สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกครั้งนะคะ ช่วงนี้ที่ไทยสถานการณ์โควิด-19 กำลังมาระลอกที่สอง เพื่อน ๆ รักษาเนื้อรักษาตัวกันด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวมาเที่ยวญี่ปุ่นหลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น และวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปชมสวนที่คนรักดอกไม้จะต้องห้ามพลาดเลย นั่นก็คือ “สวนฮิตาจิไคฮิน (Hitachi Seaside Park) นั่นเองค่า สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ ณ จังหวัดอิบารากิ ซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดโตเกียวตอนบนแนบยาวตามแนวชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น มีพื้นที่ทั้งหมดใหญ่เป็น 7 เท่าของสวนสนุกโตเกียวดิสนีย์แลนด์เลยทีเดียวค่ะ โดยเปิดให้เข้าไปชมภายในสวนได้ถึง 55% ของพื้นที่ทั้งหมด นอกเหนือจากสวนดอกไม้ที่เปิดให้ได้ชม และถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้นั้น ที่นี่ยังมีสวนสนุกขนาดย่อม เหมาะสำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจกันได้ทั้งครอบครัวเลยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาดูวิธีการเดินทางกันดีกว่าค่า ~
รถยนต์ส่วนตัว ?
สำหรับเพื่อน ๆ ที่เช่ารถยนต์ส่วนตัว แทบไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะคะ ว่าจะต้องจอดรถตรงไหน หาที่จอดรถยากไหม เพราะว่าที่นี่เขามีบริการที่จอดรถถึง 3 จุดด้วยกัน และมีที่จอดรถกว่า 4000 คันเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากสวนแห่งนี้เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับการมาพักผ่อนคลายเครียด หรือทำกิจกรรมกับครอบครัวของคนญี่ปุ่นในช่วงที่มีเทศกาล หรือว่าวันหยุดยาว เช่น ช่วงโกลเด้นวีค ช่วงซิลเวอร์วีค ทำให้การมารถยนต์ส่วนตัวอาจไม่สะดวกเท่าไหร่นัก จากประสบการณ์ที่เราไปในช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค รถติดยาวมาก ๆ แถมยังหาที่จอดรถยากอีก มีรถจอดยาวเต็มข้างทางเลยค่ะ หากจะมาในช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ แนะนำว่าให้มาด้วยรถโดยสารประจำทางกันนะคะ
รถโดยสารประจำทาง ?
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เช่ารถยนต์ หรือว่าจะมาช่วงที่การจราจรแออัด ก็สามารถเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางได้ค่ะ หากเดินทางมาจากโตเกียว แนะนำว่าให้ขึ้นรถไฟด่วน (ไม่ใช่ชิงกันเซนนะคะ) จากสถานีชินากาว่า (Shinagawa Station) สายโจบัน (Limited Express JR Joban Line) ไปยังสถานีคัตซึตะ (Katsuta Station) ใช้เวลาราว ๆ 85 นาทีค่ะ หลังจากนั้นจะต้องต่อรถบัสจากสถานีไปยังสวนฮิตาจิไคฮิน โดยขึ้นที่จุดขึ้นรถบัสหมายเลข 2 ค่ะ (รถบัสนี้มีบริการชั่วคราวในฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงค่ะ) ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็จะถึง Hitachi Seaside Park West Entrance ค่ะ
ส่วนเพื่อน ๆ ที่จะมาในฤดูอื่น ๆ แนะนำให้นั่งรถไฟต่อไปอีก เลยสถานีคัตซึดะไปยังสถานีโทไก (Tokai Station) ที่สถานีนี้จะมีรถบัสวิ่งไปยังสวนฮิตาจิไคฮินทั้งปีเลยค่ะ จุดขึ้นรถบัสคือจุดขึ้นที่ 2 ค่ะ
CR : https://hitachikaihin.jp/
เมื่อเดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว ก็ไปซื้อตั๋วกันเลยค่ะ สำหรับผู้ใหญ่ราคา 450 เยนต่อคน ส่วนเด็กตั้งแต่มัธยมต้นลงไปจะไม่เสียค่าเข้าค่ะ แต่ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับฤดูกาลเช่นกันค่ะ ในกรณีที่เป็นช่วงพีค ๆ อย่างฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงราคาสำหรับผู้ใหญ่จะถูกปรับขึ้นเป็น 700 เยนต่อคนค่ะ
ซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็อย่ารอช้า เข้าไปชมภายในสวนกันเลย สวนแห่งนี้จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ส่วนด้วยกันนะคะ หากเข้าจาก West Entrance ก็จะพบกับส่วนแรก ① West entrance area เป็นโซนแรกเลยค่ะ ในโซนนี้จุดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ สวนดอกไม้ในป่าไข่ (Tamago no Mori Flower Garden ) สาเหตุที่ชื่อป่าไข่ก็เพราะว่า ใจกลางสวนนั้นมีสถาปัตยกรรมรูปไข่ตั้งอยู่กลางสวนดอกไม้นั่นเองค่า และในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไป ดอกทิวลิปหลากหลายสีสันจะแข่งกันเบ่งบานเต็มทุ่งไปหมดเลยค่ะ สวยแค่ไหนดูจากรูปด้านล่างได้เลยนะคะ สีสันสวยงามมากจริง ๆ
