ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เรื่องเล่าประสบการณ์ และการเตรียมความพร้อมก่อนพิชิตภูเขาไฟฟูจิ

เรื่องเล่าประสบการณ์ และการเตรียมความพร้อมก่อนพิชิตภูเขาไฟฟูจิ

สวัสดีค่า มาพบกันอีกครั้งนะคะ เมื่อพูดถึงสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อน ๆ นึกถึงอะไรกันเอ่ย? บางคนนึกถึง ‘ซูชิ’ อาหารประจำชาติ บางคนนึกถึง ‘ซากุระ’ ดอกไม้สีชมพูบานสะพรั่ง แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย หลาย ๆ คนต้องนึกถึงแน่นอน นั่นก็คือ ‘ภูเขาไฟฟูจิ’ นั่นเองค่า

ภูเขาไฟฟูจิ หรือเรียกกันอีกชื่อนึงว่า ฟูจิซัง (Fuji-san) ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดชิซูโอกะ และจังหวัดยามานาชิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 3,776 เมตร ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม และมีอิทธิพลด้านวัฒนธรรม ภูเขาไฟฟูจิจึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก พูดกันมาถึงขนาดนี้แล้ว ไปเตรียมตัวพิชิตหนึ่งในมรดกโลกกันดีกว่าค่า

ก่อนอื่นเราขอพูดถึงฤดูกาลที่เหมาะสมแก่การไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ นั่นก็คือ ช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นค่ะ เนื่องจากภูเขาไฟฟูจินั้นมีหิมะปกคลุมเกือบทั้งปี จึงทำให้อันตรายต่อการปีนเขา เลยเปิดให้ขึ้นแค่เพียงฤดูร้อนเท่านั้นค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปีด้วย แนะนำว่าก่อนไปควรจะตรวจสอบดูก่อนนะคะ แต่หากใครต้องการแค่จะชมทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิใกล้ ๆ ไม่ได้อยากปีนเขา ก็สามารถไปได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเริ่มปีนภูเขาไฟฟูจิกันในเวลากลางคืนกันค่ะ ควรออกเดินทางไม่เกินสองทุ่มครึ่ง เพื่อจะได้ทันชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูเขาไฟฟูจิค่ะ

ถ้าอยากจะไปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? อย่างแรกที่จะต้องเตรียมแน่ ๆ เลยคือ ต้องเตรียมใจก่อนเลยค่ะ 555 ทางขึ้นฟูจิซังในช่วงแรกอาจจะไม่ได้ชันมาก แต่ว่าช่วงหลังจะชันมากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ และด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกล อีกทั้งยังเริ่มปีนจากจุดที่มีความสูงมากกว่า 2,200 เมตร มีออกซิเจนเบาบางกว่าพื้นราบปกติ ทำให้เหนื่อยง่ายขึ้นค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ อาจจะต้องฟิตหนักก่อนมากันสักหน่อยนะคะ

ต่อมาเป็นส่วนของการเตรียมสัมภาระ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ อุปกรณ์กันหนาวต่าง ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค้ตกันน้ำกันลม เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ ถุงร้อน (kairo) ขณะที่อุณหภูมิในฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่นสูงถึง 30 กว่าองศา ร้อนไม่ต่างจากประเทศไทยเลย แต่ว่าบนภูเขาไฟฟูจินั้นกลับหนาวเย็นอย่างมาก ถึงขั้นต่ำกว่า 0 องศาอีกทั้งยังมีลมพัดแรง จากประสบการณ์ตรง เราเตรียมของไปไม่พร้อมเท่าที่ควร ทรมานมากค่ะ TT แนะนำว่าให้เตรียมสัมภาระให้พร้อมก่อนออกเดินทางไปพิชิตยอดเขานะคะ นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่จะต้องเตรียมพร้อมก็คือเสบียงค่ะ การปีนขึ้นไปถึงยอดภูเขาไฟฟูจินั้นใช้เวลาประมาณ 6 – 8 ชั่วโมงค่ะ ขึ้นอยู่กับความฟิตร่างกายของแต่ละคนเลย ถือว่าใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร กระเพาะเราคงทนอดอาหารไม่ไหว เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรแพ็คใส่กระเป๋าไว้เลยคือ ของกินที่ให้พลังงานเยอะ ๆ เช่น แคลอรี่เมท ขนมปัง หรือว่า ช็อกโกแลต นอกจจากจะให้พลังงานเยอะแล้ว ยังพกพาสะดวกอีกด้วย อย่าลืมพกน้ำดื่มไปด้วยนะคะ สำคัญมาก ๆ เช่นกัน อีกไอเท็มที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือไฟฉาย แนะนำว่าเป็นไฟฉายติดหัวจะสะดวกกว่าค่ะ เนื่องจากระหว่างปีนเขานั้นไม่มีไฟข้างทางระหว่างทางจึงค่อนข้างมืดพอสมควรเลยค่ะ และสุดท้ายไอเท็มเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อยากจะแนะนำให้พกไปก็คือเหรียญร้อยเยนค่ะ ไว้สำหรับเป็นค่าเข้าห้องน้ำระหว่างทางค่ะ

