ด้วยความที่เป็นเมืองหลวงของประเทศสุดไฮเทคอย่างญี่ปุ่น ทำให้ “โตเกียว” เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันบรรยากาศฮิปๆคูลๆและเรื่องราวหรรษาหรืออาจจะไม่หรรษาในบางทีแต่ก็ยังมีอะไรให้ตื่นเต้น การใช้ชีวิตที่โตเกียวไม่ว่าจะระยะสั้นหรือระยะยาวจึงเป็นช่วงเวลาที่ควรจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และความทรงจำหลากรูปแบบเหล่านั้นเอาไว้ให้มากที่สุด วันนี้เราจะพาไปดูกิจกรรมคูลๆ ที่คนคูลๆ เขาชอบทำเวลาได้อยู่ได้เที่ยวที่โตเกียว
ไม่ต้องเกริ่นอะไรมาก พร้อมแล้ว ไปกัน!!!
++++++++++ ♦ ++++++++++
1. ท่องเที่ยวสถานที่เชิงประวัติศาสตร์
เริ่มต้นด้วยกิจกรรมที่ดูมีสติมากที่สุด กับการท่องเที่ยวตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เช่น วัด ศาลเจ้า สวนสาธารณะ ฯลฯ โดยมีข้อแม้ว่า คนคูลๆอย่างเราต้องรู้จักศึกษาประวัติศาสตร์และความเป็นมาของที่เหล่านั้นให้ชัดเจน เช่น ถ้าไปศาลเจ้าเมจิ ควรจะรู้ว่าประตูโทริตรงทางเข้านั้นมีความพิเศษอย่างไร? หรือถ้าไปวัดเซ็นโซจิ ก็ควรต้องศึกษาก่อนว่าเหตุใดที่นี่จึงเป็นแลนด์มาร์คของโตเกียว หรือทวยเทพที่สถิตอยู่ในแต่ละศาลเจ้านั้นมีความสำคัญอย่างไร? และหากจะเที่ยวสวนสาธารณะ ก็ควรทราบว่าสวนนี้ถูกจัดแบบญี่ปุ่นโบราณหรือแบบผสานวัฒนธรรม เป็นต้น
จริงอยู่ การรู้ข้อมูลเหล่านั้นอาจไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นหรือแย่ลง แต่ลองคิดดูสิว่า ในขณะที่คนอื่นไปเที่ยวแล้วยังงงว่าอะไรเป็นอะไร แต่คุณกลับเข้าใจทุกอย่างตรงหน้าโดยแทบไม่ต้องมีใครอธิบาย หรือบางทีคุณอาจจะเป็นคนอธิบายให้คนอื่นเข้าใจเสียเองด้วยซ้ำ มันจะคูลขนาดไหน รับรองได้ว่าคุณจะต้องแอบยิ้มในใจแน่นอนเลยทีเดียว
สถานที่เชิงประวัติศาสตร์ที่แนะนำในโตเกียว ได้แก่
- ศาลเจ้าเมจิจิงงู
- วัดเซ็นโซจิ และย่านอาซากุสะ
- สวนสาธารณะชินจูกุ
++++++++++ ♦ ++++++++++
2. คนคูลๆต้องชอบเล่น/ดูกีฬา
จริงๆถ้าจะใช้คำว่า “ต้อง” ก็ดูเหมือนจะมุมมองแคบไปหน่อย เอาเป็นว่าคนคูลๆอย่างพวกเรา “ควร” จะหาเวลาสนใจเรื่องกีฬาบ้าง อาจไม่ต้องมากมาย เอาแค่ให้คุยกับใครแล้วไม่มีใครหาว่าเอ้าท์ก็พอ! ซึ่งกีฬาที่เป็นที่นิยมในญี่ปุ่นก็มีอยู่เยอะแยะ เช่น เบสบอล ซูโม่ เคนโด้ ฟุตบอล ฯลฯ ถ้าคุณมีโอกาสได้อาศัยอยู่ที่โตเกียว ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน ก็อยากให้หาเวลาไปเล่นหรือดูกีฬาบ้าง อาจจะตามสวนสาธารณะหรือสนามในมหาวิทยาลัย หรือถ้าเป็นไปได้ ลองหาเวลาไปดูเบสบอลทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ๆ อย่าง “โคชิเอ็ง” หรือฟุตบอลเจลีก ก็ไม่เสียหาย และแน่นอนว่าก่อนไปดู ควรศึกษากฎกติกาของกีฬานั้นๆไว้ด้วย จะทำให้ทุกอย่างสนุกและน่าตื่นเต้นมากขึ้นหลายเท่าตัว
ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเรา กีฬาที่น่าจะมีอีเว้นท์ให้ดูได้ทุกช่วงเวลาคงหนีไม่พ้น “ซูโม่” ที่ริวโกกุ ซึ่งเราเคยให้รายละเอียดไว้แล้วบ่อยๆในบทความก่อนหน้านี้
++++++++++ ♦ ++++++++++
3. เที่ยวพิพิธภัณฑ์
ยังคงอยู่ในโทนกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความรู้คู่สติสัมปชัญญะ แน่นอนว่าการไปเที่ยวตามพิพิธภัณฑสถานต่างๆ นอกจากจะเป็นการหลีกหนีความวุ่นวายได้ชะงัดนัก คุณยังจะได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์แบบเต็มๆ ผ่านทางสิ่งของและศิลปะโบราณที่วางโชว์อยู่ตรงหน้า อย่าลืมใช้เวลาอ่านรายละเอียดของสิ่งที่ทรงคุณค่าเหล่านั้นให้เข้าใจที่สุดก่อน แล้วค่อยเดินจากไป
พิพิธภัณฑ์ในโตเกียวที่แนะนำ ได้แก่
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงโตเกียว (Tokyo National Museum)
- พิพิธภัณฑ์ซามูไร (Samurai Museum)
- พิพิธภัณฑ์เนซู (Nezu Museum)
- พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยาเมกุโระ (Meguro Parasitological Museum)
++++++++++ ♦ ++++++++++
4. พุ่งเข้าหาความวุ่นวาย
จากกิจกรรม 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น ดูเหมือนว่าเราจะพยายามวางภาพเมืองโตเกียวให้ดูเป็นเมืองที่แสนสงบ ทั้งที่ความเป็นจริงมันแตกต่างไปจากนิยามนั้นโดยสิ้นเชิง และเมื่อความเป็นจริงยังคอยไล่ตาม เราก็จะไม่หนีมันอีกต่อไป เพราะคนคูลๆอย่างเราจะพุ่งตัวเองไปสู่ความวุ่นวายสุดแสนโกลาหลของกรุงโตเกียว เพื่อจะค้นหาความงดงามในอีกด้านหนึ่งของมันให้เจอ มาดูกันว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างที่เราจะได้ดื่มด่ำกับความวุ่นวายเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่;
- ออกไปเดินข้ามแยกชิบูย่า
- แต่งคอสเพลย์ไปเตร็ดเตร่ย่านฮาราจูกุ
- ซื้อตัวรถไฟแบบ 1 วัน แล้วใช้มันเดินทางไปให้ทั่วโตเกียว
- เดินตลาดนัด/ตลาดสด แถบกินซ่า
- เดินลัดเลาะไปตามตรอกในชินจูกุ คนจะเบียดแค่ไหน เราก็จะเข้าไป
++++++++++ ♦ ++++++++++
5. แช่ออนเซ็นไม่ซ้ำที่
ข้อนี้อาจจะยากนิดหน่อยสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีเวลาอยู่โตเกียวจำกัด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงแต่อย่างใด เพราะถ้าสมมติคุณวางแผนเที่ยวโตเกียวประมาณ 3 วัน นั่นก็เพียงพอที่จะให้คุณได้สัมผัสกับน้ำแร่ธรรมชาติที่เปิดให้บริการได้ถึง 3 แห่งที่แตกต่างกัน ตามคอนเซ็ปท์ของเรา ซึ่งหากว่าคุณมีงบประมาณที่มากพอ ลองใช้เงินซื้อความสุขกับออนเซ็นส่วนตัวราคาสูงๆหน่อยจะเป็นไรไป
