ประเทศญี่ปุ่นยังคงยืนเป็นหนึ่งในประเทศที่คนไทยทุกคน รอวันที่ประเทศจะเปิดและอยากไปเที่ยวมากที่สุด!!
จากการสำรวจขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) เมื่อก่อนการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 พบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกว่า 1,000,000! คนต่อปี ด้วยเที่ยวบินระหว่างไทยและญี่ปุ่นกว่า 250 เที่ยวบินต่อวัน เป็นหนึ่งในเส้นทางบินที่มีความถี่และจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดจากประเทศไทย ยิ่งกว่านั้น เส้นทางบินจากประเทศไทย ยังครอบคลุมเกือบทุกเมืองหลักของญี่ปุ่นอีกด้วย แบบว่า เที่ยวได้ตั้งแต่เหนือจดใต้ของญี่ปุ่นเลย
วันนี้เรามาดูกันว่า เมืองไหนที่มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยเข้าสู่ญี่ปุ่นเลยบ้าง?
เครื่องลงเมื่อไร ไม่ต้องรอเปลี่ยนเครื่องจากเมืองใหญ่ต่อไปเมืองเล็กอีกรอบให้เสียเวลา ออกเดินทางตะลุยดินแดนปลาดิบกันได้ทันทีเลย
โตเกียว ฮาเนดะ
บินลงใจกลางเมืองหลวงโตเกียวกันเลย สนามบินฮาเนดะ ตั้งอยู่ใกล้ๆโอไดบะ แหล่งชอปปิ้งสุด Chic ของโตเกียว และสามารถนั่งรถไฟเข้าไปถึงใจกลางชิบูย่าได้ภายใน 30 นาทีเท่านั้น
โตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่และมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก มีประชากรหนาแน่นกว่า 13.9 ล้านคน ซึ่งมากกว่ากรุงเทพ 2 เท่า โตเกียวเป็นเมืองที่มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นกับความสมัยใหม่ในโลกปัจจุบันอย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อย่างเช่น ศาลเจ้าเมจิหรือวัดอาซากุซะ และถ้าเดินต่อในระยะใกล้ๆ ก็ได้เข้าสู่โลกใหม่ ทั้งฮาราจุกุและ Tokyo Skytree กันแล้ว
เอกลักษณ์โดดเด่นอีกอย่างของเมืองนี้คือ ความเป็น diversity ที่รวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องการจากทั่วโลกมาอยู่ในเมืองนี้เลย โตเกียวยังได้ขึ้นชื่อเป็นอีกหนึ่งเมืองในเอเชียที่มีร้านอาหารระดับ Michelin 3 ดาวมากที่สุด แสดงถึงความโดดเด่นของวัตถุดิบและการปรุงอาหารระดับโลก ไม่ต้องบินไปไกลถึงฝรั่งเศส เราก็สามารถหาประสบการณ์ world’s class fine dining experience ได้ที่โตเกียวกันเลย
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องช้อปปิ้ง ที่นี่มีสินค้ามากมาย หลากหลายชนิดให้คุณได้เลือกและสนุกไปกับการใช้เงิน มีเท่าไรก็เอาไม่อยู่จริงๆ ตั้งแต่สินค้าแบรนด์เนมที่ราคาถูกกว่าประเทศไทยเยอะมาก ไปจนถึงสินค้าคุณภาพ หลัก 100 เยน ที่หาไม่ได้ในประเทศไทย เสื้อผ้าก็มีดีไซน์ที่ก้าวไกลในระดับโลก แฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังหลายท่านก็เป็นคนญี่ปุ่น รับรองความทันสมัยด้านแฟชั่นแน่นอน ที่สำคัญคือ เสื้อผ้าที่ขายในญี่ปุ่น เป็น size ที่คนไทยใส่ได้
ปัจจุบัน (ก่อนโควิด 19) มีสายการบินไทย, Japan Airline, ANA ที่ให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปที่สนามบินฮาเนดะโตเกียว กว่า 2 เที่ยวบินต่อวัน ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเลือกเที่ยวบินที่ออกเดินทางตอนกลางคืน เพื่อให้ถึงเช้าและเที่ยวได้เลย ปัจจุบันยังไม่มีสายการบินประหยัดที่ให้บริการบินตรงในเส้นนี้
โตเกียว นาริตะ
Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Narita-san_temple_by_ostolob_02.JPG