ต่อไปมาดูวิธีการเดินทางไปหาภูเขาไฟฟูจิกันค่า~

หากเพื่อน ๆ เริ่มเดินทางจากโตเกียว สามารถนั่งรถบัสจากสถานีชินจูกุ (Shinjuku) โดยออกจากประตูออกทิศใต้ ก็จะเจอตึกกระจกซึ่งเป็นที่ขึ้นรถบัสไปยังฟูจิซังนั่นเอง

CR : http://shinjuku-busterminal.co.jp/access/

สำหรับคนที่จะไปปีนฟูจิซัง หรือว่าอยากจะชมทัศนียภาพระยะใกล้ จะต้องลงสถานีสุดท้าย นั่นก็คือ สถานีฟูจิซังโกะโกเมะ (Fuji-san gogoume) นั่นเองค่ะ เราจะเรียกบริเวณนี้ว่าเป็นชั้นที่ 5 ของฟูจิซังค่ะ ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุดที่เดินทางด้วยรถยนต์ได้ค่ะ ที่นี่ก็จะมีร้านขายของฝาก ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ให้เราเลือกมากมายเลยค่ะ ตอนที่เราไปถึงเป็นเวลาประมาณหนึ่งทุ่ม แสงอาทิตย์เริ่มหาย หมอกก็เริ่มลงแล้วด้วยค่ะ

ภาพนี้เป็นวิวพระอาทิตย์ตก มองจากภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 ค่ะ แค่ชั้น 5 ก็สูงมากแล้วค่ะ อยู่เหนือเมฆไปอีก

ส่วนนี้เป็นภาพที่มองไปทางภูเขาไฟฟูจิค่ะ เห็นยอดอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น !

หลังจากถ่ายรูปที่ภูเขาไฟฟูจิชั้นที่ 5 อย่างสนุกสนานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางของเราแล้วค่ะ ! ระหว่างการเดินทางสู่ยอดเขา เนื่องจากเป็นตอนกลางคืน บรรยากาศค่อนข้างมืด จึงถ่ายรูปยากนิดนึงค่า

ระหว่างทางก็จะเป็นประมานนี้ค่ะ ตอนที่เราไปมีคนมาปีนค่อนข้างเยอะ ต่อแถวกันยาวเลยในช่วงแรก แต่พอเดินไปเรื่อย ๆ คนก็จะกระจายกันมากขึ้นค่า ข้างทางบางช่วงก็จะเป็นเหวบ้าง เป็นเนินชันบ้าง ต้องระมัดระวังด้วยนะคะ ใช้เวลาเดินทางราว ๆ 5 – 6 ชั่วโมง ในที่สุด !!! เราก็มาถึงฟูจิงซังชั้นที่ 8 แล้วค่า >< ดีใจมากเลย และก็หนาวมาก ๆ ด้วย

ที่ชั้น 8 จะมีร้านขายของกินร้านเล็ก ๆ ราคาแอบแรงนิดนึงค่ะ แต่ก็น่าจะต้องราคานี้นะคะ เพราะกว่าจะขนขึ้นมาคงลำบากน่าดูเลยค่ะ

CR : https://tomoekan.com/8tomoekan/

ตอนเรามาถึงชั้น 8 ใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะขึ้นพอดี ประจวบเหมาะเลยนั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงนี้ซะเลยค่ะ

พระอาทิตย์ใกล้จะขึ้นแล้ว ><

พระอาทิตย์ขึ้นแล้วค่า สวยจนหายเหนื่อยเลยค่ะ ฮึบ ! กลับมาฟิตอีกครั้ง หลังจากดื่มด่ำกับการดูพระอาทิตย์ขึ้นและถ่ายรูปพระอาทิตย์ยามเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาออกเดินทางกันต่อแล้วค่า หลังจากชั้นที่ 8 ทางก็จะเริ่มชันขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับปริมาณออกซิเจนที่เบาบางลงเรื่อย ๆ ทำให้เหนื่อยง่ายขึ้นมากเลยค่ะ แต่เราก็ยังไม่ยอมแพ้นะคะ และในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงชั้นที่ 9 แล้วค่า

