Nikko Line ลงที่สถานี Imaichi Station หรือ Tobu Line ลงที่สถานี Shimo-imaichi Station จากนั้นนั่งแท็กซี่มายังฟาร์มอีกประมาณ 7 นาที
ทางรถยนต์ นั่งรถยนต์มาจากทางแยกต่างระดับอิมะอิจิบนถนนนิกโก้อุตสึโนะมิยะผ่านทางหลวงสาย 121 ประมาณ 5 กิโลเมตร 15 นาที
Website – http://www.nikkoichigo.com/


*หากคุณสนใจเยี่ยมชมฟาร์มสตรอเบอร์รี่อื่นๆในโทจิงิ, สามารถคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ↓

【Strawberry Kingdom Tochigihttps://www.agrinet.pref.tochigi.lg.jp/strawberry-kingdom-tochigi/th/index.php

สถานที่ท่องเที่ยวในโทชิงิ: Nikko Toshogu และทะเลสาบ Chuzenji

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นเมืองที่รู้จักมากที่สุดของจังหวัดโทจิงิ นิกโกได้รับการยกย่องเป็นเมืองมรดกโลก มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,200 ปี เมืองนิกโกโดดเด่นทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม ศาลเจ้า วัดวาอารามต่างๆที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage Site ในปี ค.ศ.1999 ด้วยโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างอันทรงคุณค่าต่างๆ กว่า 103 รายการ
ศาลเจ้านิกโกโทโชกุ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1617 เป็นสถานที่ฝังศพของ โชกุนผู้ยิ่งใหญ่ Ieyasu Tokugawa โดยการก่อสร้างนั้นได้มีการระดมช่างฝีมือจำนวนมาก พร้อมทั้งมีการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุดในยุคนั้นเพื่อสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้นมา ด้วยความที่รวบรวมช่างฝีมือมากมายทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เต็มไปด้วยงานฝีมืออันประณีตงดงามมากมายด้วยเช่นกัน


ค่าเข้าชม – ผู้ใหญ่ 1,300 เยน เด็ก 450 เยน
เวลาเปิดปิด – 08:00 – 17:00 (ฤดูหนาว 08:00 – 16:00)
สถานที่ตั้ง – 2301 Sannai, Nikko, Tochigi
การเดินทาง – จากสถานีรถไฟ JR อูเอโนะ(Ueno) หรือ โตเกียว(Tokyo Station)
นั่งรถไฟความเร็วสูง ชินคันเซน สาย JR Tohoku ลงสถานี อุทสุโนมิยะ(Utsunomiya) แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย JR Nikko ใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงครึ่ง สามารถใช้ได้กับบัตร JR Pass, JR East Pass และ JR Tokyo Wide Pass จากนั้นต่อ Local Bus สาย World Heritage Bus ลงป้าย Omotesando
Tobu Railways : จากสถานี Tobu-Asakusa ไปลงสถานี Tobu-Nikko เพียงต่อเดียว (ไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟ สะดวกมาก)ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง จากนั้นต่อ Local Bus สาย World Heritage Bus ลงป้าย Omotesando
Website – http://www.toshogu.jp/english


ทะเลสาบ Chuzenji ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเมืองนิกโก โดยทะเลสาบแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟนันไตเมื่อ 20,000 ปีที่ผ่านมา ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,269 เมตรซึ่งถือว่าเป็นทะเลสาบธรรมชาติที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือเที่ยวจาก Chuzenjiko Onsen เพื่อชมวิวธรรมชาติ หรือจะเดินป่ารอบๆทะเลสาบก็ได้เช่นกันครับ


สถานที่ตั้ง – Chugushi, Nikko, Tochigi Prefecture 321-1661 Japan
การเดินทาง – จากสถานี JR Nikko หรือ Tobu Nikko Station ให้โดยสารรถบัสที่ไปยัง Chuzenjiko Onsen หรือ Yumoto Onsen
Website – http://www.nikko-jp.org/index.shtml