สถานที่ให้บริการน้ำแร่ออนเซ็นในโตเกียวที่แนะนำ ได้แก่
- Oedo-Onzen Monogatari
- Tokyo-Dome Spa LaQua
- Mikokuyu Bathhouse
- Musashi Koyama Onsen Shimizuyu
++++++++++ ♦ ++++++++++
6. เที่ยวสวนสนุก
โอกาสที่จะได้ปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวคุณ เปิดโอกาสให้ตัวเองได้เป็นเจ้าหญิงดิสนีย์ เดินเล่นในบ้านตุ๊กตาแล้วไปนั่งชิงช้าสวรรค์กับม้าหมุนแบบเบาๆ แล้วค่อยจัดหนักจัดเต็มกับรถไฟเหาะที่ทำให้คุณกรี๊ดอย่างบ้าคลั่ง รวมทั้งเครื่องเล่นสุดเสียวที่จะช่วยบริหารหัวใจคุณให้เต้นระรัวราวกับจะหลุดออกจากร่าง ซึ่งแน่นอนว่าที่โตเกียวมีสวนสนุกที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นของคุณได้ทั้งหมด ทั้งดิสนีย์แลนด์ ดิสนีย์ซี หรือสวนสนุกอื่นๆที่อาจจะมีขนาดเล็กลงมาหน่อยแต่ความสนุกยังเต็มเปี่ยมเช่นกัน
++++++++++ ♦ ++++++++++
7. เที่ยวชมงานศิลปะ
หลังจากวุ่นวายไปกับการแต่งคอสเพลย์ที่ฮาราจูกุ สู่กิจกรรมที่ดูโป๊หน่อยอย่างการแช่ออนเซ็น แล้วยังกรี๊ดจนแทบหายใจไม่ทันที่รถไฟเหาะในดิสนีย์แลนด์ ตอนนี้ก็ได้เวลาที่เราจะกลับมาทำกิจกรรมที่ดูมีสติกันอีกครั้ง นั่นก็คือ “การเที่ยวชมงานศิลปะ” แน่นอนว่าที่โตเกียวนั้นต่างจากเมืองไทยยิ่งนัก เพราะแม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่วุ่นวายไม่สบายตัว แต่ก็ยังอุตส่าห์มีสถานที่สงบๆให้คุณได้เสพงานศิลป์ชั้นยอดอยู่มากมาย แถมยังเดินทางง่ายด้วยขนส่งสาธารณะที่แสนสะดวก แต่อย่าลืมว่า เมื่อกลับเข้ามาสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ คนคูลๆอย่างเราจะไม่เสพชิ้นงานเหล่านั้นแล้วปล่อยให้มันเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านไปแค่ทางสายตา แต่เราจะสัมผัสมันด้วยความรู้สึกและทำความเข้าใจ ให้ความคิดของเราล่องลอยไปกับการค้นหาความหมายที่ซ่อนอยู่ในพื้นผิวอย่างมีอิสระไร้ซึ่งกรอบกำแพงใดๆขวางกั้น
สถานที่แสดงงานศิลปะที่แนะนำในโตเกียว ได้แก่;
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัล teamLab Borderless
- พิพิธภัณฑ์จิบลี
- พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ
++++++++++ ♦ ++++++++++
8. ลิ้มลองทุกรสชาติตามที่ใจปรารถนา
