ใครที่กำลังมองหากิจกรรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ขอแนะนำหอดูวิวกลางคืนหรือ Tower ที่มีทุกแห่งในเมืองใหญ่ๆของประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจนเกาะใต้ครับ
Tower ส่วนใหญ่ใช้เป็นจุดกระจายเสียงส่งสัญญาณโทรทัศน์หรือวิทยุ แต่จะมีห้องชมวิวทิวทัศน์ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นมาชมบรรยากาศเมืองจากมุมสูงทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ ยังเป็น Landmark สำคัญให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่กับ Tower ต่างๆนี้ในตอนกลางคืนที่มีไฟประดับสวยงาม
เอกลักษณ์ของแต่ละแห่งก็แตกต่างกันไปตามรูปลักษณะ ความสูงและสถานที่ตั้ง ซึ่งให้วิวที่สวยงามแตกต่างกันไปครับ
วันนี้ผมได้คัดเลือก Tower ชื่อดังต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่นที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศมาแนะนำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้นำไปเป็นอีกหนึ่งจุด Check in เวลาเราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันครับ
Tokyo Tower
รูปภาพจาก https://www.flickr.com/photos/camknows/9370316585/
ดังที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียวมานานก็ต้อง Tokyo Tower ซึ่งมีรูปลักษณะคล้ายหอไอเฟลที่ประเทศฝรั่งเศสแต่คนละสี ที่ญี่ปุ่นจะเป็นสีส้มตัดสีขาว Tokyo Tower มีความสูงถึง 333 เมตรและเคยใช้เป็นศูนย์กระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุหลัก แต่เมื่อประเทศญี่ปุ่นได้มีการเปลี่ยนเป็นสัญญาณดิจิตอล ก็ได้ย้ายศูนย์กระจายสัญญาณไปที่ Tokyo SkyTree ทำให้ปัจจุบัน Tokyo Tower เป็นแค่ตัวสำรอง
ที่นี่มีอาคารชมวิวด้านบน 2 ชั้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้สามารถขึ้นไปดูวิวใจกลางเมืองโตเกียวจากมุมสูงได้ ชั้นบนสุดมีความสูงถึง 250 เมตรซึ่งให้วิว 360 องศาของเมืองโตเกียวอย่างสมบูรณ์แบบ ภายในตึกก็จะมีคาเฟ่และร้านขายของฝากต่างๆ ส่วนด้านล่าง เราก็สามารถถ่ายรูปคู่กับ Tokyo Tower ในวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ถ้ามาช่วงหน้าใบไม้ผลิก็จะได้รูป Tokyo Tower ตัดกับสีชมพูของดอกซากุระ ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้บรรยากาศสีส้มสดใสกับใบไม้เปลี่ยนสี
รูปภาพจาก https://www.pxfuel.com/en/search?q=tokyo+cherry
นอกจากนี้ที่ Tokyo Tower ยังมีการจัด Event ต่างๆและไฟประดับตามเทศกาล โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาสที่จะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาชมความงามของไฟประดับและ Tokyo Tower นี้
การเดินทาง | สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Akabanebashi ของเส้นรถไฟฟ้าใต้ดิน Oedo และใช้เวลาเดินแค่ 5 นาที |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 1200 เยน สามารถเข้าถึงห้องชมวิวชั้นที่ 1 ความสูง 150 เมตร ถ้าต้องการขึ้นถึงจุดยอดที่ 250 เมตรจะต้องซื้อเป็นแพคเกจรวม ราคา 3,000 เยน หน้าเคาน์เตอร์หรือ 2800 เยนโดยการจองทางอินเตอร์เน็ตล่วงหน้า |
https://www.tokyotower.co.jp/en/
Tokyo Skytree
รูปภาพจาก https://pixabay.com/ja/photos/search/tokyo%20sky%20tree/
