ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (ตอนที่ 1)

แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (ตอนที่ 1)
Contents

แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (ตอนที่ 1)

หลังจากที่ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นไปแล้วหลายบทความ ผู้เขียนสังเกตเห็นว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายๆแห่งถูกระบุด้วยข้อความ “ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO”

ทางผู้เขียนจึงได้รวบรวมรายละเอียดเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกมาฝาก ซึ่งแน่นอนว่าการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความรู้แวดล้อมเหล่านี้ ไม่เพียงจะช่วยให้การท่องเที่ยวของคุณดูมีเรื่องให้น่าค้นหามากขึ้น แต่การได้เห็นความหลากหลายทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ชาติพันธุ์ รวมไปถึงร่องรอยจารึกทางประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรถูกลืมเลือน ยังจะเป็นส่วนที่ทำให้เราได้ตระหนักถึงความงดงามอันทรงพลังและความสำคัญของสถานที่นั้นๆ ที่มีต่อมวลมนุษยชาติด้วย

++++++++++ ♦ ++++++++++

แหล่งมรดกโลก (World Heritage Site) คือ พื้นที่หรือจุดหลักที่ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโก (UNESCO) เพราะมีลักษณะสำคัญทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ หรือด้านอื่นๆ และได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายตามสนธิสัญญา สถานที่เหล่านี้ถือว่าสำคัญต่อประโยชน์โดยรวมจองมนุษยชาติ

ในปัจจุบัน (อ้างอิงในเดือน กรกฎาคม 2019) มีมรดกโลกทั้งหมด 1,121 แห่ง ใน 167 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม 869 แห่ง มรดกทางธรรมชาติ 213 แห่ง และอีก 39 แห่งที่เป็นแบบผสมของทั้งสองประเทศ (ระวังสับสนกับ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” หรือ “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม) มรดกโลกแต่ละแห่งเป็นทรัพย์สินของประเทศที่เป็นเจ้าของดินแดนที่มรดกโลกนั้นตั้งอยู่ แต่ได้รับการพิจารณาให้เป็นผลประโยชน์ของประชาคมระหว่างประเทศในการอนุรักษ์มรดกโลกแห่งนั้น

ซึ่งการจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น อันดับแรก ประเทศที่ต้องการเสนอขอรับพิจารณาจะต้องจัดทำบัญชีรายชื่อสถานที่ที่มีความสำคัญทางธรรมชาติและวัฒนธรรมทั้งหมดภายในประเทศของตน บัญชีนี้จะเรียกว่า บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะมีเพียงสถานที่ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีนี้เท่านั้นที่จะมีสิทธิได้รับการเสนอชื่อ ขั้นต่อมา ประเทศนั้นๆจะต้องเลือกรายชื่อสถานที่ที่ต้องการเสนอชื่อมาจากบัญชีรายชื่อเบื้องต้น เพื่อจัดทำเป็นแฟ้มข้อมูล (Nomination File) โดยทางศูนย์มรดกโลกอาจให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการจัดทำแฟ้มข้อมูลนี้ จากนั้นทางคณะกรรมการจะมีการประชุมร่วมกันปีละหนึ่งครั้ง เพื่อตัดสินว่าสถานที่ที่มีการเสนอชื่อแห่งใดบ้างที่ควรได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หรืออาจร้องขอให้ประเทศที่เสนอชื่อได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เพิ่มเติม โดยการพิจารณาว่าจะขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งใดจะต้องมีลักษณะตามเกณฑ์มาตรฐานข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อ

**โดยที่ญี่ปุ่นมีมรดกโลกทั้งหมด 23 แห่ง แบ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม 19 แห่ง และมรดกทางธรรมชาติ 4 แห่ง และยังมีสถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตอีกทั้งสิ้น 7 แห่ง**

ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก

กระทั่งปี ค.ศ.2005 มีข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ทั้งหมด 6 ข้อสำหรับมรดกโลกทางวัฒนธรรม และ 4 ข้อสำหรับมรดกโลกทางธรรมชาติ ในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลกดังนี้;

หลักเกณฑ์พิจารณามรดกโลกทางวัฒนธรรม

  • (1) - เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอกที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์
  • (2) - เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
  • (3) - เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
  • (4) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
  • (5) - เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตามกาลเวลา
  • (6) - มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์

