ทุกคนรู้จักภูเขาไฟฟูจิ landmark สำคัญของประเทศญี่ปุ่นกันดี และอีกหลายคนได้มีโอกาสไปชมและถ่ายรูปกับภูเขาไฟชื่อดังนี้แล้ว แต่เคยสงสัยมั้ยว่า…บนยอดภูเขาไฟฟูจินั้นมีอะไร?
อาทิตย์อุทัยแรกของญี่ปุ่นคือการได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดภูเขาไฟฟูจิ เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นใฝ่ฝันว่าหนึ่งครั้งในชีวิตอยากจะได้เห็นเทพนิรมิตนี้ ณ จุดสูงสุดของญี่ปุ่น การได้รับแสงอาทิตย์แรกของวันจากยอดไฟฟูจิเหนือกลุ่มก้อนเมฆเปรียบเสมือนเราได้อยู่บนสวรรค์และเป็นประสบการณ์พิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น
ภูเขาไฟฟูจิ welcome นักล่าฝันทุกคน ขึ้นไปชมยอดภูเขาไฟทุกช่วงฤดูร้อนในเดือนกรกฎาคมถึงกันยายนของทุกปี ด้วยคอร์สปีนเขาที่มีการจัดทางเดินอย่างเป็นระเบียบไว้แล้ว อีกทั้งระหว่างทางก็มีที่พักเป็นจุดๆ รวมถึงกระท่อมนอนพักเล็กๆเพื่อให้ความสะดวกสบายแก่นักล่าแสงอาทิตย์อุทัยทุกคนทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่หลงไหลในความเป็นญี่ปุ่น คุณต้องหาโอกาสขึ้นพิชิตยอดเขานี้ให้ได้ ซักครั้งในชีวิต
เบื้องต้นเกี่ยวกับภูเขาฟูจิ
ฟูจิเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท มีพื้นที่คาบถึงสองจังหวัด คือจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ มีความสูงถึง 3,776 เมตรเหนือน้ำทะเล จัดเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น สูงกว่าดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 2,565 เมตรเหนือน้ำทะเล ในวันที่มีสภาพอากาศแจ่มใส เราสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิจากโตเกียวได้เลย ภูเขาไฟฟูจิเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่ทั่วโลกรู้จักและได้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2013
การปีนเขา
ภูเขาไฟฟูจิแบ่งเป็น 9 ชั้นก่อนถึงยอด ซึ่งการปีนภูเขาไฟฟูจิสามารถขึ้นได้จาก 4 แห่ง คือ คอร์ส Yoshida, คอร์ส Subashiri, คอร์ส Gotemba และ คอร์ส Fujinomiya แต่ละคอร์สมีความยากง่ายและความชันที่แตกต่างกันไป คอร์สที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือคอร์ส Yoshida ซึ่งเป็นทางปีนเขาที่สะดวกที่สุดและใช้เวลาแค่ 6 ชั่วโมงจากชั้น 5 จนถึงยอด เราสามารถนำรถขึ้นมาจอดได้ที่ชั้น 5 ซึ่งเป็นจุด start
คอร์สนี้มีทางเดินที่เป็นระเบียบเหมือนเดินขึ้นเนินและบันไดไปเรื่อยๆ อาจจะมีทางชันบ้างในชั้น 8 และ 9 แต่ส่วนใหญ่เป็นทางเดินที่สร้างไว้แล้ว ใครที่ไม่เคยปีนเขามาก่อนก็สามารถพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิได้จากคอร์สนี้ ระหว่างทางมีจุดพักผ่อนหลายแห่งและที่พักสำหรับนักปีนเขาที่ต้องการนอนพักผ่อนก่อนจะเดินทางต่อขึ้นไปบนยอดเขา ใครที่มีแรงพอที่จะเดินทางให้ถึงยอดในรวดเดียว แนะนำให้เริ่มเดินทางตอนหัวค่ำเพื่อให้ถึงยอดเขาก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเวลา 4:00 – 5:00AM
อุปกรณ์แนะนำในการปีนฟูจิ
ถึงแม้ภูเขาไฟฟูจิจะเปิดในช่วงฤดูร้อน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไปได้ บนยอดภูเขามีอุณหภูมิถึงติดลบ อย่างที่ว่ากันว่า “ยิ่งสูงยิ่งหนาว” อุปกรณ์เบื้องต้นที่ควรจะเตรียมไว้ในการพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิคือเสื้อผ้าที่สามารถให้ความอบอุ่น กันฝน กันลมและเบา และรองเท้าปีนเขา แค่นั้นเอง
- เสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวและกันลม
- กระเป๋าเป้สะพายที่มีน้ำหนักเบาพอใส่ถุงน้ำ ขนมและสิ่งจำเป็นอื่นๆ
- รองเท้าปีนเขาที่สวมใส่สบายและเกาะพื้นได้ดี
- ถุงมือ
- หมวกไหมพรมกันหนาว
- Neck cover
- ไฟฉายหรือ Head light
- ที่ซัพพอร์ตเข่าและหลัง (ถ้าจำเป็น)
- กระป๋องออกซิเจน (ถ้าจำเป็น)
ระหว่างทาง
เรานำรถขึ้นมาถึงชั้น 5 หรือจะใช้บริการรถบัสจากโตเกียวก็ได้ หลายคนจะซื้อไม้พะยุงที่ร้านขายของที่นั้นเพื่อช่วยในการเดินให้คงที ใครอยากได้อุปกรณ์เสริมอื่นๆก็สามารถหาซื้อได้ที่ชั้น 5 เช่นกัน จากนั้น เราก็ลุยเลย!
