- ทำความรู้จักกับโทโฮคุชินคันเซ็น
- โตเกียว: จุดเริ่มต้น
- โอมิยะ: ประตูสู่ภาคเหนือ
- อุตสึโนมิยะ: เมืองแห่งเกี๊ยวซ่า
- นาซุชิโอบาระ: สถานที่พักผ่อนสำหรับคนรักธรรมชาติ
- ฟุกุชิมะ: เมืองแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ
- เซนได: เมืองแห่งต้นไม้
- โมริโอกะ: บ้านของซากุระ 400 ปี
- ฮาจิโนเฮ: สมบัติแห่งชายฝั่ง
- ชินอาโอโมริ: สถานีปลายทางตอนเหนือ
ทำความรู้จักกับโทโฮคุชินคันเซ็น

โทโฮคุชินคันเซ็น หนึ่งในเส้นทางรถไฟหัวกระสุนที่เร็วที่สุดและมีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของญี่ปุ่น เชื่อมต่อโตเกียวกับภูมิภาคทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ช่วยให้ผู้เดินทางเดินทางได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบายผ่านทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น รถไฟความเร็วสูงนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1982 โดยมีความยาวประมาณ 674 กิโลเมตร และมีความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. ทำให้เป็นหนึ่งในรถไฟที่เร็วที่สุดในโลก โทโฮคุชินคันเซ็นมีชื่อเสียงในเรื่องการเดินทางที่ราบรื่น ที่นั่งกว้างขวาง และความตรงต่อเวลาที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่สำรวจความมหัศจรรย์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น


รูปภาพจาก https://de.wikipedia.org/wiki/T%C5%8Dhoku-Shinkansen
โตเกียว: จุดเริ่มต้น
โตเกียว ประตูสู่ประเทศญี่ปุ่นและจุดเริ่มต้นของโทโฮคุชินคันเซ็น ตั้งแต่ถนนที่พลุกพล่านในชิบูย่าและวัดเก่าแก่ในอาซากุสะไปจนถึงตึกระฟ้าทันสมัยในชินจูกุ โตเกียวมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้เลือกก่อนออกเดินทาง



โอมิยะ: ประตูสู่ภาคเหนือ
เริ่มเมืองแรกที่อยากจะแนะนำคือ โอมิยะตั้งอยู่ในจังหวัดไซตามะ เป็นศูนย์กลางทางรถไฟที่สำคัญและเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจประวัติศาสตร์ทางรถไฟของประเทศญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์รถไฟ ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสขบวนรถไฟหลายประเภทผ่านวิวัฒนาการทางการพัฒนาเทคโนโลยีตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะบอนไซ ซึ่งเป็นอีกจุดที่ต้องไปเยี่ยมชมสำหรับผู้ที่สนใจศิลปะบอนไซแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น อาหารท้องถิ่นที่ต้องลองชิมให้ได้ ได้แก่ โซกะเซนเบะ (ข้าวเกรียบกรอบ) และอุนางิปลาไหลย่าง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่น


อุตสึโนมิยะ: เมืองแห่งเกี๊ยวซ่า
อุตสึโนมิยะในจังหวัดโทชิงิมีชื่อเสียงในเรื่องเกี๊ยวซ่าที่แสนอร่อย นับเป็นสวรรค์สำหรับนักชิมเลยทีเดียว แม้แต่หน้าสถานีรถไฟยังมีรูปปั้นเกี๊ยวซ่าตั้งอยู่ และอย่าลืมไป Gyoza street เพื่อลองชิมเกี๊ยวซ่าหลากหลายชนิดให้อิ่มอร่อยกันเลย สถานท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ Oya History Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเคยเป็นเหมืองหินมาก่อนทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ จัดแสดงนิทรรศการอธิบายเทคนิคการขุดหิน เครื่องมือและประวัติศาสตร์ของสถานที่นี้อย่างน่าลึกลับใต้บรรยากาศที่น่าขนลุกแต่ก็สวยงาม