หลักเกณฑ์พิจารณามรดกโลกทางธรรมชาติ

  • (7) - เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการเป็นตัวแทนในวิวัฒนาการสำคัญต่างๆในอดีตของโลก เช่น ยุคสัตว์เลื้อยคลาน ยุคน้ำแข็ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาความหลากหลายทางธรรมชาติบนพื้นโลก
  • (8) - เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดในการเป็นตัวแทนของขบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางธรณีวิทยาหรือวิวัฒนาการทางชีววิทยา และปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่กำลังเกิดอยู่ เช่น ภูเขาไฟ เกษตรกรรมขั้นบันได
  • (9) - เป็นแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ เช่น แม่น้ำ น้ำตก ภูเขา
  • (10) - เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์และพันธุ์พืชที่หายากหรือที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย แต่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งรวมถึงระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจด้วย

(**ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki/แหล่งมรดกโลก)

++++++++++ ♦ ++++++++++

มรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (World Heritage Site in Japan)

ญี่ปุ่นมีมรดกโลกทั้งหมด 23 แห่ง แบ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม 19 แห่ง และมรดกทางธรรมชาติ 4 แห่ง และยังมีสถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) เพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตอีกทั้งสิ้น 7 แห่ง;

♦ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม (Cultural Site) ทั้งหมด 19 แห่ง;

1. พุทธสถานในพื้นที่โฮริวจิ (Buddhist Monuments in the Horyu-ji Area) – เมืองอิโกมะ จังหวัดนาระ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1993 ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างทางพระพุทธศาสนา 2 แห่ง คือ วัดโฮริว และ วัดฮกกิ โดยมีพุทธสถานราว 48 แห่ง หลายแห่งสร้างมาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 ทำให้เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมไม้เหล่านี้มีความสำคัญไม่เพียงแต่แสดงถึงความเป็นมาของศิลปะการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมจีนของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพุทธสถานในพื้นที่โฮริวจิ >>

https://whc.unesco.org/en/list/660

http://www.horyuji.or.jp/en/

++++++++++ ◊ ++++++++++

2. ฮิเมจิโจ (Himeji-Jo) – เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1993 เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิงในปี ค.ศ.1995 ปราสาทฮิเมจิเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยมีลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท

จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิเมจิ-โจ >>

https://whc.unesco.org/en/list/661

https://www.himejicastle.jp/en/

++++++++++ ◊ ++++++++++

3. ฟูจิซัง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทางศิลปะ (Fujisan, sacred place and source of artistic inspiration) – ภูเขาไฟฟูจิ บริเวณจังหวัดชิซูโอกะและยามานาชิ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2013 เชื่อว่ามีผู้ปีนภูเขาไฟฟูจิครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1206 โดยนักบวชท่านหนึ่งและในช่วงระหว่างนั้นจนถึงยุคเมจิ ภูเขาไฟฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งห้ามผู้หญิงขึ้น ปัจจุบันภูเขาไฟฟูจิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นได้จากในงานเขียนหรือภาพวาดต่างๆ โดยเฉพาะภาพวาดของโฮกูไซ ที่มีให้เห็นในวรรณกรรมและกาพย์กลอนที่สำคัญมากมายของญี่ปุ่น ในอดีตภูเขาไฟฟูจิเป็นที่ฝึกฝนของฐานทัพซามูไร ซึ่งในปัจจุบันฐานทัพหนึ่งของกองทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูเขาไฟฟูจิ

รูปแบบของภูเขาไฟฟูจิและกิจกรรมที่ต่อเนื่องยาวนานในการเป็นแรงบันดาลใจ ได้กลายเป็นวิถีปฏิบัติทางศาสนาที่เชื่อมโยงผู้คนที่นับถือศาสนาชินโต พุทธศาสนา และธรรมชาติเข้าด้วยกัน ภูเขาไฟฟูจิยังมีอิทธิพลต่อศิลปินในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในการผลิตภาพเขียนที่มีลักษณะทางวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ภูเขาไฟลูกนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทั้งนี้ภูเขาไฟฟูจิซึ่งมีความสูง 3,776 เมตร ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดยะมะนะชิและชิซุโอะกะ เป็นหนึ่งในทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น จากการที่เป็นภูเขาไฟที่มีรูปร่างสมมาตรและมีหิมะปกคลุมบริเวณยอดเขาตลอดทั้งปี ทำให้กลายเป็นจุดดึงดูดผู้คนมานานหลายร้อยปี

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟูจิซัง – สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจทางศิลปะ >> https://whc.unesco.org/en/list/1418

++++++++++ ◊ ++++++++++

4. แหล่งกูซูกุและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของอาณาจักรริวกิว (Gusuku Sites and Related Properties of The Kingdom of Ryukyu) – หมู่เกาะริวกิว จังหวัดโอกินาว่า

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2000 ที่เมืองแคนส์ ประเทศออสเตรเลีย ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้;

