ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

teamLab โตเกียว อลังการงานอาร์ตแบบดิจิตอลกับ teamLab Borderless Tokyo Odaiba

ภูมิภาค
|
หัวข้อที่เกี่ยว
s-0012

สวัสดีค่ะหลังจากที่เราเคยพาไปเที่ยวชม teamLab โตเกียว ที่โทโยซุมาแล้ว วันนี้ก็ขอพาไปอีกที่หนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่เดิมคือ teamLab โตเกียว Borderless ที่สาขาโอไดบะค่ะ ถ้าพูดถึงสาขานี้ก็คงเป็น Image แรกที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงทีมลาโบก็ว่าได้ค่ะที่นี่เมื่อเปรียบเทียบทางด้านขนาด ความกว้างแล้วจะใหญ่กว่าสาขาโทโยซุมากอยู่ และเป็นที่รู้จักในนักท่องเที่ยวมากกว่าด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นคงไม่ต้องบอกเลยว่าคนจะเยอะขนาดไหน ก่อนอื่นเรามาดูการเดินทางกันก่อนนะคะ สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Aomi yurikamome line ค่ะ สำหรับสายยูริคาโมเมะ ก็เหมือนรถไฟบีทีเอสบ้านเรานั่นเอง สายรถไฟนี้จะทำให้เห็นมุมสูงที่สวยงามมากในตอนกลางคืนค่ะเพราะเราจะเห็นสะพานสายรุ้งกับวิว กลางคืนของโตเกียวที่สวยงามมากค่ะ พอเรามาถึงสถานีแล้วนะคะก็ให้เดินออกทางประตูเหนือ คือพอลงมาจากชานชลาออกจากที่ตี๊ดบัตร แล้วเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางเชื่อมกับห้างเอ้าเลทค่ะ อันนี้ให้ดูรูปด้านล่างประกอบน่าจะเข้าใจง่ายขึ้น คือให้เดินตามเส้นสีเหลือง โดยเอาเลทจะเชื่อมต่อกับโชว์รูมโตโยต้าให้เราเดินเข้าไปในอาคารโชว์รูมแล้วออกอีกฝั่งได้เลยค่ะ

เข้าสู่ teamLab โตเกียว กันเถอะ

สำหรับราคาบัตรผู้ใหญ่เข้าเวลาปกติก็ 3,200 เยนค่ะแต่ขอบอกว่าให้เน้นจองก่อนดีกว่าค่ะนะคะเพราะคนค่อนข้างแน่นแล้วเวลาที่ใช้เฉลี่ยกับที่นี่ประมาณสามถึง 4 ชั่วโมงค่ะเพราะต้องมีเวลารอต่อแถวด้วย แต่ว่าภายในสถานที่ค่อนข้างกว้างจึงไม่รู้สึกอะไรค่ะ

ซึ่งตอนเรามาก็ยังอยู่ในช่วงของการระบาดไวรัสอยู่ก็นึกว่าคนจะน้อยแต่ ไม่เลยค่ะ ต่อแถวไปจ้า
ขออธิบายก่อนนิดนึงว่า Theme ของที่นี่จะเน้นให้เราเดินไปเรื่อยเรื่อยเหมือนค้นหาออกไปผจญภัยอะไรแบบนั้นค่ะ ก็แบบไร้พรมแดนเหมือนที่เค้าเขียนไว้อะนะคะ แล้ววิวดอกไม้ที่ฉายก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยเรื่อยก็จะมีอารมณ์แบบว่านี้เราเดินมาตรงนี้หรือยังนะหรือเราเดินหลงหรือเปล่านะเป็นอะไรที่สนุกดีค่ะ โดยห้องจะแบ่งเป็นหลายส่วนแต่เราขอแบ่งเองเป็นสองส่วนง่ายง่ายแล้วกันนะคะคือส่วนแรกก็จะเป็นส่วนของศิลปะที่ให้เราได้สัมผัสทางตาสัมผัสทางกายและสัมผัสทั้งเสียงค่ะส่วนอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นป่าออกกำลังกายซึ่งก็เป็นส่วนที่เราสามารถลงมือเล่นได้เต็มที่ เอาละก่อนอื่นเราก็ไปชมในส่วนแรกกันเลยจ้า