Tower ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในโลกนั้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเลย Tokyo skytree เปิดตัวอย่างสมบูรณ์ในปี 2011 ด้วยความสูงกว่า 634 เมตร นอกจากจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังชนะขาด Canton tower ที่มีความสูง 600 กว่าเมตรในเมืองกวางโจว ประเทศจีน และยังถูกจัดเป็นสิ่งปลูกสร้างอาคารที่สูงที่สุดอันดับ 2 ลองจากตึก Burj Khalifa ที่เมืองดูไบอีกด้วย ปัจจุบันใช้เป็น Tower กระจายสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุหลักในประเทศญี่ปุ่นแทน Tokyo Tower หลังจากเปลี่ยนมาใช้เป็นสัญญาณดิจิตอล
หอชมวิวสูงสุดของ Tokyo skytree นี้อยู่ที่ชั้น 450 ซึ่งจะเป็นทางเดินเหมือนท่อวนลงมาที่ชั้น 445 ให้เราสามารถชมวิวจากมุมที่สูงมากของเมืองโตเกียวได้ไกลจนสุดสายตา รองลงมาที่ชั้น 350 ก็จะเป็นหอชมวิวอีกห้องซึ่งจะมีร้านคาเฟ่และบริการถ่ายรูปที่ชั้นนี้ ถัดมาที่ชั้น 345 ก็จะเป็นร้านอาหาร Sky Restaurant และร้านขายของฝาก
รูปภาพจาก https://www.tripadvisor.com/Restaurant_Review-g14134337-d3307880-Reviews-Sky_Restaurant_634_Musashi-Oshiage_Sumida_Tokyo_Tokyo_Prefecture_Kanto.html
นักท่องเที่ยวคนไหนอยากทานอาหารบนฟ้าพร้อมชมวิวโตเกียวสวยๆตอนกลางคืน แนะนำให้ลองมารับประทานอาหารญี่ปุ่นสุดหรูที่ Tokyo skytree ชั้น 345 นี้กัน ที่ชั้น 340 ก็มีจุดขายที่เป็นพื้นกระจกแก้วให้เรารู้สึกหวาดเสียวเล่นๆเหมือนเราเดินอยู่บนท้องฟ้า
นอกจากมาชมวิวบน Tokyo skytree นี้แล้ว ด้านล่างก็ยังเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ให้เราเพลินไปกับการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ต่างๆ อีกทั้ง ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอยู่ในตัวอาคารให้นักท่องเที่ยวตัวเล็กๆรวมถึงครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างสนุกทั้งวันในบริเวณเดียวกันเลย
ตอนกลางคืนก็มีการประดับไฟสีสันต่างๆที่เปลี่ยนไปทุกวันและยิ่งถ้าเป็นช่วงเทศกาลวันพิเศษ ก็จะมีการเปลี่ยนสีให้กับเข้ากับเทศกาลนั้น ตัวอย่างเช่นช่วง Christmas ก็จะเป็นสีเขียวเหมือนต้นคริสต์มาสเลย ช่วงวาเลนไทน์ก็จะมีการตกแต่งเป็นสีชมพูซึ่งในแต่ละปีก็มีดีไซน์ที่ต่างกันไป
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Tokyo_Skytree_-_Sony_A7R_(12457821295).jpg
การเดินทาง | ใช้รถไฟมาลงที่สถานี Tokyo SkyTree หรือสถานี Oshiage ซึ่งถ้านั่งจากสถานี Shinagawa ก็จะใช้เวลาประมาณ 25 นาทีบนรถไฟสาย Keikyu |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 3100 เยน (วันหยุด 3400 เยน) ขึ้นถึงห้องชมวิวชั้น 450 ผู้ใหญ่ 2100 เยน (วันหยุด 2300 เยน) ขึ้นถึงห้องชมวิวชั้น 350 |
มีเว็บไซต์เป็นภาษาไทยให้เราด้วย
http://www.tokyo-skytree.jp/th/
Umeda Sky building
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Osaka_Umeda_Sky_Building_3.jpg
Landmark สำคัญและคลาสสิกของเมืองโอซาก้า Umeda sky building ที่มีความสูงกว่า 170 เมตร จุดเด่นของหอชมวิวนี้ซึ่งอยู่บนชั้น 39 ของตึกคือ ตัวทางเดินบนดาดฟ้าที่เป็นรูปโดนัทเชื่อมข้ามระหว่างสองตึก ให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองโอซาก้าจากมุมสูงได้ 360 องศาแบบ open-air เปรียบเสมือนเราเดินอยู่บนสรวงสวรรค์ โดยเฉพาะในตอนกลางคืนนอกจากแสงไฟกระพริบจากทั่วเมืองแล้ว เรายังสามารถชมแสงดาวบนท้องฟ้าจากดาดฟ้านี้ได้ด้วยเช่นกัน
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Osaka_Umeda_Sky_Building_Aussichtsplattform_3.jpg
นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารและบาร์ที่เป็นที่นิยมแก่นักท่องเที่ยวที่มาชมวิวในตอนกลางคืนอย่างโรแมนติก พร้อมด้วยอาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย ที่นี่ Umeda sky building ชั้น 39