(ii) – เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใด ๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม

(iii) – เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว

(iv) – เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งกูซูกุและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของอาณาจักรริวกิว >>

https://whc.unesco.org/en/list/972

++++++++++ ◊ ++++++++++

5. แหล่งคริสเตียนลับในภูมิภาคนางาซากิ (Hidden Christian Sites in Nagasaki Region) – จังหวัดนางาซากิและคุมาโมโตะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2018 ประกอบด้วยสิ่งปลูกสร้าง 12 หลัง จาก 10 หมู่บ้าน มีซากปราสาทและมหาวิหารโบราณ สะท้อนภาพความความศรัทธาในศาสนาคริสต์ที่ถือเป็นสิ่งต้องห้ามในญี่ปุ่นช่วงคริสตศตวรรษที่ 17-19 ก่อนจะได้รับการยอมรับในปี ค.ศ.1873 และเปิดเผยชุมชนชาวคริสต์ที่ยังเหลือรอดให้ปรากฏสู่สายตาชาวโลก โดยชาวคริสต์ในยุคนั้นได้รวมกลุ่มกันอาศัยในหมู่บ้านเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ตามริมชายฝั่งทะเลหรือเกาะอันห่างไกล การที่ต้องซ่อนเร้นจากโลกภายนอกทำให้พวกเขาได้สร้างสรรค์ประเพณีและพิธีกรรมท้องถิ่นที่แตกต่าง แต่ยังคงรักษาแก่นแท้ของคริสตศาสนาไว้ได้อย่างแข็งแกร่งตลอด 2 ศตวรรษแห่งการถูกไล่ล่า

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งคริสเตียนลับในภูมิภาคนางาซากิ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1495

http://kirishitan.jp/en

++++++++++ ◊ ++++++++++

6. ฮิราซูมิ วัด สวน และโบราณสถานแห่งพุทธเกษตร (Hirazumi – Temples, Gardens and Archaeological Sites Representing the Buddhist Pure Land) – จังหวัดอิวาเตะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2011 ประกอบด้วยแหล่งวัฒนธรรม ๕ แหล่งรวมทั้งภูเขากินไกซันอันศักดิ์สิทธิ์ อาณาจักรนี้สร้างอยู่บนพื้นฐานความคิดตามคติความเชื่อเรื่องจักรวาลของพระพุทธศาสนานิกายมหายาน สมบัติทางวัฒนธรรมชิ้นนี้แสดงถึงความเป็นดินแดนสุขาวดีอันเป็นที่ปรารถนาของมนุษย์ภายหลังความตาย รวมทั้งความสงบของจิตใจในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ นิกายสุขาวดีจึงพัฒนาขึ้นในการออกแบบและวางผังสวนที่เป็นลักษณะเฉพาะของญี่ปุ่น ด้วยการผสมผสานกันระหว่างการบูชาธรรมชาติตามความเชื่อดั้งเดิมและศาสนาชินโตของชาวญี่ปุ่น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิราซูมิ – วัด สวน และโบราณสถานแห่งพุทธเกษตร >>

https://whc.unesco.org/en/list/1277/

http://hiraizumi.or.jp/en/heritage/index.html

++++++++++ ◊ ++++++++++

7. อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Memorial) – จังหวัดฮิโรชิม่า

หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า “โดมปรมาณู” (Genbaku Dome or Atomic Bomb Dome) ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1996 อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางการระเบิดมากที่สุดในบรรดาอาคารที่ยังตั้งทนต่อแรงระเบิด ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพหลังจากถูกระเบิด ปัจจุบันได้กลายเป็นอนุสรณ์เตือนให้ระลึกถึงพลังทำลายล้างของระเบิดปรมาณู และเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในสันติภาพและการต่อต้านการใช้อาวุธปรมาณู

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า >>

https://whc.unesco.org/en/list/775/

http://hpmmuseum.jp/?lang=eng

++++++++++ ◊ ++++++++++

8. อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ (Historic Monuments of Ancient Kyoto) – นครเกียวโต เมืองอูจิ เมืองโอตสึ จังหวัดเกียวโต

สิ่งก่อสร้างทั้งหลายนี้ได้รับลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 18 เมื่อปี พ.ศ. 2537 (ค.ศ. 1994) ที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย โดยผ่านเกณฑ์การพิจารณาดังนี้

(ii) – เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใด ๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม

(iv) – เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนาทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ >>

https://whc.unesco.org/en/list/688

++++++++++ ◊ ++++++++++

9. อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาระโบราณ (Historic Monuments of Ancient Nara) – จังหวัดนาระ

