การเดินทางในญี่ปุ่น

ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ ตัวช่วยนักเดินทางบ้าหอบฟาง

ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ ตัวช่วยนักเดินทางบ้าหอบฟาง

สำหรับมนุษย์บ้าหอบฟางแล้ว ไม่มีคำว่าเกินความจำเป็นในพจนานุกรมของพวกเค้า เพราะของทุกชิ้นที่หยิบใส่กระเป๋าก่อนออกเดินทางนั้น ได้ถูกคิดแล้วว่ามีความสำคัญในยามฉุกเฉินทั้งสิ้น แต่การเดินทางไปในแต่ละจุดหมายในญี่ปุ่นนั้นก็อาจทำให้คนช่างหอบต้องหอบได้ เพราะแค่การเดินออกจากสถานีรถไฟที่ไม่มีลิฟต์หรือบันไดเลื่อนด้วยการยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ขึ้นบันไดที่สูงท่วมหัวนั้น ก็ทำให้จั๊กกะแร้เปียกได้เลยทีเดียว

ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ จึงได้เกิดขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกไม่เฉพาะแค่คนญี่ปุ่นเท่านั้น แต่สำหรับนักเดินทางแล้วมันมีประโยชน์มาก หากต้องเดินทางโดยมีสถานีรถไฟเป็นจุดเชื่อมต่อ อย่างทริปล่าสุด เราใช้ตู้ล็อกเกอร์เป็นที่ฝากกระเป๋าในโตเกียว ก่อนจะออกเดินทางไปค้างคืน 2 คืน ที่โอดาวาระ แล้วจึงกลับมาโตเกียวอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องลากกระเป๋าใบยักษ์กลับไปกลับมาให้ปวดไหล่ หรือในบางวันที่เราเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตไปในตอนเช้าเพราะอากาศเย็นนิด ๆ หรือมีฟ้าครึ้มเหมือนฝนจะตกเราก็พกร่มไป แต่พบว่าพอตอนสายกลับเริ่มร้อนและของเหล่านั้นก็กลายเป็นส่วนเกิน ไม่จำเป็นอีกแล้ว เราก็สามารถเอาเสื้อหรือร่มไปใส่ในล็อกเกอร์ในสถานีรถไฟไว้ก่อน ขากลับก็มาเก็บของกลับไปสบาย ๆ หรือสำหรับนักช้อป เช้าช้อปย่านนึง บ่ายอีกย่านนึง ตู้ล็อกเกอร์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ไม่ต้องหอบหิ้วของพะรุงพะรังไปด้วยทุกที่

โดยปกติแล้วตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญจะตั้งอยู่ตามสถานีรถไฟใหญ่ ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะมีเหลือเฟือให้เลือกใช้ได้อย่างสบายใจ อย่างตู้ในสถานีชินจูกุเราก็อาจจะต้องใช้ดวงซักหน่อยหากจำเป็นต้องใช้ตู้ขนาดใหญ่ เพราะในหนึ่งจุดที่ตั้งของตู้จะประกอบด้วยตู้ขนาดเล็ก (กว้าง 34 x สูง 35 x ลึก 57 ซม.) ที่มีจำนวนมากที่สุด รองลงมาเป็นตู้ขนาดกลาง (กว้าง 34 x สูง 57 x ลึก 57 ซม.) และตู้ขนาดใหญ่จะมีจำนวนน้อยที่สุด (กว้าง 34 x สูง 117 x ลึก 57 ซม.) แต่ละตู้จะมีค่าบริการต่อวันต่างกันไปตั้งแต่ 400 ถึง 800 เยน ตามลำดับขนาดของตู้ ซึ่งในกรณีที่เราต้องการฝากข้ามคืน ก็ให้คูณค่าบริการไปตามวันปฏิทิน สามารถทิ้งสัมภาระไว้ในล็อกเกอร์ได้ไม่เกิน 3 วันปฎิทิน หากฝากของไว้เกิน 1 วัน ในวันที่จะมาเอาของออกก็แค่หยอดเหรียญเข้าไปเพิ่มจึงจะเปิดตู้ได้ แต่ถ้าหากครบ 3 วันแล้วยังไม่มีการมาเปิดตู้เอาของออก จะมีเจ้าหน้าที่มาเก็บของเพื่อเคลียร์ตู้ให้เอง เราก็แค่ต้องไปรับของคืนที่เคาน์เตอร์ค่ะ

วิธีการใช้ตู้ก็ไม่ยากเลยค่ะ สิ่งที่ยากคือการหาตู้ที่ว่างให้เจอ ส่วนใหญ่แล้วจุดที่วางตู้จะอยู่ตามทางเข้าออกของสถานีและภายในสถานี กระจายกันไป ซึ่งถ้าหากจุดที่สะดวกสำหรับเรามันเต็มหมด ก็อาจจะต้องลองเดินข้ามไปอีกฝั่งของสถานีเพื่อหาตู้ที่ว่าง และที่สำคัญควรจะถ่ายรูปที่ตั้งของแผงตู้นั้นไว้ด้วยกันลืมค่ะ เมื่อเราเจอตู้ว่างแล้ว ก็จัดการใส่สัมภาระของเราเข้าไปได้เลยค่ะ หลังจากนั้นก็หยอดเหรียญ 100 เยนเข้าไปตามราคาของตู้นั้น ๆ จังหวะนี้ถ้าใครมีเหรียญไม่พอก็สามารถแลกเหรียญที่ตู้แลกเหรียญที่มักจะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กันได้ แต่บางตู้ก็สามารถจ่ายด้วย IC Card อย่าง Suica หรือ Pasmo ได้แล้วก็จะสะดวกอีกแบบจากนั้นตู้ของเราจะถูกล็อกจนกว่าเราจะเอากุญแจมาไขเปิด

