ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เดินชมธรรมชาติไปกับน้ำตกมิโน

ภูมิภาค
หัวข้อที่เกี่ยว

น้ำตกแห่งนี้มีความสูง 33 เมตร ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาสีเขียวชอุ่ม ณ บริเวณชานเมืองโอซาก้านั้นเป็นน้ำตกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ตำนานความเชื่อต่าง ๆ แห่งนี้มีชื่อว่า น้ำตกมิโน (Minoh-taki: 箕面滝)หรืออีกชื่อคือ มิโนโอทากิ 

น้ำตกมิโนท่ามกลางใบเมเปิ้ลที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดงสลบส้ม

(ภาพจาก :https://minohkankou.net/sights/area/minohotaki/)

น้ำตกมิโนเป็นหนึ่งในน้ำตกที่ได้รับเลือกให้อยู่ใน 100 น้ำตกสวยงามของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน บริเวณน้ำตกก็มีอากาศเย็นสบาย และมีการจัดแสดงแสงสีในตอนกลางคืน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mino-park.jp/e171195.html)

ภาพน้ำตกมิโนกลางคืนของฤดูร้อน (ภาพจาก: https://www.mino-park.jp/e171195.html)

ประวัติความเป็นมาของน้ำตกแห่งนี้ แต่เดิมถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ในการฝึกบำเพ็ญเพียรของพระที่มีชื่อว่า เอ็นโนะเกียวจะ(ennogyouja:役行者)  และเชื่อกันว่าระหว่างที่ฝึกบำเพ็ญตนเอง เอ็นโนะเกียวจะ ได้พบกับเทพเจ้ามังกร จึงเชื่อกันว่าบริเวณปากน้ำตกนั้นเชื่อกันว่าเป็นปากของมังกร นอกจากนี้ โอดะโนบุนางะ นักรบชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นในยุคเซ็นโกะขุ และมัตสึโอะบาโช นักแต่งบทกวีไฮขุชื่อดังก็เคยมาเยือนน้ำตกแห่งนี้เช่นกัน บริเวณที่ตั้งของน้ำตกนั้นอยู่ในสวนมิโนที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในป่าสวยงามของประเทศญี่ปุ่นเมื่ ปีค.ศ. 1986 สามารถนั่งรถไฟสายฮันคิว(Hankyu:阪急) สายทาคาระสึกะ(Takarazuka Line:宝塚線) จากนั้นเปลี่ยนมาขึ้นสายมิโน(Minoh Line:箕面線) เมื่อออกจากสถานีมิโนแล้วจะพบกับร้านค้าต่าง ๆ มากมาย ระหว่างสถานีจนถึงบริเวณน้ำตกนั้นใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าประมาณ 40 นาที ระยะทางราวๆ 2 กิโลเมตร จะมีทั้งวัดและออนเซ็น ร้านค้า ร้านอาหารต่าง ๆ รวมทั้งสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้ด้วยเช่นกัน เหมาะกับคนที่ชอบเดินทางชมธรรมชาติมากค่ะ

สำหรับคนที่อยากจะเดินทางมายังน้ำตกมิโนแห่งนี้ ให้เตรียมรองเท้าผ้าหรือรองเท้าที่สามารถใส่เดินทางไกลมาเพราะต้องเดินเท้าทั้งขาไปและขากลับ แต่ถ้าใครชอบเดินชมธรรมชาติแบบเพลิน ๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ข้อควรระวังอีกข้อคือเนื่องจากบริเวณน้ำตกมิโนเป็นป่าธรรมชาติจึงมักจะพบลิงที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติปรากฏตัวออกมา แต่ไม่ได้พบเห็นบ่อยเหมือนกับกวางที่เมืองนารา แต่ถ้าหากพบเจอก็ห้ามให้อาหารกับลิงนะคะ ไม่งั้นจะเสียค่าปรับประมาณ 10,000 เยน

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองมิโน

1.วัดริวอันจิ(Ryuanji:瀧安寺)

วัดริวอันจิ(Ryuanji:瀧安寺) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.650 เชื่อกันว่าเป็นวัดแห่งแรกที่รับเอาความเชื่อเทพเจ้าเบนไซเทน(เทพสรัสวดี) เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น เป็นวัดที่ต้นกำเนิดล็อตเตอรี่ของประเทศญี่ปุ่น สามารถดูรายละเอียด ได้ที่เว็บไซต์ https://www.ryuanji.org/

