ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

10 เมืองเก่าน่าเที่ยวในญี่ปุ่น ดื่มด่ำความคลาสสิคชวนหลงใหล

0. Ancient Cover-843a6f13

ญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่เก่าแก่ อ้างอิงจากหลักฐานทางโบราณคดี พบว่าได้มีผู้คนเข้ามาตั้งถิ่นฐานบนเกาะญี่ปุ่น (ตามชื่อเรียกในปัจจุบัน) ตั้งแต่ 14,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเริ่มจากรวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ จากนั้นจึงค่อยๆขยายรูปแบบสังคมเป็นหมู่บ้าน และพัฒนาจนเป็นเมืองในที่สุด

โดยเมืองเก่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคก่อตั้งประเทศ บางเมืองได้หายไปแล้วในปัจจุบัน หลายๆเมืองถูกแปรสภาพให้เป็นพื้นที่ธุรกิจและอุตสาหกรรมตามยุคสมัย แต่ยังคงมีอีกหลายเมืองเช่นกันที่พื้นที่บางส่วนได้ถูกอนุรักษ์ไว้ให้อยู่ในสภาพดังเช่นยุคก่อน เพื่อบอกเล่าเรื่องราวและสะท้อนถึงรากเหง้าวัฒนธรรมประเพณีของญี่ปุ่นโบราณ

ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าที่ยังคงกรุ่นกลิ่นอายของอดีตอันทรงเสน่ห์สุดแสนคลาสสิคเย้ายวนให้อยากไปเยี่ยมเยือน


1. เกียวโต (Kyoto), จังหวัดเกียวโต

อยู่ทุกชาร์ต ติดทุกโพล ไม่ว่าจะโพลไหน ก็ต้องมีชื่อของอดีตเมืองหลวงที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ชวนหลงใหลแห่งนี้อยู่ด้วยทั้งนั้น! ด้วยความเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิม มีวัดและศาลเจ้าที่เงียบสงบและงดงามอยู่มากมาย เช่นเดียวกับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่กระจายทั่วพื้นที่ ทำให้เกียวโตสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศได้ปีละหลายล้านคนเลยทีเดียว

ไฮไลท์ของเกียวโต: ขอพรที่วัดคิโยมิสึ เที่ยวชมความงามของวังทองคินคะคุจิ เพลินตากับภาพเสาโทริอิสีแดงกว่าพันต้นที่ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ แวะทานข้าวที่กิออนย่านเกอิชา และอย่าลืมไปซึมซับบรรยากาศทางธรรมชาติของป่าไผ่อาราชิยามะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://kyoto.travel/en/

2. อูจิ (Uji), จังหวัดเกียวโต

ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดเกียวโต ตอนเหนือของจังหวัดนาระ ตัวเมืองหลักตั้งอยู่ริมแม่น้ำนาระซึ่งไหลมาจากทะเลสาบบิวะ เป็นหนึ่งในเมืองที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะ “วัดเบียวโดอิน” (Byodo-in Temple) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในฐานะ “อนุสรณ์สถานแห่งเกียวโตโบราณ” (Historic Monuments of Ancient Kyoto) เมืองอูจิ เป็นเมืองแห่งชาเขียวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น โดยชาเขียวมัทฉะของอูจิเป็นที่ยอมรับว่ามีคุณภาพสูงและรสชาติยอดเยี่ยมเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

ไฮไลท์ของอูจิ: ชื่นชมความเก่าแก่และขอพรที่วัดเบียวโดอิน สัมผัสความงามดอกวิสทีเรีย (Fuji no Hana) ช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ลิ้มรสผลิตภัณฑ์จากชาเขียวหลากรูปแบบที่ “ถนนชาเขียว” จากนั้นแวะถ่ายภาพริมแม่น้ำอูจิ (Uji River) ที่รายล้อมด้วยดอกซากุระอายุหลายร้อยปี

