ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวไหนดีที่โทโฮคุ…Favorite Places in Tohoku

CCOVER-TOHOKU WHT

ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ครอบคลุมพื้นที่ของ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอะโอะโมริ (Aomori), จังหวัดอิวาเตะ (Iwate), จังหวัดอะคิตะ (Akita), จังหวัดมิยางิ (Miyagi), จังหวัดยามางาตะ (Yamagata) และจังหวัดฟุคุชิมะ (Fukushima)

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง ขนาบ 2 ด้าน ด้วยทะเลญี่ปุ่นและมหาสมุทรแปซิฟิก มีประชากรรวมประมาณ 9 ล้านคน ในอดีตนั้นยากต่อการเข้าถึงเนื่องจากเป็นเทือกเขาขรุขระและถนนหนทางคับแคบ และด้วยสภาพภูมิอากาศในฤดูหนาวที่โหดร้าย ทำให้เกิดตำนานเล่าขานมากมาย

ในปัจจุบัน “โทโฮคุ” ยังคงมีธรรมชาติสวยงามและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จะเป็นดินแดนแห่งความสดชื่นละลานตาไปด้วยสีสันสดใสของแมกไม้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ “โทโฮคุ” เป็นพื้นที่ที่สามารถอนุรักษ์วิถีชีวิตตามขนบประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้ได้อย่างเหนียวแน่นมากที่สุดในญี่ปุ่น แม้จะมีอารยธรรมและความเจริญมากมายหลั่งไหลเข้ามาก็ตาม

(ที่มาข้อมูล: https://th.wikipedia.org/wiki/โทโฮกุ)

———- ♦ ———-

การเดินทาง

(Access Tohoku)

2.1. การเดินทางจากเมืองไทยสู่โทโฮคุ – ใช้วิธีบินจากกรุงเทพฯไปยังโตเกียว จากนั้นนั่งรถไฟชินคันเซ็นวิ่งเชื่อมไปยังแต่ละจังหวัดในโทโฮคุ โดย:

- รถไฟ: นั่งรถไฟ Tohoku Shinkansen จากสถานี Tokyo ไปลง Shin-Aomori ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.

- เครื่องบิน: จากสนามบินฮาเนดะ ไปยัง สนามบินอะโอะโมริ ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม. / สนามบินฮาเนดะ ไปยัง สนามบินมิสะวะ (ชิน โอซาก้า) ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.

- รถบัสด่วน: จากโตเกียว ไปยังสถานีอะโอะโมริ ใช้เวลาประมาณ 9.30 ชม.

2.2. การเดินทางภายในโทโฮคุ – เนื่องจากมีพื้นที่ครอบคลุมถึง 6 จังหวัด การจะเดินทางให้ได้รอบๆนั้น สำคัญคือต้องปักหมุดจุดเริ่มต้นและสถานที่ที่จะไปก่อน จากนั้นจึงแพลนการเดินทาง โดยสามารถเลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่เหมาะสมกับพื้นที่เป้าหมาย หรือจะเช่ารถก็ได้

———- ♦ ———-

เที่ยวอะไรดีที่โทโฮคุ

(Favorite Places to Visit in Tohoku)

 

1. เทือกเขาชิระคะมิ (Shirakami Sanchi), จังหวัดอะโอะโมริ

ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอะโอะโมริถึงจังหวัดอะคิตะ เป็นป่าบีขดงดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนเนื้อที่ 170 ตารางกิโลเมตร มีจุดไฮไลท์อยู่ที่ “เส้นทางเดินเล่น 12 ทะเลสาบจูนิ” (Lake Juniko) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ให้คุณดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ริมทะเลสาบจูนิที่ประกอบด้วยสระน้ำสีน้ำเงินบริสุทธิ์ 12 สระ โดยเฉพาะบริเวณสระอะโอะอิเคะ ที่งดงามราวกับมีมนต์สะกดจนไม่อาจละสายตาไปง่ายๆ

นอกจากนี้ยังมี “ศูนย์สินค้าป่าเคียวโรโระ” ที่ให้แวะซื้อของฝากกลับไปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