พอเราเข้ามาเราก็จะเจอความมืดที่ตัดกับสีสันดอกไม้ที่เห็นตามรูปเลยค่ะแล้วดอกไม้นี้ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยเรื่อยวน ตามฤดูกาลเช่นมาโทนสีชมพูก่อนหมายถึงฤดูใบไม้ผลิแล้วหลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นดอกทานตะวันหมายถึงฤดูร้อนหลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นดอกฮิกันบานะ เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิหลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นดอกไม้โทนม่วงน้ำเงินซึ่งเป็นตัวแทนของฤดูหนาวค่ะ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปก็ต้องวางมุมกันนิดนึงน้าคือฉากมันจะล่องลอยไป เหมือนภาพไหลตามน้ำอะไรแบบนั้น

แล้วในห้องใหญ่ที่ให้เราเดินไปได้เรื่อยเรื่อยแล้วจะมีห้องเล็กๆที่จัดแสดงภาพอยู่ด้วยซึ่งหนึ่งในนั้นเราขอแนะนำห้องผีเสื้อซึ่งเป็นห้องที่เราว่ามันเกร๋ดี โดยเจ้าตัวผีเสื้อจะออกมาจากคนที่เข้าไปอยู่ในห้องนั้นก็ประมาณว่าถ้าในห้องคนเข้ามาผ่านเยอะตัวผีเสื้อที่บินไปบินมาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเองคือตอนแรก เข้ามาไม่ได้รู้สึกว่า ถ้าผีเสื้อออกมาจากตัวคนพอคนมาผ่านห้องเยอะเยอะเท่านั้นแหละหน้าจอเต็มไปด้วยผีเสื้อเลยจ้า

มาต่อที่ห้องถัดไปที่เรียกได้ว่าเป็นห้องหนึ่งที่เป็นจุดขายของที่นี่ ตอนเข้าไปมันรู้สึกว้าวค่ะชอบมากเพราะว่าเราจะเดินผ่านทางออกมาแล้วก็จะเจอความรู้สึกเราเรารู้สึกว่ามันคือน้ำตกที่อยู่กลางห้องกว้างกว้างห้องหนึ่งดูตระการตามาก รับห้องนี้เราสามารถปีนขึ้นไปถ่ายรูปข้างบนได้ค่ะแต่ว่าห้ามนั่งเป็นสไลด์เดอร์ลงมา แต่อันนี้แอบลื่นปีนกันระวังระวังนะ

จัดมาอีกห้องละจะเป็นห้องที่ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังเดินอยู่ในทุ่งดอกไม้ด้วยอุปกรณ์ที่ คล้ายคล้ายผ้าใบสีขาวทำเป็นวงกลมแล้วก็ปักอยู่กับพื้นจำนวนมากมาย เป็นห้องที่ไม่ถึงกับ WOW แต่ก็รู้สึกได้สัมผัสในอีกแง่มุมหนึ่งของทุ่งดอกไม้ดิจิตอล

เมื่อเราเดินมากัน 2 ชั่วโมงแล้วห้องถัดไปเป็นห้องที่เหมาะแก่การพักผ่อนมากค่ะยอมรับว่าแอบงีบไปเลย สำหรับห้องนี้เป็นห้องที่มีเบาะนอนอยู่ตรงกลางแต่ไม่เยอะค่ะน่าจะนอนกันได้ประมาณ 10 ถึง 12 คนเท่านั้นแล้วรอบห้องที่มองเห็นถึงเกลียวคลื่นที่สาดซัดไปมา พร้อมทั้งเสียงทะเลที่ทำให้ รู้สึก ผ่อนคลายเป็นอย่างมาก กับ ห้องนี้แล้วสำหรับผู้เขียนเรารู้สึกถึงชีวิตที่เหมือนคลื่นซัดสาดแล้วก็ช่วงที่สงบแต่ช่วงที่คลื่นแรงมันก็ดูงดงามจะว่ายังไงดีล่ะเอาจริงๆก็ไม่ใช่คนติส 5555 ไปต่อห้องต่อไปดีกว่าค่ะ