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.byodoin.or.jp/en/

https://www.jnto.or.th/newsletter/uji-kyoto/

3. โอทสึ (Otsu), จังหวัดชิงะ

เมืองเล็กๆที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานถึง 1,350 ปี และเคยถูกสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในยุคสมัยขององค์จักรพรรดิเทนจิ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบบิวะ (Biwako Lake) ในหุบเขาฮิเอ (Mt.Hiei) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนาและยังเป็นต้นกำเนิดของนิยายตามตำนานสุดคลาสสิก “เก็นจิ” ของมุราซากิ ชิกิบุ ซึ่งเป็นนิยายเรื่องแรกของญี่ปุ่นและเก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังหลงเหลืออยู่อย่างสมบูรณ์ โอทสึนับว่าเป็นขุมทรัพย์ทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอย่างมาก โดยวิถีชีวิตของชาวโอทสึจะเป็นไปอย่างเรียบง่ายเน้นปรับตัวให้กลมกลืนกับรูปแบบการอยู่อาศัยริมแม่น้ำ

ไฮไลท์ของโอทสึ: สักการะเหล่าทวยเทพที่วัดมิอิเดระ (Miidera Temple) ที่หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ฮิเอ จากนั้นไปสวดมนต์ปฏิบัติธรรมที่วัดเอ็นริยะคุจิ (Enryakuji Temple) แล้วแวะชมทิวทัศน์แม่น้ำสุดลูกหูลูกตาของอุคิมิโดะ หรือ โถงอารามลอยน้ำ ที่วัดมังเง็ทสุจิ ตกเย็นมาชื่นชมน้ำพุเต้นระบำริมทะเลสาบบิวะบริเวณท่าเรือโอทสึ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://otsu.or.jp/en/aboutotsu/

https://en.biwako-visitors.jp/

4. นาระ (Nara), จังหวัดนาระ

ใช้เวลาเดินทางเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง (โดยรถไฟความเร็วสูง) จากเกียวโตสู่นาระ เมืองเล็กๆที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ที่มียาวนานตั้งแต่ ค.ศ. 752 เป็นที่ตั้งของวัดโทไดจิ (Todaiji Temple) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (สูง 15 เมตร) นอกจากนั้นยังมีสวนสาธารณะนาระ (Nara Park) อันเป็นที่อยู่ของกวางน้อย(และใหญ่)กว่าหนึ่งพันตัว ที่จะแวะมาทักทายนักท่องเที่ยวอย่างเป็นมิตร ซึ่งกวางในสวนนี้ถูกจัดให้เป็นสมบัติประจำชาติ และห้ามไม่ให้มีการคุกคามทำร้ายฝูงกวางเหล่านี้โดยเด็ดขาด!

ไฮไลท์ของนาระ: หลังจากเดินเล่นชื่นชมความน่ารักของน้องกวางที่สวน จากนั้นค่อยเดินเข้าไปไหว้พระที่วัดโทไดจิพร้อมชื่นชมภาพวาดศิลปะตามผนังอันน่าตื่นตาตื่นใจ และถ้าหากพอมีเวลา อยากให้ลองแวะเที่ยววัดคาซุงะไทชะ ซึ่งมีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.visitnara.jp/

5. คามาคุระ (Kamakura), จังหวัดคานางาวะ

คามาคุระเป็นเมืองติดชายฝั่งทะเล ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโตเกียว ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง (เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง) มีสัญลักษณ์คือ พระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ (พระอมิตาภพุทธะ) หรือ พระไดบุตสึเมืองคามาคุระ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น ด้วยความสูง 11 เมตร ประดิษฐานโดดเด่นสง่างามข้ามกาลเวลามาอย่างแข็งแกร่ง ที่แม้ระเบิดแห่งสงครามก็ไม่อาจทำลายลงได้

ไฮไลท์ของคามาคุระ: ไหว้สักการะขอพรพระไดบุตสึ เที่ยววัดที่เก่าแก่และงดงามที่สุดของนิกายเซนในญี่ปุ่น เสพงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะใกล้ๆ จากนั้นไปเอาเท้าจุ่มน้ำทะเลที่ชายหาดอิโนะชิมะและหาดคามาคุระ แล้วแวะช้อปปิ้งก่อนกลับที่ถนนสายช้อปปิ้งโคมาจิโดริ ใกล้ๆกับสถานีรถไฟคามาคุระ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.city.kamakura.kanagawa.jp/visitkamakura/en/