การเดินทาง: จากรถไฟ JR สถานี Hirosaki ในเมืองอะโอะโมริ นั่งรถบัสไปลงที่ป้าย Tashiro ใช้เวลา 55 นาที จากนั้นเดินต่อประมาณ 6 นาที ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทือกเขาชิระคะมิ หรือ นั่งรถยนต์ (แท็กซี่หรือเช่า) ประมาณ 40 นาที ไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทือกเขาชิระคะมิ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.experience-shirakami.com/

++++++++++

2. นิวโตะ ออนเซ็น (Nyuto Onzen), จังหวัดอะคิตะ

แหล่งรวมเรียวกังออนเซ็นลึกลับที่ดีที่สุดและเรียบง่ายที่สุด ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาทางตะวันออกของอะคิตะ มีเรียวกังพร้อมออนเซ็นให้บริการ 7 แห่ง ที่แตกต่างกัน;

  • Tsurunoyu Onzen: น้ำพุร้อนสีขาวขุ่นกับที่พักหลังคามุงจากที่แทบหาไม่ได้จากที่ไหนมาก่อน
  • Taenoyu Onzen: ส่วนผสมของบ่อออนเซ็นกลางแจ้งริมลำธารบวกกับบรรยากาศแบบญี่ปุ่นยุคใหม่
  • Ogama Onzen: เรียวกังแบบไม้สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ ให้คุณซึมซับอดีตอย่างเต็มที่
  • Kuroyu Onzen: น้ำพุร้อนธรรมชาติไหลผ่านท่อนซุงสู่บ่อแช่กลางแจ้ง ให้กลิ่นอายของวันวาน
  • Ganiba Onzen: แช่น้ำพุร้อนท่ามกลางป่าดงดิบ ดื่มด่ำความอบอุ่นแบบส่วนตัวในสถานที่ไร้ร้างผู้คน
  • Magoroku Onzen: บ่อน้ำพุร้อนผสมสมุนไพรจากต้นน้ำ 4 แห่งในภูเขาเวิ้งว้าง
  • Kyukamura Nyuto Onzen: เรียวกังแบบโมเดิร์นกับบ่ออนเซ็นล้อมรอบด้วยบีชญี่ปุ่น

โดยน้ำพุร้อนที่นิวโตะทั้ง 7 แห่ง ไหลมาจากต้นน้ำที่แตกต่างกัน มีสีสันและกลิ่นไอที่โดดเด่นเฉพาะตัว มีสรรพคุณเรื่องสมานแผลและดูและผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง

การเดินทาง: จากโตเกียว นั่งรถไฟ Shinkansen มาลงที่สถานี Tazawako (ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) จากนั้นนั่งรถบัส Uko Kotsu ไปลงที่ป้ายสุดท้าย Nyuto Ganiba Onzen (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.)

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://ryokan.glocal-promotion.com/

++++++++++

3. เทศกาลโยโกเตะคามะคุระ (Yokote Snow Festival), จังหวัดอะคิตะ

โยโกเตะ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีหิมะตกมากที่สุดในญี่ปุ่น และในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จะมีการจัดงานเทศกาลหิมะโดยสร้างกระท่อมหิมะ หรือ คามะคุระ กว่า 100 หลัง ที่มีหน้าตาคล้าย Igloo บ้านของคนแถบขั้วโลก ซึ่งจะมีการจุดเทียนเล็กๆประดับทั้งภายในกระท่อมและตามทางเดินหลายร้อยอัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมความงามของแสงเทียนที่ตกกระทบเกล็ดหิมะ และยังสามารถเข้าไปนั่งจิบเครื่องดื่มร้อนๆในกระท่อมได้ด้วย

การเดินทาง: จากโตเกียว นั่งรถไฟ Akita Shinkansen มาลงที่สถานี Omagari จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟ JR Ou Main Line เพียงหนึ่งสถานีมาลงที่ Yokote

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.japan.travel/en/destinations/tohoku/akita/yokote-and-around

++++++++++

4. ทะเลสาบอินะวะชิโระ (Inawashiro/Bandai), จังหวัดฟุคุชิมะ

ตั้งอยู่แทบจะเรียกว่าใจกลางฟุคุชิมะเลยก็ว่าได้ เป็นทะเลสาบพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 100 ตารางกิโลเมตร จุดเด่นคือสายน้ำที่ใสราวกับกระจก จนถูกเรียกอีกชื่อว่า “เทนเคียวโกะ” แปลว่า ทะเลสาบที่ใสจนสะท้อนเห็นท้องฟ้า (Heavenly Mirror Lake)