รูปภาพจาก https://www.utsunomiya-cvb.org/spot/detail_10020.html
นาซุชิโอบาระ: สถานที่พักผ่อนสำหรับคนรักธรรมชาติ
Nasushiobara อีกหนึ่งเมืองในจังหวัดโทจิงิมีชื่อเสียงในเรื่องบ่อน้ำพุร้อนและธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ อย่างเช่น Shiobara Onsen บ่อน้ำพุร้อนชื่อดัง มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1200 ปี รายล้อมไปด้วยภูเขา แม่น้ำที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายที่บ่อน้ำพุกลางแจ้งพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ของบริเวณแถวนี้ได้อย่างสบายใจ บริเวณใกล้ๆก็มีน้ำตกริวกะซึ่งเป็นน้ำตก 3 ชั้นอันน่าทึ่ง นักท่องเที่ยวสายผจญภัยสามารถเดินชมธรรมชาติอันสมบูรณ์ผ่านเส้นทางน้ำตกได้ สำหรับนักท่องเที่ยวครอบครัวก็สามารถใช้เวลาร่วมกันได้ที่ Nasu Animal Kingdom สวนสัตว์และฟาร์มสัตว์ที่มีสัตว์ต่างๆมากกว่า 600 ตัว ให้ครอบครัวได้สนุกกับการให้อาหารเอาปาก้าและการเดินกับคาบิลาบาเป็นต้น

รูปภาพจาก https://www.tochigiji.or.jp/spot/s12706

ฟุกุชิมะ: เมืองแห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ
ขึ้นมาที่จังหวัดถัดไปในเมืองฟุกุชิมะ ที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งทางประวัติศาสตร์และความงามทางธรรมชาติ โกชิคินุมะ หรือบ่อน้ำ 5 สีเป็นกลุ่มทะเลสาบภูเขาไฟลึกลับชื่อดังที่มีทั้งสีเขียวมรกต น้ำเงินโคบอลค์ น้ำเงินเทอร์ควอช์ น้ำเงินมรกต และน้ำเงินพาสเทลแตกต่างกันไปตามหนองน้ำต่างๆ โดยบ่อทะเลสาบอาโอนุม่ะ มีสีสันที่สวยงามจนไม่สามารถจินตนาการได้ว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ส่วนปราสาท Tsuruga ใน Aizu-Wakamatsu เป็นอีกสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ป้อมปราการของปราสาทนี้ได้รับการบูรณะอย่างสวยงามรายล้อมไปด้วยดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิและทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะขาวในช่วงฤดูหนาว


เซนได: เมืองแห่งต้นไม้
เซนได เมืองหลวงของจังหวัดมิยากิและยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮคุอีกด้วย ขึ้นชื่อเรื่องความเขียวขจีอันอุดมสมบูรณ์และมรดกทางวัฒนธรรม เมื่อมาที่เซนไดแล้ว พลาดไม่ได้ที่จะต้องไปชมอ่าวมัตสึชิม่าหรือหนึ่งในจุดทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามได้ด้วยการล่องเรือ อีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์คือ ปราสาท Aoba เป็นประสาทเก่าแก่ตั้งแต่สมัยคริสตศักราช 1601 สามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบ Panorama ของเมืองเซนไดได้จากเนินเขานี้และยังมีรูปปั้นของผู้ก่อตั้งปราสาท Date Masamune นั่งบนหลังม้าซึ่งเป็นอีก 1 จุดสัญลักษณ์ของเมืองเซนได หรือเดินเล่นไปตามถนน Jozenji-dori ซึ่งเป็นถนนที่มีต้นไม้เรียงรายสวยงามก็ได้ ยิ่งถ้ามาช่วงสิ้นปี จะมีการประดับไฟตลอดทางอย่างสวยงามมาก อาหารที่ต้องลองที่นี้คือ ลิ้นวัวย่าง ซึ่งเป็นอาหารพิเศษของภูมิภาคนี้รับรองได้ว่าอร่อยมากและพลาดไม่ได้จริงๆ


