ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

นาโกย่า 24 ชม ไปไหนดี

นาโกย่า

ทุกคนคงรู้จักรถยี่ห้อ “Toyota” ทุกคนคงเคยได้ยินชื่ออาหาร “ข้าวหน้าปลาไหล” มาก่อน แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าของดังเหล่านี้มาจากเมืองที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมแก่นักท่องเที่ยว ที่ชื่อว่า นาโกย่า (Nagoya) 

นาโกย่า ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศญี่ปุ่นในจังหวัด Aichi เวลานั่งรถชินคันเซ็นระหว่างโตเกียวและโอซาก้า ก็จะต้องนั่งผ่านนาโกย่าแน่นอน ถึงแม้ไม่ได้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากนัก เมื่อเทียบกับโอซาก้าและโตเกียว แต่นาโกย่าก็มีชื่อเลื่องลือในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ทั่วโลกรู้จัก รวมถึงมีอาหารชื่อดังต่างๆที่คนญี่ปุ่นทุกคนชื่นชอบ ปัจจุบันเมืองนาโกย่าเริ่มโปรโมทการท่องเที่ยวมากขึ้นทำให้เป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้นโดยเฉพาะจากเอเชีย รวมถึงคนไทย เราไปดูกันว่าถ้าเราอยากลองเที่ยวเมืองใหม่เมืองนี้แต่มีเวลาน้อย ที่ไหนคือ Must do ของเรา

ปราสาทนาโกย่า

คิดซะว่าเริ่มออกเดินทางตอน 9 โมงเช้า สถานที่แรกที่ไม่ไปไม่ได้เมื่อมาถึงเมืองนี้แล้ว นั่นคือปราสาทนาโกย่า ที่นี้เป็นอีกหนึ่งปราสาทชื่อดังในญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 400 ปี สร้างโดยโชกุนชื่อดัง Tokukawa Ieyasu แต่สิ่งที่ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงกว่าปราสาทอื่นๆในประเทศญี่ปุ่นคือ ปลาทองแท้ที่คาบอยู่สันหลังคาของปราสาทนี้ 2 ตัว ทางทิศเหนือและทิศใต้ ย้ำ! เป็นทองแท้ครับ ซึ่งหาดูได้ยากในญี่ปุ่น  ดังมาก จนขนาดเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาโกย่าเลยทีเดียว อีกทั้ง ปราสาทนาโกย่าเป็นที่แรกที่ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกสำคัญของประเทศญี่ปุ่นก่อนปราสาทใดๆจากเทคโนโลยีวิศวกรรมที่ล้ำสมัยที่สุดในการสร้างปราสาทนี้ตอนสมัยนั้น

ปราสาทนาโกย่าตั้งอยู่ใจกลางเมือง ห่างจากสถานีใหญ่นาโกย่าไม่ถึง 3 km รอบๆตัวปราสาทก็จะมีสวนญี่ปุ่นให้ทุกคนได้นั่งพัก หลับตา ฟังเสียงน้ำ และสัมผัสถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของปราสาทแห่งนี้ ถ้ามาช่วงซากุระ ก็จะได้เห็นอีกบรรยากาศสีชมพูที่สวยงามอีกแบบเลยทีเดียว

การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Meijo มาที่สถานี Shiyakusho และออกประตูหมายเลข 7 จากนั้นเดินจาก แค่ 5 นาที

 

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน , เด็กต่ำกว่ามัธยมต้นเข้าชม ฟรี

เวลาทำการ : 9:00 – 16:30

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโกย่า

สถานที่ต่อไปก็นั่งรถไฟใต้ดินต่อยาวลงมาถึง Port of Nagoya ซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโกย่า อีก 1 ที่ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศญี่ปุ่น บ่อจัดแสดงโชว์ที่นี่นั้น ขึ้นชื่อว่าใหญ่และดีที่สุดในญี่ปุ่น คุณจะได้เห็นความน่ารักและความสามารถพิเศษของปลาโลมาปากขวด ปลาวาฬเบลูก้า และสิ่งที่ขาดไม่ได้ ที่ไม่สามารถหาดูได้ในประเทศไทยคือปลาวาฬเพชฌฆาต ที่นี่ที่เดียว  นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดแสดงสัตว์ทะเลต่างๆจากทั่วโลกอย่างสวยงามกว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใดๆ ใครอยากใกล้ชิดกับสัตว์โลกใต้ทะเลรวมถึงปลาโลมาและปลาวาฬเพชฌฆาตต้องมาที่นี่เลย