ริมทะเลสาบมีทัศนียภาพที่สวยงามและมีกิจกรรมให้ทำมากมาย แตกต่างกันไปตามฤดูกาล เช่น ตั้งแคมป์ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ชมซากุระริมทะเลสาบในฤดูใบไม้ผลิ หรือ ดูภาพฝูงหงส์ที่อพยพมาในฤดูหนาว ฯลฯ เรียกได้ว่ามีเสน่ห์จับใจชวนให้ค้นหาได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงกลางฤดูหนาวจะมี “ละอองน้ำแข็ง” ที่เกิดจากน้ำในทะเลสาบถูกลมพัดไปจับตามต้นไม้และเกิดกาแข็งตัวเป็นรูปทรงต่างๆ

การเดินทาง: ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวเพียง 2 ชม.++ โดยสามารถใช้บริการได้ทั้งรถไฟ รถบัสด่วน หรือเช่ารถก็ได้ ซึ่งการเดินทางโดยรถไฟโดยใช้บริการรถ Ban-etsu West Line จากสถานี JR Niigata ไปยัง JR Aizuwakamatsu จากนั้นนั่งต่อไปยัง JR Inawashiro ใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2 ชม.45 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://bandaisan.or.jp/ib/en/

++++++++++

5. ปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Park / Hirosaki Castle), จังหวัดอะโอะโมริ

เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวดอกซากุระที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในสวนฮิโรซากิ (สวนโอโย) เดิมเคยเป็นปราสาท 5 ชั้น ที่งดงามโดดเด่นในหมู่ปราสาททางตอนเหนือที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ก่อนจะถูกสายฟ้าฟาดจนเกิดเพลิงไหม้และได้รับการปฏิสังขรณ์ในเวลาต่อมา

ปราสาทฮิโรซากิได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ด้วยสถาปัตยกรรมของตัวปราสาทและภูมิทัศน์ที่ถูกจัดแต่งอย่างงดงามในสวนขนาดใหญ่อันมีสะพานเกะโจสีแดงเป็นไฮไลท์สำคัญ สะท้อนเรื่องราวทางวัฒนธรรมในอดีตได้อย่างแจ่มชัดราวกับพึงเราย้อนไปในสมัยเอโดะเลยทีเดียว

ราวๆเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่นี่จะมี “เทศกาลซากุระฮิโรซากิ” เป็นเทศกาลชมดอกซากุระและดอกไม้อื่นๆที่แข่งกันผลิดอกออกใบงดงามไปทั่วทั้งสวน ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้ปีละหลายล้านคน (แต่ปีนี้ต้องยกเว้นนิดนึง)

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Hirosaki นั่งรถบัสไปลงที่ป้ายหน้าที่ว่าการอำเภอ จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.hirosakipark.jp/en/

++++++++++

6. ชายหาดโจโดะงาฮามะ (Jodogahama Beach), จังหวัดอิวาเตะ

มีอีกชื่อเรียกคือ “ชายหาดแห่งดินแดนบริสุทธิ์” เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องมัศนียภาพที่งดงามริมชายฝั่งริคุชุ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติซันริฟุคโค ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินสำคัญของญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องว่าเปรียบดั่งภาพฝันในแดนสุขาวด

ชายหาดโจโดะงาฮามะ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “100 ชายหาดที่เหมาะแก่การเล่นน้ำที่สุดในญี่ปุ่น” และ “100 Scent of Japan” ด้วยน้ำทะเลสีใสกับคลื่นลมที่เงียบสงบ ทำให้ชายหาดแห่งนี้เป็นที่นิยมเรื่องกิจกรรมทางน้ำ ทั้งการเล่นน้ำ ดำน้ำ ล่องเรือให้อาหารนกนางนวล หรือนั่งเรือทัวร์ไปยังเกาะในละแวกเพื่อถ่ายรูปสวยๆ ฯลฯ

การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR Morioka นั่งรถบัสด่วน สาย 106 (ปลายทาง Miyako/Yamada) ไปลงที่ป้าย Miyako ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://visitiwate.com/article/4697

