ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในภูมิภาคคันโต…..ดีขนาดนี้จะพลาดได้ไง

Historical Land_CV

ภูมิภาคคันโต (関東地方, Kantō-chihō) เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเกาะฮอนชู ประกอบด้วยพื้นที่ของมหานครโตเกียว และอีก 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกุมมะ จังหวัดโทชิงิ จังหวัดอิบารากิ จังหวัดไซตามะ จังหวัดชิบะ จังหวัดคานางาวะ และจังหวัดยามานาชิ โดยมีเมืองหลวงคือ กรุงโตเกียว

ด้วยความหลากหลายทั้งในเรื่องของภูมิประเทศ ธรรมชาติ ศิลปะวัฒนธรรม นวัตกรรม ฯลฯ ทำให้ภูมิภาคคันโต มักจะเป็นหมุดหมายหลักแห่งแรกของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น

ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญๆในภูมิภาคคันโตที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายไม่ควรพลาด เพราะมีทั้งความงดงามและสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายประวัติศาสตร์ อันเป็นเสน่ห์แท้ๆ และดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง


สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคคันโต

วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) กรุงโตเกียว

รู้จักกันดีอยู่แล้วสำหรับวัดโคมแดงยักษ์ ย่านอาซากุสะ ที่เปรียบเหมือนเป็นแลนด์มาร์คของโตเกียว เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว สร้างขึ้นเมือปี ค.ศ.645 และเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม และด้วยแรงศรัทธาอันเปี่ยมล้น ทำให้วัดเซ็นโซจิดึงดูดเหล่าพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไปมาได้หลายล้านคนในแต่ละปี

การเดินทาง: โดยสารรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Asakusa จากนั้นเดินอีก 5 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.senso-ji.jp/english/

++++++++++

ศาลเจ้าเมจิจิงงู (Meiji-Jingu Shrine) กรุงโตเกียว

เป็นหนึ่งในศาลเจ้าของศาสนาชินโต ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่ากว้างใหญ่กลางมหานครโตเกียว ภายในมีทั้งศาลเจ้าเพื่อให้สักการะและทำพิธี พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเมจิจิงงู และสวนป่า ที่ให้ความสงบร่มรื่นระดับที่ว่า เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในเขตของเมจิจิงงู คุณจะลืมไปเลยว่าสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงอันพลุกพล่าน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1920 เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีขององค์จักรพรรดิเมจิ ผู้ริเริ่มสร้างรากฐานของญี่ปุ่นยุคใหม่

การเดินทาง: โดยสารรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Harajuka จากนั้นเดินต่อเพียง 1 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.meijijingu.or.jp/en/

++++++++++

ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู (Nikko Toshogu Shrine) จังหวัดโทชิงิ

เป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1617 เพื่อเป็นเกียรติแด่โทคุงาวะ อิเอยาสุ ไดเมียวในยุคเซ็นโงคุ เป็นโชกุนคนแรกของรัฐบาลโทคุงาวะ หนึ่งในสามผู้รวบรวมประเทศญี่ปุ่น อันนำมาซึ่งความสงบเรียบร้อยและยังส่งเสริมการศึกษาและอุตสาหกรรมในญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการวางรากฐานเพื่อพัฒนาให้ประเทศในทุกวันนี้ ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู โดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะส่วนของ ประตูโยเมมง (Yomei-mon Gate) ที่งดงามด้วยรูปแกะสลักอันน่าชม นอกจากนั้นที่นี่ ยังเป็นจุดหมายในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของนักท่องเที่ยวมากมาย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

การเดินทาง: จากโตเกียวโดยรถไฟ JR ไปลงสถานี Nikko แล้วโดยสารรถบัสไปลงที่ป้าย Nishisando

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.toshogu.jp/english/

++++++++++

เจดีย์จูเรอิโตะ (Chureito Pagoda) จังหวัดยามานาชิ

เจดีย์จูเรอิโตะ หรือ เจดีย์แดงห้าชั้น อยู่ในวัดอาราคุระเซ็นเง็น (Arakura Sengen Shrine) ซึ่งตั้งอยู่บนใจกลางภูเขาอาราคุระ (Arakurayama) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1963 เป็นหนึ่งในร้อยอันดับสถานที่ชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่ดีที่สุดในคันโตและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสูงมากในแทบทุกฤดูกาลตลอดทั้งปี

การเดินทาง: เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟ JR Chuo Line ไปลงสถานี Otsuki แล้วต่อด้วยรถไฟ Fuji Kyuku Line ไปลงสถานี Shimoyoshida จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://fujiyoshida.net/en/