6. ฟูกูโอกะ (Fuguoka), จังหวัดฟูกูโอกะ

นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เรื่อยมา ฟูกูโอกะ ถูกพัฒนาให้เป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศ กล่าวกันว่าฟูกูโอกะคือเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นราวๆศตวรรษที่ 5-6 จากหลักฐานอ้างอิงต่างๆ ทั้งซากปราสาท อารามและศาลเจ้าโบราณ ฯลฯ นอกจากจะมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายแล้ว เทศกาลต่างๆก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมหาศาลในแต่ละปี อาทิ เทศกาลมิตามะ (The Mitama Festival) จัดขึ้นที่ศาลเจ้าโกโคคุ (Gokoku Shrine) โดยจะมีการปล่อยโคมไฟกว่า 6,000 ดวง ลอยขึ้นบนท้องฟ้าเพื่อระลึกถึงดวงวิญญาณของเหล่าผู้กล้าที่สละชีพในสงคราม

ไฮไลท์ของฟูกูโอกะ: เที่ยววัดโทโชจิ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งองค์ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ช้อปปิ้งที่ Canal City Hagata ศูนย์ช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วยร้านค้ากว่า 250 ร้าน จากนั้นอย่าลืมไปนั่งชิลๆที่ Momochi Seaside Park ชายหาดเทียมที่มีบริการอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร หรือถ้าต้องการไปเที่ยวกึ่งผจญภัยด้วยการปีนเขา ก็มีให้เลือกหลากหลายที่ ตกกลางคืนสามารถไปนั่งเคเบิ้ลคาร์ชมแสงไฟเหนือน่านฟ้าฟูกูโอกะที่ภูเขาซาราคุระ ก็น่าสนใจไม่น้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://yokanavi.com/en/appeal/

https://www.travelerfriendly.jp/en/

7. โยโกฮาม่า (Yogohama), จังหวัดคานางาวะ

โยโกฮาม่าเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เดิมทีเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง ก่อนที่ในราวๆศตวรรษที่ 18 จะค่อยๆพัฒนาจนกลายเป็นเมืองท่าสำคัญ และหลังจากที่เปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนได้ไม่นาน โยโกฮาม่าก็กลายเป็นเมืองใหญ่และมีความเจริญทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ในด้านของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ คงหนีไม่พ้นย่านไชน่าทาวน์ (Chinatown) ซึ่งเป็นย่านคนจีนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ภายในย่านประกอบด้วย ร้านอาหารจีนกว่า 200 ร้าน รวมไปถึงร้านค้าและศูนย์บริการต่างๆมากมาย นอกจากไชน่าทาวน์แล้ว โยโกฮาม่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เก็บรักษาสภาพให้เหลือตามแบบเมืองเก่าอีกมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑสถาน สวนญี่ปุ่นโบราณ เป็นต้น

ไฮไลท์ของโยโกฮาม่า: เที่ยวไชน่าทาวน์ ซื้อของ ทานข้าว ไหว้พระ ให้จุใจ หรือจะเลือกเดินทอดน่องสำรวจผังเมืองโยโกฮามะที่ขึ้นว่าออกแบบได้อย่างมีเสน่ห์สุดในตอนกลางวัน และเปรี้ยวจัดๆในตอนกลางคืน หากท่องเที่ยวในหน้าหนาว ต้องไม่ลืมแวะชมการแสดงไฟริมทะเลสาบซางามิ (Lake Sagami)

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.japan.travel/en/destinations/kanto/kanagawa/yokohama-and-around/

8. คุราชิกิ (Kurashiki), จังหวัดโอคายามะ

เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของจังหวัด รองจากเมืองโอคายามะ เป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย โดยเฉพาะ “เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง” (Kurashiki Bukan Historical Area) ย่านเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์เพื่อให้คงสภาพบ้านเมืองสมัยเอโดะภายใต้การปกครองของโชกุนโทคุงาวะ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มายังคุราชิกิ เพื่อสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้ในยุคที่ซามูไรรุ่งเรือง

