ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ที่เที่ยว(ไม่)ลับ…ให้คุณเที่ยวญี่ปุ่นเหมือนเป็นคนญี่ปุ่น (Part I – In a Heart of Tokyo City)

Cover Pic_Coolest District-7d7b1047

แน่นอนว่าหมุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป ย่อมเป็นสถานที่ซึ่งมีความโดดเด่นน่าสนใจ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ หรือเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยี มีกิมมิคและความงดงาม จนสามารถดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลมาเยี่ยมเยือนและกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทุกคนต้องหาโอกาสมาแวะให้ได้สักครั้ง

แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่า ไม่อยากให้ทริปญี่ปุ่นที่กำลังจะมาถึงเป็นเพียงแค่การท่องเที่ยว “โดยทั่วไป”

ถ้าเช่นนั้น ทำไมเราไม่ลองมองหาที่เที่ยวในแบบที่แตกต่าง ที่ไม่ใช่แค่วัดเซ็นโซจิหรือโตเกียวสกายทรี สักที่ซึ่งเดินทางง่ายแค่ไม่กี่ก้าวจากรถไฟแต่ไม่ถึงกับพลุกพล่านวุ่นวายจนอึดอัดแบบชิบูย่าหรือฮาราจูกุ

สถานที่ซึ่งไม่ใช่พื้นที่หลักของนักท่องเที่ยวต่างถิ่น แต่ก็ไม่ได้ลึกลับจนน่ากลัวหรือเข้าไม่ถึง

แหล่งท่องเที่ยวคูลๆ ที่ทำให้คนคูลๆ อย่างคุณ ได้เที่ยวราวกับเป็นเจ้าถิ่นเสียเอง

ตอนที่ 1 – ใจกลางกรุงโตเกียว

  • นากาเมะกุโระ (Nakameguro)

หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า “ย่านนากาเมะ” เป็นย่านที่ไม่ใช่ความลับ เดินทางก็ง่ายดายเพราะห่างจากรถไฟสถานีชิบูย่ามาเพียงหนึ่งสถานี โดยชิบูย่ามายังนากาเมะกุโระใช้เวลาประมาณ 5 นาที แต่ถึงแม้จะเดินทางสะดวกสบายและอยู่ใกล้ย่านแสงสีชื่อดัง แต่คนส่วนใหญ่ที่มีเวลาสั้นๆ ในโตเกียว มักจะไม่เคยมาที่นี่กันเท่าไหร่

ย่านนากาเมะ มีพื้นที่ทั้งหมดประกอบไปด้วยตรอกซอกซอยอันน่าสนใจ และนับว่าเป็นย่านที่มีชีวิตชีวาและความทันสมัยมากที่สุดย่านหนึ่งในโตเกียว เพราะเต็มไปด้วยบาร์และร้านอาหารสวยๆมากมาย แต่จุดเริ่มต้นในการเดินเล่นในย่านนี้ต้องยกให้ทางเดินริมแม่น้ำเมะกุโระ ซึ่งเป็นอีกแหล่งชมดอกซากุระบานที่สวยงามสุดๆอีกแห่งในโตเกียว

ขณะที่คุณเดินเล่นด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายภายใต้อุโมงค์ซากุระสีขาวชมพูอันน่าหลงใหล คุณจะได้พบกับร้านกาแฟพื้นบ้านแสนน่ารักและเงียบสงบ ร้านขายสินค้าแนวโบฮีเมียน ร้านขายสินค้าแฟชั่นอาร์ตๆ ร่วมสมัย คาเฟ่เก๋ๆและร้านอาหารแบบเรียบง่าย รวมทั้งร้านรวงที่แตกต่างกันไปตลอดสองฝั่งริมแม่น้ำ ให้คุณได้แวะซื้อของฝากและคราฟเบียร์กลับไปดื่มเย็นๆที่ห้องพักได้อย่างสบายใจ

และถ้ามีเวลา อย่าลืมแวะไปเยี่ยมร้านหนังสือ  Nakameguro Tsutaya Books ที่จะทำให้คุณหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งงานเขียนสไตล์ญี่ปุ่น ทั้งตำราแบบโบราณและทันสมัย เครื่องเขียนและอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงมีการจัดนิทรรศการต่างๆตามโอกาสอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูล:

https://www.japan.travel/th/destinations/kanto/tokyo/nakameguro-and-around/

https://www.gotokyo.org/th/destinations/southern-tokyo/nakameguro/index.html

  • ยานากะ (Yanaka)

ยานากะ เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ธุรกิจเก่าแก่ที่ชื่อว่า ยาเนะเซ็น (Yanesen) เป็นหนึ่งในพื้นที่ไม่กี่แห่งที่สามารถรอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมถึงภัยธรรมชาติมาได้อย่างเหลือเชื่อ และยังคงรักษาบรรยากาศความเป็นเมืองเก่าไว้ได้เป็นอย่างดีแม้วันเวลาจะผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยเขตยาเนะเซ็น ประกอบด้วยพื้นที่ของ 3 ย่านประวัติศาสตร์อันงดงามและน่าค้นหา ได้แก่ ยานากะ (Yanaka) เนซุ (Nezu) และ เซ็นดางิ (Sendagi)

