ประเทศญี่ปุ่นเปิดรับชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในตำแหน่งต่างๆมากขึ้นและหลายบริษัทเองก็เริ่มมีนโยบายการใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนาในบริษัท เป็นการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในบริษัทในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น
ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นและอยากจะหาประสบการณ์ในการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น? หรือถ้าคุณมีความสนใจในวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น อยากที่จะเรียนรู้ภาษาและหาประสบการณ์ในการทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นในอนาคต ? บทความนี้จะช่วยให้คุณมีไอเดียมากขึ้นว่าการหางานในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นอย่างไร และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
ความสามารถทางภาษา
ก่อนอื่นแน่นอน เรื่องภาษามาก่อนถ้าคิดจะมาทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น บริษัทส่วนใหญ่จะรับผู้ที่มีความรู้ภาษาญี่ปุ่นระดับ N2-1 เข้าทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทตัวอย่างเช่น Rakuten ได้เริ่มใช้นโยบาย “ภาษาอังกฤษในบริษัท” ทำให้ชาวต่างชาติที่มีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นน้อยได้มีโอกาสทำงานในบริษัทใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นได้
อุตสาหกรรมไอทีหลายที่ก็ไม่ได้ระบุว่าต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในการเข้าทำงาน ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้คนที่มีประสบการณ์ด้านไอทีก็จะมีโอกาสได้รับงานจากบริษัทญี่ปุ่นในตำแหน่งต่างๆโดยใช้ภาษาอังกฤษในการทํางานและถ้าโชคดีทางบริษัทก็จะให้เรียนภาษาญี่ปุ่นฟรีด้วยต่างหาก
แน่นอนในเรื่องของภาษาอังกฤษนั้น ประเทศญี่ปุ่นใช้ผลสอบ Toeic เป็นการวัดระดับในการคัดเลือกเข้าทำงานซึ่งบริษัทชั้นนำต่างๆกำหนดคะแนนไว้กว่า 700 ขึ้นไปเป็นหนึ่งในคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครเข้าทำงาน
การหางานพิเศษ
Website
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มหางานพิเศษหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Arubaito นั่นคือจากเว็บไซต์หางานพิเศษต่างๆตัวอย่างเช่น Townwork หรือ MyNavibaito ทั้ง 2 เว็บไซต์นี้มีตัวเลือกงานพิเศษต่างๆมากมายในแต่ละเขตพื้นที่ เราสามารถกำหนดจังหวัดและเขตพื้นที่ที่เราอยากจะทำงานได้ด้วย
ในเว็บไซต์ ก็มีข้อจำกัดหลายอย่างที่เราสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นรายได้ต่อชั่วโมง ประสบการณ์การทํางาน ประเภทงานต่างๆเป็นต้น การลงทะเบียนก็ไม่ยากและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆในการใช้บริการของเว็บไซต์เหล่านี้
เราสามารถกรอกข้อมูลต่างๆลงในเว็บไซต์เพื่อสร้างเป็นใบประวัติได้เลยและเมื่อเราคลิกสมัครงานกับบริษัทใดๆ ข้อมูลต่างๆก็จะส่งให้กับนายจ้างโดยตรงเลยเพื่อเป็นการพิจารณาเข้ามาสัมภาษณ์ในขั้นต่อไป บริษัทใหญ่ๆก็จะใช้บริการของเว็บไซต์เหล่านี้ในการหาพนักงานมาทำงาน
การทำ Arubaito หรืองานพิเศษนั้นเป็นที่นิยมสำหรับนักเรียนญี่ปุ่นและนักเรียนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่นทุกคน เนื่องจากมีรายได้ต่อชั่วโมงสูงสุดถึง 1,500 เยน และเป็นงานที่ง่ายไม่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้มากก็สามารถเริ่มต้นทำงานได้เลย งานที่ร้านอาหารก็ให้ค่าชั่วโมงสูงถึง 1,000 เยน
