ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (ตอนที่ 2)

Combine HerCover22
Contents

แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (ตอนที่ 2)

จากบทความในตอนที่แล้ว “แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกในประเทศญี่ปุ่น (ตอนที่ 1)” [ดูบทความ: https://ohhotrip.com/?p=13884] เราได้พูดถึงแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไปแล้ว 15 แห่ง จากทั้งหมด 19 แห่ง

ในพาร์ทนี้ผู้เขียนจะมาต่ออีก 4 แห่งที่เหลือ พร้อมต่อด้วยแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติทั้ง 4 แห่ง และจะแถมรวมแหล่งที่บรรจุในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นที่ทางญี่ปุ่นได้เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่อเป็นมรดกโลก (Tentative List) อีก 7 แห่ง ... เรียกว่าเอาให้จุใจ จบ ครบ ในตอนเดียวกันไปเลย

++++++++++ ♦ ++++++++++

 

แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม (ต่อ)

16. ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก้ (Shrines and Temples of Nikko) – เมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิงิ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1999 ประกอบด้วย ศาลเจ้านิกโก้โทโช ศาลเจ้านิกโกฟุตะระซัง และวัดรินโน รวมทั้งสภาพแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่รายล้อมตัวศาลและวัดด้วย สถานที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับศตวรรษ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักและกล่าวถึงอย่างมากด้วยผลงานด้านสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและสะท้อนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยที่ปกครองโดยโชกุนโทกุงาวะ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโก้ >>

https://whc.unesco.org/en/list/913

++++++++++ ◊ ++++++++++

17. แหล่งมรดกจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในยุคเมจิ: การถลุงเหล็กและผลิตเหล็กกล้า การต่อเรือและการทำเหมืองถ่านหิน (Sites of Japan’s Meiji Industrial Revolution: Iron and Steel, Shipbuilding and Coal Mining) – เมืองฮางิ จังหวัดยามางูจิ และเมืองต่างๆบนเกาะคิวชู

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2015 เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ประกอบด้วยสถานที่ 23 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยสถานที่เหล่านี้มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วของญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก การต่อเรือ และการทำเหมืองถ่านหิน

สถานที่เหล่านี้ยังเป็นตัวอย่างของกระบวนการค้นหาเทคโนโลยีของญี่ปุ่นจากยุโรปและอเมริกา ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และบ่งบอกว่าเทคโนโลยีพวกนี้ถูกปรับให้เข้ากับความจำเป็นและประเพณีทางสังคมของญี่ปุ่นอย่างไร ซึ่งถือเป็นการส่งต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมตะวันตกไปยังประเทศที่ไม่ใช่ชาติตะวันตกสำเร็จเป็นครั้งแรกด้วย และจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมในประเทศช่วงเวลานั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของญี่ปุ่นครั้งใหญ่ในทุกด้านจนทำให้ประเทศญี่ปุ่นพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดดจนกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจในปัจุบัน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งมรดกจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในยุคเมจิ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1484

++++++++++ ◊ ++++++++++

18. งานสถาปัตยกรรมของเลอกอร์บูซีเย คุณูปการอันโดดเด่นต่อการขับเคลื่อนสมัยใหม่ (The Architectural Work of Le Corbusier, an Outstanding Contribution to the Modern Movement) – พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ กรุงโตเกียว

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2016 เป็นแหล่งมรดกโลกที่ประกอบด้วยอาคารจำนวน 17 โครงการ ซึ่งออกแบบโดยเลอกอร์บูซีเย สถาปนิกชาวฝรั่งเศส-สวิส ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย และอาร์เจนตินา

สถาปัตยกรรมในญี่ปุ่นโดยเลอกอร์บูซีเยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคือ ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2502 จุดประสงค์ของพิพิธภัณฑ์คือเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสชื่นชมศิลปะตะวันตก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นหน่วยงานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่อุทิศให้กับศิลปะตะวันตก และได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดนิทรรศการงานศิลปะ วิจัย ฟื้นฟู อนุรักษ์ ศึกษาและเผยแพร่สื่อที่เกี่ยวข้องกับศิลปะตะวันตก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรมของเลอกอร์บูซีเย >>

