ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

พาเด็กเที่ยวญี่ปุ่น … 11 ไอเดียที่เที่ยว สนุกได้ทั้งครอบครัว

การเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กไปด้วย นอกจากจะสนุกและอบอุ่นที่ได้เที่ยวกับคนที่รักแล้ว ยังถือว่าเป็นทริปวัดใจเลยก็ว่าได้ เพราะต่อให้น้องๆหนูของแต่ละครอบครัวจะน่ารักเรียบร้อยแค่ไหน ยังไงก็ต้องมีเรื่องให้คุณพ่อคุณแม่ได้ปวดหัวตลอด…ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเด็กๆล่ะ ถึงอย่างนั้น ผู้ใหญ่ทั้งหลายก็ยินดีที่จะพาเด็กๆไปเที่ยวด้วยกันอยู่ดี “ญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่มักจะถูกนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวไทย ยกให้เป็นหมุดหมายหลักในต่างแดนสำหรับ Family Trip อยู่เสมอ แม้จะขึ้นชื่อเรื่องคนเยอะและวุ่นวายตามสไตล์เมืองใหญ่ในโลกที่ 1 แต่ความเป็นกันเองของผู้คนและบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยแบบสุดโต่งกับความอบอุ่นแบบเอเชีย ก็มีเสน่ห์สำหรับคนทุกเพศทุกวัย

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเมื่อพาเด็กๆไปเที่ยวญี่ปุ่น;

  • ความปลอดภัย ซึ่งก็เป็นสิ่งจำเป็นหลักสำหรับการไปเที่ยวทุกที่อยู่แล้ว
  • ระเบียบและธรรมเนียมต่างๆของญี่ปุ่น ทั้งที่บังคับและไม่บังคับ โดยผู้ปกครองควรศึกษาและให้ความรู้กับเด็กๆเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทั้งหลายที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การใช้ตะเกียบ การส่งเสียงดัง การถอดรองเท้า ฯลฯ
  • ความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง หากไม่ได้ขับรถไปเอง แนะนำให้ผู้ปกครองซื้อบัตรโดยสารแบบเหมาตามเมืองต่างๆ เช่น บัตร Suica หรือ Pasmo เพื่อใช้ที่โตเกียว หรือ บัตร Kansai Thru Pass เพื่อเดินทางรอบๆคันไซ ฯลฯ เพราะนอกจากจะประหยัดเวลา ยังหลีกเลี่ยงความวุ่นวายต่างๆได้ด้วย
  • ศึกษาแผนที่และเส้นทางสถานีรถไฟที่เชื่อมจุดต่างๆ หรือถ้าไม่แน่ใจให้กล้าสอบถามคนท้องถิ่น จะช่วยทั้งเรื่องเวลา ค่าใช้จ่าย และความอลหม่านต่างๆด้วย
  • แลกเงินเยนและเงินดอลล่าร์ติดตัวไว้เสมอ เผื่อเหลือเผื่อขาดอะไรจะได้แก้ปัญหาได้ทัน
  • ศึกษาวันเวลาเปิดปิดของสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปให้ดี เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวและเสียเวลาไปเปล่าๆ

++++++++++ ● ++++++++++

สถานที่ในญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับพาเด็กไปเที่ยวชม

1. Tokyo Disneyland และ Disney Sea

พอพูดกันว่าจะพาเด็กๆไปเที่ยวไหนดี? คำตอบแรกที่ผุดขึ้นมาคงหนีไม่พ้น “ดิสนีย์แลนด์” เพราะเด็กกับสวนสนุกยังไงก็เป็นของคู่กันวันยังค่ำ แต่ไม่ใช่แค่เด็กๆเท่านั้นที่จะเพลิดเพลิน แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรายังแทบจะปฏิเสธมนต์เสน่ห์ที่ชวนให้โหยหาอดีตจากเครื่องเล่นและขบวนพาเหรดของเหล่าตัวการ์ตูนดิสนีย์ไม่ได้ ใกล้ๆกับ “ดิสนีย์แลนด์” ยังมี “ดิสนีย์ซี” ซึ่งยังคงมีจุดขายในความเป็นเทพนิยายดิสนีย์ แต่คราวนี้มาโลดแล่นกันบนผืนน้ำ เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสความแปลกแตกต่างจากดิสนีย์แบบเดิม ที่อยู่:

  • Tokyo Disneyland: 1-1 Maihama, Urayasu, Chiba Prefecture, Japan, +81 4 5330 5211
  • Tokyo Disney Sea: 1-13 Maihama, Urayasu, Chiba Prefecture, Japan, +81 5 7000 8632

การเดินทาง: รถไฟ JR สถานี Maihama ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tokyodisneyresort.jp/en/tdl/

Disneysea_181006_0003
Disney Sea ครั้งแรกในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยสวนสนุกมากมายทั้งสวนสนุกสัญชาติตะวันตกอย่าง Tokyo...