บริเวณภายนอกด้านหน้า ก็จะมีพิพิธภัณฑ์เรือประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ Gatcha Gatcha สวนสนุกเล็กๆ ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าให้คุณได้เดินเล่นและชมบรรยากาศความกว้างขวางของท่าเรือและไออบอุ่นของทะเลที่นี่อีกด้วย ใครที่ท้องร้องแล้วก็สามารถหาอาหารอร่อยหลายๆอย่างรับประทานได้ที่นี่เลย ก่อนเดินทางไปต่อ

 

การเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสาย Meiko มาลงที่สถานีสุดท้าย Nagoyako ( Nagoya port)  จากนั้นเดินแค่ 5 นาที

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 2,030 เยน , เด็กประถม – มัธยมต้น 1,010 เยน , เด็กเล็ก 4 ขวบขึ้นไป  500 เยน

(ช่วง Covid-19 ต้องจองล่วงหน้าทางเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมครับ)

เวลาทำการ : 9:00 – 17:30

สวน Tsurumai

หลังจากนั้นก็มานั่งชมนก ชมไม้ รับบรรยากาศชิวๆใต้ต้นไม้กันที่สวน Tsurumai สวนสาธารณะเปิดที่ใหญ่และร่มลื่นที่สุดในเมืองนี้ แต่ละฤดูตลอดปีก็จะมีสีสันที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ช่วงซากุระก็จะเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกซากุระทั้งสวน เป็นที่นิยมของผู้คนที่อาศัยอยู่นาโกย่านี้ มาสังสรรค์และปิคนิคกันใต้ต้นซากุระในช่วงนั้น ฤดูใบไม้ล่วง ก็จะกลายเป็นสีแดง – ส้ม – เหลือง สวยงามตามบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็จะมีดอกไม้สีสันสวยงามทั้วสวน รวมถึงดอกทิวลิปที่สามารถหาดูได้ที่นี่เลย โดยไม่ต้องไปถึงยุโรปกันแล้ว

แนะนำใครที่เดินทางมากับผู้ใหญ่หรือเป็นครอบครัว ต้องมาที่สวนสาธารณะ Tsurumai นี้เลย ผู้ใหญ่หลายคนชอบบรรยากาศที่เปิดกว้างเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่หาชมได้ยากที่กรุงเทพฯ ที่นี่ยังมีงานนิทรรศการดอกไม้ต่างๆจัดอยู่ตลอดปี  อาจจะหาซื้ออาหารกล่องตามร้านสะดวกซื้อแล้วมาปิคนิค นั่งกินใต้ต้นไม้ที่สวนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอารมณ์ชิวๆที่ Tsurumai นี้

 

การเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย Tsurumai หรือ JR มาที่สถานี Tsurumai

ค่าเข้าชม ฟรี แม้แต่ช่วงซากุระ

Osu Kannon

cr : https://spi-ra.jp/tokai/82740

ถึงเวลาที่เราจะมาล้วงกระเป๋าตังกันแล้ว แวะมาที่นี่เลย  Osu Kannon เป็น Shopping street ดังในเมืองนาโกย่า วัยรุ่นญี่ปุ่นให้ชื่อที่นี่ว่าเป็นแหล่งเดินชิมที่เจ๋งที่สุดในเมือง ทุกๆก้าวจะมีขนมต่างๆหลากหลายเรียงระนาวตลอดทางให้เราเลือกชม เลือกชิมกันตามใจชอบเลย ทั้งของคาวและของหวาน ไม่ต้องเข้านั่งร้านอาหารก็อิ่มได้เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น ไอศครีมยูนิคอร์น ขนมโมจิย่าง มินิแฮมเบอร์เกอร์ สตอเบอรี่สะคอน ซาลาเปาไส้หมูไต้หวัน ขนมเกี๊ยวซ่าบราซิล ขนมไทยากิ เป็นต้น นักชิมทุกคนห้ามพลาด!