ส่วนฝั่งนี้ก็จะเป็นดอกทิวลิปคุมโทนสีเหลืองสดใสค่า
คุมโทนสีชมพูม่วงก็มีนะคะ เป็น photo spot ที่สาวหวานต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
นอกจากสวนดอกไม้ป่าไข่แล้ว ในโซนนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจนั่นก็คือ สวนดอก Narcissu (Suisen Garden) สวนบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยดอก Narcissu ตัวกลีบดอกดูเหมือนมีสองชั้น รูปร่างแปลกตาดีค่ะ และดอก Narcissu จะบานในฤดูเดียวกับดอกทิวลิปเลยค่ะ
โซนถัดมา ② Forested Area เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผืนป่าขนาดใหญ่ ในป่าก็จะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจในธรรมชาติ อาทิ พืชหลากหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังมีสัตว์ต่าง ๆ อาศัยอยู่มากมาย ทั้งนกน้ำ และแมลงนานาชนิดให้ศึกษากันค่ะ
CR : https://hitachikaihin.jp/
ในโซนที่ ③ Pleasure Garden Area โซนนี้เป็นโซนที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนน้ำขนาดย่อม เหมาะสำหรับพาเด็ก ๆ มาเที่ยวในฤดูร้อน หรือว่าจะเป็นสนามขี่จักรยานวิบาก สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบกิจกรรมแอดแวนเจอร์ค่ะ
CR : https://hitachikaihin.jp/
นอกจากนี้ในโซนนี้ก็ยังมี Rose garden หรือว่าสวนกุหลาบนั่นเอง เห็นแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Beauty and The Beast เลยค่ะ
CR : https://hitachikaihin.jp/
ในโซนถัดมา ④ Dune Area หรือโซนเนินทราย พื้นที่บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยทรายตามชื่อเลยค่ะ นอกเหนือจากนั้นพื้นที่ส่วนนี้ตั้งอยู่ฝั่งทะเล ทำให้มองเห็นวิวทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แสงแดดกระทบกับน้ำทะเลส่องแสงระยิบระยับ บรรยากาศดีมาก ๆ เลยค่ะ
CR : https://hitachikaihin.jp/
ในโซนที่ ⑤ South Entrance Area ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นทางเข้าอีกหนึ่งจุดจากประตูทางทิศใต้ บริเวณนี้จะมีลานน้ำพุเป็นแลนด์มาร์คที่พบเห็นได้ค่ะ
CR : https://hitachikaihin.jp/
ในโซนที่ ⑥ Grassland Area เป็นโซนทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนหย่อนใจ ปูผ้าปิคนิค นอนอ่านหนังสือชิว ๆ ท่ามกลางสนามหญ้ากว้าง หรือจะมาเพื่อออกกำลังกายก็ได้นะคะ โดยส่วนตัวค่อนข้างชอบโซนนี้มากค่ะ อาจจะดูไม่ค่อยมีอะไร แต่ด้วยความที่พื้นที่นี้เต็มไปด้วยสีเขียวสุดลูกหูลูกตา ทำให้เวลานั่งเล่นตรงโซนนี้รู้สึกผ่อนคลาย ถ้ามีเวลาทั้งวันก็อยากจะนอนกลิ้งไปมาบนหญ้าทั้งวันเลยค่ะ 555
CR : https://hitachikaihin.jp/
ในโซนสุดท้าย โซนที่ ⑦ Miharashi Area เป็นพื้นที่ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่เลยก็ว่าได้ค่ะ ถ้าไม่ได้มา area นี้จะถือว่ามาไม่ถึงสวนฮิตาจิกันนะคะ พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นเนินเขาขนาดใหญ่ ในช่วงเดือนเมาษายนเนินเขานี้จะถูกปกคลุมไปด้วยดอก Nemophila สีฟ้าอมม่วงทอดยาวไปไกลลิบตาเลยค่ะ
สวยจนอยากจะหยุดถ่ายรูปซักหนึ่งชั่วโมงเลยค่ะสำหรับโซนนี้ แต่ติดอยู่ที่ตอนเราไปดอกไม้ว่าเยอะแล้ว แต่คนเยอะกว่าค่ะ 555 เลยหยุดถ่ายรูปที่จุดหนึ่งนาน ๆ ไม่ค่อยได้
และนี่ก็เป็นมุมที่มองจากบนเนินเขาค่ะ
Area นี้ไม่เพียงแค่ฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นที่สวยนะคะ ในฤดูร้อนก็จะมีเปลี่ยนต้นไม้เป็นต้น Kochia ทำให้กลายเป็นเนินเขาเขียวขจีในฤดูร้อน และเปลี่ยนสีเป็นสีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วงค่ะ ไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนก็ดูได้ไม่เบื่อเลยค่ะ เพราะสวยมากจริง ๆ
CR : https://hitachikaihin.jp/
CR : https://hitachikaihin.jp/
เรื่องราวในวันนี้ยังเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นนะคะ สวนฮิตาจิไคฮินนั่นยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายที่ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ แล้วจะรู้ว่าความสวยงามของธรรมชาติเป็นอย่างไร สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะมากับแฟน หรือกลุ่มเพื่อนสาว แนะนำว่าไห้ฝึกถ่ายภาพรอเลยนะคะ ตอนจบทริปต้องได้ถ่ายรูปสวย ๆ ไปอวดคนในครอบครัว และเพื่อน ๆ อย่างแน่นอนค่ะ