++++++++++

วัดโคโตคุอิน (Kotoku-in Temple) จังหวัดคานางาวะ

เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่แห่งคามาคุระ หรือ Kamakura Daibutsu ที่มีความสูงถึง 11.3 เมตร และมีน้ำหนัก 121 ตัน เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1252 เดิมทีองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ โดยตัวอาคารถูกพังทลายลงหลายครั้ง เนื่องจากพายุ สงคราม และคลื่นยักษ์จากทะเล จนกระทั่งในปีค.ศ.1495 ด้วยแรงจากลมพายุได้พัดให้ตัวอาคารพังราบลงอีกครั้ง แต่องค์พระพุทธรูปกลับไม่ได้รับความเสียหายและยังคงตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้งเช่นนั้นมาจนถึงทุกวันนี้

การเดินทาง: เดินทางจากโตเกียวโดย JR Shonan Shinjuku Line ไปลงที่สถานี Kamakura จากนั้นนั่งรถบัส Enoshima-dentetsu หรือ Keikyu Bus ไปลงที่ป้าย Daibutsu-mae

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.kotoku-in.jp/en/

++++++++++

วัดนาริตะซังชินโชจิ (Narita-san Shinshoji Temple) จังหวัดชิบะ

สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.940 ตั้งอยู่ในเมืองนาริตะ จังหวัดชิบะ มีเทพประจำวัดคือ “องค์ฟุโดเมียวโอ” เป็นเทพผู้ดลบันดาลให้ความมืดมนซึ่งเป็นรากเหง้าของความโง่เขลสถูกกำจัดออกไป เชื่อกันว่าพระองค์จะประทานโชคลาภและความสุขให้กับผู้ที่ตั้งจิตอธิษฐานแน่วแน่ต่อพระองค์ เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในคันโต โดยจะมีนักท่องเที่ยวแวะมาสักการะขอพรอย่างมากมายในแต่ละปี โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆ โดยนอกจากศาลเจ้าแล้ว ยังมีสวนนาริตะ ซึ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงามอย่างมากแห่งหนึ่งในประเทศ

การเดินทาง: เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟ JR Sobu Main Line Rapid สาย Yokosuka Line หรือสาย Sobu Line ไปลงที่สถานี Narita จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.naritasan.or.jp/thailand/visit/

++++++++++

พระพุทธรูปอุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu) จังหวัดอิบารากิ

พระพุทธรูปปางยืนทองสัมฤทธิ์ที่สูงถึง 120 เมตร ขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของโลก ประดิษฐานในแถบชานเมืองจังหวัดอิบารากิ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1992 บนพื้นที่บริสุทธิ์ของสุสานและได้กลายเป็นสวนสาธารณะในปีต่อมา นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมภายในองค์พระ โดยภายในห้องจัดนิทรรศการ จะมีพระพุทธรูปสีเหลืองอร่ามแสดงเรียงรายถึง 3,400 องค์ นอกจากนั้นยังสามารถขึ้นลิฟท์ไปชมทัศนียภาพของภายนอกได้จากจุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส สามารถมองเห็นวิวของ Tokyo Sky Tree และภูเขาไฟฟูจิ ได้เลยทีเดียว

การเดินทาง: เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟ JR Joban Line ไปลงสถานี Ushiku จากนั้นนั่งรถบัส Kanto Tetsudo Bus ไปลงที่ป้าย Ushiku Daibutsu จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://thai.ibarakiguide.jp/themes/ibarakis-best-features.html

++++++++++

รินโคคาคุ (Rinkokaku) จังหวัดกุมมะ

เป็นอาคารไม้สามหลังที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1884 เพื่อเป็นเรือนรับรองแขกบ้านแขกเมือง เป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมอาคารไม้ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยในช่วงแรกของญี่ปุ่นยุคใหม่ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นในปี ค.ศ.2018 เป็นจุดชมวิวดอกซากุระบานที่ดีเยี่ยม โดยในตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟที่ประดับตัวอาคารด้วย นอกจากนั้นยังสามารถมองเห็นแม่น้ำโทเนะได้จากตัวอาคาร ซึ่งตั้งอยู่ในสวนมาเอะบาชื

การเดินทาง: ประมาณ 10 นาที โดยรถบัส Gumma-Chuo Bus ไปลงที่ป้าย Maebashi หรือ สาย Ryomo ของ JR ลงที่ป้าย Yuenchi Sakashira แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.visit-gunma.jp/en/spots/rinkokaku/

++++++++++

ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ (Koedo Kawagoe) จังหวัดไซตามะ

ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดไซตามะ ไม่ไกลจากกรุงโตเกียวเท่าไหร่นักแต่บรรยากาศกลับแตกต่างกันสุดขั้ว โดยเฉพาะในย่านประวัติศาสตร์ของคาวาโกเอะ ที่ได้ชื่อว่าเป็น โคเอโดะ หรือ Little Edo ที่จะพาคุณสัมผัสกลิ่นอายของญี่ปุ่นในช่วงปี ค.ศ.1603 จนถึง ค.ศ.1867 ไม่ว่าจะเป็นโกดังไม้เก่า ร้านขนมโบราณ ปราสาท วัดและศาลเจ้าต่างๆ ที่ล้วนแล้วแต่ช่วยให้คุณจินตนาการถึงภาพในอดีตได้อย่างเป็นรูปเป็นร่าง โดยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงเมืองนี้ ได้แก่ ย่านโกดังเก่า วัดคิตะอินกับพระพุทธรูปทั้ง 500 องค์ และร้านขนมดั้งเดิมหายากบนถนนขนมหวานแห่งคาวาโกเอะ

การเดินทาง: นั่งรถไฟสายด่วน Seibu-Shinjuku จากสถานี Seibu-Shinjuku ไปลงสถานี Seibu-Honkawagoe จากนั้นเดินต่อประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถบัส Koedo Junkai ไปลงที่ป้าย Kuranomachi ก็จะถึงทันที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.japan.travel/th/spot/1526/

++++++++++

โรงงานทอผ้าโทมิโอกะและสถานที่เกี่ยวข้อง (Tomioka Silk Mill and Related Sites) จังหวัดกุนมะ

โรงงานทอผ้าโทมิโอกะและสถานที่เกี่ยวข้อง หรือ 富岡製糸場 (Tomioka Silk Mill and Related Sites) คือชื่อตามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ.2014 เป็นโรงงานสาวผ้าไหมที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของโทมิโอกะ จังหวัดกุนมะ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1872 โดยรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อจะนำเข้าเครื่องจักรทอผ้าที่ทันสมัยและเผยแพร่เทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม ซึ่งนับเป็นคุณูปการอย่างยิ่งยวดต่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมในญี่ปุ่นเพื่อเข้าสู่โลกยุคใหม่โดยแท้จริง

การเดินทาง: นั่งรถไฟ Joetsu Shinkansen จากโตเกียว ไปลงที่สถานี Takasaki จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ Joshin Dentetsu ไปลงที่สถานี Nishi-Tomioka เดินเท้าต่ออีกประมาณ 10 นาที ถึงโรงงาน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.visit-gunma.jp/en/spots/tomioka-silk-mill/https://www.japan.travel/th/world-heritage/tomioka-silk-mill/

++++++++++

ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle) จังหวัดคานางาวะ

สร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1447 เพื่อเป็นฐานที่ตั้งของตระกูลโฮโจ ตระกูลผู้ปกครองโอดาวาระมานานกว่า 100 ปี ก่อนจะมีการสร้างอาคารหลักของปราสาทในปี ค.ศ.1960 ในปัจจุบัน ปราสาทโอดาวาระ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากโตเกียว และมีชื่อเสียงอย่างมากจากสวนสาธารณะรอบๆบริเวณปราสาทที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่ผลัดกันผลิดอกออกใบตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น ดอกซากุระ ดอกบ๊วย รวมไปถึงกุหลาบพันปีที่ออกดอกเต็มสวน นอกจากนั้นยังมีสวนสนุกเล็กๆที่มีทั้งรถไฟจิ๋วและสวนสัตว์ ทำให้ปราสาทโอดาวาระเป็นที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับการเที่ยวแบบครอบครัว

การเดินทาง: เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟ JR Tokaido Line หรือรถไฟ Odakyu Railway Line ไปลงที่สถานี Odawara

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/223?noredirect=en_US


เป็นยังไงกันบ้างสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในภูมิภาคคันโต ต้องบอกเลยว่า จริงๆแล้วยังมีอีกมากมายหลายร้อยที่ทั่วคันโต ซึ่งถ้าจะให้นำเสนอทั้งหมด คงทำให้บทความนี้เป็นบทความที่ยาวเกินไป ทางเราจึงหยิบยกมาเฉพาะแห่งที่สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆในแบบที่ว่าไม่อยากให้พลาดจริงๆ

By Pok Safin

ขอบคุณข้อมูล:

https://www.jnto.or.th/attractions/highlight-of-japan-all-area/kanto/

https://en.wikipedia.org/wiki/Kant%C5%8D_region

https://www.hakonenavi.jp/international/en/spot/223?noredirect=en_US

https://www.visit-gunma.jp/en/spots

https://www.japan.travel/th/spot/1526/

https://thai.ibarakiguide.jp/

https://www.naritasan.or.jp/thailand/visit/

https://www.meijijingu.or.jp/en

https://www.senso-ji.jp/english/

http://www.toshogu.jp/english/

https://www.kotoku-in.jp/en/

https://fujiyoshida.net/en/

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST
GettyImages-892502070
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

หน้าหนาวนี้ ไปเล่นหิมะ/สกี/สโนบอร์ดที่ลานสกี รีสอร์ท ภูเขาฮาโกดาเตะ จังหวัดชิกะกันเถอะ

15/04/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!