ประเทศญี่ปุ่นยังคงครองอันดับ 1 ประเทศที่คนไทยนิยมเที่ยวกันมากที่สุด ตั้งแต่ประเทศญี่ปุ่นประกาศฟรีวีซ่าให้พาสปอร์ตไทย ก็มีคนไทยมากกว่า 1 ล้านคนต่อปีเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นช่วง covid-19 ยังไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ แต่คนไทยนับล้านยังตั้งตารอเวลาที่จะได้กลับไปอีกในเร็วๆนี้ ผมเลยขอนำเสนอทางเลือกเที่ยวญี่ปุ่นอย่างไรให้ประหยัดที่สุด ไว้ให้ทุกคนได้แพลนเล่นๆล่วงหน้ากันได้เลย
บินถูก
สำหรับคนที่อยากจะประหยัดงบการเดินทางและเอาไปใช้ในการช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น แนะนำให้เลือกใช้เที่ยวบินของสายการบินประหยัด ในประเทศไทยก็จะมีสายการบิน Thai Airasia x และ Thai Lion Air ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองตรงไปประเทศญี่ปุ่น จากสนามบินสุวรรณภูมิก็จะมีสายการบินสัญชาติญี่ปุ่น Peach aviation และสายการบินน้องใหม่ Zip air ให้บริการบินตรงระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นเช่นกัน
การเลือกใช้สายการบินประหยัดจะช่วยให้คุณเซฟค่าเดินทางได้อย่างมากเลยทีเดียว ตั๋วเครื่องบินไปกลับต่ำสุดถึง 5,000 บาทเวลามีการจัดโปรโมชั่นพิเศษ รวมค่ากระเป๋าต่างๆแล้วก็ไม่เกิน 8,000 บาทเท่านั้น ซึ่งเราสามารถซื้อน้ำหนักกระเป๋าให้ถูกลงตอนขาไปและเพิ่มเอาตอนขากลับเผื่อของล้นหลังช้อปได้ ถ้าตั้งใจจะไปกินอย่างเดียวก็สามารถลดน้ำหนักกระเป๋าให้มีค่าใช้จ่ายลดลงไปอีกได้เช่นกัน เมื่อเทียบกับสายการบิน full service อย่างเช่น การบินไทย หรือ Japan airlines ที่ราคาตั๋วไปกลับมากกว่า 20,000 บาท จะเห็นได้ว่าเราสามารถประหยัดค่าเดินทางไปได้เยอะเลยทีเดียว
เที่ยวบินตรงกรุงเทพ – ญี่ปุ่น
สายการบินประหยัด | สายการบิน full service |
เริ่มต้นประมาณ 5,000 บาท | เริ่มต้นประมาณ 20,000 บาท |
การเลือกเวลาไฟลท์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เลือกเที่ยวบินที่ออกจากประเทศไทยในเวลากลางคืนและถึงที่ประเทศญี่ปุ่นในวันต่อไปตอนเช้าจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาไปได้อีกด้วย บนเครื่องเราก็นอนหลับสบายไม่ต้องนึกถึงสิ่งใดๆ ฉะนั้นเราสารามารถตัดความจำเป็นในการจ่ายค่าอาหารและค่า entertainment ถ้าใครไม่ต้องการตรงนี้ตอนกลางคืน ประหยัดไปได้อีกเยอะเลย
รูปภาพจาก https://www.friendtellpro.com/thai-airasia-x-direct-flight-from-bangkok-to-japan-oneway-2705-baht-22-apr-2019/
เดินทางถูก
การเดินทางในประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ถ้าเรารู้จักเลือกหนทางและการจัดตารางเวลา ทั้งการใช้รถไฟและรถบัส