+++++++++++++++

2. Universal Studios Japan

ถ้าโตเกียวมีดิสนีย์แลนด์งดงามโดดเด่น โอซาก้าก็มียูนิเวอร์แซลสตูดิโอที่โดดเด่นเช่นกัน เป็นสวนสนุกแบบ Theme Park ระดับต้นๆของเอเชียและมีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากดิสนีย์แลนด์ โดยภายในจะแบ่งโซนตามธีมทั้งหมด 8 โซน ได้แก่ Hollywood, New York, San Francisco, Jurassic Park, Waterworld, Amity Village, Universal Wonderland และ The Wizarding World of Harry Potter โดยเฉพาะโซนหลังสุดที่ได้รับความนิยมสูงมากจริงๆ ที่อยู่: 2 Chome-1-33 Sakurajima, Konohana Ward, Osaka, Japan, +81 5 7020 0606 การเดินทาง: รถไฟ JR สถานี Nishikujo แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.usj.co.jp/web/en/us

อัพเดตช่วงนี้ Universal Studio Japan มีอะไรใหม่ๆบ้าง!สวัสดีค่ะทุกคน ในวันนี้เราจะมาแชร์ว่าเราได้ไปเที่ยว Universal Studio...

+++++++++++++++

3. Studio Ghibli Museum

พิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนความเป็นหนึ่งในสตูดิโอผู้สร้างการ์ตูนแอนิเมชั่นที่ดีที่สุดระดับโลก ไม่ด้อยกว่าดิสนีย์หรือดรีมเวิร์คเลยทีเดียว ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานต่างๆ และมีห้องฉายการ์ตูนของสตูดิโอโดยเฉพาะ รวมไปถึงร้านอาหารและคาเฟ่ ลานแสดงศิลปะและรูปปั้นของตัวการ์ตูนชื่อดัง สนามเด็กเล่น สวนหย่อมบนดาดฟ้า ฯลฯ นับเป็นสถานที่สำหรับเด็กๆและแฟนหนังของสตูดิโอจิบลี่ ที่ไม่น่าเบื่อเลยจริงๆ ที่อยู่: 1 Chome 1-83 Shimorenjaku, Mitaka, Tokyo, Japan, +81 5 7005 5777 การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Chuo Line มาลงที่สถานี Mitaka มีรถของพิพิธภัณฑ์รับส่งถึงที่ ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.ghibli-museum.jp/en/

IMG_0946
GHIBLI MUSEUM ตั๋วหายากแต่เราก็ได้มาพิพิธภัณฑ์สตูดิโอจิบลิ(Studio Ghibli Museum) ตั้งอยู่ที่เมืองมิตะกะ ...

+++++++++++++++

4. แวะสัมผัสความ Trendy ที่ย่านชินจูกุ, ชิบูย่า และฮาราจูกุ

บอกเลยว่าเด็กสมัยนี้ล้ำหน้าผู้ใหญ่อย่างเราไปไกลหลายขุมในเรื่องที่เป็น Trendy ไม่ว่าจะแฟชั่นหรือเทคโนโลยี พาน้องๆหนูๆของคุณไปเปิดโลกแห่งแฟชั่นของวัยรุ่นที่ฮาราจูกุ ดูแก็ดเจ็ทคอมพิวเตอร์มือถือสุดล้ำแถวชินจูกุ แล้วปิดท้ายด้วยการจูงมือเดินข้ามแยกชิบูย่าอันวุ่นวาย อาจจะเหมาะสำหรับเด็กที่โตหน่อย ที่รับรองว่าพวกเขาจะต้องร้องว้าวด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่ได้สัมผัสอย่างแน่นอน การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงสถานี Shinjuku (Yoyogi) – Harajuku – Shibuya เรียงตามสถานีได้เลย ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.gotokyo.org/en/spot/78/index.html

+++++++++++++++

5. เที่ยวเมืองเก่า ไหว้พระขอพรที่วัดและศาลเจ้าในเกียวโต

ไหนๆมาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที จะไม่ให้เข้าวัดไหว้พระหรือแวะสักการะศาลเจ้าสักหน่อยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าทริปของคุณได้โฉบผ่านแถบคันไซ อย่าพลาดแวะเที่ยววัดและศาลเจ้าที่เมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโตด้วย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทั้งงดงามและให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ นอกจากนั้น สถานที่อย่าง วังทอง Kinkakuji หรือ เสาไม้โทริอินับหมื่นที่ศาลเจ้า Fushimi Inari ก็น่าจะทำให้เด็กๆของคุณตื่นตะลึงในความงดงาม (แบบสงบเสงี่ยม) ได้ไม่น้อย การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Tokaido Shinkansen ไปลงที่สถานี Kyoto อย่าลืมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรโดยสารแต่ละประเภทได้ตามศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวด้วยนะ ข้อมูลเพิ่มเติม: https://kyoto.travel/en/