สถานที่ท่องเที่ยวโทจิงิ: Nasu Flower World

Nasu Flower World เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา Nasu มีดอกไม้มากมายหลายสีสันทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เต็มไปด้วยดอกกุหลาบ cockscombs ขนนกและ cosmoses ในทุกฤดูยกเว้นฤดูหนาว และไฮไลท์พิเศษของที่นี่คือดอกทิวลิปกว่า 220,000 ต้นที่บานสะพรั่งพร้อมกันในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม รับรองว่าถ้าได้มีโอกาสไปแล้วจะประทับใจอย่างแน่นอนครับ


ค่าเข้าชม – 500 – 1,000 เยน
เวลาเปิดปิด – ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ถึง ช่วงปลายเดือนตุลาคม เวลา 9:00 – 17:00
สถานที่ตั้ง – 5341-1 Oaza-Toyoharahei, Nasu-gun, Nasu-machi, Tochigi
การเดินทาง – ทางรถไฟ เดินทางจากสถานี Tokyo โดยใช้ Tohoku Shinkansen ไปยังสถานี Nasu-Shiobara station ออกประตู West และนั่ง Taxi ต่อไปอีก 60 นาที
Website – http://www.flower-world.net/index.htm

Tochigi Food: Utsunomiya เมืองแห่งเกี๊ยวซ่า

เมือง Utsunomiya นอกจากเป็นเมืองที่หลายๆคนนั่ง Shinkansen จาก Tokyo แล้วมาเปลี่ยนรถไฟที่นี่เพื่อไปยัง Nikko แล้ว ยังมีอาหารขึ้นชื่อที่หลายคนรู้จักและรสชาติดีเยี่ยม จนเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนี้ ได้แก่ เกี๊ยวซ่า มีผู้คนแวะเวียนมาเพื่อกินเกี๊ยวซ่าที่เมืองนี้โดยเฉพาะ จนหลายๆคนขนานนามเมือง Utsunomiya ว่าเป็นเมืองแห่งเกี๊ยวซ่า ความเป็นมาของเมืองเกี๊ยวซ่านี้คือ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทหารญี่ปุ่นที่ไปรบแถวเมืองจีนได้สูตรทำเกี๊ยวกลับมา เมื่อกลับมายัง Utsunomiya จึงแข่งกันทำสูตรต่างๆและเปิดร้านกันทั่วเมือง ทางเมืองจึงทำการโปรโมทอย่างจริงจังถึงขนาดที่มีการก่อตั้งสมาคมเกี๊ยวซ่าอุตสึโนะมิยะในปี 1993 มีสมาชิกถึง 80 ร้าน จึงทำให้เกี๊ยวซ่าของเมืองนี้มีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่น ความพิเศษของเกี๊ยวซ่าเมืองนี้อยู่ที่มีเนื้อสัตว์น้อยกว่าและมีผักมากกว่า และใส่กระเทียมในปริมาณที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับเกี๊ยวซ่าทั่วไป การปรุงเกี๊ยวซ่าเองก็มีความหลากหลาย เช่น ยากิเกี๊ยวซ่า (เกี๊ยวซ่าอบ) ซุยเกี๊ยวซ่า (เกี๊ยวซ่าต้มในน้ำ) และอาเกะเกี๊ยวซ่า (เกี๊ยวซ่าทอด) สำหรับร้านที่แนะนำว่าห้ามพลาดเมื่อไปเยือน ได้แก่ร้านอุตสึโนะมิยะมินมิน ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1958 เป็นร้านยอดนิยมและมีคนมาต่อแถวรอร้านเปิดจำนวนมาก จุดเด่นอยู่ที่ เมนูมีทั้งแบบยากิ (เกี๊ยวซ่าอบ) ซุย (เกี๊ยวซ่าน้ำ) และอาเกะ (เกี๊ยวซ่าทอด) แต่ละเมนูราคา 230 เยน มีกระเทียมน้อยและผักกาดขาวมาก อบด้วยน้ำมันงามันมีรสชาติที่นุ่มนวล

