ศาลเจ้าฮานะโซโนะ การค้นพบสิ่งใหม่ในชินจูกุ

สำหรับเพื่อนๆที่เคยมาท่องเที่ยวที่โตเกียวระแวกสถานีชินจูกุนั้น ก็คงจะมีภาพตึกสูงๆผู้คนพลุกพล่านเดินเต็มถนนใหญ่ๆกันเต็มไปหมด แต่ครั้งนี้จะมาเปลี่ยนมุมมอง ผมจะมาแนะนำสถานที่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักท่องเที่ยวกันนักแต่เป็นที่รู้จักกันดีของคนญี่ปุ่น ครั้งนี้ผมจะขอแนะนำศาลเจ้าฮานะโซโนะศาลเจ้าที่ที่ทุกคนไม่คาดคิดว่าจะตั้งอยู่ใจกลางชินจูกุ

Contents

ประวัติของศาลเจ้าฮานะโซโนะ
ภายในศาลเจ้าฮานะโซโนะ
เทศกาลต่างๆที่ศาลเจ้าฮานะโซโนะ
ACCESS สำหรับการมาศาลเจ้า

ประวัติของศาลเจ้าฮานะโซโนะ

ศาลเจ้า Hanazono คาดว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปี1590ซึ่งที่ตั้งเดิมนั้นอยู่ติดๆกับห้างสรรพสินค้าอิเซตันปัจจุบัน(ห่างจากที่เดิมราวๆ250เมตร) จนกระทั่งถึงปี1624 ข้าราชบริพารของโชกุน ลอร์ดอาซากุระ ชิคุโกะโนะคามิ ได้รับที่ดินจากโชกุนเพื่อสร้างที่พักอาศัยแห่งหนึ่งในเขตเอโดะของเขา ดินแดนแห่งนี้รวมถึงบริเวณศาลเจ้าฮานาโซโนะด้วย ศาลเจ้าได้ยื่นคำร้องต่อโชกุน และได้รับพื้นที่ปัจจุบันเป็นค่าตอบแทน ดินแดนใหม่นี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยในเขตชานเมืองของตระกูลซามูไรโอวาริ มันถูกรอบล้อมไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและว่ากันว่าชื่อศาลเจ้าฮานะโซโนะมีต้นกำเนิดมาจากสมัยนั้น Hanazono แปลว่า สวนดอกไม้

ภายในศาลเจ้าฮานะโซโนะ

ศาลเจ้าฮานะโซโนะเป็นศาลเจ้าที่มีขนาดใหญ่ไม่มากโดยบริเวณพื้นที่คร่าวๆก็จะเป็นรูปคร่าวๆตามรูปด้านล่างครับ ผมจะขอแนะนำเฉพาะบางพื้นที่ตามเลขด้านล่างครับ

http://www.hanazono-jinja.or.jp/mt/page/a4.html

① ประตูโทริอิ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่ทำขึ้นมาด้วยเหล็ก

② ศาลเจ้าเกอิโนะ อาซามะ

เทพเจ้าแห่งพิธีกรรมคือโคโนะฮานะซากุยาฮิเมะ ตั้งแต่สมัยโบราณในสมัยเอโดะ สถานที่แห่งนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการแสดงละครและการเต้นรำ ดังนั้นจึงมีชื่อเสียงในด้านที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงมากมาย เช่น ละครและเพลง อนุสาวรีย์ Keiko Fuji หรือที่รู้จักกันในชื่อแม่ของ Hikaru Utada ก็ถูกสร้างขึ้นถัดจากศาลเจ้าแห่งนี้เช่นกัน เป็นที่นิยมของนักแสดง หรือผู้ที่มีเป้าหมายอยากจะเป็นนักแสดงมาสักการะกันมากมายครับ สำหรับสายมูก็ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งครับ