โมริโอกะ: บ้านของซากุระ 400 ปี
The new york Time ได้ประกาศเมืองโมริโอกะในจังหวัดอิวาเตะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลกในปี 2023 ด้วยเสน่ห์ของเมืองนี้ที่มีการอนุรักษ์อาคารเก่าสมัยไทโช ผสมผสานสถาปัตยกรรมตะวันออกและตะวันตกไว้อย่างลงตัว และบรรยากาศสถานที่ต่างๆที่สวยงาม สามารถเดินเล่นเพลิดเพลินได้โดยไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คน ดึงดูดความสนใจจากต่างประเทศจนได้รับชื่อเสียงระดับโลก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังคือ อิชิวาริซากุระ (Ishiwari Sakura) หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ไม่สามารถหาที่ไหนในญี่ปุ่นได้ ต้นซากุระนี้มีอายุกว่า 400 ปี เติบโตจากหินแกรนิตที่แตกร้าว เป็นสัญลักษณ์แห่งความอดทนและความแข็งแกร่งจึงเป็นจุดถ่ายภาพและสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของเมือง นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้าโมลิโอกะฮาชิมังกูและอาคารอิฐแดงธนาคารอีวาเตะเก่าที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมืองนี้


ฮาจิโนเฮ: สมบัติแห่งชายฝั่ง
เดินทางขึ้นต่อมาทางเหนือที่เมืองฮาจิโนเฮ ตั้งอยู่ในจังหวัดอาโอโมริ เป็นเมืองท่าติดทะเลที่มีเสน่ห์และแน่นอนมีชื่อเสียงด้านอาหารทะเลสด ศูนย์ฮัสโชคุเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการลิ้มลองอาหารท้องถิ่น เช่น เซนเบจิรุหรือซุปข้าวเกรียบรสเผ็ดและซาซิมิสดมากมายให้เลือกให้ลองชิมกันอิ่มอร่อย ตลาดเช้าทาเตฮานะ เป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมนักชิมโดยเฉพาะอาหารทะเลสดๆขายโดยผู้คนพื้นเมืองและเปิดเฉพาะวันอาทิตย์เช้าเท่านั้น ตามชายฝั่งทาเนะซาชิก็มีทัศนียภาพมหาสมุทรที่สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินเล่นชิลล์ๆตามแนวชายฝั่งรับอากาศบริสุทธิ์และลมจากท้องทะเล


ชินอาโอโมริ: สถานีปลายทางตอนเหนือ
จุดจอดสุดท้ายของชินคันเซ็นสายโทโฮกุ อาโอโมริ เป็นที่รู้จักจากเทศกาลฤดูร้อนเนบุตะอันตระการตา ซึ่งมีขบวนรถประดับไฟขนาดใหญ่วิ่งตามท้องถนน จัดเป็น 1 ใน 3 เทศกาลที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ปราสาทฮิโรซากิซึ่งโด่งดังเรื่องดอกซากุระเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิในเดือนเมษายน ผู้ที่รักธรรมชาติก็สามารถมาสำรวจชิราคามิซันจิซึ่งเป็นป่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก อย่าจากไปโดยไม่ลองชิม 'พายแอปเปิ้ล' ที่ทำจากแอปเปิ้ลอันเลื่องชื่อของอาโอโมริ หรือ ราเมนนมแกงกะหรี่มิโซะอาโอโมริ ซึ่งเป็นอาหารพิเศษประจำท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร

รูปภาพจาก https://aomori-tourism.com/spot/detail_15.html

รถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุจะพาคุณเดินทางผ่านเมืองต่างๆ ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางเมืองที่คึกคัก แหล่งพักผ่อนน้ำพุร้อนอันเงียบสงบ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ จุดแวะพักแต่ละจุดตลอดเส้นทางจะมอบประสบการณ์การผจญภัยครั้งใหม่ให้กับคุณ ไม่ว่าคุณจะอยากลิ้มลองอาหารท้องถิ่น แช่ออนเซ็น หรือสำรวจปราสาทโบราณ ภูมิภาคโทโฮคุก็เป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ซึ่งรอการค้นพบ ไปขึ้นรถไฟชินคันเซ็นและสัมผัสความงามของภาคเหนือของญี่ปุ่นในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน!

--- END ---