อีกหนึ่งประตูสู่ญี่ปุ่นคือ สนามบินโตเกียวนาริตะ ถึงแม้ชื่อสนามบินจะใช้ชื่อเมืองโตเกียว แต่ที่ตั้งของสนามบินอยู่ที่จังหวัดชิบะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 75 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาเดินทางเข้าโตเกียวกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยรถบัสและประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถไฟ แต่จังหวัดชิบะเอง ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหน้าสนใจหลายแห่งเช่นกัน
ชิบะเป็นจังหวัดติดชายฝั่งทะเล ซึ่งแน่นอน มีชายหาดหลายแห่งที่เราสามารถไปเที่ยวได้ในช่วงฤดูร้อน แต่ยังไม่โดดเด่นเท่ากับ สถานที่ท่องเที่ยวด้านกิจกรรมและวัฒนธรรม ที่ชิบะมีให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ใหม่ๆจากทุกมุมของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ สวนน้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ วัดโบราณ ฟาร์ม น้ำตก สวนสาธารณะและอื่นๆอีกมากมาย
ด้านกิจกรรม โดดเด่นที่สุดก็ต้องเป็น Disney Land & Disney Sea ทีมพาร์คชื่อดังที่ทุกคนต้องไปให้ได้ซักครั้งในชีวิต หลายคนอาจจะคิดว่า พาร์ค 2 แห่งนี้อยู่ที่โตเกียว แต่จริงๆแล้วตั้งอยู่ที่จังหวัดชิบะ ซึ่งเราสามารถนั่งรถบัสตรงจากสนามบินนาริตะได้เลย เป็น the land of dream นอกจากนี้ ก็ยังมี สวนน้ำและออนเซนรีสอร์ตขนาดใหญ่ Mikazuki ที่อยู่ติดฝั่งอ่าวโตเกียว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ, Kamogawa Seaworld ที่คุณสามารถสัมผัสกับความน่ารักของปลาวาลเพชรฆาตได้ ซึ่งเราไม่สามารถหาดูได้ในประเทศไทยแน่นอน
ทางด้านวัฒนธรรม เราสามารถไปชมวัดนาริตะ หนึ่งในวัดที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามบินด้วย นอกจากตัววัดที่แสดงถึงสถาปัตยกรรมโบราณของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีตรอก ซอยเล็กๆที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความเป็นอยู่แบบญี่ปุ่นโบราณ ชิมอาหารพื้นเมืองและช้อปปิ้งสินค้าพื้นบ้านกันได้อย่างสนุกแน่นอน
ขาช้อปก็พลาดไม่ได้ที่จะต้องมา Mitsui Outlet Park Kisarazu ศูนย์รวมสินค้านำเข้าและแบรนด์เนมที่ใหญ่ที่สุดในเขตตัวเมือง มีร้านค้ามากกว่า 300 ร้าน เป็นศูนย์การค้าแบบเปิดโล่ง ล้อมรอบด้วยภูเขา ทำให้เราได้ช้อปปิ้งอย่างสดชื่น สบายใจเลยทีเดียว ใครที่อยากได้ของแบรนด์เนมราคาถูก ห้ามพลาด ต้องมาที่นี่เลย
สายการบินที่ให้บริการบ้นตรงจากกรุงเทพ ประเทศไทยมาที่สนามบินนาริตะ มีหลายสายการบิน ทั้ง full service & low cost ตัวอย่างเช่น การบินไทย ก็ให้บริการเส้นนี้ 2-3 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ก็มี ANA, Japan airlines, AirAsia X, NokScoot, Thai Lion air เป็นต้น เพราะตัวสนามบินนั้นใหญ่กว่าสนามบินฮาเนดะในตัวเมือง และรองรับเที่ยวบินได้มากกว่า
โอซาก้า
มาต่อกันที่เมืองท่าชื่อดังของฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น โอซาก้าเมืองแห่งของกิน สวรรค์ของนักชิม เป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่รองจากโตเกียวที่รวมทั้งวัฒนธรรมโบราณและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว มีตึงสูงแบบใหม่หลายแห่ง ท่ามกลางปราสาทและโบราณสถานต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นประตูสู่ดินแดนอารยธรรมเก่าของญี่ปุ่น ทั้งเมืองเกียวโตและนารา