เรื่องของราคาสินค้าและเสื้อผ้าที่ขายที่นี่นั้น จากที่เปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆแล้ว ที่นี่ได้สินค้าราคาถูกกว่าที่โตเกียวหรือโอซาก้าด้วย ใครชอบของถูก ของที่ต่างจากคนอื่นๆ หรือเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่นคุณภาพดีที่มีให้เลือกหลายร้านกว่าที่ไหนๆ ก็อย่าลืมแวะมาที่ Osu Kannon นะครับ

 

การเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย tsurumai มาลงที่สถานี Osu-Kannon

เวลาทำการ ร้านส่วนใหญ่จะเปิด 10:00 – 19:00

Sakae ・Oasis 21

ตกเย็นก็มาเดินเล่นต่อในแถว Sakae ย่าน downtown กลางเมืองและศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า shops แบรนด์เนมและแหล่งบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Don Quijote ร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดที่นิยมของคนไทย ห้าง Mitsukoshi และ LOFT เป็นต้น หลบร้อนมาเดินเล่นตามห้างในย่านนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง plan ที่นี่จะสวยงามอีกเท่าตัวเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ไฟประดับ สีสันตามร้านค้าต่างๆจะสว่างขึ้น รวมถึง Nagoya TV Tower ที่เป็นศูนย์กลางของที่นี่

อีกแห่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาย่าน Sakae นี้คือ Oasis 21 เป็นสถานที่จัดงาน Event ต่างๆ มีดีไซน์ของตึกที่ทันสมัยและโดดเด่นเหมือนเราได้เข้าไปอยู่ในโลกอนาคต! ดาดฟ้าของตึกมีบ่อน้ำกระจกที่สะท้อนแสงสีของ Nagoya TV Tower ยามค่ำคืนอย่างสวยงาม ห้ามลืม! ขึ้นไปถ่ายรูปกันนะครับ

มื้อเย็นนี้ขาดไม่ได้เลย เมื่อมาที่เมืองนาโกย่าแล้ว ต้องลองกินข้าวหน้าปลาไหลสุดหรู หรือที่เรียกว่า ​Hitsumabushi อาจจะมีราคาสูงหน่อยแต่ก็เป็นอีกหนึ่ง Must eat ที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้ว สามารถหารับประทานในย่าน Sake นี้เลย Hitsumabushi มีต้นตำรับมาจากเมืองนาโกย่า ซึ่งแตกต่างจากข้าวหน้าปลาไหลทั่วไปที่ขายทั่วประเทศญี่ปุ่น ถามว่าแตกต่างกันอย่างไรหรอ? อันนี้ต้องให้ไปลองถึงจะรู้

 

การเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย Meijo หรือ Higashiyama

มาลงที่สถานี Sakae หรือเดินมาจาก Osu-Kannon ประมาณ 15 ถึง 20 นาที

ถึงแม้เมืองนาโกย่าจะเป็นเมืองทางผ่านระหว่างโตเกียวและโอซาก้าของนักท่องเที่ยวหลายคน แต่ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่ลองมาก็ไม่รู้ อย่างน้อย 1 วันหรือ 1 คืนก็ดี ชมบรรยากาศเมืองอีกแบบที่ไม่พลุดพล่านเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ เมืองนี้ ชิว สบาย เดินทางสะดวกและเส้นรถไฟฟ้าไม่เป็นใยแมงมุมเหมือนที่อื่น ใครที่กำลังคิดว่าอยากจะลองไปที่ใหม่ๆในญี่ปุ่น ลองแซกเมืองนาโกย่านี้เข้าไปในโปรแกรม มีแค่ 24 ชั่วโมงก็เที่ยวได้

นอกจากสถานที่ต่างๆที่แนะนำเบื้องต้นแล้ว ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมของพิพิธภัณฑ์ดังต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟฟ้า พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์เครื่องบินอีกด้วย ใครที่เบื่อเมืองใหญ่ๆ หรือมาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครอบครัว แล้วก็ลอง plan พาเด็กๆ มาเที่ยวเมืองนาโกย่านี้นะครับ

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ค้นหากิจกรรมบน Klook ได้เลยจากด้านล่างนี้!

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

RELATED POST