ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

หน้าร้อนสุขสันต์เที่ยวชมธรรมชาติที่ เมืองตากอากาศชื่อดังคารุอิซาวะ และล่องแก่งที่ไซตามะ

ภูมิภาค
หัวข้อที่เกี่ยว
ohho10may21-00

สวัสดีค่ะทุกคนคราวนี้เราก็จะขอเล่าอดีตก็ไม่เชิงอดีตเนอะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับทริปหน้าร้อนที่เราไปมาเมื่อปีที่แล้วค่ะ เนื่องจากหน้าร้อนในญี่ปุ่นมันจะร้อนมากๆชนิดแสบผิวกันเลยทีเดียวเรากับเพื่อนก็เอจะไปไหนดีนะอยากจะหนีร้อนซะหน่อยไปฮอกไกโดก็ไม่สะดวกเพราะยังอยู่ในช่วงระบาดของโควิดแล้วเลยตัดสินใจไปที่เมืองใกล้ใกล้โตเกียวนี้เองค่ะ. นั่นก็คือคารุอิซาวะ และไซตามะ 2วัน 1คืน เราเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งหรือทางชินกันเซ็น ก็ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมงค่ะ(แล้วแต่ว่าเราสตาร์ทที่ไหน)ก็จะถึงคารุอิซาวะค่ะ

คารุอิซาวะ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาโนะ ทางตอนเหนือของโตเกียวเป็นเมืองตากอากาศที่เป็นที่นิยมมากๆในญี่ปุ่นเนื่องจากมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี (แต่ในหน้าหนาวก็หนาวสุดสุดเหมือนกันนะ)
พร้อมทั้งมีบรรยากาศบ้านเมืองที่สวยงามออกแนวสไตล์ยุโรปชานเมืองมีร้านอาหารชั้นเลิศ และคาเฟ่ชื่อดังมากมาย และยังมีธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย

ที่บอกว่ามีลักษณะบ้านเมืองเป็นสไตล์ยุโรปนั้นก็เพราะได้รับอิทธิพลจากนักบุญที่มาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ชาวแคนาดาที่มายังญี่ปุ่นในราวปี 1886 ค่ะ

อย่างที่เราไปมานะคะช่วงนั้นอุณหภูมิในโตเกียวจะประมาณ35 ถึง 37 องศา แต่ที่คารุอิซาวะนี้ มีอุณหภูมิเพียง 24-25 องศาเท่านั้นเอง คราวนี้เรามาคารุอิซาวะแค่1 วัน แล้วเดี๋ยวเราจะไปต่อที่ไซตามะ เลยไม่ได้เที่ยวในคารุอิซาวะครบเท่าไหร่ แต่จะมาแนะนำที่หลักๆที่น่าไปกันนะคะ

1.น้ำตกชิราอิโตะ (shiraito waterfall)

น้ำตกแห่งนี้ มีความหมายว่าเส้นด้ายสีขาว(ชิระ(ชิโระ)แปลว่าสีขาว และ อิโตะ แปลว่าเส้นด้าย)
โดยน้ำตกแห่งนี้ได้ชื่อมาจากลักษณะสายน้ำที่ไหล ติดต่อกันหลายสายอย่างละเอียดลออของมันนั่นเองค่ะ. อันนี้เรามาในหน้าร้อนทุกอย่างเลยดูเขียวขจีไปซะหมด ถ้ามาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้องยิ่งสวยแน่แน่ค่ะ

 

 

พอเราถึงลานจอดรถเราก็เดินมาเพียงเล็กน้อยก็จะเจอทางเดินเข้าน้ำตกค่ะ อากาศเย็นมากๆ นี่มันคนละประเทศกับโตเกียวแน่ๆ

 

และแล้วเราก็ถึงน้ำตกชิราอิโตะแล้วค่า สงบเยือกเย็นมากๆ พอมาเห็นเข้าใจเลยค่ะว่าทำไมถึงเป็นชิราอิโตะ(ด้ายขาว)

2.เที่ยวชมในเมืองบริเวณสถานีรถไฟคารุอิซาวะ และเดินเล่นย่านold Karuizawa street.

หลังจากที่เราไปชมน้ำตกเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางกลับมาที่บริเวณสถานีรถไฟคารุอิซาวะ เพื่อเช่ารถจักรยานขับเล่นชมเมืองค่ะ (ราคาคอร์สก็แล้วแต่เราเลือกว่าเราจะขับกี่ชั่วโมงก็มีราคาสตาร์ทตั้งแต่ไม่กี่ 1000 เยนเท่านั้นค่ะ)

ที่ที่เราขับรถจักรยานวนไปเที่ยวก็ได้แก่

  • บึงคุโมบะ
  • ย่านคารุอิซาวะเก่า แหล่งทีเดินชิวและซื้อของฝาก
  • แวะชิลคาเฟ่ในร่มไม้

จักรยานคันน้อยของพวกเรา เย้

บึงคุโมบะ  ยามใบไม้เปลี่ยนสีหรือหน้าหนาวจะสวยมากๆ

 

ย่านเมืองเก่าคารุอิซาวะ แหล่งช็อปปิ้งสบายๆ พร้อมร้านขายของฝากมากมาย

 

ขนมจากนมของที่นี่อร่อยมากๆค่ะ  ผลิตภัณฑ์จากผลไม้ก็เริส

 

 

