การเดินทางในญี่ปุ่น

ภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ เพื่อการถามทาง

direction

หลายคน คงเคยผ่านอุปสรรคในการหาทางกลับโรงแรมด้วยตัวเอง เวลาเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นและหลงทางกันมาแล้ว การหลงทางในต่างประเทศไม่ได้เป็นเรื่องแปลก แต่คือการผจญภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งสร้างสีสันให้แก่ทริปนั้นของเรา 

แต่ทะว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ทำให้การผจญภัยของเรานั้นยิ่งยากเข้าไปอีก ใครที่เคยหลงทางในประเทศญี่ปุ่น กว่าจะถามทางรู้เรื่อง กว่าจะหาทางกลับได้ จะไม่ลืมเหตุการณ์นั้นเลยในชีวิต

จริงๆแล้ว การถามทางนั้นไม่ยาก ไม่จำเป็นจะต้องพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นได้เก่ง เราสามารถจำเป็นรูปประโยคและคำศัพท์ง่ายๆได้ นอกจากจะได้ใช้เวลาเราหลงทางแล้ว ยังมีประโยชน์ในการถามหาสถานที่ที่เราต้องการจะไปได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 

道に迷いました

รูปภาพจาก https://pixabay.com/ja/illustrations/方向-質問-う方向-3508620/

ประโยคแรกที่ควรจะจำไว้เลย นั่นคือคำว่า 道に迷いました (Michi ni mayoi mashita) แปลว่า “ฉันหลงทาง” ถ้าคุณหาทางกลับไม่เจอ แล้วไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ไหน พูดประโยคนี้กับคนญี่ปุ่นเพื่อขอความช่วยเหลือได้ง่ายที่สุด 

คนญี่ปุ่นใจดีและยินดีที่จะช่วยเหลือ ถึงแม้จะมีกำแพงภาษา ก็จะพยายามอธิบายด้วยภาษามือให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนและจะหาทางกลับได้อย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์หลงทางขึ้น ให้ใช้ประโยคนี้บอกกับใครก็ได้แถวนั้นได้เลย 

すみませんが、助けてください

ประโยคสุภาพที่สามารถใช้ขอความช่วยเหลือได้คือ すみませんが、助けてください (Sumimasen ga, tasukete kudasai) แปลว่า “ขอโทษครับ ช่วยด้วยครับ” เป็นการเกริ่นนำเพื่อทักเรียกแบบสุภาพและขอความช่วยเหลือ ตรงกับภาษาอังกฤษ  “Excuse me, please help me” ใช้ได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการหลงทางและต้องการถามทางกลับ หรือเจอความลำบากและต้องการขอความช่วยเหลือ ใช้ประโยคนี้บอกตรงๆกับคนญี่ปุ่นได้เลย 

ここ・そこ・あそこ

ต่อมา เรามารู้คำบอกสถานที่เบื้องต้นง่ายๆกัน คำแรกคือ ここ (koko) แปลว่า “ที่นี่” そこ (soko) แปลว่า “ที่นั่น” あそこ (asoko) คือ “ที่โน่น” 

ถึงแม้เราจะไม่รู้ชื่อสถานที่ ที่เราต้องการพูดถึง สามารถใช้คำศัพท์เหล่านี้ในการแทนสถานที่ได้ พร้อมประกอบด้วยการชี้ทาง เวลาคนญี่ปุ่นอธิบายการเดินทาง ก็จะมีคำศัพท์ 3 คำนี้ ขึ้นมาอย่างแน่นอน ว่าให้ไปที่นั่น ที่โน่น  เมื่อเรารู้ 3 คำนี้แล้ว ก็จะสามารถเข้าใจได้ง่ายว่า คนญี่ปุ่นพูดถึงสถานที่นั้นในระยะไกลแค่ไหน ここ (koko) “ที่นี่” そこ (soko) “ที่นั่น” หรือ あそこ (asoko)  “ที่โน่น” 

รูปภาพจาก https://thenounproject.com/term/man-giving-direction/635133/

รู้จักชื่อสถานที่หลักๆ

มาทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์บ่งบอกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกัน 

えきekiสถานีรถไฟお寺oteraวัด 
トイレtoireห้องน้ำデパートdepaatoห้างสรรพสินค้า 
コンビニkonbiniร้านสะดวกซื้อホテルhoteruโรงแรม 
レストランresutoranร้านอาหาร 交番kobanสถานีตำรวจ 
神社jinjaศาลเจ้า 公園kouenสวนสาธารณะ 