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกใช้รถไฟเร็วจากสนามบินหรือ Airport Express ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงถึงหลัก 1,xxx ต่อเที่ยวต่อคน เราสามารถเปลี่ยนมาใช้รถบัส Airport Limousine ได้ ซึ่งรสบัสที่ประเทศญี่ปุ่น มีความสะดวกสะบายมากและตรงต่อเวลา อีกทั้ง ยังมีเส้นทางไปหลายแห่ง ไม่เฉพาะสถานนีใหญ่ๆแต่ไปส่งถึงใจกลางเมือง ใกล้โรงแรมต่างๆเลย ทำให้จริงๆแล้ว สะดวกต่อนักท่องเที่ยวกว่าการใช้รถไฟอีก ราคาก็ถูกกว่าการใช้รถไฟเยอะ อาจจะมีเรื่องเวลาการเดินทางที่รถไฟจะเร็วกว่า แต่ในอีกมุมมองหนึ่งที่ว่า เราสามารถชมวิวได้กว้างขวางกว่าบนรถบัสและไม่ต้องห่วงกับเรื่องการแปกกระเป๋าสัมภาระไปมาเลย
การเดินทางระหว่างสนามบินนาริตะเข้าตัวเมืองโตเกียว
รถไฟ Airport Express | รถบัส |
เริ่มต้นประมาณ 3,000 เยน | เริ่มต้นประมาณ 1,000 เยน |
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง | ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที |
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Limousine_Bus_955-31138M96_Super_Cabin.jpg
ส่วนการเดินทางในประเทศหลังจากเราได้ Check in ที่โรงแรมแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูล Promotion ล่าสุดของการเดินทางในแต่ละเมือง ส่วนใหญ่จะมีตั๋วพิเศษ 1 วันให้นั่งกี่รอบก็ได้ ไปไหนก็ได้ในเขตบริการของเส้นนั้นในราคาเหมาจ่าย ซึ่งจะคุ้มมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีโปรแกรมเดินทางเยอะในแต่ละวัน
ราคาตั๋วนี้อยู่ที่ประมาณ 600-800 เยนแล้วแต่จังหวัด สามารถใช้ขึ้นรถไฟในเครือข่ายของบริษัทนั้นๆได้ไม่อั้นในราคาเดียวซึ่งจะคุ้มมากถ้ามีการเดินทางไปมากกว่า 3 สถานีในวันเดียว โดยปกติค่ารถไฟใต้ดินในประเทศญี่ปุ่นขั้นต่ำจะอยู่ที่ประมาณ 200 กว่าเยนต่อ 1 เที่ยว ถ้ารวมๆแล้วใช้รถไฟไปไหนมาไหนมากกว่า 3 เที่ยวต่อวัน ก็แนะนำให้ซื้อตั๋วแบบบุฟเฟ่ต์หนึ่งวันนี้ไปใช้ได้เลย หาซื้อได้ง่ายที่เคาน์เตอร์ขายตั๋วในสถานีใหญ่ๆในแต่ละเมืองครับ
ตัวอย่างราคาตั๋วรถไฟใต้ดินแบบบุฟเฟ่ต์ 1 วัน
นาโกย่า ตั๋วรถไฟใต้ดินบุฟเฟ่ต์ 1 วัน เฉพาะเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด | ผู้ใหญ่ 620 เยน เด็ก 310 เยน | |
โอซาก้า ตั๋วรถไฟใต้ดินบุฟเฟ่ต์ 1 วัน | ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 300 เยน | |
เกียวโต ตั๋วรถไฟใต้ดินบุฟเฟ่ต์ 1 วัน | ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 300 เยน | |
ฟุคุโอกะ ตั๋วรถไฟใต้ดินบุฟเฟ่ต์ 1 วัน | ผู้ใหญ่ 640 เยน เด็ก 320 เยน |
รูปภาพจาก: https://www.igami.co.jp/sale/railways/nagoyashiei/名古屋市交通局%E3%80%80ドニチエコきっぷ%E3%80%80大人
https://subway.osakametro.co.jp/guide/libray/20191001_unchin/jyoushaken_20191001_l.jpg
https://www.city.kyoto.lg.jp/kotsu/page/0000028376.html
https://subway.city.fukuoka.lg.jp/fare/card/oneday.php
