ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยว Tokyo เร่งด่วน ระหว่างต่อเครื่อง

tokyo-e33eccb8

หลายคนที่ต้องการจะเดินทางข้ามทวีประหว่างเอเชียไปอเมริกาเหนือ เลือกที่จะใช้บริการสายการบินของประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น ANA หรือ Japan airlines ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนเครื่องที่เมืองโตเกียว

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งบางทีอาจจะนานถึง 8 ชั่วโมง เราสามารถแว๊บออกไปเที่ยวเมืองโตเกียวได้! 

วันนี้ผมขอแนะนำเส้นทางในการออกจากสนามบินไปเที่ยวจุดหลักๆในเมืองโตเกียวให้ครบทุกอารมณ์และกลับมาเดินทางต่อได้อย่างเต็มอิ่มกันครับ 

ใช้บริการรถไฟด่วน (1hr)

Photo from https://www.flickr.com/photos/27889738@N07/5893639987

เพื่อให้เป็นการไม่เสียเวลาในการเดินทาง แนะนำให้ใช้บริการรถไฟด่วนจากสนามบิน ส่วนใหญ่เครื่องบินที่ต้องต่อเครื่องไปทวีปอเมริกาเหนือ จะมาลงที่สนามบินนาริตะ ก็จะมีรถไฟ Narita Express ให้บริการวิ่งตรงจากสนามบินโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถไฟใดๆ เข้าสู่ใจกลางเมืองโตเกียวได้ในระยะเวลาไม่นาน  

สถานีใหญ่ๆที่จะวิ่งผ่านก็จะมีสถานีโตเกียว สถานีชินากาว่า ชินจุกุและสถานีชิบูย่าเป็นต้น จากสนามบินมาถึงสถานีชิบูย่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาทีเท่านั้น และค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 3,250 เยน เราสามารถซื้อตั๋วได้ที่เคาน์เตอร์โดยไม่ต้องจองล่วงหน้า 

ภายในตัวรถไฟด่วนขบวนนี้มี WiFi ฟรี นักท่องเที่ยวสามารถเสิร์ชหาข้อมูลหรือติดต่อครอบครัวและเพื่อนระหว่างทางได้สบาย ที่นั้งเป็นแบบ fix seat ห้องโดยสารก็กว้าง มีช่องเก็บกระเป๋าพร้อมสมบูรณ์ สามารถยืดขาและพักผ่อนหลังจากการนั่งบนเครื่องบินกว่า 6 ชั่วโมงได้อย่างสบาย 

Photo from https://www.narita-airport.jp/en/access/city_access

สี่แยกชิบูย่า (40min)

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:QFront-Shibuya-04.jpg

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีชิบูย่าแล้วให้มองหาทางออกที่ด้านประตูฮาจิโกะหรือประตูทางออกด้านทิศตะวันออก สถานีชิบูย่าค่อนข้างใหญ่และมีทางออกมากมายหลายจุดซึ่งง่ายต่อการหลงทางภายในสถานีมาก ให้เล็งหาป้ายทางออกด้านตะวันออก จะนำคุณออกมาสู่จุดศูนย์กลางของชิบูย่าได้ดีที่สุด 

เมื่อออกมาถึงหน้าสถานีแล้ว ก็จะเห็นสี่แยกชื่อดัง ที่จัดว่าเป็นสี่แยกที่ busy ที่สุดในโลก ก่อนจะข้ามถนนทางหน้ารถไฟก็จะเห็นรูปปั้นสุนัขน้อยญี่ปุ่น สายพันธุ์อาคิตะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งเป็นจุดนัดพบของทุกคนที่มาที่ชิบูย่า ก็อย่าลืมไปถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกกับน้องฮาจิโกะในตำนานด้วย 

Photo from https://www.flickr.com/photos/elprimerpaso/10535542376

ฮาจิโกะเป็นสุนัขของศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมากและก็มาส่งอาจารย์ขึ้นรถไฟทุกเช้าและมารับทุกเย็นเป็นเวลาหลายปีจนกระทั่งอาจารย์คนนั้นได้เสียชีวิตลงที่มหาวิทยาลัยและไม่ได้กลับมาที่สถานีนี้ แต่ฮาจิโกะก็ยังคงยืนรอจนกว่าเจ้าของจะกลับมาอีกครั้งนานกว่า 10 ปี จนกระทั้งตัวเองก็ได้เสียชีวิตไปกับการรอคอย 

พอข้ามถนนก็ให้ไปชมวิวจากมุมสูงที่ Starbucks ชิบูย่า ซึ่งจุดตรงนี้สามารถถ่ายรูปเวลาที่คนจำนวนมากเดินพลุกพล่านข้ามสี่แยกนี้กันได้สวยที่สุด ต่อจากนั้นก็ค่อยไปเดินเล่นตามเวลาที่เรามี เพราะชิบูย่าเป็นศูนย์กลางของร้านอาหารต่างๆและร้านค้ารีเทลชื่อดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Shop Adidas, Zara Shop, H&M หรือ Loft ขนาดใหญ่ ก็มีให้เลือกช็อปปิ้งกันอย่างเต็มที่นี่ 