https://whc.unesco.org/en/list/1321/

++++++++++ ◊ ++++++++++

19. โรงงานทอผ้าโทมิโอกะและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง (Tomioka Silk Mill and Related Sites) – จังหวัดกุมมะ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2014 โรงงานสาวผ้าไหมที่เป็นต้นแบบของอุตสาหกรรมการสาวไหมยุคใหม่ที่มีความเก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งใน ค.ศ. 1872 ซึ่งในขณะนั้น ผ้าไหมดิบญี่ปุ่นเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของประเทศ แต่โรงงานผลิตกลับทำให้ผ้าไหมเสื่อมคุณภาพ ภาครัฐจึงตัดสินใจก่อตั้งโรงงานทอผ้าโทมิโอกะและนำเข้าเครื่องจักรทันสมัยจากฝรั่งเศสเข้ามาเพื่อเป็นต้นแบบในการปั่นด้ายด้วยเครื่องจักรที่มีความซับซ้อนและในที่สุดก็สามารถพัฒนาคุณภาพของผ้าไหมดิบได้ โรงงานนี้ได้รับการจดทะเบียนโดยรัฐบาลในฐานะแหล่งที่ตั้งทางประวัติศาสตร์ และตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงงานทอผ้าโทมิโอกะ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1449

http://www.tomioka-silk.jp.e.wv.hp.transer.com/tomioka-silk-mill/

 ++++++++++ ♦ ++++++++++

 

มรดกโลกทางธรรมชาติ (Natural Site)

มีทั้งหมด 4 แห่ง;

1. หมู่เกาะโองาซาวาระ (Ogasawara Islands) – โตเกียว

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2011 เป็นกลุ่มเกาะในเขตร้อนและเกาะใกล้เขตร้อนรวมกันกว่า 30 เกาะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากเกาะญี่ปุ่นไปทางทิศใต้ประมาณ 1,000 กม. มีประชากรอาศัยราวๆ 2,440 คน โดยกว่า 2,000 คน อาศัยอยู่บนเกาะชิจิจิมะ ซึ่งมีกล้องโทรทัศน์วิทยุขนาด 25 เมตร ของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น (NAOJ) ตั้งอยู่อีกด้วย

เนื่องจากหมู่เกาะโองาซาวาระได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “กาลาปากอสแห่งตะวันออก” และด้วยความที่แทบไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอก พืชพันธุ์และสัตว์ในแถบนี้จึงมีลักษณะเฉพาะตัว รวมทั้งมีความแตกต่างในเรื่องของวิวัฒนาการ การเดินทางมายังหมู่เกาะโองาซาวาระมีเส้นทางเดียว คือ ทางเรือโดยสารสาย “โองาซาวาระมารุ” จากท่าเรือโตเกียว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25.5 ชั่วโมง ในวันที่อากาศปลอดโปร่ง มีเรือให้บริการ 4-5 เที่ยวต่อเดือน

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมู่เกาะโองาซาวาระ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1362

++++++++++ ◊ ++++++++++

2. เทือกเขาชิรากามิ (Shirakami-Sanchi) – จังหวัดอาคิตะและอาโอโมริ

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1993 บริเวณเทือกเขามีพื้นที่ประมาณ 1,300 ตารางกิโลเมตร หรือ 812,500 ไร่ มียอดเขาที่สูงกว่า 1,000 เมตรเป็นจำนวนมาก ยอดที่สูงที่สุดคือ ยอดเขามูกาอิชิรากามิ มีความสูง 1,243 เมตร รอบ ๆ เทือกเขามีคนอาศัยอยู่มาเป็นเวลาช้านานแล้ว และมีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับผืนป่าบีช ที่พวกเขาถือว่าเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์

ในปี ค.ศ. 1982 มีการวางแผนก่อสร้างถนนบริเวณเทือกเขา แต่เนื่องจากตามแผนนี้จะต้องตัดถนนผ่านใจกลางของเทือกเขา ทำให้ถูกคัดค้านจากกลุ่มผู้อนุรักษ์ธรรมชาติ จนกระทั่งปี ค.ศ. 1983 ได้มีการค้นพบนกหัวขวานดำสายพันธุ์หายากในป่าบีช และได้ยกสถานะให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติ งานด้านการอนุรักษ์จึงมีความสำคัญมากขึ้น และแผนการก่อสร้างถนนก็ถูกยกเลิกไปในที่สุด เทือกเขาชิรากามิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทือกเขาชิรากามิ >>

https://whc.unesco.org/en/list/663

https://www.experience-shirakami.com/

++++++++++ ◊ ++++++++++

3. อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ (Shiretoko) – จังหวัดฮอกไกโด

ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2005 ในฐานะเป็นแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดสัตว์และพันธุ์พืชที่หายากหรือที่ตกอยู่ในสภาวะอันตราย แต่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งรวมถึงระบบนิเวศอันเป็นแหล่งรวมความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจด้วย