แนะนำว่าไม่ควรจะรีบปีนจนเกินไปนะคะ เพราะว่าความกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาจทำให้รู้สึกไม่สบาย คลื่นไส้ หรือว่ามีอาการเจ็บหูได้นะคะ ต้องระวังกันด้วยค่า พอมองไปด้านหน้าเห็นเสาโทริอิ (鳥居) หรือซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น ที่มักจะพบบ่อยบริเวณหน้าศาลเจ้า ก็แสดงว่าใกล้จะถึงยอดเขาแล้วค่ะ ที่เห็นเหมือนเป็นหมอกในรูป จริง ๆ แล้วคือก้อนเมฆนั่นเองค่า มีความเดินทะลุเมฆไปอีก

และแล้วก็ถึง The top of japan ซึ่งก็คือยอดภูเขาไฟฟูจินั่นเองค่า~ บนยอดเขาจะเห็นเป็นปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่มโหราฬเลยค่ะ สุดยอดมาก ๆ หากต้องการเดินรอบปล่องภูเขาไฟจะใช้เวลาราว ๆ หนึ่งชั่วโมงเลยค่ะ เมื่อชมทัศนียภาพรอบปล่องภูเขาไฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาลงจากเขาแล้วค่า

ทางขึ้นที่ว่าหินแล้ว ทางลงก็เช่นกันค่ะ เนื่องจากทางเดินลงเป็นหินและทรายจึงค่อนข้างลื่น หากเดินไม่ระวังจะสามารถลื่นล้มได้ง่าย ๆ เลยค่ะ

ตอนลงแดดแรงมาก แล้วก็ร้อนมาก ๆ  ด้วยค่ะ ต่างจากตอนกลางคืนลิบลับ เสื้อกันหนาวที่พกมาจับยัดกระเป๋าเก็บหมดเลยค่ะ และหากเทียบกันแล้วบนภูเขาไฟฟูจิมีรังสี UV มากกว่าบนพื้นราบถึง 140 เปอร์เซ็นเลยทีเดียวค่ะ

ขาลงเมื่อเทียบกับขาขึ้นถือว่าใช้เวลาไม่นานค่ะ เพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อถึงชั้นที่ 5 เราก็แวะพักเติมพลังกันหน่อย ด้วยราเมงร้อน ๆ ก่อนเดินทางกลับสู่โตเกียวค่า

เป็นอย่างไรบ้างคะ จบไปแล้วกับทริปพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิ ถือว่าเป็นหนึ่งในประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่น่าจดจำของตัวผู้เขียนเลยค่ะ เห็นอย่างนี้แล้ว เพื่อน ๆ อยากมาลองพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิกันดูไหมคะ ถือว่าเป็นหนึ่งใน bucket list ยอดฮิตของนักปีนเขาเลยนะคะ แนะนำเพื่อน ๆ สายปีนเขาทุกคนว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาให้ได้เลยค่ะ หรือเพื่อน ๆ ที่ไม่ใช่สายนี้ก็มาลองกันได้นะคะ รับรองว่าประทับใจไม่รู้ลืมค่า แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ ^^

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

โลกเวทมนต์ ของ Harry Potter กลางเมืองโอซาก้า

Harry Potter เป็นวรรณกรรมและภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก รวมถึงในปร … 07/02/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
TV JAPAN LUXE
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่นแบบหรูหรามีสไตล์ (Japan Traveling in Luxury Style)

บทความนี้เราจะมาสวมบทไฮโซนักเดินทางที่พร้อมใช้เงินแก้ปัญหา เที่ยวญี่ปุ … 19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
11.Cover HP TK
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ชวนมาอาบน้ำแร่แช่น้ำพุร้อน...กับ 10 ออนเซ็นสุดเลิศในโตเกียวและใกล้เคียง

ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภูเขาไฟ (ทั้งที่ดับไปแล้วและยั … 04/08/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
autumn
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

9 กิจกรรม สนุกช่วงฤดูใบไม้ผลิ

ในขณะที่ญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ฤดูฤดูใบไม้ร่วงอันน่าหลงใหล ประเทศนี้ก็ได้เช … 13/10/2023
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
18716_CV-1ccea5e9
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ทุ่งดอกไม้หลากสีทั่วญี่ปุ่น...ที่คุณห้ามพลาด!

ในวันที่ท้องฟ้าสว่างสดใส คงดีไม่น้อยหากได้เดินทอดน่องช้าๆ เพื่อชื่นชมท … 31/10/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

สวมวิญญาณซามูไร ถ่ายรูปให้หนำใจที่ Samurai Armor

สวมวิญญาณซามูไร ถ่ายรูปให้หนำใจที่ Samurai Armor เมื่อมาถึงญี่ … 22/12/2023
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!