ถ้ามาเมืองนี้ ถือว่ามาไม่ถึง ถ้าไม่ได้ไปเดินที่ Doutonburi ถนนรวมอาหารโอซาก้า ไม่ว่าจะเป็น ทาโกย่ากิ โอโคโนมิยากิ หรือ คุชิยากิ ล้วนเป็นอาหารชื่อดังของเมืองนี้ ที่ถนนนี้เราจะเห็นคนต่อแถวยาวกันทุกร้าน เดินไปกี่ก้าว ก็เจอแต่ของอร่อยน่ากิน ยังมีพวกราเมง ซุปรสเกลือชื่อดังให้จัดเต็มอีก หรือจะจัดเป็นเนื้อย่างยากินิคุ ก็มีให้เลือกครบรสของเด็ดเมืองนี้เลย ใกล้ๆกันก็จะเป็นซอยช้อปปิ้ง Shinsaibashi ที่ทุกคนจะไปถ่ายรูปกับป้าย Gulico กัน
แหล่งท่องเที่ยวต่อมาที่ไม่ไปไม่ได้เลย ถ้ามาถึงโอซาก้าแล้ว นั่นคือ Universal Studio Japan สวนสนุกจากค่ายหนัง Universal ซึ่งรวบรวมเครื่องเล่นจากภาพยนต์ดังในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Jurassic Park หรือ Jaws เป็นต้น นอกจากเครื่องเล่นต่างๆแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆตลอดปี เที่ยวกี่ครั้งก็ไม่ซ้ำกัน ล่าสุดที่ดังสท้านโลกคือ เมืองเวทมนต์ Harry Potter World แห่งแรกในเอเชีย ตั้งแต่เปิดมา ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะเอเชียและออสเตรเลีย ที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงอเมริกา ก็สามารถเข้าไปชมปราสาท Hogwart ได้
ส่วนทางด้านสถาปัตยกรรม เมืองโอซาก้า ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ให้เราได้เห็นวัฒนธรรมล่วมสมัย ท่ามกลางตึกสูง ใหม่แบบโมเดิร์น เราก็จะเห็นปราสาทโอซาก้า ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น รักษารูปแบบเอกลักษณ์สำคัญของญี่ปุ่นดั่งเดิมอย่างสมบูรณ์แบบ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมภายในตัวอาคาร ดูคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและความสามารถของสถาปนิคญี่ปุ่นสมัยก่อนที่สามารถสร้างปราสาทยักษ์ใหญ่ได้อย่างงดงาม นอกจากนี้ ยังมีหลายๆจุดที่มีการร่วมสมัยระหว่างแบบใหม่และเก่าให้เราได้เห็นว่า เมืองโอซาก้า ถึงแม้จะมีความก้าวหน้าต่างๆ แต่ยังคงรักษาคุณค่าดังเดิมไว้อยู่อย่างสมบูรณ์
การเดินทางจากประเทศไทย สู่เมืองโอซาก้า มีหลายสายการบินทั้ง full service & low cost ซึ่งจะบินไปลงที่สนามบินนานาชาติคันไซ ตั้งอยู่กลางทะเล ห่างจากตัวเมืองโอซาก้าอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงโดยรถไฟด่วนพิเศษ การบินไทยให้บริการเส้นนี้ 2 เที่ยวบินต่อวัน นอกจากนี้ก็มี Japan airlines, AirAsia X, NokScoot และ Thai Lion air ให้บริการบินตรงจากกรุงเทพ
TOKYO VS OSAKA https://ohhotrip.com/14892/
นาโกย่า
เมืองศูนย์กลางที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดังของโลก “โตโยต้า” นาโกย่าเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดไอจิ ตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเมืองใหญ่เหมือนโตเกียวและโอซาก้า แต่ก็มีเอกลักษณ์ในความพอดี และเป็นประตูสู่เมืองอื่นๆในเขตตอนกลางของญี่ปุ่น ทั้งกิฟุ นากาโนและมิเอะ