การเดินทางข้ามจังหวัดสามารถใช้บริการได้ 2 วิธีหลักคือ รถไฟฟ้าชิงคันเซนและการใช้รถบัส แน่นอนรถไฟด่วนจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มากกว่า ในทางกลับกันก็จะมีราคาที่สูงในหลัก 10,xxx เยนต่อเที่ยวเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีโปรแกรมที่จะตระเวนทั่วภูมิภาค แนะนำให้จัดตารางเวลาในการใช้รถบัสครับ ซึ่งมีทั้งรถแบบธรรมดาและรถแบบนอนมีทีวีดู รสบัสมีบริการทุกแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นและหลายบริษัทให้เลือก ถ้าอยากจะประหยัดที่สุด แนะนำให้เลือกใช้บริการรสบัสนอนกลางคืน ซึ่งจริงๆแล้วดีมาก มีเบาะที่กว้างและนั่งสบาย บางบริษัทก็มีทีวีให้ดูที่เบาะที่นั่งเหมือนเครื่องบิน ถึงแม้จะใช้เวลานานเล็กน้อย แต่เราก็ออกกลางคืนและถึงเช้าได้ หลับสะบายระหว่างทาง บริษัทรถบัสที่ดังๆก็จะมี willer Express ซึ่งมีรถบัสหลายรูปแบบให้ความสะดวกสบายมากกว่ารถบัสที่เรารู้จักกันเวลานั่งข้ามเมืองในประเทศไทย
การเดินทางระหว่างโตเกียวและโอซาก้า
รถไฟด่วนชินคันเซ็น | รถบัส |
เริ่มต้นประมาณ 15,000 เยน | เริ่มต้นประมาณ 3,900 เยน |
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง | ใช้เวลาประมาณ 9 ชั่วโมง |
รูปภาพจาก https://travel.willer.co.jp/willer-colle/952/
อีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางข้ามจังหวัดคือ การบินกับสายการบินประหยัดในประเทศ เหมือนกับประเทศไทย ที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีสายการบินราคาประหยัดแต่มีมากหลายสายให้เลือกกว่าประเทศไทย เราสามารถจองล่วงหน้าเพื่อให้ได้ราคาที่ประหยัดที่สุด มีการให้บริการบินสู่หลายเมืองหลักและเมืองย่อย บางทีได้ราคาถูกกว่านั่งรถไฟด่วนและประหยัดเวลากว่าอีกนะครับ
การเดินทางระหว่างโตเกียวและโกเบ
รถไฟด่วนชินคันเซ็น | สายการบินประหยัด |
เริ่มต้นประมาณ 16,000 เยน | เริ่มต้นประมาณ 8,000 เยน |
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที | ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที |
♥ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินราคาประหยัดในประเทศญี่ปุ่นได้ที่
ส่วนใครที่มีแพลนจะเดินทางข้ามหลายจังหวัดตั้งแต่เหนือจดใต้ สิ่งที่ควรจะมีไว้คือ JR Pass หรือตั๋วขึ้นรถไฟด่วนชินคันเซ็นแบบไม่อั้นในจำนวนวันที่กำหนด ซึ่งตัวนี้สามารถหาซื้อได้ตาม Agent ขายตั๋วในประเทศไทยหรือบริษัททัวร์ต่างๆ เป็นตั๋วที่ให้คุณได้ขึ้นรถไฟหัวจรวดชินคันเซ็นของบริษัท JR รวมถึงรถไฟอื่นๆที่เป็นของ JR ทั่วประเทศญี่ปุ่นแบบไม่อั้น จะคุมมากถ้ามีแพลนเที่ยวไปหลายๆที่ในประเทศในระยะทางไกล ส่วนใครที่จะขึ้นรถไฟชินคันเซ็นแบบเป็นบางครั้งก็สามารถหาซื้อตั๋วที่ถูกได้จากร้านโชห่วยหรือที่เรียกว่า kingen shop ตามเมืองใหญ่ๆได้ ที่นี่จะได้ราคาตั๋วรถไฟชินคันเซ็นในราคาที่ถูกกว่าซื้อหน้าเคาน์เตอร์ที่สถานีรถไฟครับ สังเกตง่ายๆจากป้ายแสดงราคาต่างๆทั่วหน้าร้าน นั่นแหละคือ kingen shop ครับ