อร่อยมาก อร่อยจนอยากกินอีก วัตถุดิบดีๆ

คารุอิซาวะ เป็นเมืองที่เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติอย่างแท้จริงค่ะแถมยังมาเที่ยวได้ในทุกฤดูกาลอีกด้วยนะ แถมยังมีบ่ออนเซ็นที่เป็นที่นิยมอีกด้วยหลังจากที่เรามาชมเมืองคารุอิซาวะได้ครึ่งวันเราก็ต้องเดินทาง กลับมาที่พักเพื่อจะเก็บแรงไปสู้กับการล่องแก่งพรุ่งนี้ค่ะ

อันนี้อาหารเย็นของโรงแรมที่เค้าเตรียมไว้ให้ ญี่ปุ๊นญี่ปุ่นค่า

พอมาถึงวันที่สองเราก็จองคอร์สล่องแก่งแบบครึ่งวันที่Nagatoro river ค่ะ เพื่อมาดื่มดำ ธรรมชาติกันให้สุดสุดไปเลย สำหรับคราวนี้ร้านบริการล่องแก่งที่เรามาใช้บริการคือ ams house and friends ที่การันตีคุณภาพด้วยระดับ4.8ดาวจากเว็บท่องเที่ยวชื่อดังJalan Japan โดยราคาคอร์สจะอยู่ประมาณ6000¥ต่อคนเท่านั้นค่ะ สิ่งที่เรารู้ต้องเตรียมไปก็มีเพียงแค่เสื้อสำหรับเปลี่ยน หลังล่องแก่งและชุดว่ายน้ำเท่านั้นเองค่ะ ชุดสำหรับล่องแก่งและอุปกรณ์อื่นๆทางร้านมีบริการค่ะ และที่สำคัญมีบริการถ่ายรูปให้ด้วยซึ่งเราก็สามารถเลือกซื้อเดต้าของรูปได้ถ้าหารกับเพื่อนแล้วก็ถือว่าคุ้มสุดสุดเลยค่ะ

หลังรวมตัวแล้วเดินทางมาขึ้นเรือ ไกด์ก็อธิบายวิธีล่องแก่ง

แวะเล่นน้ำ  หนาววววว

มีทั้งช่วงที่น้ำเบาและแรง ถึงไม่เคยเล่นมาก่อนก็ไม่ใช่ปัญหา

ohho10may21-00

สนุกมากค่า

ธรรมชาติสะอาดและงดงามมากๆ

แม่น้ำนางะโตโระ แห่งไซตามะ

ถึงสต๊าฟ จะไม่ค่อยสันทัดภาษาอังกฤษเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะเพราะทุกคนเฮฮาและร่าเริงมากๆ อย่างคอร์สครึ่งวันรวมเวลา แล้ว 3 ชั่วโมงผ่านไปอย่างกับกระพริบตาเลยค่ะ ตั้งแต่ 9โมงเช้าถึงเที่ยง (นัดรวมตัวก่อนเวลา15 นาทีนะคะ ถ้าสายเค้าไม่รอนะคะ ระวังเรื่องเวลาด้วยน้า)  โดยทั้ง 3  ชั่วโมงเนี่ยจะเป็นเวลาล่องแก่งประมาณ 1ชั่วโมงครึ่งและที่เหลือเป็นเวลาเตรียมตัวไม่ได้ต้องพายทั้ง 3ชั่วโมงเพราะฉะนั้นวางใจได้นะ ถถถถถ  ความรู้สึกชิลล์ชิลล์ที่ได้ธรรมชาติมาเยียวยาจิตใจ แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วแค่ไหนแต่เค้ายังให้ความสำคัญกับธรรมชาติเป็นอย่างมากแม่น้ำสวยใสสะอาดยังคงมีเห็นได้ทั่วไป ผู้เขียนอยากให้ทุกคนมาลองสัมผัสธรรมชาติของญี่ปุ่นดูนะคะ ญี่ปุ่นที่เป็นญี่ปุ่นจริงๆ ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ คราวต่อไปเราจะพาทุกคนไปเที่ยวไหนดีนะ!


Amshouse & friends Website (Japanese only)

https://amshouse.co.jp/

Price: 6,000-8,000 yen

Address: 560,Saitama, Chichibu District, Nagatoro, Nakanogami, JP 369-1303

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Karuru
สวัสดีค่ะKaruru นะคะ ขอแนะนำตัวให้รู้จักกันสักนิดหนึ่งน้า Karuru เป็นสาวน้อยตัวเล็กๆในโตเกียวค่ะ(เอาจริงๆก็ตัวไม่น้อยหรอกTvT) ตอนแรกก็แค่ได้ทุนมาเรียนมหาลัยที่ญี่ปุ่นแต่แล้วจับพลัดจับผลูเรียนจบทำงานต่อ ล่วงเลยมาก7-8ปีเข้าไปแล้วค่ะ. สำหรับเรื่องท่องเที่ยวก็ถือเป็นงานอดิเรกอย่างนึงเลย ตอนแรกๆก็ตามเที่ยวตามกินตามสถานที่แนะนำในเน็ตนี่แหละค่ะ แต่พอเวลาผ่านไป ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์เที่ยวของตัวเองบ้างก็เลย รวบรวมเนื้อหาประสบการณ์ที่น่าสนใจ มาแนะนำต่อให้ทุกคนได้เป็นเกร็ดในการวางแผนเที่ยว. หวังว่าทุกคนจะได้รับข้อมูลไว้อ้างอิงไม่มาก ก็น้อยนะคะ. ผู้เขียนจะดีใจมาๆเลยค่ะ <3
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!