ที่นี่ก็ไม่แพ้ที่อื่นๆ ที่มีการจัดงานเทศกาลและงานอีเวนท์อยู่สม่ำเสมอตลอดปี โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีที่มีการฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ จะมีการประดับไฟอย่างสวยงาม รวมถึงกิจกรรมสนุกๆพร้อมจุดถ่ายรูปมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินและเต็มอิ่มไปกับความสวยงามของที่นี้
การเดินทาง | จากสถานี JR Osaka ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาที จากสถานี Hankyu Osaka umeda ประมาณ 9 นาที |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 1500 เยน |
Kyoto Tower
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Juni-kyoto_tower.jpg
สูงโดดเด่นที่สุดในเมืองเก่าเกียวโตก็ต้องที่ Kyoto Tower ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานีหลักเกียวโตเลย สร้างเสร็จในปี 1964 หลังจากโตเกียวโอลิมปิกไม่กี่วัน ตอนนี้ก็มีอายุกว่า 56 ปีแล้ว มีความสูงประมาณ 100 เมตรจากพื้นดินซึ่งให้วิว 360 องศาทั่วเมืองเกียวโต บนหอดูวิวด้านบนเราสามารถมองเห็นสถาปัตยกรรมชื่อดังและวัดต่างๆของเมืองเกียวโต ไกลไปจนถึงธรรมชาติภูเขาที่ล้อมรอบเมืองนี้เลย
ตัวอาคารด้านล่างยังเป็นร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกเต็มอิ่มกันแบบข้ามคืน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่จะมีการจัดเบียร์การ์เด้นบนลานดาดฟ้าของอาคารด้านล่าง Kyoto tower ซึ่งเป็นศูนย์รวมของกลุ่มเพื่อนและนักท่องเที่ยวที่มาเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มพร้อมกับวิวของ Kyoto tower นี้เลย
รูปภาพจาก https://tabelog.com/kyoto/A2601/A260101/26018471/
การเดินทาง | ติดกับสถานี JR Kyoto |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 800 เยน |
https://www.keihanhotels-resorts.co.jp/kyoto-tower/en/
Nagoya TV Tower
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Oasis_21_%EF%BC%86_Nagoya_TV_Tower.jpg
Tower เด่นสง่างามเอกลักษณ์ใจกลางเมืองนาโกย่าคือ Nagoya TV Tower เป็นหอกระจายเสียงสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1954 มีความสูงถึง 180 เมตร ปัจจุบันก็ยังใช้เป็นหอกระจายสัญญาณในเขตพื้นที่ Chubu ครอบคลุม 3 จังหวัดได้แก่ Aichi, Gifu และ Mie
จุดชมวิวสูงสุดที่ 100 เมตร เราสามารถชมวิวของเมืองนาโกย่าในแบบ 360 องศาภายนอกอาคาร เราได้รับลมที่สดชื่นและเพลิดเพลินกับแสงไฟในตอนกลางคืนของเมือง ชั้นอื่นๆก็มีร้านอาหาร ร้านค้าและคาเฟ่ต่างๆให้เราได้เพลิดเพลินกับอาหารเครื่องดื่มชั้นดีพร้อมกับวิวที่สวยงามจาก Nagoya TV Tower นี้เช่นกัน
ในตอนกลางคืน แน่นอน ก็จะมีการประดับไฟที่โดดเด่นคู่กับตึก Oasis 21 ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเมืองนาโกย่าต้องไม่พลาดมาถ่ายรูปคู่กับ Nagoya TV Tower นี้จากดาดฟ้าของตึก Oasis 21 เพราะบนดาดฟ้าของตึกนี้มีบ่อน้ำบนกระจกแก้วซึ่งจะได้ภาพสะท้อนของ Nagoya TV Tower อย่างสวยงามมากทีเดียว
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Nagoya_TV_Tower.jpg
การเดินทาง | นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Sakae และใช้เวลาเดินเพียงแค่ 3 นาที |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 900 เยน |
http://www.nagoya-tv-tower.co.jp/
ชมจุดท่องเที่ยวแนะนำเพิ่มเติมของเมืองนาโกย่าได้ที่