สำหรับห้องนี้ก็เป็นจะเรียกว่ายังไงดีล่ะห้องกระจกแล้วก็มีการจัดแสดงแสงไฟเหมือนอยู่ในเขาวงกตประมาณนั้นถ้าใครเคยอ่านบทความก่อนหน้านี้ที่พาไปเที่ยวอีกสาขาก็จะคล้ายๆกันค่ะ นับว่าเป็นห้องที่ถ่ายรูปสวยอีกห้องหนึ่งเลย

มาแล้วจ้าอีกห้องที่เป็นไฮไลท์สุดสุดของที่นี่ห้องโคมไฟนั่นเองห้องนี้ประทับใจมาขอบอกว่ามันสวยจริงๆคุ้มค่ากับที่ยืนรอประมาณ 40 นาทีสำหรับห้องนี้นะคะแสงไฟที่จัดก็จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลเช่นกันในคราวที่เราไปนี้ยังอยู่ในฤดูหนาวเพราะฉะนั้นแสงไฟก็จะเป็นโทนฟ้าโทนแดง แต่สิ่งที่ทุกคนต้องทำการบ้านเลยก็คือเค้าจะมีเวลาให้เราอยู่ในห้องนี้จำกัดค่ะคือเราต้องต่อแถวข้างนอกแล้วพอเข้าไปเค้าก็จะให้เข้าไปในจำนวนคนจำกัดเท่าที่สังเกตน่าจะไม่เกิน 15 คนประมาณนั้นได้
แล้วหลังจากนั้นเราจะมีเวลาประมาณ 2 นาทีถึง 3 นาทีในห้องนี้ค่ะพอเค้าบอกว่าให้ออกก็ต้องรีบออกเลยเพราะฉะนั้นคิดภาพโพสต์สวยสวยพอมาถึงก็รีบถ่ายเลยนะคะ;))

จริงๆแล้วสำหรับในโซนนี้ยังมีห้องอีกห้องหนึ่งแต่ว่าเราไม่สามารถถ่ายรูปออกมาได้เพราะว่ามันเป็นห้องที่ให้เราไปนอนบนเชือกที่ขึง เป็นวงกลม แล้วเขาก็จะใช้เป็นแสงสีข้างในค่ะซึ่งอันนี้ถ้าใครสนใจก็ต้องรอกันนิดนึงเพราะใช้เวลาต่อแถวประมาณ 1 ชั่วโมง. อันนี้เราพาชมจบสำหรับส่วนแรกไปแล้วต่อไปเราจะพาไปในส่วนของป่าออกกำลังกายค่ะ

พอเข้ามาก็จะเป็นหน้าตาแบบนี้ค่ะเป็นพื้นที่โล่งๆให้ทำแอคทิวิตี้มากมาย มีตั้งแต่เด็กน้อยจนถึงผู้ใหญ่เลยแล้วสำหรับใครที่ท้องว่างอยากพักที่นี่ก็จะมีส่วนคาเฟ่อาหารด้วยค่ะ

มาแนะนำโซนแรกกับสวนบัลลูนที่เราเห็นว่ามันเหมือนพวงไข่ปลาหมึก555555555 สำหรับ โซนนี้น่ารักดีค่ะแบบเหมือนเดินชนลูกโป่งยักษ์ตลอดเวลา

ต่อไปเราขอตั้งชื่อว่าปีนเขาก็บนเสานี่แหละ อันนี้เหมาะกับคนแอคทีฟหน่อยค่ะเพราะว่าเหมือนเป็นการจำลองปีนเขาแต่ให้ไต่ไปตามเสาที่เขามีให้โดยพอเริ่มเล่นเกมเค้าก็จะกำหนดสีของเราว่าเราเป็นสีอะไรเช่นถ้าเราได้เป็นสีม่วงพอเราเดินไปตรงไหนหรือเราเหยียบไปตรงไหนสีตรงนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสีของเราค่ะ

ต่อมาเชือกไม้เป็นอะไรที่เราชอบที่สุดเลยเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กเด็กอีกครั้งเลยค่ะก็คือฝึกการทรงตัวให้เราเนอะเพราะตัวเครื่องเล่นจะเป็นคล้ายท่อนไม้แขวนอยู่ต่อกันไปเป็นแพสนุกแต่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันค่ะ อันนี้ชอบสนุกดี