นอกจากสถานีรถไฟแล้ว ตามแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ก็มีตู้ล็อกเกอร์ให้บริการด้วยเช่นกัน อย่างเช่น Universal Studios Japan จากประสบการณ์ของเราคือ เดินทางจากโตเกียวมาถึง USJ ในเวลาเช้าตรู่พร้อมกับสัมภาระทั้งหมดเพราะเรามีแผนจะค้างที่โอซาก้าในคืนวันนั้น ที่ USJ จะมีพื้นที่สำหรับตู้ล็อกเกอร์ใหญ่มากตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า ถ้าไปถึงแต่เช้าก็พอจะสามารถเลือกตู้ที่อยู่นอกสุดได้ ในบริเวณเดียวกันก็มีห้องน้ำใหญ่มากอยู่ด้วย เราจึงได้ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุดและฝากสัมภาระทั้งหมดไว้ในล็อกเกอร์ก่อนที่จะเข้าไปเล่นใน USJ แบบตัวเบาหวิว เป็นอะไรที่สะดวกมาก ๆ แต่ถ้าหากใครมีสัมภาระที่ใหญ่เกินกว่าจะใส่เข้าไปในตู้ได้ ก็ขอแนะนำว่าให้ไปที่เคาน์เตอร์รับฝากของจะดีที่สุดค่ะ ส่วนใหญ่จะมีให้บริการที่สนามบินและสถานีรถไฟใหญ่ ๆ ที่นั่นจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลสัมภาระของเรา ซึ่งจะถูกเก็บรวมกันในห้องเก็บสัมภาระ และค่าบริการก็จะสูงกว่าเล็กน้อยค่ะ

เรียกได้ว่าตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญนั้นเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวเล็ก ๆ แต่สำคัญมาก ๆ ในการเดินทางแต่ละครั้ง สามารถทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและอาจจะบ้าหอบฟางสามารถปลดความกังวลลงไปได้มากทีเดียว ขอแค่อย่าลืมว่าฝากของไว้ที่ล็อกเกอร์ ไม่งั้นจากเรื่องง่ายจะกลายเป็นลำบากแทนนะคะ : )


• เช็กสถาานะตู้ล็อกเกอร์ในสถานีรถไฟโตเกียวได้ที่เว็บนี้

http://www.akilocker.biz/mobile/area.html?locationId=JR_TOKYO&lang=2

Credit

https://www.japan-guide.com/e/e2274.html

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Amornsri Anutrakulchai
Amornsri Anutrakulchai
เป็นคนที่รักการเที่ยวคนเดียวมาก ๆ และอยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนลองเดินทางด้วยตัวเอง แต่แปลกมาก ๆ ที่เราไม่เคยเดินทางในญี่ปุ่นคนเดียวเลย อาจเป็นเพราะเป็นประเทศที่ทุกคนมีความผูกพัน ใฝ่ฝันและเอื้อมถึงได้ ก็เลยมักจะมีเพื่อนร่วมทางด้วยเสมอ สิ่งที่เราสนใจในญี่ปุ่นมากที่สุดคืองานออกแบบในทุก ๆ มิติ ทั้งสถาปัตยกรรม ของใช้ อาหาร แฟชั่น การ์ตูน ชอบในความละเอียดกับที่มาที่ไปของทุก ๆ สิ่งรอบตัวค่ะ
RELATED POST
japan highway
การเดินทางในญี่ปุ่น

จุดพักรถบนทางด่วนญี่ปุ่น มันดีอย่างนี้เอง

นั่งรถกันมานานแล้ว...ขอแวะเข้าห้องน้ำ พักรถกันหน่อย โอ้ว้าว!   นี่คือ … 21/03/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
OhhoTrip_Train_Cover-01
การเดินทางในญี่ปุ่น

9 ข้อ รู้ก่อนได้เปรียบ ก่อนขึ้นรถไฟในญี่ปุ่น

การเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งในกิจกรรมปราบเซียนของนักท่องเท … 25/08/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
kinkaku-ji-1
การเดินทางในญี่ปุ่น

แนะนำสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาว! จุดวิวสวยทั่วประเทศช่วงฤดูหนาว 13 อันดับที่ไปได้โดยรถไฟหรือรถบัส (ปี 2019-2020)

ประเทศญี่ปุ่นมี 4 ฤดูกาล คือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนา … 15/04/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
Joyful Train (JR East) cv
การเดินทางในญี่ปุ่น

ทำความรู้จัก Joyful Train (JR East) รถไฟแห่งความสุขสายตะวันออก

วิธีการเดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นหลักๆ คงหนีไม่พ้นการเดินทางโดยรถไฟ ภาพ … 23/03/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
furusatto_p1
การเดินทางในญี่ปุ่น

การใช้ที่จอดรถในญี่ปุ่น

สิ่งที่สำคัญมากอีกประการในการขับรถเที่ยวญี่ปุ่นคือการหาที่จอดรถ โดยเฉพ … 07/03/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
การเดินทางในญี่ปุ่น

ย้อนอดีตไปกับเมืองนาราเมืองหลวงเก่าแก่แห่งประวัติศาสตร์ใน 1 วัน

เมืองนาราเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ไม่แพ้เมืองเ … 05/04/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.