การเดินทางด้วยตัวเองในประเทศญี่ปุ่นอาจจะเป็น challeage ใหญ่สำหรับใครที่ไม่เคยไปมาก่อน แต่นั่นเป็นการผจญภัยที่คุ้มค่าและไม่สามารถหาประสบการณ์ได้จากประเทศไหนๆ ทำไมหรอ ? ถ้าคุณเคยเปิดดูแผนที่เดินทางรถไฟในประเทศญี่ปุ่นแล้วจะรู้สึกปวดหัวทันที นี่คือแผนที่หรือใยแมงมุม? ยังไม่หมดแค่นั้น รถไฟในญี่ปุ่นนั้นมีหลายประเภททั้งจอดทุกป้าย จอดบางป้ายและไม่จอดเลยจนถึงจุดหมายปลายทาง อีกทั้ง รถไฟเหล่านั้นวิ่งบนรางเดียวกัน! เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเราควรจะขึ้นรถไฟขบวนไหนเพื่อไม่ให้ผิดพลาดและไม่เลยป้ายปลายทางของเรา
วันนี้ผมได้สรุปมาแล้วว่า หลักๆในประเทศญี่ปุ่นมีบริการรถไฟประเภทอะไรบ้างที่วิ่งอยู่ทั่วไปทั้ง JR รถไฟฟ้าบนดิน รถไฟใต้ดินและรถไฟหัวจรวดชินคันเซ็นต่างๆ
普通 (Local)
รถไฟประเภท local เป็นรถไฟประเภทธรรมดาที่วิ่งด้วยความเร็วไม่สูงและจอดทุกป้ายสถานีในเส้นทาง รถไฟประเภทนี้ไม่ต้องมีบัตรโดยสารพิเศษก็สามารถใช้บริการได้จากการซื้อตั๋วที่ตู้ขายตั๋วหรือสามารถใช้ money card ไม่ว่าจะเป็น Suica หรือ Pasmo
ในเมืองใหญ่ๆอย่างเช่นโตเกียวหรือโอซาก้า ถ้าจะลงตามสถานีย่อยๆต้องเลือกนั่งรถไฟประเภทนี้เพราะรถไฟประเภทอื่นอาจจะวิ่งผ่านและไม่จอดตามป้ายเล็กๆ แนะนำให้ตรวจสอบประเภทรถไฟที่จอดป้ายที่ต้องการจะลงก่อนจะขึ้นรถไฟนั้นๆ

รูปภาพจาก
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:JRW_series323_destination-01.jpg
準急 (semi-express)
ต่อมาคือรถไฟประเภท semi-express บางสายจะใช้ชื่อว่า section semi-express เป็นรถไฟกึ่งรถไฟเร็วซึ่งวิ่งข้ามบางสถานีเป็นช่วงทาง อย่างเช่นวิ่งผ่าน 2-3 สถานี จอด 1 สถานีและวิ่งผ่านต่ออีก 2-3 สถานีก่อนจะจอดป้ายต่อไป
การใช้บริการรถไฟประเภทนี้ไม่ต้องใช้ตั๋วพิเศษใดๆเช่นกัน สามารถเลือกขึ้นได้ตามต้องการ ถ้าป้ายจุดมุ่งหมายอยู่ในเส้นบริการของรถไฟประเภทนี้เพื่อเป็นการประหยัดเวลา แต่ให้ตรวจสอบตารางเวลารถไฟให้ดี เพราะรถไฟทุกประเภทจะวิ่งในรางเดียวกัน