*** หรือหากคุณต้องการความสะดวกสบาย และไม่อยากเดินไกล สามารถไปที่ร้านอุตสึโนะมิยะมินมินอีก 1 สาขา ตั้งอยู่ที่ห้าง Paseo โดยใช้ทางออกด้านตะวันตกของสถานี JR Utsunomiya ได้เลยครับ


[ข้อมูลเพิ่มเติมของร้านอุตสึโนะมิยะมินมิน สาขาหลัก]
ราคา – 230 เยนต่อเมนู
เวลาเปิดปิด – ปิดทุกวันอังคาร และวันพุธเว้นพุธ เวลาทำการ 11:30 – 20:00
สถานที่ตั้ง – 4-2-3 Babadori, Utsunomiya-shi, Tochigi 〒320-0026
การเดินทาง – เดิน 15 นาทีจากสถานี JR Utsunomiya


อีก 1 ร้านที่แนะนำได้แก่ร้าน โครัน โดยร้านนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1959 ผิวเกี๊ยวซ่าของที่นี่นั้นหนาและนุ่ม ดังนั้นเมื่อนำเกี๊ยวซ่าไปทอด ผิวด้านนอกของจะกรอบและด้านในนั้นจะเต็มไปด้วยเนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำ รับประทานเกี๊ยวซ่าคู่กับเกลือเม็ดจะเพิ่มความอร่อยมากเลยครับ


ราคา – 250 เยนต่อเมนู
เวลาเปิดปิด – ปิดเฉพาะวันอังคาร เวลาทำการ 11:30 – 20:00
สถานที่ตั้ง – 1-24 Honcho, Utsunomiya-shi, Tochigi 〒320-0033
การเดินทาง – นั่งรถโดยสาร 5 นาทีจากสถานี JR Utsunomiya, ลงที่ป้าย “Kencho mae bus station” จากนั้นเดินอีกประมาณ 3 นาที

อาหารโทชิกิ: โทจิกิวากิว

เนื้อวัววากิวโทจิงิ เป็นวากิวขึ้นชื่อซึ่งเป็นเนื้อวัวพันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ จุดเด่นของเนื้อวากิวโทจิงิคือความนุ่ม อร่อย มีความหวานฉ่ำของเนื้อ ทั้งยังมีลายไขมันแทรกระหว่างเนื้ออย่างสวยงามทำให้ดูน่าลิ้มลองรสชาติ มีร้านเนื้อวัววากิวโทจิงิกว่า 200 ร้านทั่วจังหวัดโทจิงิ รสชาติดีเยี่ยมทั้งการทานในแบบย่าง สเต็กหรือสุกี้ยากี้ ร้านที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนโทจิงิได้แก่ นิคุโนะฟุคิอะเกะ ที่เป็นร้านสเต็กเนื้อโทจิงิวากิวอันชุ่มฉ่ำ , ร้านอาหารญี่ปุ่น ชิบุยะ ที่มีสุกี้ยากี้และเทปันยากิจากเนื้อวากิวโยอิชิ เนื้อพรีเมียมระดับ A5 ,ร้านยากินิคุโอสึกะ คะนุมะที่มีเนื้อคานุมะวากิวย่างเตาถ่านที่นุ่มและอร่อยมาก. อย่าลืมไปทานกันนะครับ


นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในจังหวัดโทจิงิที่ยังไม่ได้เขียนแนะนำข้างต้น หากมาเที่ยวญี่ปุ่นอย่าลืมใช้เวลาสัก 2-3 วันในการเดินทางไปเที่ยวจังหวัดโทจิงิ แล้วคุณจะได้รับทั้งความสนุก ความประทับใจ และประสบการณ์อันแปลกใหม่และดีเยี่ยมอย่างแน่นอน โทจิงิริคุณไปสำรวจอยู่นะครับ

【The Grace of JAPAN】 https://tochigi.global/the-grace-of-japan-2019/

ดู JR Pass ที่ญี่ปุ่นราคาถูกใน Klook

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

RELATED POST