รูปภาพจาก https://townwork.net/tokyo/
รูปภาพจาก https://baito.mynavi.jp/
Walk in
ร้านสะดวกซื้อหรือร้านอาหารต่างๆมักจะแปะป้ายรับประกาศสมัครพนักงาน Arubaito อยู่ตลอดเวลา เราสามารถเห็นได้ตามหน้าร้านทุกแห่งพร้อมกับรายได้ต่อชั่วโมงที่จะได้รับ วิธีสมัครก็ง่ายๆคือแค่กรอกใบประวัติหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Rirekisho (履歴書) ซึ่งหาซื้อแบบสำเร็จรูปได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป หลังจากนั้นก็แค่ไปหาถ่ายรูปตามตู้ที่สถานีรถไฟต่างๆเพื่อนำมาติดบนใบสมัคร
จากนั้นก็ติดต่อกับทางที่ร้านนั้นโดยแค่เดินเข้าไปได้เลย ทางร้านก็จะติดต่อเพื่อให้กลับมาสัมภาษณ์ในวันถัดไป หรือถ้าโชคดีผู้จัดการร้านอยู่เวลานั้น เราก็จะได้รับการสัมภาษณ์เลยทันที
วิธีนี้เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการหางานในร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อหรือคาเฟ่ต่างๆ แม้แต่ Starbucks เราก็สามารถเดินเข้าไปสมัครได้เลยถ้าทางร้านมีประกาศรับสมัครพนักงาน
รูปภาพจาก https://ginoza24lawson.ti-da.net/e4126482.html
รูปภาพจาก https://job-list.net/jobs/319370
การหางานประจำ
รูปภาพจาก https://limo.media/articles/-/5595
การหางานประจำในประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่ว่าจะเปิดอยู่ตลอดเวลาทั้งปี นักศึกษาจบใหม่จะเริ่มหางานกันในช่วงปี 3 ของการศึกษาในมหาวิทยาลัยในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นเดือนที่ทางเว็บไซต์หางานจะเปิดให้ทุกคนลงทะเบียน แต่การคัดเลือกและการสัมภาษณ์จะเริ่มที่เดือนมิถุนายนในปีนั้นซึ่งจะใช้เวลาในการหางานทั้งหมดเกือบปี โดยมีขึ้นตอนคร่าวๆดังนี้
MyNavi & Riku Navi
ก่อนอื่นเลยการหางานที่ประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มที่การลงทะเบียนข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองรวมถึงประวัติการทำงานและการศึกษาลงในเว็บไซต์หางานของประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทส่วนใหญ่จะใช้เว็บไซต์ MyNavi และ Riku Navi เป็นหลัก ทั้งสองเว็บไซต์นี้จะจัดทำหน้าเวปสำหรับนักศึกษาจบใหม่ในแต่ละปีโดยเฉพาะเลย (ตัวอย่างตามรูปด้านล่าง)
ซึ่งในเว็บไซต์ทั้งสองนี้ก็จะมีประกาศการรับสมัครของบริษัทต่างๆโดยให้เราเข้าไปคลิกดูข้อมูลและกดลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป เราสามารถกดลงทะเบียนกี่บริษัทก็ได้ตามความสนใจของเรา ช่วงฤดูหางานคนญี่ปุ่นหลายคนก็กดลงทะเบียนเป็น 100 บริษัทเลย!
เว็บไซต์เราสามารถใส่ filter เพื่อคัดกรองบริษัทในความสนใจของเรา เงินเดือนที่อยากได้ สถานที่ทำงานหรือแม้แต่ บริษัทที่มีพนักงานต่างชาติทำอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จะไม่มีการคัดเลือกใดๆเป็นแค่การลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลในการคัดเลือกผู้สมัครขั้นตอนต่อไป
รูปภาพจาก https://job.mynavi.jp/21/pc/corpinfo/displayCorpSearch/index?tab=corp
รูปภาพจาก https://job.rikunabi.com/2021/?vos=r21prO054
การไปงานสัมนา
รูปภาพจาก https://www.flickr.com/photos/keiwacollege/27411523065/