+++++++++++++++

6. เที่ยวชม Fujisan, ภูเขาไฟฟูจิ

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่เด็กๆเคยเห็นมานานจากภาพถ่าย ในหนัง หรือโฆษณา ฯ ในที่สุดวันนี้พวกเขาจะได้เห็นของจริงด้วยตาตัวเองสักที! ถึงแม้การจะได้เห็นภูเขาอันเลื่องชื่อที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนโดยไม่ถูกเมฆบัง อาจจะต้องอาศัยดวงกันสักหน่อย (จริงๆก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น) แต่ไม่ว่าโชคจะเข้าข้างหรือจะทิ้งขว้างคุณไป ทุกคนจะได้เห็นยอดฟูจิซังรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะหรือไม่… จะอย่างไรก็ตาม ทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยจับใจ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังที่อุตส่าห์พาสมาชิกในครอบครัวดั้นด้นมาไกลถึงที่นี่ โดยเฉพาะในฤดูหนาวไปจนถึงช่วงชมดอกซากุระ และในฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีที่จะตราตรึงในใจไปยาวนาน การเดินทาง: นั่งรถไฟไปลงสถานี Mishima จากนั้นต่อรถบัสไปยังสถานีรถบัสคาวากูจิโกะ แล้วใช้บริการ Retro Bus สายพิเศษที่วิ่งรอบทะเลสาบคาวากูจิโกะเพื่อชมความงามรอบภูเขาไฟฟูจิ ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shizuoka-guide.com/english/fujisan/index.html

fuji
มีอะไรบนยอดภูเขาไฟฟูจิ ?ทุกคนรู้จักภูเขาไฟฟูจิ landmark สำคัญของประเทศญี่ปุ่นกันดี และอีกหลา...

+++++++++++++++

7. เดินชิมอาหาร Street Food แสนอร่อย

แน่นอนว่า หนึ่งในสิ่งที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกของประเทศญี่ปุ่นก็คือ อาหารญี่ปุ่น ซึ่งมีรสชาติเลิศเลอไม่ด้อยกว่าชาติไหน และไม่เพียงแค่อาหารชุดระดับภัตตาคารเท่านั้น แต่อาหารข้างทางแบบ Street Food อันเป็นเอกลักษณ์ ก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ทาโกะยากิ ยากิโซบะ ขนมไทยากิ ขนมดังโงะ มันเทศเผา ไปจนถึงอาหารทะเลและอาหารย่างเสียบไม้ประเภทต่างๆ (Yakitori) ที่ต่างก็ล้วนมีรสชาติแสนอร่อยกลมกล่อมละมุนลิ้นพร้อมกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย อันเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยไม่อาจจะต้านทาน ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jrpass.com/blog/japanese-street-food-explained

+++++++++++++++

8. สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

ญี่ปุ่นมีสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหลายแห่งกระจายทั่วประเทศ จากข้อมูลของสมาคมสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำประเทศญี่ปุ่น ปี ค.ศ. 2016 ปัจจุบันมีสวนสัตว์ 89 แห่ง และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ 62 แห่ง มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากอเมริกาเท่านั้น ซึ่งสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในญี่ปุ่นที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนสัตว์อาซาชิยามะ ฮอกไกโด, สวนสัตว์อุเอโนะ โตเกียว, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง โอซาก้า, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูระอุมิ โอกินาว่า เป็นต้น และแน่นอนว่าการไปเที่ยวสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไม่ใช่และไม่เคยเป็นเรื่องสิ้นคิด! เพราะสวนสัตว์คือแหล่งท่องเที่ยวที่ทุกคนในครอบครัวจะได้สัมผัสความน่ารักของสัตว์โลก ทั้งยังช่วยให้เด็กๆ (และผู้ใหญ่) ได้ตระหนักถึงคุณค่าของแต่ละชีวิตบนโลกใบนี้อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติม: สอบถามข้อมูลได้ตามเว็บไซต์ของสวนสัตว์แต่ละแห่งได้ตามลิ้งค์นี้ https://www.jnto.or.th/attractions/animal-garden/

asahiyma
7 สัตว์โลกน่ารัก ที่เห็นได้ที่นี่ Asahiyama Zoo เท่านั้นไปสวนสัตว์เหรอ? ไปทำไมที่ไทยก็มีให้ดู? มาญี่ปุ่นทั้งที ไปหาดูอะไรที่...