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Emergency_pricedown_at_new-coronavirus.jpg
นอนถูก
โรงแรมเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่สามรถลดค่าใช้จ่ายได้เยอะครับ โดยทั่วไปมาตราฐานของโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นนั้นสะอาดและมีการให้บริการดีมาก แม้แต่ Hostel และ guest house ครับ ถ้าเราเป็นนักท่องเที่ยวที่เน้นการเดินทางมากกว่าความหรูของที่พัก เราสามารถเลือกใช้บริการของที่พักประเภท Capsule hotel ในประเทศญี่ปุ่นได้ มีหลายที่ในเมืองใหญ่และเมืองเล็ก ซึ่งจริงๆแล้วสะดวกสบายกว่าที่หลายคนคิด หลายที่ให้ความเป็นส่วนตัวและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ช่องชาร์ต USB และช่องเก็บของภายในห้อง บางที่ก็มีทีวีมอนิเตอร์เล็กๆให้ด้วย เรื่องราคาก็ได้ถูกกว่าเมื่อเทียบกับโรงแรมปกติ เพราะโรงแรมที่ประเทศญี่ปุ่นจะคิดเป็นรายหัว ไม่ใช่เป็นรายห้อง เวลาจองทางเว็บไซต์ต้องตรวจสอบให้ดีๆว่าราคาที่ขึ้นนั้นมีเงื่อนไขอย่างไร ทำให้โดยรวมแล้วการพักประเภท Capsule hotel สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะเลย
เปรียบเทียบราคาโรงแรม
Capsule hotel | โรงแรมแบบอื่นๆ |
เริ่มต้นประมาณ 1,000 เยนต่อ 1 คืน/คน | เริ่มต้นประมาณ 4,000 เยนต่อ 1 คืน/คน |
รูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:有料放送はしておりません。_(4060807452).jpg
รูปภาพจาก https://pixabay.com/ja/photos/カプセルホテル-リュブリャナ-4375780/
Guest house หรือ AirBnb เป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ เราสามารถเลือกประเภทห้องให้เป็นส่วนตัวได้ บางที่มีห้องน้ำในตัวด้วย สะดวกสะบายในราคาที่ประหยัด ส่วน AirBnb ในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะให้ทั้ง Unit เหมาะแก่นักท่องเที่ยว 2-3 คนในการแชร์ร่วมกัน มีระบบ security อย่างดีและที่แน่นอน คือเราสามารถทำอาหารเองได้ในห้อง เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านอาหารที่ไม่จำเป็นได้ด้วยครับ
นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะนอนโรงแรม ก็สารมาถเลือกโรงแรมประเภท Business Hotel ได้ ซึ่งจะเป็นโรงแรมที่มีห้องขนาดเล็กและมีบริการน้อย พูดง่ายๆคือให้แค่ห้องและที่นอนแบบ Basic ครับ นักธุรกิจญี่ปุ่นนิยมใช้โรงแรมประเภทนี้เวลาต้องเดินทางมาทำงานต่างจังหวัด แบบต้องการแค่นอนพักก่อนออกไปทำงานต่อไปในวันรุ่งขึ้นเท่านั้น ราคาก็จะประหยัดได้มากกว่าโรงแรมแบบที่มีบริการครบทั่วไปเยอะ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
รูปภาพจาก http://www.ace-inn.net/rooms/single.php
เที่ยวถูก
แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นก็จะมีค่าใช้จ่ายค่าเข้า ไม่ว่าจะเป็นการเข้าปราสาทต่างๆหรือสวนสนุกยอดนิยมทั้งดิสนีย์แลนด์และ Universal Studio Osaka เคล็ดลับในการหาซื้อตั๋วเข้าสถานที่เหล่านี้คือ การไปซื้อจากร้านโชว์ห่วยเช่นกันตามเมืองใหญ่ต่างๆ ที่ร้านเหล่านี้จะมีตั๋วพิเศษซึ่งให้ราคาถูกกว่าการไปซื้อตั๋วที่หน้าเคาน์เตอร์ และเราก็ไม่ต้องต่อแถวรอซื้อตั๋วให้เสียเวลาความสนุกอีกด้วย สามารถหาซื้อตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆได้หลายแห่ง โดยเฉพาะสวนสนุก จะมีครบทุกแห่งดังๆในญี่ปุ่นเลย ข้อควรระวังของการซื้อตั๋วที่ร้านโชห่วยประเภทนี้คือ ต้องตรวจสอบวันที่ที่เราสามารถใช้ตัวนี้ได้นะครับ เพราะตัวบางประเภทจะไม่สามารถใช้ในวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดราชการได้
ราคาตั๋วเข้า Universal Studio Osaka
ราคาปกติที่หน้า Park | kingen shop |
7,800 เยน | เริ่มต้นประมาณ 7,000 เยน |
กินถูก
ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านอาหารหลายแห่งที่ถูกแต่อร่อยมาก ให้เราได้อิ่มอย่างเต็มที่ แต่ยังมีตังค์อยู่ครบ พร้อมที่จะช้อปปิ้งต่อไป ตัวอย่างเช่น ร้านซูชิ 100 เยน ซึ่ง 1 จานมีซูชิให้ 2 ชิ้นในราคา 100 เยนบวกภาษี มีเมนูซูชิให้เลือกมากมายและปลาที่ใช้ก็สดและอร่อย หรือใครที่ชอบทานเนื้อและอยากจะจัดเต็มใน 1 จาน ก็สามารถเลือกร้านข้าวหน้าเนื้อหรือ Kyudon ไม่ว่าจะเป็น Sukiya หรือ Yoshinoya ก็มีเมนูในราคาที่ถูกเริ่มต้นที่ 400 เยนเท่านั้น Hanamaru Udon ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยราคาถูกหลัก 100 กว่าเยนเท่านั้น
♥ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับร้านซูชิ 100 เยนได้ที่
อาหารกล่องหรือ Obento ตามร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่นหรือแฟมิลี่มาร์ท ก็มีเมนูหลากหลายที่อร่อยไม่แพ้กัน เริ่มต้นที่ 400 เยนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวไก่คาราเกะ ราเมงร้อนและเย็นต่างๆ รวมถึงซูชิก็มีให้เลือกในราคาที่ถูกเช่นกัน นักท่องเที่ยวที่พักตาม Guesthouse หรือ Airbnb ที่สามารถทำอาหารเองได้ ก็แนะนำให้ซื้อวัตถุดิบต่างๆจากร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ที่พัก มาทำอาหารเองในห้องให้ได้รสชาติตามที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากจะทานอุด้งก็สามารถหาซื้อเส้นอุด้งได้จากร้านสะดวกซื้อ ราคาประมาณ 300 เยนให้มาประมาณ 3 แพ็คเลยทีเดียว ผักและเนื้อต่างๆราคาก็แพ็คละ 100 กว่าเย็นเท่านั้น สามารถทำได้ 2-3 จานในราคาเพียงแค่ 500 เยน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อกินให้อิ่มและประหยัดตังค์เอาไว้ใช้กับสิ่งอื่นๆ
ช้อปถูก
