บนเกาะฮอกไกโดไม่ได้มีแต่เมืองซัปโปโรเท่านั้นที่มีชื่อเสียงในการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ ภาคใต้ของเกาะมีอีกหนึ่งเมืองที่ได้ชื่อว่ายุโรปในญี่ปุ่น มาสัมผัสไออุ่นของอารยธรรมผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตก บวกกับวิวกลางคืนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด 1 ใน 3 ของโลก Destination ใหม่ของคุณ ที่นี่ Hakodate
ประมาณ 5 ชั่วโมงโดยรถไฟด่วนจากซัปโปโร หรือประมาณ 1.5 ชั่วโมงโดยเครื่องบินจากโตเกียว Hakodate เป็นอีกเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความที่เคยเป็นเมืองท่ามาก่อนบนเกาะฮอกไกโดและเคยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมยุโรป ทำให้บรรยากาศเมืองยังมีความเป็นตะวันตกอยู่ ร่วมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นสมัยเมจิโบราณและโมเดิร์นในปัจจุบัน ทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์
ไปนั่งรถลางชิวๆชมเมืองนี้ที่คาบระหว่างทะเลสีครามทั้ง 2 ฝั่ง และสัมผัสความสดและอร่อยของอาหารทะเลที่นี่กัน
Old Public Hall of Hakodate Ward

เริ่มกันด้วยที่แรก ที่นี่เลยศาลาเก่าสาธารณะของเมือง ด้วยสีฟ้า-เทาอ่อนที่ตัดกับขอบสีเหลืองในสไตล์ตะวันตกของตึกนี้ ทำให้ศาลาสาธารณะเก่าแห่งนี้เป็นเอกลักษณ์เด่นของเมือง Hakodate นี้ที่ใครๆก็มาชมความสวยงามและถ่ายรูปแบบ European Vintage เป็นที่ระลึกกัน
ศาลาเก่าโบราณนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยเมจิใช้ในการจัดงานกิจกรรมสาธารณะต่างๆในสมัยก่อน ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถูกบันทึกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นอีกแห่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ระหว่างการปิดปรับปรุง ซึ่งมีกำหนดการจนถึงเดือนเมษายนปี 2021 ถึงแม้เราจะเข้าไปดูภายในอาคารไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถถ่ายรูปจากภายนอกได้
การเดินทาง นั่งรถรางจากสถานีใหญ่ Hakodate มาลงที่ Suehirocho หลังจากนั้นใช้เวลาเดินอีกประมาณ 7 นาที
โบสถ์คริสต์เตียนต่างๆ
เราอาจเคยไปชมแต่วัดและศาลเจ้าเวลาเรามาเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ก็คงนึกไม่ถึงว่าประเทศญี่ปุ่นจะมีโบสถ์ศาสนาคริสต์สวยๆเหมือนในยุโรป ด้วยอิทธิพลจากอารยธรรมยุโรปที่เข้ามาในเมือง Hakodate ในสมัยก่อน ทำให้เมืองนี้มีโบสถ์สำคัญทางประวัติศาสตร์หลางแห่ง ที่สร้างไว้ให้ชาวต่างชาติที่นับถือศาสนาคริสต์ได้มาทำกิจกรรมทางศาสนาโดยเฉพาะในย่าน Motomachi ทำให้เรารู้สึกเหมือนเราได้มาเที่ยวยุโรปเลย
โบสถ์มีทั้งแบบโรมันคาทอลิกตามยุโรปตะวันตกและอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ตามยุโรปตะวันออก ซึ่งสถานที่เหล่านี้ก็ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน

โบสถ์ Catholic Hakodate Motomachi เป็นโบสถ์ในนิกายคาทอลิกซึ่งภายในมีแท่นบูชาชื่อดังที่ได้รับเป็นของขวัญจากสมเด็จพระสันตะปาปาจากเมืองโรมันเลยทีเดียว ที่นี่ยังได้นามว่าเป็นอีกหนึ่งโบสถ์คาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น

รูปภาพจาก https://kosublog.com/en/hakodate-1701-part02/
โบสถ์ Hakodate Orthodox เป็นโบสถ์แรกในแบบอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ในประเทศญี่ปุ่น ที่มาจากประเทศรัสเซีย กำแพงสีขาวสะอาดตัดกับหลังคาสีเขียวอย่างสวยงามภายนอกและระฆังที่ให้เสียงกังวาลไพเราะภายในคือเอกลักษณ์เด่นของที่นี่
การเดินทาง นั่งรถรางจากสถานีใหญ่ Hakodate มาลงที่ Jujigai หลังจากนั้นใช้เวลาเดินอีกประมาณ 10 นาที
Hakodate Factory (ตลาดอาหารทะเล)