++++++++++

7. ปล่องภูเขาไฟโอกามะ (Okama Crater), จังหวัดมิยางิ

ภูเขาซาโอะเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ปะทุ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดมิยางิและจังหวัดยามางาตะ มี “ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟโอกามะ” เป็นสัญลักษณ์อันมีชื่อเสียงของพื้นที่ไม่แพ้ “ปีศาจน้ำแข็งซาโอะ” เลยทีเดียว

ปล่องภูเขาไฟโอกามะ มีอีกชื่อเรียกว่า “โกชิกินุมะ” แปลว่า “บ่อห้าสี” เพราะสีของน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนสีตามแสงอาทิตย์ ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละจุดที่แสงตกกระทบ ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันงดงามที่รังสรรค์โดยธรรมชาติอย่างแท้จริง

แต่ถึงแม้จะมีสภาพธรรมชาติและภูมิประเทศที่งดงาม แต่ด้วยความที่น้ำเป็นกรดสูงทำให้ไม่มีสิ่งชีวิตอาศัยในน้ำทะเลสาบได้เลย

การเดินทาง: นั่งรถบัสประมาณ 90 นาที จากสถานี Shiroishi และ Shiroishi-Zao หรือนั่ง Shuttle Bus จากป้ายหน้า Kaminoyama Onzen ประมาณ 60 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://visitmiyagi.com/

++++++++++

8. ปีศาจน้ำแข็งที่ภูเขาซาโอะ (Snow Monsters in Zao), จังหวัดยามางาตะ

พูดถึง “ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟโอกามะ” ไปแล้ว จะขาด “ปีศาจน้ำแข็งซาโอะ” (Juhyo) ความงามทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน แถมอยู่ในละแวกเดียวกันอีกต่างหาก

“ปีศาจน้ำแข็งแห่งซาโอะ” หรือ “ป่าหิมะซาโอะ” นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ในระดับหาดูได้ยากอีกอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ผลงานของธรรมชาติอันเกิดจากหิมะน้ำแข็งปกลุมต้นไม้น้อยใหญ่บนภูเขาจนแข็งตัวเกิดเป็นรูปทรงคล้ายสัตว์ประหลาดตามแต่จะจินตนาการ ปรากฏให้เห็นชัดเจนที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในบริเวณสถานีจะมีจุดให้บริการกระเช้าไฟฟ้าสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเล่นสกีและที่ตั้งใจมาดูปรากฏการณ์ทางธรรมชาติโดยเฉพาะในตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟแสงสีเพิ่มความสวยงามอีกด้วย

การเดินทาง: จากโตเกียว นั่งรถไฟ JR Yamakata Shinkansen มาลงที่สถานี Yamakata จากนั้นนั่งรถบัสตรงมาที่ Zao Onzen ใช้เวลารวมประมาณ 3 ชม. 10 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://zaoropeway.co.jp/en/

++++++++++

9. โกดังเคียวโซโกะ (Sankyo Soko Storehouse), จังหวัดยามางาตะ

สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1893 ปละยังคงถูกใช้เป็นโกดังเก็บข้าวอยู่ในปัจจุบัน เป็นโกดังหลังคา 2 ชั้น เพื่อกันความร้อน และมีการปลูกต้นเซลโควาที่ด้านหลังเพื่อบังแดดและลมแรง แม้ในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาแต่ที่นี่ยังคงใช้ระบบเก็บรักษาข้าวแบบสมัยก่อนและได้ผลเป็นอย่างดี

ด้านหน้าของโกดังจะอยู่ติดท่าเทียบเรือริมแม่น้ำโมะกะมิ ช่วยให้สะดวกในการขนส่งทางน้ำ ภายในบริเวณจะเป็นโกดังไม้ย้อนยุคตั้งเรียงรายไปจนสุดทาง ใกล้ๆกันจะมีร้านขายของที่ระลึกและมุมกินดื่มสุรารสชาติดั้งเดิมคอยให้บริการ ให้บรรยากาศเรทโทรในยุคศตวรรษ 18-19 ได้อย่างแนบเนียน

การเดินทาง: นั่งรถ Run-Run Bus จากสถานีรถไฟ JR Sakata ลงที่ป้าย Sankyo Soko-mae ใช้เวลาประมาณ 8 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.tohokukanko.jp/en/attractions/detail_1332.html