ต่อมาบริษัทก็จะส่งลิงค์ให้ผู้สมัครเข้าไปเลือกวันและเวลาของงานสัมมนาที่ทางบริษัทได้จัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลในการสมัครงานเข้าบริษัทและขั้นตอนการคัดเลือกต่างๆ ที่งานสัมนานี้เราจะได้รู้ถึงประวัติและลักษณะธุรกิจของบริษัทได้มากขึ้น หลายบริษัทจะเชิญพนักงานมาพูดแชร์ประสบการณ์การทำงานกับบริษัทนั้นๆและรับตอบคำถามจากผู้สมัครทุกคน ทำให้ผู้สมัครได้เข้าใจถึงบริษัทได้มากขึ้น
แน่นอน ผู้สมัครต้องไปร่วมงานสัมมนาเพื่อแสดงความสนใจในการเข้าทำงานของบริษัทนั้น รวมถึงรวบรวมข้อมูลต่างๆในการตัดสินใจในภายหลังว่าจะเข้าสู้ขึ้นตอนต่อไปหรือไม่
งานสัมนาอาจมีจัดขึ้นตามสถานศึกษา มหาวิทยาลัยก็ได้หรือบางที่จะจัดตามโรงแรมหรือศูนย์ประชุมต่างๆ ทุกๆปีคนญี่ปุ่นเองก็จะไปเข้าร่วมให้มากที่สุดเพื่อหาบริษัทที่เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมองหา ทางเวปไซต์หางานต่างๆก็มีการจัดงานสัมนากลุ่มซึ่งจะรวบรวมบริษัทชั้นนำทั่วประเทศมานำเสนอกันทีเดียว แนะนำให้ไปงานประเภทนี้จะได้มีโอกาสเรียนรู้หลายบริษัทในวันเดียว
การสอบข้อเขียน
รูปภาพจาก https://gakumado.mynavi.jp/style/articles/26168
การคัดเลือกรอบแรกคือการสอบข้อเขียนซึ่งแต่บริษัทก็จะมีนโยบายที่แตกต่างกันไป หลายบริษัทจะใช้ผลคะแนนสอบ SPI หรือการสอบวัดความสามารถและทักษะในการคิด คำนวณ วิเคราะห์และทักษะทางภาษาทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษซึ่งมีการจัดสอบทุกที่เป็นศูนย์กลางสอบ ส่วนตัวแล้ว SPI นั้นยากครับ คนญี่ปุ่นเองยังต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวเลย เราสามารถหาหนังสือติวสอบนี้ได้ตามร้านหนังสือทั่วไปในประเทศญี่ปุ่นเพื่อเตรียมตัว
แต่อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทก็จะใช้ข้อสอบของตัวเองโดยเชิญผู้สมัครมานั่งสอบที่บริษัทเลยซึ่งเนื้อหาก็แตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัท ส่วนผลการสอบข้อเขียนจะประกาศโดยประมาณ 2-3 อาทิตย์หลังจากการทำข้อสอบ
การสัมภาษณ์ครั้งที่ 1
เมื่อผ่านด่านแรกแล้วบริษัทก็จะเชิญผู้สมัครเข้ามาทำการสัมภาษณ์ครั้งแรก รวมถึงส่งเอกสารต่างๆที่บริษัทต้องการในการพิจรณา การสัมภาษณ์ครั้งที่ 1 นั้นจะเป็นการสัมภาษณ์ร่วมกับผู้สมัครคนอื่นๆเป็นกลุ่ม โดยเป็นการจัดกิจกรรมให้ผู้สมัครได้ทำ discussions และการนำเสนองาน Presentation ในหัวข้อต่างๆที่กำหนด ทางบริษัทจะดูการให้ความคิดเห็น การพูดคุยและการร่วมงานกับผู้อื่นในขึ้นตอนนี้
รูปภาพจาก https://nazotoki-concierge.com/column/know-how/202007022171/
การสัมภาษณ์ครั้งที่ 2
ด่านต่อมาก็ยังสัมภาษณ์กลุ่มอยู่ ด้านนี้บริษัทส่วนใหญ่จะให้ผู้สมัครนั่งเรียงกันประมาณ 4-5 คน โดยผู้สัมภาษณ์จะถามคำถามแต่ละคนและให้ผู้สมัครตอบคำถามต่อหน้าผู้สมัครคนอื่นๆทุกคน คำถามส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะทดลองความคิดว่าถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร รวมถึงถามประสบการณ์ต่างๆและทัศนคติของผู้สมัคร
รูปภาพจาก https://intame.jp/group-interview/
การสัมภาษณ์ครั้งที่ 3
การสัมภาษณ์รอบสุดท้ายหรือที่เราเรียกว่า Final interview เป็นการสัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับผู้บริหารของบริษัทซึ่งจะมีทั้งคำถามส่วนตัวและคำถามที่ละเอียดว่าอยากจะทำอะไรที่บริษัทนี้และผู้สมัครมีความสนใจและความสามารถมากน้อยแค่ไหน รวมถึงทัศนคติในการทำงานในอนาคตกับบริษัทด้วย เป็นการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายเพื่อพิจารณาว่าผู้สมัครนั้นเหมาะสมกับสิ่งที่บริษัทนั้นต้องการหาอยู่หรือเปล่า