สิ่งก่อสร้างโบราณในเมืองนาระได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 22 เมื่อปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) ที่นครเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้

(ii) – เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม

(iii) – เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว

(iv) – เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

(vi) – มีความคิดหรือความเชื่อที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเหตุการณ์ หรือมีความโดดเด่นยิ่งในประวัติศาสตร์

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์นาระโบราณ >>

https://whc.unesco.org/en/list/870

https://narashikanko.or.jp/en/feature/world-heritage/

++++++++++ ◊ ++++++++++

10. หมู่บ้านทางประวัติศาสตร์แห่งชิราคาวะและโกคายามะ (Historic Village of Shirakawa-go and Gokayama) – จังหวัดกิฟุและโทยามะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1995 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 19 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้

(iv) – เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

(v) – เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของวัฒนธรรมมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งสถาปัตยกรรม วิธีการก่อสร้าง หรือการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งเสื่อมสลายได้ง่ายจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมตาม กาลเวลา

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่บ้านทางประวัติศาสตร์แห่งชิราคาวะและโกคายามะ >>

https://whc.unesco.org/en/list/734

https://www.hida.jp/english/touristattractions/4001419/4000088.html

++++++++++ ◊ ++++++++++

11. ศาลเจ้าชินโตอิตสึกูชิมะ (Itsukushima Shinto Shrine) – เกาะอิตสึกูชิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1996 และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะอาคารต่าง ๆ ในศาลเจ้าให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น เสาโทริอิของศาลเจ้าอิตสึกูชิมะเป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และทิวทัศน์ของเสาประตูที่อยู่หน้าภูเขามิเซ็งบนเกาะ ยังได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น (Three Views of Japan) โดยเสาโทริอิเดิมถูกสร้างขึ้นในบริเวณนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1168 แต่เสาที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1875 ตัวเสาทำจากไม้การบูร มีความสูงประมาณ 16 เมตร และมีเสาเล็กๆอีก 4 เสา เป็นฐานรอง

ในเวลาที่น้ำขึ้น เสาโทริอิจะดูเหมือนลอยอยู่กลางทะเล เมื่อน้ำลง จะปรากฏให้เห็นพื้นโคลนเลนที่เสาตั้งอยู่ และสามารถเดินเท้าไปจากเกาะได้ ผู้มาเยือนมักจะวางเหรียญเงินไว้ที่ขารองเสาแล้วอธิษฐานขอพร ในวันที่ 5 กันยายน 2004 ศาลเจ้าถูกพายุไต้ฝุ่นซงดำพัดจนเสียหายหนัก ทางเดินและหลังคาอาคารถูกทำลายทำให้ต้องปิดศาลเจ้าชั่วคราว แล้วเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในปี 2006 แต่ก็ยังคงต้องดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าชินโตอิตสึกูชิมะ >>

https://whc.unesco.org/en/list/776

https://visithiroshima.net/world_heritage/itsukushima/

++++++++++ ◊ ++++++++++

12. เหมืองเงินอิวามิและภูมิทัศน์วัฒนธรรม (Iwami Ginzan Silver Mine and its Cultural Landscape) – เมืองโอดะ จังหวัดชิมาเนะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2007 “เหมืองเงินอิวามิ” คือแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมและเป็นเหมืองเงินขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ในปัจจุบันจะไม่มีการขุดขึ้นมาแล้ว แต่ร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองของเหมืองที่ประจักษ์ในสายตาของชาวต่างประเทศ เช่นชาวจีน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ ยังมีลงเหลือให้เห็นได้ในปัจจุบัน *นอกจากเงินแล้ว ยังได้ขุดพบโลหะชนิดอื่น ๆ ได้แก่ทองคำ ทองแดง และตะกั่ว เป็นต้น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหมือนอิวามิและภูมิทัศน์วัฒนธรรม >>

https://whc.unesco.org/en/list/1246

https://www.worldheritagesite.org/list/Iwami+Ginzan+Silver+Mine

++++++++++ ◊ ++++++++++

13. โมซุ-ฟุรุอิจิ โคฟุง: เนินสุสานญี่ปุ่นโบราณ (Mozu-Furuichi Kofun Group: Mounded Tombs of Ancient Japan) – จังหวัดโอซาก้า