③ ศาลเจ้าอิโตคุอินาริ

ถูกเผาทำลายในสงคราม แต่ว่ากันว่าสร้างขึ้นเมื่อประมาณเดือนเมษายน พ.ศ. 2481 และเป็นศาลเจ้ายอดนิยมสำหรับผู้มาสักการะสตรี ประตูโทริอิสีแดงอันศักดิ์สิทธิ์เรียงรายอยู่เรียงราย และเราจะรู้สึกลึกลับของการก้าวเข้าไปในอุโมงค์ไปยังอีกโลกหนึ่ง

⑧ ศาลเจ้าฮานาโซโนะ ไฮเดน

นับตั้งแต่ก่อตั้งถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่หลายครั้งและสร้างศาลเจ้าใหม่ทุกครั้ง หลังจากความเสียหายจากสงครามในสงครามโลกครั้งที่ สำนักงานที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็กจึงแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2508 และยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้

⑩ อาคารสำนักงาน

ก็จะมีเครื่องรางค์ของขลังให้เราไว้เช่าและบูชากันหลายชนิด ตั้งแต่เรื่องความเร็กไปถึงเรื่องกิจการค้าขาย และเงินทอง ให้เราเลือกกันได้ตามใจ ส่วนราคานั้นก็แล้วแต่ของตามชนิดนะครับ

⑪ รูปปั้นคะระชิชิทองแดง

ที่หล่อโดยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ Murata Seiko ในปี 1821 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ในเขตชินจูกุ โดยตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับห้างสรรพสินค้าISETAN

เทศกาลต่างๆที่ศาลเจ้าฮานะโซโนะ

ศาลเจ้าฮานะโซโนะมีเทศกาลใหญ่ๆ หลายแห่งตลอดทั้งปี เทศกาลที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ การสวดมนต์ปีใหม่ในคืนวันปีใหม่,เทศกาล Reitaisai ในปลายเดือนพฤษภาคม และเทศกาลBonodoriในเดือนสิงหาคม หน้าร้อนและอื่นๆ

เทศกาล Reitaisai ซึ่งเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของศาลเจ้าจะจัดขึ้นในปลายเดือนพฤษภาคม โดยใช้เวลา 3 วัน ในช่วงเทศกาล มีการตั้งคูหามากกว่า 100 บูธในบริเวณศาลเจ้า ขายขนมและอาหารตามเทศกาลและนอกจากนี้จะมีขบวนแห่มิโคชิ หรือเรียกอีกอย่างว่าศาลเจ้าเคลื่อนที่ ถูกจัดขึ้นโดยเริ่มจากศาลเจ้าแล้ววนไปรอบๆ บริเวณใกล้เคียง ซึ่งในสมัยนี้เริ่มหาดูได้ยากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างมากถ้าเราได้มีโอกาศเข้าร่วมครับ

เทศกาลBonodori(หรือการเต้นรำแบบญี่ปุ่น) จะมีทุกปีตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 2 สิงหาคม มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเช่นผู้ที่ไม่สามารถกลับบ้านได้และคนหนุ่มสาวที่ไม่รู้จัก Bon Odori เพื่อเพลิดเพลินกับบรรยากาศของ Obon กลองที่เล่นโดย "สมาคมชินจูกุไทโกะ" ในท้องถิ่นนั้น การประกวด Bon Odori ประจำปี ดังนั้นโปรดเข้าร่วมกับเทศกาลและสนุกไปกับมัน ไม่ว่าคุณจะสวมชุดยูกาตะ(คล้ายๆชุดกิโมโนะแบบง่ายๆ)หรือชุดลำลอง

สุดท้ายนี้ก็อยากให้เพื่อนๆได้สนุกกับการได้มาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมได้ลิ้มลองประสบการณ์หรือวัฒนธรรมแบบสมัยโบราณตั้งแต่สมัยเอโดะของญี่ปุ่นกันด้วยนะครับ โดยการมาที่ศาลเจ้านั้นก็ถือเป็นสถานที่ศักสิทธ์ดังนั้นพวกเรานักท่องเที่ยวก็ควรแต่งกายให้ สุภาพ รวมถึงคำพูดก็ควรระมัดระวังกันด้วยนะครับ(ถึงแม้จะเป็นภาษาต่างชาติก็ตาม)