……..に行きたいんですが。。

อีก 1 ประโยคที่มีประโยชน์และเข้าใจง่ายนั่นคือ (ชื่อสถานที่)に行きたいんですが。。(ni ikitai desu ga….) แปลว่า “ฉันอยากจะไป (ชื่อสถานที่)” เราสามารถใส่ชื่อสถานที่ ที่เราอยากจะไป ไม่ว่าจะเป็นชื่อเฉพาะหรือชื่อโดยทั่วไปก่อนคำว่า “ni” แล้วตามด้วย “ikitai desu” จากนั้นลากเสียง “ga” ด้วยโทนเสียงต่ำ เป็นการถามทางในเชิงที่ว่า “อยากจะไปที่นี่ (ช่วยบอกทางหน่อย)” ถึงแม้ ไม่ต้องพูดประโยคว่า ช่วยบอกทางหน่อย แต่ก็เป็นการเข้าใจกัน 

ตัวอย่างเช่น 渋谷に行きたいんですが。。 (Shibuya ni ikitai desu ga...) คือ “ฉันอยากไปที่ชิบูย่า……” แค่นี้..คนญี่ปุ่นก็เข้าใจแล้วว่าเรากำลังมองหาทางไปชิบูย่าอยู่ ช่วยบอกฉันที 

………..はどこですか?

ประโยคที่ง่ายอีกแบบคือ  (ชื่อสถานที่)はどこですか? (wa doko desu ka?) คือ “(ชื่อสถานที่) อยู่ที่ไหน?” สามารถใส่สถานที่ ที่อยากจะไป ไว้ข้างหน้าคำว่า “wa” ได้เลย 

ตัวอย่างเช่น トイレはどこですか?( toire wa doko desu ka?) แปลว่า “ห้องน้ำอยู่ที่ไหน?” เท่านี้ เราก็สามารถสื่อสารรู้เรื่องแล้ว ไม่ว่าคุณต้องการจะไปที่ไหนหรือมองหาสถานที่นั้นอยู่ ก็ให้ถามทางในรูปประโยคง่ายๆนี้ได้เลย 

この電車はどこにいきますか?

อีกหนึ่งคำถามที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีโอกาสได้ใช้มากนั่นคือ この電車はどこにいきますか? (kono densha wa doko ni ikimasu ka? ) แปลว่า “รถไฟขบวนนี้ไปที่ไหน ?” 

จากที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นมีเส้นทางรถไฟเป็นใยแมงมุมทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนสับสนในการเดินทางมากันมากแล้ว อีกทั้ง รถไฟแต่ละคันในชานชลาเดียวกัน บางครั้งก็เดินทางไปสู่จุดหมายที่ต่างกัน หรือไม่จอดป้ายที่เราต้องการจะลง การถามว่า รถไฟนี้ไปไหนในเวลาเราไม่มั่นใจ จะทำให้เราชัวร์ได้ว่าเราจะไปถึงจุดหมายที่ต้องการ เพื่อไม่ให้เสียเวลา 

รูปภาพจาก https://www.flickr.com/photos/rail02000/19526570620

みぎ、ひだり、まっすぐ

เพื่อการรับฟังคำตอบของคนญี่ปุ่น หลังจากการถามทาง ให้ได้เข้าใจมากขึ้น เราต้องรู้คำศัพท์แนะนำทางพื้นฐานไว้ด้วย

みぎ (migi) แปล่ว่า “ขวา” และ ひだり (hidari) แปลว่า “ซ้าย” ใช้ในการแนะนำทิศทาง โดยจะใช้คู่กับประโยค …………にまがってください (ni magatte kudasai) แปลว่า “กรุณาเลี้ยว………” คำว่า ขวาหรือซ้าย จะนำหน้ารูปประโยคนี้ 

ต่อมาคือคำว่า まっすぐ (massugu) แปลว่า “ตรง” จะมาคู่กับประโยค まっすぐにいってください (massugu ni itte kudasai) แปลว่า “กรุณาตรงไป” หรือ まっすぐにあるいてください (massugu ni aruite kudasai ) “กรุณาเดินตรงไป” 

ปกติแล้วเวลาแนะนำทางในกรณีบอกทิศทางอย่างนี้ ก็จะใช้ภาษามือในการชี้แนะ ให้ตรงไป ไปทางซ้ายหรือทางขวาอยู่แล้ว ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลว่าเวลาถามทางแล้ว เราจะฟังไม่รู้เรื่อง เราสามารถจับคำศัพท์ง่ายๆเหล่านี้ไว้ได้แน่นอน 