ใครที่ชอบอาหารทะเลสดๆ กินแบบดิบๆ ลาดซอสโชยุตามสไตล์ชาวญี่ปุ่นต้องมาที่นี่เลย ตลาดอาหารทะเลหรือที่เรียกว่า Hakodate Factory อาหารทะเลบนเกาะฮอกไกโดมีชื่อเสียงเรื่องความอร่อยอยู่แล้ว แต่จะเอาให้ถึงที่สุดต้องที่นี่เลย
ด้วยที่เมืองนี้ติดกับทะเลและอยู่ในเขตหนาว ทำให้ได้อาหารทะเลที่สดจริงๆให้เราได้ชิมและลิ้มรสกัน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งหวานที่หวานจริงๆ ปลาทูน่าชั้นดีที่กินแล้วละลายในปากได้เลย รวมถึงอาหารทะเลราคาสูงอย่างเช่นปูยักษ์ทาราบะและหอยเม่นสดก็สามารถหารับประทานได้ในราคาถูกที่นี่

การเดินทาง นั่งรถรางจากสถานีใหญ่ Hakodate มาลงที่ Suehirocho หลังจากนั้นใช้เวลาเดินอีกประมาณ 2 นาที
Hakodate Night view 100 ล้าน

มาถึง Highlight ของเมืองนี้ ที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อมาที่นี่ คือการขึ้นไปชมวิวตอนกลางคืนบนยอดเขา Hakodate
ยอดเขานี้ตั้งอยู่บนบริเวณที่ยื่นออกมาในทะเลทำให้เห็นภาพวิวตัวเมืองที่สว่างไสวสีส้มอ่อน มีลายโค้งคาบระหว่างทะเลทั้งสองข้าง ซึ่งเป็น Panorama ที่หาดูได้ยากในโลก วิวกลางคืนของเมือง Hakodate นี้ขึ้นชื่อเป็น Night view หลัก 100 ล้านและติด 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดในโลกรองจากฮ่องกงและเมืองนาโปลีในประเทศอิตาลี
การขึ้นไปชมวิวนั้นก็ไม่ยากเพราะมี Ropeway นำท่านขึ้นไปสู่ยอดเขาเลย เป็น Ropeway ที่ใหญ่สามารถบรรจุผู้คนได้ถึง 125 คน และมีกระจกใสรอบข้างทำให้สามารถชมวิวได้ตั้งแต่ตอนขึ้นจนถึงบนยอดเขาซึ่งมีความสูงประมาณ 334 เมตรเหนือน้ำทะเลและใช้ระยะเวลาแค่ 3 นาทีเอง คนกลัวความสูงก็สามารถขึ้นได้เพราะ Ropeway ที่นี่ไม่แกว่งไปมา เหมือนแค่ขึ้นลิฟท์กระจกไปบนยอดเขาเอง

ซึ่งแน่นอน จุดชมวิวนี้เป็นที่นิยมแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างประเทศ ใครที่มาช่วงกลางวันตอนฤดูหนาวที่มีหิมะปกคลุมทั่วเมืองก็จะเห็นวิวเมืองสีขาวที่ตัดกับสีฟ้าครามจากทะเลทั้ง 2 ฝั่ง เป็นอีก Panorama ที่หาดูได้ยากเช่นกัน ใครที่มาเที่ยวช่วงหน้าหนาวก็อย่าลืมใส่เสื้อผ้าหลายๆชั้น ทำร่างกายให้อบอุ่นเพราะบนยอดเขานี้หนาวมากๆแบบหูชา หน้าชากันเลยทีเดียว

รูปภาพจาก https://hokkaido.letsgojp.com/archives/357943/
การเดินทาง นั่งรถรางจากสถานีใหญ่ Hakodate มาลงที่ Jujigai หลังจากนั้นใช้เวลาเดินอีกประมาณ 10 นาที
ค่าตั๋ว ผู้ใหญ่ ไปกลับ 1,500 เยน
เด็ก ไปกลับ 700 เยน
เวลาเปิดทำการ 10:00 – 20:50 (ขึ้นรอบสุดท้าย) 22:00 ( ลงรอบสุดท้าย )
*โปรดเช็คตารางเวลาปิดทำการอีกทีตามฤดูกาล

เมือง Hakodate นี้ เป็นเมืองร่วมยุคระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกจากยุโรป วัฒนธรรมโบราณญี่ปุ่นสมัยเมจิ รวมถึงวัฒนธรรมโมเดิร์นในโลกปัจจุบัน ทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ต่างจากเมืองอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น ตอนกลางคืนก็จะมีการประดับไฟตามถนนทั่วตัวเมืองโดยเฉพาะในเขต Motomachi ซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมือง Hakodate นี้ เราก็จะได้เห็นบรรยากาศและสีสันสว่างสดใสจากเรือที่มาจอดเทียบท่าในเมืองนี้ด้วย ถ้ามีโอกาสมาที่เกาะฮอกไกโดแล้วนอกจากซัปโปโรก็ลองมาเที่ยวเมืองนี้ด้วยนะครับ นอกจากสถานที่ที่แนะนำเบื้องต้นแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆอีกมากมายอย่างเช่นบ่อน้ำแร่ที่คุณจะได้แช่น้ำกับลิงน้อยและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
Hakodate เมืองยุโรปกับ night view 100 ล้าน