++++++++++

10. หมู่บ้านโออิจิจุคุ (Ouchijuku Village), จังหวัดฟุคุชิมะ

สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เพื่อเป็นเมืองพักแรมของนักเดินทาง ได้รับเลิอกให้เป็นกลุ่มสถาปัตยกรรมพื้นบ้านสำคัญของญี่ปุ่น ด้วยบ้านเรือหลังคามุงจากตั้งเรียงรายตาม 2 ฟากฝั่งถนน บวกกับการจัดพื้นที่เพื่อแสดงให้เห็นการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้านสมัยโบราณ ทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าได้ย้อนกลับไปในยุคเอโดะจริงๆเลยทีเดียว

นอกจากนั้น ที่หมู่บ้านโออิจิจุคุ ยังมีศาลเจ้าทาคาคุระ ซึ่งเป็นศาลเจ้าประจำหมู่บ้านที่มีประตูโทริอิเป็นจุดผ่านทางเพื่อให้คุณเดินขึ้นบันได้ไปยังเนินเตี้ยๆเพื่อสักการะบูชาเพื่อเป็นมงคลกับชีวิต

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://ouchi-juku.com/detail/622/index.html

++++++++++

11. อ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay), จังหวัดมิยางิ

“มัตสึชิมะ” เป็นคำที่สื่อถึงความงามและความปรารถนา ดินแดนลึกลับที่กล่าวกันว่าดุจดั่งสรวงสวรรค์

แน่นอนว่าอ่าวมัตสึชิมะขึ้นชื่อในเรื่องของภูมิทัศน์อันมีมนต์ขลัง และเป็นหนึ่งในสามจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น ร่วมกับ “อามาโนะฮาชิดาเตะ” ของเกียวโต และ “มิยาจิมะ” ที่ฮิโรชิม่า โดยอ่าวมัตสึชิมะมีเกาะน้อยใหญ่กว่า 260 เกาะ มีไฮไลท์ที่เรียกว่า “สี่จุดชมวิว” จากภูเขาทั้ง 4 ลูก ได้แก่

  • วิวสง่างาม โอทากาโมริ
  • วิวสวยงาม โทมิยามะ
  • วิวน่าประทับใจ ทามนซัง
  • วิวน่าหลงใหล โอกิดานิ

ซึ่งจุดชมวิวแต่ละจุดล้วนมีสเน่ห์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา โดยเฉพาะยามอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า ภาพท้องน้ำระยิบระยับตัดกับแสงสีทองโดยมีหมอกยามเย็นปกคลุมตามเกาะน้อยใหญ่ ก่อนจะค่อยๆหลีกทางให้แสงจันทร์ส่องสว่างขึ้นมาแทนที่ เหล่านี้ล้วนสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่มาเที่ยวชมได้อย่างยิ่งยวด

การเดินทาง: นั่งรถไฟ Shinkansen จากสถานี Tokyo ไปลงที่สถานี Sendai

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.town.miyagi-matsushima.lg.jp/

++++++++++

12. หุบเขาเกอิบิเคอิ (Geibi Gorge), จังหวัดอิวาเตะ

หุบเขาเกอิบิเคอิ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดอิวาเตะ ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติ และเป็นหนึ่งในร้อยจุดที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น

การล่องเรือที่เกอิบิเคอิ เป็นเสน่ห์ที่มีมายาวนานนับร้อยปี โดยเป็นเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ให้บริการล่องเรือโดยใช้ไม้พายถ่อเรือแค่อันเดียวทั้งขาไปและขากลับ ซึ่งคนพายจะร้องเพลง “เกอิบิโอะอิวะเคะ” ขับขานคลอเคล้าไปกับเสียงเอื่อยๆของลำน้ำสะกดให้คุณต้องหลงใหล โดยคุณสามารถล่องเรือไปพร้อมกับน้องหมาน้องแมวได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีการเสิร์ฟอาหารจานพิเศษบนเรือให้คุณได้สัมผัสรสชาติแสนอร่อยระหว่างชื่นชมธรรมชาติจนอิ่มใจ

การเดินทาง: นั่งรถไฟ JR Ofunato มาลงที่สถานี Geibikei จากนั้นเดินต่อเพียง 5 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.geibikei.co.jp/th/

++++++++++ END ++++++++++

by PokSafin

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!