ไฮไลท์ของคุราชิกิ: เดินเล่นย่านซามูไรเก่าที่เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง แวะเสพงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ (Ohara Museum of Art) จากนั้นเดินทอดน่องท่ามกลางบรรยากาศของบ้านเรือนโบราณที่กั้นด้วยรั้วสีขาวสุดคลาสสิค ที่ทอดยาวขนานริมแม่น้ำไปตามเส้นทางของ Seto Ohashi Bridge ซึ่งเป็นหนึ่งในถนน (และทางรถไฟ) ที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.okayama-japan.jp/en/spot/886

https://www.kurashiki-tabi.jp/for/en/city.html

9. ทากายามะ (Takayama), จังหวัดกิฟุ

ทากายามะ ตั้งอยู่ใจกลางเทือกเขาแอลป์ (Japan Alps) ซึ่งจะปกคลุมไปด้วยหิมะหนานุ่มในฤดูหนาว ที่แม้จะเย็นยะเยือกแต่กลับให้บรรยากาศที่งดงาม โดยเฉพาะภาพของหิมะที่ปกคลุมตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์ อาทิ ศาลเจ้าซากุระยามะ ฮาจิมังงุ (Sakurayama Hachimangu Shrine) หรือที่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านคุซาคาเบะ (Kusakane Folk Crafts Museum) ที่ดูงดงามชวนตะลึงพรึงเพริดเมื่ออยู่ภายใต้หิมะสีขาวปุกปุย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนทากายามะ สามารถพักค้างคืนตามเรียวกังในเมือง ที่จะให้บริการทั้งที่พัก ร้านอาหาร โรงน้ำชา และบ่อออนเซ็น

ไฮไลท์ของทากายามะ: เดินเก็บบรรยากาศคลาสสิกที่ย่านเมืองเก่าซันมาจิ (Sanmachi-Suji District) ที่เต็มไปด้วยคฤหาสน์ของพ่อค้าวานิชย์อายุกว่า 100 ปี จากนั้นไปเยือน Hida no Sato พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านพื้นเมืองที่จำลองความเป็นชนบทโบราณทั้งอาชีพและที่พักอาศัยที่มุงหลังคาบ้านแบบ “กัชโชสึคุริ” (Gasshozukuri) และเพื่อให้คุ้มค่ากับการมาเยือนทากายามะ อยากให้คุณจัดตารางเที่ยวแบบ 1 วันเต็มๆสำหรับออกนอกเมืองไปยังหมู่บ้านชิราคาวะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก รับรองว่าสุขที่ได้จะยิ่งกว่าคำว่าเต็มอิ่ม

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.hida.jp/english/index.html

https://www.jnto.or.th/newsletter/hida-takayama/#Hida-no-Sato

10. คานาซาวะ (Kanazawa), จังหวัดอิชิกาวะ

หนึ่งในเมืองเก่าที่ไม่ได้รับผลกระทบจากระเบิดนิวเคลียร์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้คานาซาวะ ยังคงรักษาสภาพความเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานไว้ได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ปราสาทและสวนที่ล้อมรอบ ล้วนยังคงสมบูรณ์เหมือนเมื่อครั้งในอดีตในยุคที่เหล่าซามูไรยังคงรุ่งเรือง

ไฮไลท์ของคานาซาวะ: สัมผัสบรรยากาศสมัยเอโดะที่ย่านซามูไรนางามาชิ แล้วตระเวนถ่ายรูปแบบชิคๆคูลๆกับอีกด้านของเอโดะที่ย่านเกอิชาฮิงาชิ (Higashi Geisha District) แวะจิบน้ำชาและขนมหวานอร่อยๆที่โรงน้ำชาฮิงาชิชายะ (Higashi Chaya District) ที่อยู่ใกล้ๆกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://visitkanazawa.jp/

https://www.jnto.or.th/newsletter/kanazawa/


♦ END ♦

♦ By Pok Safin ♦

ขอบคุณข้อมูล;

https://kyoto.travel/en/

https://www.byodoin.or.jp/en/

https://www.jnto.or.th/newsletter/uji-kyoto/

https://otsu.or.jp/en/aboutotsu/

https://en.biwako-visitors.jp/

https://www.visitnara.jp/

https://www.city.kamakura.kanagawa.jp/visitkamakura/en/

https://yokanavi.com/en/appeal/

https://www.travelerfriendly.jp/en/

https://www.japan.travel/en/destinations/kanto/kanagawa/yokohama-and-around/

https://www.okayama-japan.jp/en/spot/886

https://www.kurashiki-tabi.jp/for/en/city.html

https://www.hida.jp/english/index.html

https://www.jnto.or.th/newsletter/hida-takayama/#Hida-no-Sato

https://visitkanazawa.jp/

https://www.jnto.or.th/newsletter/kanazawa/

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!