คำว่า “ชิเรโตโกะ” เป็นคำในภาษาไอนุ มีความหมายว่า “จุดสุดขอบโลก” คาบสมุทรแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากเมืองมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ทำให้มีพื้นที่หลายส่วนบนคาบสมุทรที่เข้าถึงได้จากการเดินเท้าและทางเรือเท่านั้น อุทยานนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งที่พบประชากรหมีเป็นจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ >>

https://whc.unesco.org/en/list/1193

++++++++++ ◊ ++++++++++

4. เกาะยากูชิมะ (Yakushima) – จังหวัดคาโงชิมะ

เป็นเกาะรูปทรงกลมที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเกาะคิวชูไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 60 กิโลเมตร ได้รับลงทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1993 พร้อมกับสถานที่อีก 3 แห่ง คือ ปราสาทฮิเมจิ วัดโฮรีว และเทือกเขาชิรากามิ

ตัวเกาะมีเส้นรอบวงประมาณ 132 กิโลเมตร มียอดเขามิยาโนอูระ สูง 1,936 เมตรเป็นจุดสูงสุดของเกาะ บนเกาะเป็นแหล่งอาศัยของกวางและลิง และมีหมู่บ้านเล็กๆ 2 แห่งตั้งอยู่ จุดเด่นของเกาะคือต้นไม้ Cryptomeria หรือซูงิ ขนาดใหญ่จำนวนมากซึ่งมีอายุนับได้กว่าพันปี สภาพอากาศบนเกาะที่มีตั้งแต่สถาพอากาศแบบเขตกึ่งร้อนชื้นจนถึงหนาวเย็น

ยากูชิมะได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลก ด้วยข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังต่อไปนี้;

(vii) – เป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของการเป็นตัวแทนในวิวัฒนาการสำคัญต่างๆในอดีตของโลก เช่น ยุคสัตว์เลื้อยคลาน ยุคน้ำแข็ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาความหลากหลายทางธรรมชาติบนพื้นโลก

(ix) – เป็นแหล่งที่เกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์หายากหรือสวยงามเป็นพิเศษ เช่น แม่น้ำ น้ำตก ภูเขา

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะยากูชิมะ >>

https://whc.unesco.org/en/list/662/

++++++++++ ♦ ++++++++++

สถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List)

นอกจาก “มรดกโลกทางวัฒนธรรม” 19 แห่ง และ “มรดกโลกทางธรรมชาติ” 4 แห่ง รวมเป็น 23 แห่ง ญี่ปุ่นยังมีสถานที่ที่ได้รับขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นเพื่อพิจารณาเป็นมรดกโลกในอนาคตทั้งสิ้น 7 แห่ง;

1. วัด ศาลเจ้า และสิ่งปลูกสร้างโดยรอบ ของคามาคูระโบราณ (Temples, Shrines and other structures of Ancient Kamamura) – จังหวัดคานางาวะ

ถูกเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มซามูไร เพื่อเป็นที่ตั้งฐานเสียงทางการเมืองของชนชั้นนักรบ ทางทิศเหนือ ตะวันออกและตะวันตก ถูกรายล้อมด้อยเอกเขา ส่วนทิศใต้ประจันหน้ากับชายฝั่งมหาสมุทร

ในช่วงปีค.ศ.1192 สมัยเอโดะ ซามูไรเป็นชนชั้นปกครองที่มีอิทธิพลทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยมีคามามูระเป็นศูนย์กลางที่รวมทั้งนาจและความเจริญยาวนานกว่า 150 ปี แต่หลังยุคสมัยเอโดะผ่านพ้นไป เมืองหลวงถูกเปลี่ยนเป็นโตเกียวที่ล้ำสมัย ดังนั้นสถานที่เดียวที่เหลือรอดให้เราได้เห็นวัฒนธรรมของซามูไรที่แท้จริง ก็คือที่คามามูระและบริเวณโดยรอบนั่นเอง

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคามามูระ >> https://whc.unesco.org/en/tentativelists/370/

++++++++++ ◊ ++++++++++

2. ปราสาทฮิโกเนะ (Hikone-Jo) – เมืองฮิโกเนะ จังหวัดชิงะ

ถูกเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1992 เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในยุคเอโดะ เป็นปราสาทหนึ่งใน 12 แห่งของญี่ปุ่นที่ยังคงอนุรักษ์สภาพเดิมเอาไว้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง และเป็นหนึ่งในสี่ปราสาทของญี่ปุ่นที่เป็นมรดกแห่งชาติ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาทฮิโกเนะ >> https://whc.unesco.org/en/tentativelists/374/