急行 (express)
เพิ่มสปีดขึ้นมาอีกหน่อยคือรถไฟประเภทรถไฟด่วน ซึ่งให้บริการจอดตามป้ายใหญ่ที่เป็นจุดเปลี่ยนสายต่างๆเท่านั้น เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการเดินทาง ส่วนใหญ่จะให้บริการในเส้นทางที่นำผู้คนเข้า-ออกระหว่างเมืองและชานเมือง โดยออกเดินทางจากต้นทางและเว้นระยะป้ายจอดหลายจุดตามชานเมืองจนถึงสถานีใหญ่ๆในเมือง ในทางกลับกันจะจอดป้ายสำคัญต่างๆในเมืองและข้ามป้ายต่างๆระหว่างทางชานเมือง ยกเว้นสถานีที่มีผู้คนลงเยอะเพื่อเปลี่ยนสายอื่นไปจนถึงสถานีสุดท้ายของเส้นทางนั้น
รถไฟประเภทนี้ให้บริการอยู่ตลอดเวลาในหลายเส้นทางและไม่ต้องใช้ตั๋วพิเศษในการใช้บริการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบสถานีที่ให้บริการบนรถไฟเส้นนี้ก่อนที่จะขึ้นเพราะว่าอาจจะข้ามสถานีที่เราอยากจะลงไปไกลและอาจจะใช้เวลานานกว่าจะหาทางเปลี่ยนรถไฟประเภทอื่นกลับมาสถานีที่อยากจะลงได้

รูปภาพจาก https://hk6001x8r.blog.fc2.com/blog-entry-513.html
快速 (Rapid express)
อีกหนึ่งรถไฟด่วนที่เราเรียกว่า rapid express เป็นรถไฟบริการพิเศษที่วิ่งด้วยความเร็วและจอดเฉพาะป้ายสำคัญหลักๆที่เป็น Terminal ใหญ่เท่านั้นซึ่งจอดน้อยกว่ารถไฟประเภทอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นเส้นรถไฟที่เดินทางไปสนามบินที่จอดเฉพาะป้ายหลักๆในเมืองแล้วข้ามป้ายอื่นๆทั้งหมดไปจนถึงสนามบิน รถไฟในโตเกียวที่จอดเฉพาะจุดหลักๆอย่างเช่นชินจุกุ ชิบุย่า และ อิเคะบุคุโระ เป็นต้น
rapid express เป็นรถไฟบริการพิเศษที่ผู้คนนิยมใช้เนื่องจากประหยัดระยะเวลาการเดินทางเป็นอย่างมาก ถ้าจุดมุ่งหมายของคุณคือสถานีหลักในเมืองหรือสนามบิน รถไฟประเภทนี้ส่วนใหญ่ไม่ต้องซื้อตั๋วพิเศษแต่ให้ตรวจสอบตารางเวลาที่มีบริการจากทางสถานีเอง บางตู้จะมีที่นั่งพิเศษที่เรียกว่า ตู้ Green ซึงเป็นที่นั่งพิเศษและมีกำหนดที่นั่งเฉพาะซึ่งต้องเสียค่าตั๋วเพิ่มเล็กน้อยจากราคาตั๋วปกติ สามารถติดต่อซื้อได้ที่ห้องขายตั๋วในทุกสถานีถ้าอยากจะได้นั่งในเวลาด่วน

特急 (Limited express)
รถไฟที่เร็วที่สุดในกลุ่มบริการรถไฟธรรมดาคือรถไฟด่วนพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นรถไฟที่วิ่งระหว่างเมืองหรือรถไฟพิเศษที่ไปวิ่งไปสนามบินโดยไม่จอดป้ายใดๆระหว่างทางสังเกตได้ง่ายๆว่ารถไฟประเภทนี้จะมีดีไซน์พิเศษเพื่อให้ได้ความเร็วสูงและมีห้องโดยสารที่กว้างขวางให้นั่งได้สบาย ยกตัวอย่างเช่นรถไฟ Narita Express ที่เดินทางไปยังสนามบินนาริตะโดยจอดแค่ป้ายสำคัญเล็กน้อยในเมืองโตเกียวเพื่อรับผู้โดยสารและวิ่งยาวจนไปถึงสนามบิน
รถไฟประเภทนี้นอกจากตั๋วโดยสารปกติแล้ว ผู้โดยสารต้องซื้อตั๋วเพิ่มพิเศษเพื่อใช้บริการรถไฟด่วนประเภทนี้และระบุที่นั่งเฉพาะ

รูปภาพจาก https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:JREast_Series_E259(NEX).jpg

รูปภาพจาก http://photozou.jp/photo/show/347454/67495868