การซื้อของเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรจะรู้เคล็ดลับเพื่อให้ได้สินค้าที่ต้องการในราคาที่ถูกและคุ้มค่าที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดเวลาไปซื้อของที่ประเทศญี่ปุ่นคือเราต้องพกพาสปอร์ตของเราไว้ตลอด เพราะที่ญี่ปุ่นให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกับการช้อปปิ้งโดยไม่ต้องเสียภาษี 10% ถ้าเรามีพาสปอร์ตแสดงให้ทางร้านเห็นเพื่อทำการลดภาษีได้เลย มีข้อแม้ว่าต้องซื้อสินค้ามากกว่า 5,000 บาทขึ้นไปโดยรวม ร้านค้าหลายแห่งก็มีการจัดแคมเปญ ลดแลกแจกแถมกันอยู่ตลอดปีโดยเฉพาะตามร้าน Outlet ใหญ่ๆ นอกจากเราจะไม่ต้องเสียภาษีแล้วเรายังได้สินค้าในราคาที่ถูกอีก เป็นการลดแล้วลดอีก พิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเลย
♥ สนใจแหล่งช้อปเพิ่มเติมได้ที่
ใครที่มีบัตรเครดิต Visa, mastercard หรือ JCB ก็อาจจะได้สิทธิ์พิเศษในส่วนลดของสินค้าเมื่อชำระด้วยบัตรเครดิตเหล่านี้ สามารถสังเกตและสอบถามได้จากทางร้านค้าชั้นนำต่างๆในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ก็จะมีคูปองส่วนลดซึ่งสามารถรับได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ในร้านห้างสรรพสินค้าหรือ Outlet นั้นๆ เป็นการเพิ่มส่วนลดไปอีก แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับกฎและเงื่อนไขของสินค้าที่จัดรายการ
ประเทศญี่ปุ่นจะมีการจัด Sale ครั้งใหญ่ประมาณ 3 ครั้งต่อปีคือในช่วง Golden Week ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม Summer sale ช่วงเดือนสิงหาคม และ New Year sale ในช่วงสิ้นปี ยิ่งกว่านั้น ในวันแรกของปีที่ 1 มกราคม ร้านค้าจะจัดเซลล์ครั้งใหญ่ รวมถึงกระเป๋าถุงโชคดีหรือที่รู้จักกันว่า Lucky bag โดยถุงนี้จะมีสินค้ารวมอยู่ภายในถุงโดยที่เราไม่สามารถเปิดดูได้และจะขายในราคาเดียวเท่านั้น ถ้าโชคดีคุณก็จะได้สินค้าอย่างดี ในราคาที่สูงกว่าราคาปกติ เป็นที่นิยมแก่คนญี่ปุ่นทุกคนที่จะมาต่อแถวรอซื้อถุงโชคดีนี้ก่อนร้านเปิดกันเลยเพราะแต่ละร้านมีขายจำนวนจำกัด โดยเฉพาะแบรนด์เสื้อผ้าดังๆไม่ว่าจะเป็น Uniqlo, Polo ralph Lauren และอื่นๆ
รูปภาพจาก https://roppongi-minato.tokyo.jp/blog/2019/09/08/uniqlo/
♥ ช้อปให้เก่งขึ้นด้วยสำนวนภาษาญี่ปุ่นง่ายๆได้ที่
เที่ยวประเทศญี่ปุ่นจริงๆแล้วไม่ได้แพงอย่างที่คิด เราสามารถจัดโปรแกรมการเดินทางในราคาประหยัดได้ ใครที่อยากจะใช้เงินในการช้อปปิ้งให้มากที่สุด ก็สามารถประหยัดจากค่าเดินทางค่ารถไฟ ค่าโรงแรมและค่าอาหารได้ โดยยังคงคุณภาพการท่องเที่ยวที่ดีของญี่ปุ่นได้อยู่ มีหลายทางเลือกที่ให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกับการใช้จ่ายและชิมอาหารต่างๆทั่วประเทศอย่างคุ้มค่าในราคาที่ประหยัด เพราะประเทศญี่ปุ่นยังอยากที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาอีกมาก ยังมีแคมเปญส่วนลดต่างๆอีกมากมายที่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวต่างๆทั่วประเทศญี่ปุ่นนำเสนอให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นพิเศษครับ