++++++++++ ◊ ++++++++++

3. อาสึกะ-ฟูจิวาระ: แห่งโบราณคดีของนครหลวงญี่ปุ่นโบราณและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง (Asuka-Fujiwara: Archaeological sites of Japan’s Ancient Capitals and Related Properties) – จังหวัดนารา

ถูกเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2007 ประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถานในภูมิภาคอาสึกะ เคยเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงสมัยจักรพรรดินีซุยโกะ ช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนจะย้ายไปที่นาราราวๆศตวรรษที่ 7 เป็นโบราณสถานที่มีทิวทัศน์งดงามและมีภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมอยู่โดยรอบ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาซูกะ-ฟูจิวาระ >> https://whc.unesco.org/en/tentativelists/5097/

++++++++++ ◊ ++++++++++

4. แหล่งโบราณสถานโจมองในฮอกไกโด โทโฮคุตอนเหนือ และภูมิภาคอื่นๆ (Jômon Archaeological Sites in Hokkaidô, Northern Tôhoku, and other regions) – จังหวัดอาโอโมริ ฮอกไกโด อิวาเตะ อาคิตะ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ถูกเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 เป็นกลุ่มสิ่งปลูกสร้างโบราณที่มีเอกลักษณ์ สะท้อนถึงกลุ่มคนที่เข้ามายึดครองเกาะญี่ปุ่นและก่อเกิดวัฒนธรรมเฉพาะตัวมานานนับหมื่นปี ตามที่ได้ทิ้งร่องรอยการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมยุคบุกเบิกเอาไว้มากมาย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งโบราณสถานโจมอง >> https://whc.unesco.org/en/tentativelists/5398/

++++++++++ ◊ ++++++++++

5. Sado Complex of Heritage Mines, Primarily Gold Mines – จังหวัดนิงาตะ

เรียกสั้นๆว่า “เหมืองทองคำซาโดะ” ถูกเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 ตั้งอยู่บนเกาะซาโดะ ห่างจากชายฝั่งของเกาะญี่ปุ่นไปราวๆ 40 กม. เป็นแหล่งเหมืองแร่ทองคำและเงินที่สร้างรายได้ให้กับรัฐบาลกลางญี่ปุ่นมหาศาล รวมทั้งยังมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างยิ่งยวด จนถูกเสนอชื่อเข้ารับการพิจารณาเป็นมรดกโลก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหมืองทองคำซาโดะ >>

https://whc.unesco.org/en/tentativelists/5572/

https://www.sado-goldmine.jp/eng/

++++++++++ ◊ ++++++++++

6. ฮิราอิซูมิ วัด สวน และโบราณสถานแห่งพุทธเกษตร ส่วนต่อขยาย (Hiraizumi – Temples, Gardens and Archaeological Sites Representing the Buddhist Pure Land: The Extentions) – จังหวัดอิวาเตะ

ตัวฮิราอิซูมิหลักได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.2011 (กล่าวไว้ในพาร์ทที่แล้ว) แต่เฉพาะส่วนต่อขยายนี้ถูกเสนอขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2012

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฮิราซูมิ – วัด สวน และโบราณสถานแห่งพุทธเกษตร >>

https://whc.unesco.org/en/list/1277/

http://hiraizumi.or.jp/en/heritage/index.html

++++++++++ ◊ ++++++++++

7. เกาะอามามิ-โอชิมะ เกาะโทคุโนะชิมะ ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาว่าและอิริโอโมเตะ (Amami-Oshima Island, Tokunoshima Island, the northern part of Okinawa Island and Iriomote Island) – จังหวัดคาโงชิมะและโอกินาว่า

โดยญี่ปุ่นได้เสนอชื่อเกาะทั้ง 4 รวมกันขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2016 ด้วยพื้นที่เกาะนอกที่โดดเด่นในเรื่องของการเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมสากล พร้อมแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เหมาะสำหรับการศึกษาและวิจัยวิทยาศาสตร์ทางน้ำและชายฝั่ง อันมีคุณค่ามหาศาลต่อวิทยาการของโลก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะอานามิ-โอชิมะ เกาะโทคุโนะชิมะ ทางตอนเหนือของเกาะโอกินาว่าและอิริโอโมเตะ >>

https://whc.unesco.org/en/tentativelists/6160/

++++++++++ END PART TWO ++++++++++

By PokSafin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!