+++++++++++++++

9. Tokyo Tower และ Tokyo Sky Tree

พลาดไม่ได้เลยจริงๆสำหรับแลนด์มาร์กสุดปังของกรุงโตเกียว ที่รับรองว่าต้องถูกใจเด็กๆอย่างแน่นอน เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าการได้ขึ้นไปอยู่บนหอคอยสูงเสียดฟ้าแล้วมองลงมาเห็นวิวด้านล่างของโตเกียวทั้งเมือง คือความสนุกและชวนตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ้าตัวน้อยของคุณ แบบที่ว่าพวกเขาจะต้องเก็บเอาประสบการณ์ครั้งนี้ไปเล่าให้เพื่อนที่โรงเรียนฟังได้เป็นวรรคเป็นเวรทั้งปีเลยล่ะ การเดินทาง:

  • Tokyo Tower: นั่งรถไฟ Metropolitan Subway Oedo Line ลงสถานี Akabanebashi แล้วเดินต่อ 5 นาที
  • Tokyo SkyTree: นั่งรถไฟไปลงสถานี Asakusa แล้วเดินต่อ 15 นาที หรือต่อรถไฟ TOBU SKYTREE ไปลงสถานี Tokyo SkyTree

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.tokyo-skytree.jp/

tower
ไปขึ้น Tower ดูวิวมุมสูงของแต่ละเมืองใครที่กำลังมองหากิจกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ขอแนะนำหอดูวิวกลาง...

+++++++++++++++

10. ชวนเด็กๆสัมผัสหิมะหน้าหนาว

การได้วิ่งลุยเกล็ดน้ำแข็งอันอ่อนนุ่มขาวโพลน แล้วช่วยกันปั้นตุ๊กตาหิมะท่ามกลางอากาศเย็นยะเยือกระดับติดลบ นับเป็นความฝันในระดับที่ไม่กล้าฝันของเด็กๆบ้านเราเลยทีเดียว! ซึ่งการเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหิมะก็มีให้เลือกหลายรูปแบบ ถ้าเบาๆหน่อย คุณก็อาจจะแค่พาครอบครัวไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางง่าย เช่น หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หรือศาลเจ้าคิฟุเนะในเกียวโต ฯลฯ หรือจะให้ดูเป็นกิจกรรมที่ยากขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะพาไปเล่นสกีที่รีสอร์ทบนภูเขาทางเหนือ หรือจะผจญภัยแบบฮาร์ดคอร์กว่านั้นด้วยการพาสมาชิกไปล่องเรือตัดธารน้ำแข็ง (Drift Ice) ที่เมืองอะบาชิริ ฮอกไกโด ก็ได้ตามความต้องการ ขึ้นอยู่กับงบประมาณและสถานการณ์จะเอื้ออำนวย ข้อมูลเพิ่มเติม: ศีกษาข้อมูลการเดินทาง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ได้ที่ https://www.jnto.or.th/seasons/winter/december/

+++++++++++++++

11. ย่านโอไดบะ (Odaiba)

เป็นย่านสำคัญในโตเกียว ที่คุณสามารถพาเด็กๆไปเที่ยวเล่นได้อย่างเพลิดเพลินตลอดทั้งวัน เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าและอาหารชื่อดัง โอไดบะยังเป็นแหล่งรวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงความรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “มิไรคัง พิพิธภัณฑ์นวัตกรรมและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” (Miraikan: The National Museum of Emerging Science and Innovation) หรือจะเป็นโลกของเด็กอย่าง KIDZANIA และ Legoland รวมไปถึง “พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล teamLab Borderless เป็นต้น และถ้าคุณอยากเปลี่ยนบรรยากาศ ก็สามารถพาเด็กๆออกมาชื่นชมธรรมชาติที่สวนอุเอโนะ (Ueno Park) แล้วแวะไปสัมผัสความน่ารักของสัตว์โลกได้ที่สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoological Gardens) ที่อยู่ละแวกเดียวกันได้ การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ไปลงสถานี Shimbashi จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ Yurikamome Line ไปลงสถานี Odaiba-Kaihinkoen ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.gotokyo.org/en/destinations/southern-tokyo/odaiba/index.html

5 แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตใกล้โตเกียว!เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน ช่วงนี้ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน หลายคนคงเริ่มเบื...

++++++++++ END ++++++++++

Written By: Pok Safin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!