เอกลักษณ์ของเมืองนี้อยู่ที่ความพอดี ผู้คนไม่มากหรือน้อยเกินไป มีความลงตัวระหว่าง “ใหม่และเก่า” อย่างสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งรูปแบบใหม่และสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ นาโกย่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงของเรื่องอาหาร ไม่ว่าจะเป็นข้าวหน้าปลาไหลอูนางิ หรือที่รู้จักกันในนามว่า “ฮิซึมาบูชิ”, ปีกไก่ทอดยามะจัง หรือข้าวหน้าหมูทอดชื่อดัง “ยาบาตง’ ก็มาจากเมืองนาโกย่า
สถานที่เที่ยวแห่งแรกที่ต้องไป เมื่อมาลงที่เมืองนาโกย่าแล้วนั่นคือ “ปราสาทนาโกย่า” เป็นอีกหนึ่งปราสาทยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่น อยู่มานานกว่า 400 ปี ถูกสร้างโดยโชกุนชื่อดัง Tokugawa Ieyatsu ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่ง จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้ที่แตกต่างปราสาทอื่นในญี่ปุ่นนั่นคือ ปลาทองคำ ที่คาบอยู่บนหลังคาของปราสาท เป็นปลาทองคำแท้ ของจริง สง่างามอยู่บนยอดหลังคา เห็นได้ชัดจากทางไกลเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากชม ความ Modern ของเมืองก็ต้องเข้าไปเดินจุดศูนย์กลาง ที่เรียกว่า “Sakae” เป็นย่านดาวน์ทาวน์ชื่อดังของเมืองนี้ ล้อมรอบไปด้วยตึกสูง รูปร่างแปลกตาต่างๆ เหมือนเราได้อยู่ในโลกยุคใหม่ ตัวอย่างเช่น Spiral Tower, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์นาโกย่า และที่สำคัญคือ Oasis21 อาคารดีไซน์ล้ำสมัยที่เราสามารถขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อชมวิวกลางคืนของเมืองนาโกย่าด้วยภาพเบื้องหลังที่เป็นนาโกย่าทาวเวอร์ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชื่อดัง ที่มีทั้งปลาโลมาตัวใหญ่ ปลาโลมาสีขาวเบลูก้า แม้กระทั่งปลาวาฬเพชฌฆาตว่ายเพลินอยู่ พร้อมการแสดงให้เราได้ชม เป็นบ่อแสดงสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
เที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯสู่เมืองนาโกย่ามีไม่มาก การบินไทยให้บริการบินตรงระหว่างกรุงเทพฯและนาโกย่า 2 เที่ยวบินต่อวัน, Japan Airline ก็มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯเช่นกัน 1 เที่ยวบินต่อวัน ส่วนสายการบินชั้นประหยัดก็จะมี Thai Lion Air และ Airasia x ที่บินตรงจากดอนเมืองสู่เมืองนี้
Nagoya 24 hr https://ohhotrip.com/13213/
ซัปโปโร
อีกหนึ่งเมืองยอดฮิตที่มีเส้นทางบินตรงจากประเทศไทยและใช้เวลาบินนานที่สุดนั่นคือ เมืองเหนือบนเกาะฮอกไกโด “ซัปโปโร” เมืองแห่งหิมะและอาหารทะเลแสนอร่อย
โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวเมืองนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวในเขตเอเชียรวมถึงประเทศไทย เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศหนาวระดับติดลบ มีหิมะปกคลุมขาวโพลน อย่างนุ่มนวล เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับการเล่น Winter Sports ทุกประเภท แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ก็เดินทางไกลมาที่ซัปโปโรเพื่อจะมาเล่นสกี ด้วยเหตุผลที่ว่า ที่นี่มีหิมะที่เหมาะสมกับการเล่นกีฬาหน้าหนาวมากกว่าประเทศของเขา คุณภาพเยี่ยมยอด เท่ากับเทือกเขาเอลฟ์ในสวิตเซอร์แลนด์เลยทีเดียว
สำหรับคนไทยนั้น ส่วนใหญ่ก็จะมาเพื่อการกินอาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็นปูยักษ์ทาราบะ ปูขนทะเลเนื้อแน่นๆ หอยเชลล์ตัวใหญ่ๆ กุ้งหวานสดๆมันๆ หอยเม่นหวานมัน รวมถึงปลาชนิดต่างๆ ยิ่งพูดยิ่งยั่วน้ำลายให้อยากทานกันตอนนี้เลย! อาหารทะเลสดที่ฮอกไกโดสามารถหารับประทานได้ทั่วทุกมุมของเมืองซัปโปโร และรับรองได้ว่าทุกที่นั่น สดอร่อยเหมือนกันหมด ไม่ต้องเดินไปหาร้านชื่อดังกันเลยทีเดียว