รูปภาพจาก https://my.wantedly.com/companies/capa-inc/post_articles/102392
Offer
เมื่อเราผ่านทุกขั้นตอนแล้วบริษัทก็จะส่งใบ offer ให้ผู้สมัครได้ตัดสินใจว่าจะร่วมเข้าทำงานกับบริษัทหรือไม่ โดยส่วนใหญ่จะให้เวลาแก่ผู้สมัครในการพิจรณาตัดสินใจประมาณ 1-2 อาทิตย์เท่านั้น ถ้าเป็นบริษัทที่เราอยากจะทำมากที่สุด ก็สามารถเซ็นสัญญาและส่งใบตอบรับกลับได้เลย แต่ถ้ายังมีการสัมภาษณ์กับบริษัทอื่นๆอยู่ก็สามารถรอตอบกลับทีหลังได้โดยไม่ต้องรีบ
พิธีรับพนักงานใหม่
เมื่อเราได้เซ็นสัญญาตอบกลับเรียบร้อยแล้วถือว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมของบริษัทนั้นทันที ทุกวันที่ 1 ของเดือนตุลาของทุกปีบริษัทจะจัดพิธีต้อนรับพนักงานใหม่หรือที่เราเรียกว่า 内定式 (Naiteishiki) คือเป็นการต้อนรับพนักงานที่ผ่านการพิจรณาใหม่ทุกคนให้มาเจอกันและร่วมสังสรรค์กับพนักงานรุ่นพี่และผู้คนในบริษัทต่างๆเพื่อเป็นการทำความรู้จักกันเบื้องต้นและแนะนำพนักงานใหม่ให้กับพนักงานรุ่นพี่ทุกคนรู้จักกันที่งานนี้ งานนี้เหมือนเป็นการจองตัวก่อนรับเข้าทำงานจริง หากเกิดกรณีใดๆที่ทางบริษัทพบว่าผู้สมัครไม่เหมาะสมกับการเป็นพนักงานของที่นั้น บริษัทนั้นๆสามารถถอนการจ้างงานได้ทันทีก่อนรับเข้าทำงาน
พิธีรับเข้าทำงานจริง
ทุกวันที่ 1 ของเดือนเมษายนบริษัททุกแห่งก็จะจัดพิธีรับพนักงานใหม่เข้าทำงานอย่างเป็นทางการซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของนักเรียนทุกคนที่จบใหม่ในการเริ่มทำงานในครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น
การหางานและการสมัครงานในญี่ปุ่นอาจจะฟังดูเหมือนเป็นอะไรที่ยาก แต่จริงๆแล้วก็ไม่ยากเกินไปสำหรับผู้คนที่มีความสามารถ สิ่งที่ควรระวังก็คือขั้นตอนในแต่ละขั้นของการสมัครและการสัมภาษณ์ คำแนะนำคือ
- ลงทะเบียนไปเยอะๆ
- เข้าร่วมงานสัมนากลุ่ม
- ไปสัมภาษณ์หลายๆที่เพื่อฝึกให้ตัวเองมีความมั่นใจ
- แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อน
- แต่งกายให้สุภาพและตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินเข้าตึกบริษัท
การหางานของนักศึกษาจบใหม่จะไม่สามารถกำหนดตำแหน่งและประเภทงานที่อยากจะทำได้เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นจะเปิดรับเป็นตำแหน่งทั่วไปและจะตัดสินให้ว่าเราจะได้ทำงานในตำแหน่งและบทบาทไหนหลังจากจบการ Training แล้ว เราสามารถคุยกับทางบริษัทว่าเราอยากจะทำในบทบาทไหนแต่ก็ไม่มีสัญญาใดๆผูกมัดว่าเราจะได้ทำในตำแหน่งที่อยากจะทำ ไม่เหมือนที่ไทยที่ว่าเราจะสมัครงานกับตำแหน่ง อย่างเช่นพนักงานบัญชี พนักงานฝ่ายบุคคลเป็นต้น ที่ประเทศญี่ปุ่นพนักงานใหม่ทุกคนจะได้ชื่อตำแหน่งว่า General position หรือ 総合職 (Sougoushoku) ในตอนแรก
สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานแล้วก็จะใช้ขั้นตอนแบบเดียวกันตั้งแต่การลงทะเบียนบนเว็บไซต์หางานจนถึงการได้รับใบ offer การรับเข้าทำงาน ต่างกันที่ว่าเว็บไซต์สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานแล้วจะต่างกับเว็บไซต์ของนักศึกษาจบใหม่ ส่วนการสัมภาษณ์นั้นก็เหมือนเดิม แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายๆกับการหางานที่ประเทศไทยที่ว่าสมัครกับตำแหน่งที่เราอยากจะทำและสามารถต่อรองเจรจาเรื่องเงินเดือนกับทางบริษัทได้สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์แล้วเท่านั้น นักเรียนจบใหม่ไม่สามารถต่อรองได้
รูปภาพจาก https://tenshoku.mynavi.jp/
ผมก็ขอให้ทุกท่านโชคดีกับการหางานที่ประเทศญี่ปุ่นนะครับ