หว้า จบไปเสียแล้วค่ะกับทริปพาเที่ยวในครั้งนี้ สรุปใช้เวลาอยู่ในนี้ประมาณ 4 ชั่วโมงเหนื่อยมากเลยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่ะเพราะว่าได้ผจญภัยอย่างที่เค้าบอกจริงๆสำหรับสาขานี้จะเน้นด้านความสนุกการได้ลงมือทำการเล่นมากกว่าอีกสาขาหนึ่งค่ะ วันนี้ใครจาไปที่ไหนก็เลือกตามความสนใจเลยหรือว่าถ้าเวลาเหลือก็ไปมาสองที่เลยค่ะรับรองว่าคุ้มสำหรับรายละเอียดผู้เขียนจะรวบรวมไว้ให้ด้านล่างนะคะแต่ก่อนจากกันเราขอแถมนิดนึงถ้ามาโอไดบะแล้ว ต้องมาชมสะพานสายรุ้งตอนกลางคืนให้ได้ค่ะสวยมาก แถมเดินจากทีมแลปไปแค่ 15 นาทีนิดนิดเอง

อันนี้เดินตามลูกศรสีฟ้าเลยค่ะพอเราเดินไปถึงไดเวอร์ซิตี้เราจะเจอกับ หุ้นกันดั้มให้เราเดินเลยไปแล้วเลี้ยวขวา เข้าทางเดินที่เป็นสะพานเดินไปสุดเลยค่ะแล้วเราจะเห็นวิวสวยสวยแบบข้างล่างนี้สำหรับวันนี้ลาไปก่อนไว้เจอกันใหม่นะคะบ๊ายบาย

ซื้อตั๋ว teamLab โตเกียว (teamLab Borderless) ราคาถูกด้วย Klook

teamLab Borderless Tokyo Odaiba (teamLab โตเกียว)

teamLab Borderless Odaiba

ที่อยู่

Odaiba Palette Town,1-3-8 Aomi, Koto-ku, Tokyo

วิธีเดินทาง

เดิน 5 นาทีจากสถานี Tokyo Teleport Station สาย Rinkai หรือสถานี Aomi สาย Yurikamome

เวลาทำการ

วันจันทร์-วันพฤหัส 11:00 - 19:00 / วันศุกร์และวันก่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00 - 21:00 / วันเสาร์ 10:00 - 21:00 / วันอาทิตย์และวันหยุด 10:00 - 19:00 *เข้าชมรอบสุดท้ายต้องเข้าก่อนเวลาปิดทำการอย่างน้อย30นาที

ราคา

ผู้ใหญ่ 3200 เยนและเด็ก 1000 เยน และผู้พิการ 1600 เยน

โทรศัพท์

-


teamLab planets
teamLab Planets เมื่อ teamLab ไม่ได้มีแค่โอไดบะสวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านชื่นชม...<3 ร้องเพลงปีใหม่ต้อนรั...
ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Karuru
สวัสดีค่ะKaruru นะคะ ขอแนะนำตัวให้รู้จักกันสักนิดหนึ่งน้า Karuru เป็นสาวน้อยตัวเล็กๆในโตเกียวค่ะ(เอาจริงๆก็ตัวไม่น้อยหรอกTvT) ตอนแรกก็แค่ได้ทุนมาเรียนมหาลัยที่ญี่ปุ่นแต่แล้วจับพลัดจับผลูเรียนจบทำงานต่อ ล่วงเลยมาก7-8ปีเข้าไปแล้วค่ะ. สำหรับเรื่องท่องเที่ยวก็ถือเป็นงานอดิเรกอย่างนึงเลย ตอนแรกๆก็ตามเที่ยวตามกินตามสถานที่แนะนำในเน็ตนี่แหละค่ะ แต่พอเวลาผ่านไป ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์เที่ยวของตัวเองบ้างก็เลย รวบรวมเนื้อหาประสบการณ์ที่น่าสนใจ มาแนะนำต่อให้ทุกคนได้เป็นเกร็ดในการวางแผนเที่ยว. หวังว่าทุกคนจะได้รับข้อมูลไว้อ้างอิงไม่มาก ก็น้อยนะคะ. ผู้เขียนจะดีใจมาๆเลยค่ะ <3
RELATED POST
ohho10may21-00
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

หน้าร้อนสุขสันต์เที่ยวชมธรรมชาติที่ เมืองตากอากาศชื่อดังคารุอิซาวะ และล่องแก่งที่ไซตามะ

19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!