รูปภาพจาก https://www.flickr.com/photos/jeremybrooks/1035423100

ホテルに帰りたいですが、道を教えてください

มาถึงประโยคคลาสสิคที่คิดว่าหลายคนอาจจะต้องใช้เมื่อหลงทางและหาทางกลับโรงแรมไม่ได้  ホテルに帰りたいですが、道を教えてください (hoteru ni kaeritai desu ga, michi wo oshiete kudasai) แปลว่า “อยากจะกลับโรงแรม ช่วยบอกทางด้วย” 

เพื่อให้ง่ายขึ้นในการบอกว่าโรงแรมไหน เวลาไปพัก ก็อย่าลืมเอานามบัตรที่ตั้งของโรงแรมจาก Front Office ไว้ในกระเป๋ากางเกงเราด้วย เราไม่รู้ว่าแบตโทรศัพท์เราจะหมดหรือเสียเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าเรามีนามบัตรของโรงแรมติดไว้ในกระเป๋าเรา พร้อมจำรูปประโยคนี้เราก็สามารถกลับโรงแรมได้อย่างปลอดภัยแล้ว 

ศูนย์ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

หากคุณต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะกรณีใดๆ ให้มองหา 2 หน่วยนี้คือ 1 สถานีตำรวจและ 2 ศูนย์ให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว 

รูปภาพจาก https://snappygoat.com/s/?q=bestof%3AMomoma-shindo+avn+miyashiro+town.JPG+ja+%E5%9F%BC%E7%8E%89%E7+%8C%E5%8D%97%E5%9F%BC%E7%8E%89%E9%83%A1%E5%AE%AE%E4%BB%A3%E7%94%BA%E7%99%BE%E9%96%93%E6%96%B0%E9%81%93+own+%E6+%AC%E4%BA%BA%E6%92%AE%E5%BD%B1+Ebiebi2+10%E5%B9%B43%E6+%8827%E6%97%A5+Miyashiro+Saitama

สถานีตำรวจของญี่ปุ่นจะไม่โดดเด่นมาก เป็นตึกปกติทั่วไปตามท้องถนน แต่จะมีสัญลักษณ์รูปดาวซึ่งเป็นตราของตำรวจในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันได้มีป้ายบอกเป็นภาษาอังกฤษคำว่า “KOBAN” ไว้อย่างชัดเจนแล้ว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจง่ายขึ้น มีปัญหาพาสปอร์ตหายหรือโดนขโมยของในๆก็สามารถเข้าไปคุยกับตำรวจได้เลย แม้แต่หลงทาง ตำรวจญี่ปุ่นก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ 

รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:観光案内所.jpg

อีก 1 จุดคือ จุดบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีสัญลักษณ์เป็นรูปเครื่องหมายคำถาม ตัวใหญ่ๆ สังเกตได้ง่าย พนักงานให้บริการที่นี่ส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อย สามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว วิธีการเดินทางไป และโปรโมชั่นอื่นๆได้ด้วย ถ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทยก็อาจจะมีโบชัวภาษาไทยให้ด้วย 


การหลงทางคือเหตุการณ์กรณีพิเศษที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนไม่ว่าจะไปกับทัวร์หรือเดินทางด้วยตัวเอง แต่ญี่ปุ่นก็ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุด ผมแนะนำให้รู้คำศัพท์เบื้องต้นในการถามทาง ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ประโยชน์ที่ดีกว่านั้นคือเราสามารถถามหาสถานที่ที่เราต้องการไปได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาหา Sport WiFi และมานั่งเสิร์ชว่าต้องเดินไปทางไหน ความรู้เล็กๆน้อยๆจะช่วยให้ทิปเรานั้นปลอดภัยและสนุกมากขึ้นนะครับ 

shopping
สำนวนภาษาญี่ปุ่นง่ายๆในการ shoppingเคยมั้ยเวลาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นและมีปัญหาในการสนทนากับพนักงานขายที่...
Cover
22 ประโยคเอาตัวรอดในญี่ปุ่น (ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานสำหรับนักท่องเที่ยว)ว่าด้วยเรื่องการไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง สิ่งสำคัญที่เราจำเป็นต้องเ...
ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST
JR Tokyo Wide Pass
การเดินทางในญี่ปุ่น

เที่ยวอย่างคุ้มค่าด้วย JR Tokyo Wide Pass ทริปที่ (1) เล่นหิมะที่กาลายูซาว่า (ใช้ JR Pass อย่างไรให้คุ้มค่า...ตอนที่ 2)

07/01/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!