ภูเขาฟูจิเป็นภูเขาไฟ ซึ่งพื้นทางเดินจะเป็นหินถ่านสีเทาดำ จะได้กลิ่นเหมือนอยู่ซาวน่า ระหว่างทางก็จะพบกับผู้ร่วมเดินทางหลายๆคนเป็นแถวยาวเลยทีเดียว ไม่เหงาแน่ แต่ละจุดก็จะมีกระท่อมบริการอาหารและเครื่องดื่มง่ายๆอย่างเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ชากาแฟร้อนและขนมขบเคี้ยวต่างๆ แต่แน่นอนราคาก็เท่าตัวกว่าภาพพื้นเลยทีเดียว แบบกินแล้วลอยได้ (ขำๆ)
ในกระท่อมจุดพักก็จะมีเตาอุ่น คอยให้ความอบอุ่นและให้เราชาร์จพลังงานก่อนจะเดินทางต่อไป ค่อยๆเดินไม่ต้องรีบ ฝึกหายใจให้ถูกต้องตลอดระหว่างการเดินทางและเล่นเกมตอบปัญหากับเพื่อนไปเรื่อยๆเพื่อเพิ่ม motivation ใครที่จองที่พักไว้บนยอดภูเขาก็จะได้ชาร์จพลังงานเต็มที่ 1 คืนก่อนปีนถึงยอด ซึ่งจะมีจากชั้น 7 ขึ้นไป
บนยอดฟูจิ
หลับตาจินตนาภาพบรรยากาศเวลาเรานั่งเครื่องบินเหนือก้อนเมฆ แต่ครั้งนี้ให้นึกถึงความเย็นของลมสดชื่นที่พัดมา กับไออุ่นจากพระอาทิตย์ที่ขึ้นเหนือก้อนเมฆบนยอดภูเขา นั่นคือความรู้สึกพิเศษที่จะได้สัมผัสจริง! บนยอดภูเขา
Skyline ที่ตัดด้วยสีครามของท้องฟ้า สีขาวของกลุ่มก้อนเมฆ สีส้มเหลืองจากพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น นั้นคือนฤมิตรที่คุณจะได้สัมผัสด้วยตาของคุณเองและเชื่อว่าสวรรค์นั้นมีจริง บนยอดภูเขาไฟฟูจินี้
ทุกคนที่ประสบความสำเร็จพิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิก็จะเดินผ่าน Tori หรือประตูชัย เนื่องจากบนยอดภูเขาไฟมีศาลเจ้าเล็กๆอยู่ ซึ่งทุกคนจะมาขอพรจากความพยายามในการปีนเขาครั้งนี้ พร้อมถ่ายรูปกับจุดที่ชื่อว่า “เหนือสุดแดนอาทิตย์อุทัย” จากนั้นก็สามารถเดินชมปล่องภูเขาไฟและสัมผัสกับไออุ่นได้ ไม่ต้องกลัว ไม่มีลาวาครับ
บนยอดนั้น สงบกว่าที่เราที่จินตนาการว่าภูเขาไฟจะต้องมีลาวาดุเดือดและร้อน ฟูจิเป็นภูเขาไฟที่เต็มไปด้วยความสงบ สมกับชื่อ “แดนอาทิตย์อุทัย”
ทางลง
การลงเขานั้นก็ง่ายแสนง่าย เพราะเป็นทางลาดยาวลงไปถึงชั้น 5 ไม่มีอุปสรรคใดๆ และที่สำคัญใช้เวลาแค่ 3-4 ชม. แต่ถึงตอนนั้น ขาทุกคนก็จะเริ่มอ่อนแรง ผมแนะนำให้ค่อยๆเดินลง ไม่ต้องรีบ
เข้าไปแช่ออนเซนบริเวณ รอบๆภูเขาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนชอบไปหลังจากลงจากภูเขา เพราะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ทั้งกายและใจ
ฟูจิเป็นภูเขาที่สวยงาม ที่ให้มากกว่าการปีนเขา และการขึ้นไปพิชิตยอดนั้นก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่คุณมีร่างกายที่ฟิต ไม่มีโรคทางเดินอากาศหรือการหายใจ ก็สามารถไปรับแสงอาทิตย์อุทัย ณ จุดสูงสุดของญี่ปุ่นกันได้ง่ายๆ !!
อีกหนึ่ง adventure ที่ต้องมีใน must do,
Fuji Mt. รอคุณไปปักธงไทยอยู่