Fukuoka Tower
รูปภาพจาก https://pixabay.com/ja/photos/search/fukuoka%20tower/
สูงที่สุดบนเกาะคิวชูก็ต้องมาที่ Fukuoka Tower นี่เลย เป็นหอคอยติดทะเลที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นถึง 234 เมตร ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นที่นิยมแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่ต้องมาเช็คอินเมื่อมีโอกาสมาเที่ยวที่จังหวัด Fukuoka
จุดชมวิวสูงสุดมีความสูงอยู่ที่ 123 เมตรจากพื้นดินซึ่งให้วิวที่ต่างจากหอคอยอื่นๆ เพราะว่าที่นี่คือที่เดียวที่สามารถชมวิว Panorama มุมสูงข้างทะเลพร้อมกับวิวเมือง Fukuoka ได้อย่างตระการตา ไม่ว่าจะขึ้นมาชมตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนก็ได้ความประทับใจที่แตกต่างกัน ทำให้ Fukuoka Tower นี้มีชื่อเสียงดังทั่วประเทศญี่ปุ่น
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:20100720_Fukuoka_3704.jpg
นอกจากนี้ภายในอาคารก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้เราได้เพลิดเพลินไปพร้อมๆกับวิวของเมืองนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่คือ การใช้ไฟประดับตกแต่งที่แตกต่างไปจากหอคอยของเมืองอื่นๆ เพราะที่นี่สามารถเขียนเป็นตัวอักษรต่างๆได้ เทศกาลปีใหม่ในวัน Count down ก็จะมีการนับเลขถอยหลังจากหอคอย Fukuoka Tower นี้เลย
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Fukuoka_tower_Illumination.jpg
การเดินทาง | จากสถานี JR Hakata ให้นั่งรถบัสสาย 306 มาลงที่หน้า Fukuoka Tower ได้เลย ใช้เวลาเดินทางเพียง 25 นาที |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 800 เยน |
https://www.fukuokatower.co.jp/#
Sapporo TV Tower
รูปภาพจาก https://pixabay.com/ja/photos/%E6%97%A5%E6%9C%AC-%E6%9C%AD%E5%B9%8C%E5%B8%82-%E9%83%BD%E5%B8%82-357256/
มาถึงเกาะเหนือฮอกไกโด ห้ามพลาด Sapporo TV Tower ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรเลย สร้างเสร็จในปี 1957 และมีความสูงถึง 147 เมตร ใช้เป็นหอส่งสัญญาณทีวีและวิทยุในเขตบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งจัดเป็นตึกที่สูงที่สุดบนเกาะนี้
จุดชมวิวอยู่ที่ความสูงกว่า 90 เมตรซึ่งให้ภาพพาโนรามาของเมืองซัปโปโรได้อย่าง 360 องศา tower นี้เป็นที่เดียวที่เราสามารถชมวิวที่แตกต่างกันในแต่ละฤดู ช่วงหน้าหนาว เราสามารถเห็นวิวทิวทัศน์หิมะสีขาวโพลนทั้วเมืองและตามเทือกเขาจากหอดูวิว Sapporo TV Tower ที่นี้ได้เลย แน่นอน ตอนกลางคืนก็จะมีการประดับตกแต่งด้วยไฟสวยงามให้เราได้ถ่ายรูปกันจากด้านล่าง
ส่วนอื่นๆก็จะมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่และร้านขายของฝากให้เราได้เต็มอิ่มกับอาหารภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น ช่วงฤดูหนาวก็จะมีลานสเก็ตอยู่ด้านหน้าของ tower ให้เราได้เล่นในบรรยากาศจริงท่ามกลางอากาศหนาวและหิมะที่สวยงาม
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Odori_Park_Sapporo_Snow_Festival_2007.JPG
การเดินทาง | จากสถานี Odori ใช้เวลาเดินไม่นาน จาก Tozai line และ Nanboku line ใช้เวลาประมาณ 5 นาที แต่ถ้านั่งมาจาก Toho line ใช้เวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น |
ค่าเข้าชม | ผู้ใหญ่ 720 เยน |
มีเว็บไซต์เป็นภาษาไทยให้เราด้วย
http://www.tv-tower.co.jp/thai/
ติดตามชมสถานที่เที่ยวอื่นๆบนเกาะฮอกไกโดได้ที่
1.เมืองฮาโกดาเตะ
2. สวนสัตว์อาซาฮิยาม่า