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2019 ตั้งอยู่เหนือที่ราบสูงโอซาก้า ในอดีตเป็นสถานที่ฝังพระศพของสมเด็จจักรพรรดิและจักพรรดินี รวมไปถึงชนชั้นสูงของญี่ปุ่นในยุคโคฟุง (หรือราวๆศตวรรษที่ 3-6) ปัจจุบันถือเป็นสถานที่รวบรวมสุสานโบราณที่ถูกจัดแต่งออกมาในรูปร่างต่างๆ เช่น สุสานรูปกุญแจ รูปทรงกลม รูปสี่เหลี่ยม และรูปทรงอื่นๆที่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัด รวมทั้งสิ้น 123 สุสาน ถึงแม้สุสานโบราณเหล่านี้จะสะท้อนถึงระบบชนชั้นของสังคมในอดีต แต่การตกแต่งจัดวางสุสานที่มีความซับซ้อน ก็ได้รับคำยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศิลปะขั้นสูงเลยทีเดียว

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมซุ-ฟุรุอิจิ โคฟุง: เนินสุสานญี่ปุ่นโบราณ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1593

http://www.mozu-furuichi.jp/en/

++++++++++ ◊ ++++++++++

14. เกาะศักดิ์สิทธิ์โอกิโนชิมะและสถานที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคมูนากาตะ (Sacred Island of Okinoshima and Associated Sites in the Munagata Region) – จังหวัดฟุกุโอกะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2017 ตั้งอยู่ห่างจากเกาะคิวชูไปทางชายฝั่งตะวันตกประมาณ 60 กม. เกาะโอกิโนชิมะเป็นตัวอย่างของพื้นที่อันมีความโดดเด่นในเรื่องของการจัดพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ตามขนบประเพณีที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย บนเกาะเต็มไปด้วยวัตถุโบราณมากมาย หลายต่อหลายๆชิ้นเป็นผลงานที่ปราณีตลดลาม หลายชิ้นเป็นผลงานจากต่างประเทศซึ่งเป็นหลักฐานแสดงถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างหมู่เกาะญี่ปุ่น คาบสมุทรเกาหลี และประเทศบนแผ่นดินใหญ่ในเอเชีย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะศักดิ์สิทธิ์โอกิโนชิมะและสถานที่เกี่ยวข้องในภูมิภาคมูนากาตะ >> https://whc.unesco.org/en/list/1535

https://www.okinoshima-heritage.jp/en/?url=en

++++++++++ ◊ ++++++++++

15. แหล่งศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางจาริกแสวงบุญในทิวเขาคิอิ (Sacred Site and Pilgrimage Routes in The Kii Mountain Range) – จังหวัดนาระ วากายามะ และมิเอะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2004 ประกอบด้วย 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าและป่าโบราณที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งบางแห่งนั้นมีมาตั้งแต่ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 9 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ได้แก่ เขาโคยะ โยชิโนะ และคูมาโนะ กับเส้นทางแสวงบุญที่เชื่อมต่อกันไปสู่เมืองหลวงเก่านาระและเกียวโต

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งศักดิ์สิทธิ์และเส้นทางจาริกแสวงบุญในทิวเขาคิอิ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1142

https://www.pref.wakayama.lg.jp/

++++++++++ END PART ONE ++++++++++

By PokSafin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ตัวอย่างแผนท่องเที่ยวโตเกียวแยกตามพื้นที่ “อุเอโนะ”

อุเอโนะมีอะไร สวนอุเอโนะ จุดเด่นของย่านนี้คือสวนสาธารณะ … 09/03/2025
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

แนะนำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่พลาดไม่ได้แถวโอซาก้า เกียวโตและโกเบ

เอาใจคนชอบดูสัตว์น้ำและเที่ยวอควาเรียมอีกครั้ง คราวนี้เราจะขอมาจัดอัน … 06/12/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

Showa Kinen Park พรมใบแปะก๊วยชื่อดังในโตเกียว

สวัสดีค่ะ ขอประเดิมที่แรกตามฤดูแล้วกันค่ะ พูดถึงฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นก … 12/06/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เดินเล่นชมซากุระริมแม่น้ำโอโตะ ณ เมืองฮิกาชิโอคะซากิ จังหวัดไอจิ

ตอนนี้ดอกซากุระที่ญี่ปุ่นกำลังบานสะพรั่งออกดอกงดงามเลยทีเดียวค่ะ ส่วนใ … 01/04/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
Tsutanuma
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

10 จุดชมใบไม้แดง สวยที่สุดในญี่ปุ่น

เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงปลายปี อากาศที่เริ่มเย็นลงทีละน้อยคือสัญญาณบ่งบอกว … 11/01/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
Winter Spots_cv-107266c0
ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

7 สถานที่สัมผัสหน้าหนาวอันแสนงดงามในญี่ปุ่น

ในที่สุดฤดูหนาวที่รอคอยก็เดินทางมาถึงอีกครั้ง บทความนี้เราจะพาไปเช็คจุ … 26/05/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.