“รสชาติ” ในที่นี้ หมายถึง รสชาติแห่งอาหารและเครื่องดื่มที่คุณอาจจะคุ้นบ้างไม่คุ้นบ้างก็ว่ากันไป เปิดโอกาสให้ตัวคุณได้รับรู้ถึงความเอร็ดอร่อยของอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทั้งกุ้งล็อบสเตอร์บนภัตตาคารหรูหราราคาแพง หรือไปหาเนื้อย่างละลายในปากแสนละมุนลิ้น สู่การตระเวนกินซูชิปลาดิบสดๆที่ตลาดปลาโทโยสุ หรือเปิดใจให้อาหารธรรมด๊าธรรมดาที่ฟู้ดคอร์ทตามห้างใหญ่ๆ แล้วไปให้สุดกับอาหารจากตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติ อย่าลืมแวะฝากท้องกับซุ้มขายของกินเล็กๆตามตลาดที่อาจจะอร่อยเด็ดจนคุณลืมไม่ลง เอาให้ครบทุกรสในแบบที่ไม่มีใครว่าได้ว่ายังมีอาหารแบบไหนที่ชาตินี้คุณยังไม่เคยลอง
++++++++++ ♦ ++++++++++
9. เที่ยวสถานที่แปลกๆ
บางครั้งความประทับใจในแต่ละทริป อาจไม่ได้มาจากที่เที่ยวที่งดงามที่สุดหรือดีที่สุดเสมอไป บางครั้งการไปนั่งเล่นเกมตู้ตามตึกแถวเก่าๆ การไปประมูลทูน่าที่ตลาดปลา แวะร้องคาราโอเกะเสียงหลง หรือไปเที่ยวสถานที่ 18+ ทำอะไรแผลงๆแปลกๆเล่นแถวชิบูย่า ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นชวนให้ใจตึกตักได้ไม่น้อย เพราะบางครั้งการได้ทำอะไรใหม่ๆในที่ที่ไม่มีใครรู้จัก อาจจะมอบประสบการณ์ที่เหนือคำบรรยายให้เราก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราด้วย
สถานที่เที่ยวแปลกที่แนะนำในโตเกียว ได้แก่;
- Robot Restaurant ที่คาบูกิโจ
- Mai Dreamin Made Café ชิบูย่า
- Tsukiji Fish Market ใกล้ตลาดปลาโทโยสุ
- Karaoke-Kan ชิบูย่า
++++++++++ ♦ ++++++++++
10. ตระเวนราตรี – ไม่เช้าเราไม่กลับ
ก็ถ้าขนาดว่าที่เที่ยวแปลกๆยังไปมาแล้ว การท่องราตรียันเช้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แน่นอนว่าเพื่อสุขภาพ คนคูลๆอย่างเราจะไม่เที่ยวยันเช้าบ่อยๆ แค่อาจจะหาโอกาสในวันหยุดพิเศษกับเพื่อนสนิทที่รู้ใจ แล้วนัดกันไปตะลุยราตรีสักคืน อาจจะเริ่มจากขึ้นไปดื่มด่ำบรรยากาศแสงไฟยามค่ำคืนบนโตเกียวสกายทรี หรือตึกสูงๆสักตึก แล้วค่อยลงมาเดินทอดน่องไปตามซอยเล็กๆที่ไม่เห็นจะเคยเปิดตอนกลางวันแต่มันส์เหลือเกินตอนดึกๆ แวะเล่นเกมปาจิงโกะหรือเกมหยอดเหรียญในคาสิโนใกล้ จากนั้นค่อยไปกินไปดื่มให้สุดเหวี่ยงเหมือนว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย รับรองว่าจะเป็นอีกความทรงจำที่นึกย้อนทีไรก็แอบอมยิ้มทุกที
สถานที่ตระเวนราตรีในโตเกียวที่แนะนำ ได้แก่;
- Tokyo Sky Tree
- ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโฉะ” หรือ “Memory Lane”
- แยกชิบูย่าอันแสนวุ่นวาย
- ผับ บาร์ และร้านกินดื่มตอนกลางคืนย่าน Golden Gai
- จุดชมวิวบนตึก Tokyo Metropolitan Government Building
++++++++++ END ++++++++++