ตลุยฮาราจุกุ (1hr)

Photo from https://www.flickr.com/photos/wallyg/5794543889

นั่งรถไฟกันต่อจากสถานีชิบูย่าประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ไปลงสถานีใกล้เคียง ฮาราจูกุ จุดนี้คือจุดชื่อดังที่นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาถ่ายรูปกับผู้คนที่แต่งตัวคอสตูมกันมาเดินช็อปปิ้งในบริเวณนี้ เป็นเอกลักษณ์ชื่อดังของเมืองโตเกียว

ส่วนใหญ่ก็จะขายพวกสินค้าเบ็ดเตล็ด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า Accessories หรืออุปกรณ์ตกแต่งทั้งที่เป็นแบบแฟชั่นและเป็นแบบใช้ในการแต่งตัวคอสเพลย์ แล้วยังมีคาเฟ่น่ารักๆหลายแห่งให้นักท่องเที่ยวได้ลองประสบการณ์ใหม่ๆ กับคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีเมดสาวน่ารักคอยเสิร์ฟกาแฟและขนมให้ 

เครปญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องลองเมื่อมาถึงที่ฮาราจูกุนี้ มีให้เลือกหลายรสทั้งแบบคาวและแบบหวาน มาญี่ปุ่นทั้งที ไม่ทานเครปญี่ปุ่นกลับไป ถือว่ามาไม่ถึงจริงๆ 

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:メガマリオン_(44531355610).jpg

ศาลเจ้าเมจิ (1hr)

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Meiji-Jingu-Shrine-01.jpg

เดินออกจากแหล่งช้อปปิ้ง มาดูวัฒนธรรมดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง ศาลเจ้าเมจิแห่งเมืองโตเกียว ใช้เวลาเดินจากฮาราจูกุเพียงแค่ 10 นาที ก็สามารถหลุดออกมาอีกโลกที่แตกต่างไปสิ้นเชิงเลยได้ 

ศาลเจ้า meiji jingu เป็นศาลเจ้าประเภทชินโต ซึ่งทางเข้าก็จะมีประตูโทริขนาดใหญ่เป็นจุดแยกระหว่างความวุ่นวายในตัวเมืองสู่ความสงบ ภายในศาลเจ้ามีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบในบริเวณมากกว่าหมื่นต้น ร่มรื่นและให้ความสงบเย็นมาก ที่สำคัญเป็นสถานที่ที่มีสปิริตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญของประเทศญี่ปุ่นสถิตอยู่บริเวณนี้ด้วย 

นอกจากเราจะได้มาชมความสวยงามทางสถาปัตยกรรมโบราณของวัฒนธรรมญี่ปุ่น เรายังจะได้ชมสวนญี่ปุ่นที่สวยงามภายในบริเวณศาลเจ้า อีกทั้ง ยังได้มีโอกาสมานมัสการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและความโชคดีของเราในอนาคตอีกด้วย

สวนสาธารณะโยโยกิ (30min)

ในบริเวณไม่ไกลจากศาลเจ้า meiji jingu ก็จะมีสวนสาธารณะเปิดขนาดใหญ่ที่เรียกว่า โยโยกิโคเอน 

เป็นสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ล้อมรอบและบริเวณพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ จะเห็นผู้คนมานั่งปิกนิกหรือมาทำกิจกรรมกับเพื่อนๆและครอบครัว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิกลางเดือนเมษายน ที่นี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของเมืองโตเกียวที่ผู้คนจะมาชมดอกซากุระบานหรือที่เรารู้จักกันว่า “เทศกาลฮานามิ” 

ถ้าใครที่ยังพอมีเวลา ก่อนที่จะเดินทางกลับสนามบินเพื่อต่อเครื่องไปต่อ ก็สามารถมานั่งพักสูดอากาศดีๆใต้ร่มไม้ที่สวนสาธารณะโยโยกิได้ 

กลับสนามบิน (1.20hr)

เวลาจะเดินทางกลับสนามบิน ให้เดินกลับมาที่สถานีฮาราจูกุ เพื่อนั่งรถไฟกลับมาที่สถานีชิบูย่าเหมือนเดิม จากนั้นต่อรถไฟด่วน Narita Express ไปที่สนามบินได้เลย 

ทางที่ดีเราควรที่จะเดินทางไปถึงสนามบินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก่อนเวลาเครื่องออก เนื่องจากเราไม่ต้องทำการเช็คอินแล้ว เราไม่จำเป็นจะต้องไปถึงก่อน 2-3 ชั่วโมง เป็นแค่การเผื่อเวลาสำหรับการผ่านจุดตรวจความปลอดภัยและด่านตรวจคนเข้าเมืองเท่านั้นเอง 

เท่านี้เราก็ได้สนุกกับเมืองโตเกียวในระยะเวลาสั้นๆภายในไม่ถึง 6 ชั่วโมง แถมได้ครบทุกบรรยากาศทั้ง ช้อป กิน เที่ยว ในแบบโมเดิร์นและแบบวัฒนธรรมสมบูรณ์ครบถ้วนกันเลย 

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Narita_Airport_Terminal_2_exterior.jpg

 

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!