ในส่วนของยานากะ สามารถเรียกได้ว่าเป็นย่านที่เปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ในทุกช่วงเวลาของวัน โดยเฉพาะในช่วงบ่ายวันหยุด ที่ยานากะกินซ่า ซึ่งเป็นถนนสายช้อปปิ้ง (Shotengai) จะเรียงรายไปด้วยแผงขายอาหารแบบโบราณ ร้านบูติกเล็กๆ และร้านที่ขายสินค้าแฟชั่นทั้งยุคใหม่และเก่า นอกจากนั้นยังมีบาร์เบียร์ให้ได้แวะจิบเครื่องดื่มเย็นๆ รวมทั้งมีแกลเลอรี่แสดงงานศิลปะที่ในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำด้วย

ณ ย่านยานากะ คุณจะสัมผัสถึงบรรยากาศในยุคโชวะได้จากอาคารบ้านเรือนที่ยังคงเป็นอาคารไม้ มีร้านอาหารแบบอิซากายะ และร้านรวงที่ตกแต่งแบบย้อนยุค สำคัญที่สุดที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้ยังอบอวลด้วยความเป็นอดีตข้ามกาลเวลา ก็คือ “สุสานยานากะ” และยังมี “ศาลเจ้าเนซุ” ในย่านเนซุ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน

การเดินทางไปยังย่านยานากะ สามารถนั่งรถไฟสายยามาโนเตะ (JR Yamanote) ลงที่สถานี Nippori จากนั้นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเพื่อเดินเลียบถนนหลัก ไม่ไกลนักจะถึงยานากะกินซ่า

อีกวิธีแบบเรทโทรในการเดินทางไปยังย่านยานากะ คือคุณสามารถเดินผ่านตรอกซอกซอยอันเงียบสงบจากสวนสาธารณะอุเอโนะที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างง่ายดาย

ขอบคุณข้อมูล:

https://www.gotokyo.org/th/destinations/northern-tokyo/yanaka-and-nezu/index.html

https://www.japan.travel/th/spot/2112/

  • ชิโมกิตาซาวะ (Shimokitazawa)

ชิโมกิตาซาวะ หรือบางคนอาจเรียกว่า “ชิโมกิตะ” (Shimokita) เป็นย่านท่องเที่ยวสุดฮิปที่เคยได้ชื่อว่า “The coolest neighborhood in the world” โดย Vogue Magazine ปี 2014

ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อมีนิตยสารชื่อดังระดับโลกถึงขั้นการันตีความคูล ก็ย่อมดึงดูดความสนใจต่างๆเข้ามาสู่ชิโมกิตะได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ แม้จะโด่งดังและอยู่ห่างจากชิบูย่าแค่ไม่กี่ก้าว แม้ว่าโดยรวมแล้วจะเป็นย่านวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยสถานที่แสดงดนตรี คาเฟ่สุดฮิป ร้านขายของวินเทจ และสินค้าสไตล์โบฮีเมียน แต่ความพลุกพล่านระหว่างชิโมกิตะกับชิบูย่านั้นยังคงต่างกันโดยสิ้นเชิง

นอกจากนั้น ชิโมกิตะยังได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ซึ่งเหมาะกับการเดินเล่นระหว่างวัน เพราะนอกจากร้านค้าและร้านอาหาร ยังมีร้านหนังสือมากมายและหลากหลายรูปแบบให้ได้แวะเวียน

ในตอนกลางคืน คุณจะพบร้านอาหารแบบอิซากายะ และบาร์ดีๆ สองสามแห่งให้ได้แวะเวียน แม้ว่าสถานบันเทิงยามค่ำคืนของชิโมกิตาซาวะจะค่อนข้างเงียบเมื่อเทียบกับย่านที่ใหญ่กว่าอย่างชิบูย่าและชินจูกุ

และแม้ว่าบทความในนิตยสารจะผ่านมานานหลายปี และแม้จะมีเหตุผลข้อไหนก็ตามที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีไดนามิกที่แตกต่างจากละแวกใกล้เคียง ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าชิโมกิตะเป็นหนึ่งในย่านที่สนุกสนานและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาย่านหนึ่งในโตเกียว

การเดินทางไปยังชิโมกิตะซาวะ สามารถทำได้โดยนั่งรถไฟสาย Odakyu Line  หรือ Keio-Inokashira Line ไปลงที่สถานี Shimokitazawa ได้เลย

ขอบคุณข้อมูล:

https://www.gotokyo.org/en/destinations/western-tokyo/shimokitazawa/index.html

 


END

Written by Pok Safin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!