อีกหนึ่งจุดขายที่มีนักท่องเที่ยวมาเมืองซัปโปโรนี้มากที่สุดคือ งานเทศกาลหิมะหรือ Sapporo Snow Festival ที่จะมีการจัดขึ้นทุกๆปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ ในงานนี้เราจะเห็นความสามารถในการสร้างสถาปัตยกรรมชื่อดังต่างๆด้วยหิมะและน้ำแข็งทั้งหมด หลายครั้ง
ก็ได้มีการสร้างสถาปัตยกรรมไทย ตัวอย่างเช่น วัดเบญจมบพิตรด้วยหิมะกันแล้วที่นี่ ในตอนกลางคืนก็จะมีการจัดแสดงแสงสีและเสียง ฉายลงบนหิมะเป็นภาพเคลื่อนไหว อีกทั้ง ยังมีการประกวดสลักน้ำแข็งและหิมะของประเทศต่างๆ ซึ่งประเทศไทยก็ได้แชมป์มาครองหลายสมัย ทั้งๆที่ประเทศเราก็ไม่มีหิมะ หนึ่งในงานเทศกาลระดับโลก ที่ครั้งหนึ่งควรจะไปเข้าชมให้ได้
การบินไทยเป็นสายการบิน Full Service แห่งเดียวที่เปิดให้บริการบินตรงระหว่างกรุงเทพและเมืองซัปโปโร นอกจากนี้ก็จะมีสายการบิน Air Asia X และ Thai Lionair ที่ให้บริการจากสนามบินดอนเมืองสู่เมืองหิมะแห่งนี้ สายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางในเส้นนี้มากเป็นพิเศษ
แนะนำอุปกรณ์กันหนาวก่อนไปซัปโปโร https://ohhotrip.com/14085/
ฟุคุโอกะ
มาถึงเมืองใหญ่ที่สุดบนเกาะใต้ คิวชู “ฟุคุโอกะ” มีความโดดเด่นทางด้านศาลเจ้าและวัดโบราณหลายแห่ง รวมถึงเมนูชื่อดังของญี่ปุ่นหลายอย่าง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกที่ ตัวเมืองไม่มีความวุ่นวายเหมือนเมืองอื่นๆ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าที่ไม่ซับซ้อน เป็นประตูของเกาะคิวชูเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ คุมาโมโต้ มิยาซากิ นางาซากิ เพื่อชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติชื่อดังของญี่ปุ่น
เมื่อมาถึงฟุคุโอกะแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การไปที่ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu หนึ่งในศาลเจ้าชื่อดังที่สุดของประเทศญี่ปุ่น อายุยาวนานกว่า 1,000 ปี เป็นศูนย์รวม Spirit และ Power ให้เราได้มารับพลังงานดีๆกัน มีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้กว่า 8 ล้านคนต่อปี ถือว่าเยอะมากในลำดับต้นๆของศาลเจ้าทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะนักเรียน นิยมมาขอพรเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการสอบต่างๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในศาลเจ้าแห่งนี้ ประสานพรเรื่องการเรียนการศึกษาให้สำเร็จได้
พูดถึงของกินชื่อดัง ก็ต้องมาทานทงคัตสึราเมง ซึ่งเราจะรู้จักกันดีจากร้าน Ichiran Ramen เป็นราเมงซุปกระดูกหมูน้ำข้น ที่เป็นของดังและมีต้นกำเนิดมาจากเมืองฟุคุโอกะ ใครที่มาเมืองนี้แล้ว ไม่ทานทงคัตสึราเมน ถือว่ามาไม่ถึงฟุคุโอกะ! อีกหนึ่งวัตถุดิบขึ้นชื่อเมืองนี้นั่นคือ “เมนไทโกะ” ความพิเศษของเขาคือ เป็นไข่ปลาที่ปรุงรสโดยใส่พริกเข้าไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติความแซ่บอย่างที่คนไทยชอบเลย นิยมทานกับข้าวสุกแล้ว พร้อมกับสาหร่ายโรยหน้า ง่ายๆแสนอร่อย ใครที่อยากจัดหนัก ก็อย่าลืมทานหม้อไฟโมสึนาเบะ หรือหม้อไฟซุปเครื่องในสูตรพิเศษของเมืองนี้ รสชาติหวานหอมและมัน