ภาพทางเข้าวัดริวอันจิ (ภาพจาก https://minohkankou.net/sights/area/ryuuannji/)

2.วัดโชเทนคูไซโคจิ (Shoutengusaikouji: 聖天宮西江寺)

วัดโชเทนคูไซโคจิ (Shoutengusaikouji: 聖天宮西江寺) เป็นวัดที่สร้างโดยพระเอ็นโนะเกียวจะ เชื่อกันว่าเป็นวัดที่พระไดนิจิเนียวไร หรือพระไวโรจนพุทธะ ได้อวตารลงมาเป็นพระคันกิเต็น และยังมีเทพเจ้าแห่งความสุขประทับอยู่ และยังมีเครื่องรางสำหรับคนที่ต้องการขอพรเรื่องความรักอีกด้วย ใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.saikouji-minoh.com/

บริเวณวัดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ภาพจาก https://minohkankou.net/sights/area/saikouji/)

ลิ้มรสของกินขึ้นชื่อแห่งเมืองมิโน

1.ใบโมมิจิเทมปุระทอดกรอบ (Momiji no tempura:もみじの天ぷら)

เมนูนี้เป็นเมนูที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เป็นใบโมจิสายพันธุ์อิจิเกียวจิคาเอะเดะ(ichigyoukaede: 一行寺楓)ที่เก็บตั้งแต่ในช่วงปลายเดือน 11ถึงต้นเดือนธันวาคม จากนั้นก็นำมาดองเกลือเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจะนำออกมาชุปแป้งที่ผสมน้ำตาลและเกลือ และนำไปทอดน้ำมันทีละใบ ใช้เวลาในการทอดประมาณ 20 นาที

ภาพโมมิจิเท็มปุระที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ (ภาพจาก https://minohkankou.net/eatshopping/shopping/momijitempra/

2.เบียร์มิโน (Minoh Beer)

สำหรับคอนักดื่มเบียร์คราฟไม่ควรพลาดเบียร์มิโน เป็นเบียร์ที่ได้รับรางวัลมากมายเป็นเบียร์ที่ผลิตในเมืองมิโน ตามคำอธิบายเค้าบอกกันว่ากลิ่นหอมและมีความนุ่มลึก เรียกได้ว่าต้องมาลองให้ได้นะคะ 

เบียร์มิโนหลากหลายแบบ (ภาพจากhttps://ippin.minoh.net/2020/07/30/beer/)

3.ดื่มด่ำบรรยากาศของฤดูกาลกับร้านอาหารริมแม่น้ำมิโน (Minohkawayuka:箕面川床)

เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเดินเที่ยวน้ำตกมิโนเลยค่ะ โดยจะมีร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://minohkankou.net/experience/yuka/

ภาพร้านอาหารริมแม่น้ำ

บรรยากาศร้านอาหารริมแม่น้ำอีกร้านหนึ่งค่ะ

(ภาพจากhttps://minohkankou.net/experience/yuka/)

ข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อสอบถามได้ที่สำนักงาน Minoh-koen 1-18, Minoh-koen, Minoh-shi, Osaka 562-0002 ตั้งแต่เวลา 09:00-17:30

เบอร์โทรศัพท์ 072-721-3014

เว็บไซต์ https://www.mino-park.jp

เอกสารเพิ่มเติม https://minohkankou.net/pdf/pdf2.pdf

การเดินทาง

นั่งรถไฟฮันคิวสายทาคาระสึกะมาจนถึงสถานีอิชิบาชิฮันไดมาเอะ(Ishibashi Handaimae: 石橋阪大前) จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นสายมิโน และลงรถที่สถานีมิโน (Minoh:箕面)จากนั้นเดินเท้าต่ออีก40 นาที

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Pleng Chayaporn
เวลารู้สึกเหนื่อย ๆ จะพกกล้องและออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียว หรือออกไปเดินหาร้านกาแฟ ร้านอาหารในท้องถิ่นเพื่อไปสัมผัสกับบรรยากาศ ผู้คนและวัฒนธรรมในที่แห่งนั้น
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!