เช่นเดียวกับเมืองซัปโปโร สายการบินที่ให้บริการบินตรงลงถึง ได้กินราเมนทงคัตสึเลย มีสายการบินไทยเป็นสายการบิน full service หนึ่งเดียวที่ให้บริการเส้นนี้ นอกจากนี้ก็จะมี Airasia x และ Thai Lion Air ที่เป็นสายการบินราคาประหยัดจากสนามบินดอนเมือง เที่ยวบินอาจจะมีไม่เยอะเหมือนเมืองอื่น ประมาณ 1 เที่ยวบินต่อวันของแต่ละสายการบิน
โอกินาว่า
ปิดท้ายกันด้วยเกาะสวรรค์แห่งท้องทะเล “โอกินาว่า” ดินแดนรีสอร์ทที่เต็มไปด้วยหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลสดใส ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะญี่ปุ่น เพิ่งเปิดบริการบินตรงจากกรุงเทพฯได้ไม่นานมานี้เอง
เกาะโอกินาว่าเป็นสวรรค์ของการพักผ่อนของชาวญี่ปุ่นทุกคน เพราะอยู่ในเขตอากาศอบอุ่นกว่าเมืองอื่นๆ และมีทะเลที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางทะเลได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นดำน้ำดูปะการัง เที่ยวชมเกาะต่างๆในบริเวณโดยรอบ เป็นเหมือนฮาวายของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะนี้ ส่วนใหญ่นิยมใช้การเช่ารถเพื่อเดินทางไปรอบเกาะ ถ้านักท่องเที่ยวต้องการจะออกทะเล ก็จะต้องซื้อแพ็คเกจทัวร์รายวันเหมือนเวลาเราไปเที่ยวทะเลทางภาคใต้ของเรา ปะการังบริเวณรอบเกาะโอกินาว่ามีความสมบูรณ์มาก มีสัตว์ทะเลสวยงามหลายชนิดทั้งเล็กและใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นปลาโลมาหรือเต่าทะเล ก็สามารถพบเห็นได้บ่อยในบริเวณรอบเกาะ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารญี่ปุ่นประยุกต์กับอาหารอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นซูชิที่ใส่ชีส หรือสเต็กชั้นดีเปรียบเสมือนเราอยู่ที่อเมริกากันเลย
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุดบนเกาะโอกินาวานี้นั่นคือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำยักษ์ใหญ่ นอกจากเราจะได้ชมความน่ารักของสัตว์น้ำทางท้องทะเลทุกชนิดแล้ว ที่นี่มีห้องจัดแสดงสัตว์น้ำใหญ่ที่สุด ใหญ่จนสามารถใส่ฉลามวาฬให้ว่ายได้อย่างสบายๆตั้ง 2 ตัว ใครที่ไม่กล้าออกทะเลไปดูฉลามวาฬที่ไกลๆ ก็สามารถชมความน่ารักและความมโหฬารของสัตว์ทะเลชนิดนี้ได้ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาว่า
สายการบินหนึ่งเดียวที่ให้บริการบินตรงจากประเทศไทยไปสู่เกาะแดนสวรรค์ของญี่ปุ่นนั่นคือสายการบิน Peach เป็นสายการบินราคาประหยัดสัญชาติญี่ปุ่น มีสีสันน่ารัก ชมพูสวยสดใส ให้บริการบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิในราคาเบาๆ ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ก็สามารถถึงแดนสวรรค์ตอนใต้ของญี่ปุ่นกันแล้ว
นี่คือ Destinations ทั้งหมด ที่เราสามารถเที่ยวได้เลยหลังจากลงเครื่อง จริงๆแล้วยังมีอีก 2 เมืองที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯนั่นคือ เมืองฮิโรชิมาและเมืองเซนได สายการบินนกแอร์เคยให้บริการเที่ยวบินตรงจากดอนเมืองสู่ฮิโรชิม่า และสายการบินไทยเคยให้บริการบินตรงจากสุวรรณภูมิไปเมืองเซนได แต่ทั้งสองเส้นนี้เปิดให้บริการเป็นชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีตารางบินตลอดปีซึ่งเราต้องคอยอัพเดทตรงกับสายการบินอีกทีว่าจะเปิดให้บริการอีกเมื่อไหร่
