ช่วงปลายเดือนเมษายน หลังจากดอกซากุระร่วงหล่นแล้ว ประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ในช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้หลากหลายพันธุ์แข่งกันบานอวดสีสัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือดอกฟุจิ (藤:Fuji)
ดอกฟุจิหรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ ดอกวิสทีเรีย จะบานช่วงปลายกลางเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะตรงกับช่วงโกลเด้นวีควันหยุดยาวของคนญี่ปุ่นพอดี ทำให้วัด ศาลเจ้า หรือสวนดอกไม้ต่างๆ ที่ปลูกต้นฟุจิจะเปิดให้ผู้คนได้เข้ามาชมความงดงามของดอกฟุจิที่ย้อยลงมาเป็นระย้าสวยงาม บางเห็นจัดแต่งเป็นอุโมงค์ดอกฟุจิ อย่างเช่น สวนคาวาจิฟุจิเอ็น(河内藤園 :Kawachifujien) ที่คิตะคิวชู (北九州:KitaKyuushuu) ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีจากละครเรื่องกลกิโมโน
ดอกฟุจินั้นผูกพันกับวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นมายาวนาน โดยมักจะปรากฎในบทกวีโบราณต่าง ๆ มักนำมาใช้เปรียบเปรยกับสาวงาม ดอกฟูจินั้นเป็นต้นไม้ประเทศไม้เลื้อยมีขนาดใหญ่และจะแผ่กิ่งก้านสาขาออก เมื่อดอกฟูจิบานจะมีลักษณะเป็นพวงดอกไม้ย้อยลงมาอย่างสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์สีม่วง และตามด้วยสีขาว และชมพู
น่าเสียดายที่ดอกฟุจินั้นค่อนข้างบอบบาง โดนลมแรงก็ร่วงหล่นแล้ว ถ้ารู้ว่าดอกฟูจิกำลังบานสวยแล้วต้องรีบไปดูเลยนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะไม่เหลือให้เก็บภาพสวย ๆ แล้ว ทำให้เวลาดอกฟุจิบาน ผู้คนจะรีบไปดูกัน ปัจจุบัน สถานที่สำหรับชมความงามของดอกฟุจินั้นมีมากมาย และบางแห่งเปิดให้ชมในช่วงกลางคืน โดยจะมีการLight -up ซึ่งจะทำให้ดอกฟุจิดูงดงาม ให้ความรู้สึกสวยงามแบบลึกลับไปอีกแบบ
และด้วยความที่ดอกฟุจินั้นเป็นต้นไม้เลื้อยขนาดใหญ่ สถานที่ที่สามารถไปชมต้นฟุจิได้อย่างตระการตานั้นส่วนใหญ่จะต้องนั่งรถออกไปไกลพอสมควร ในครั้งนี้เราอยากจะแนะนำสถานที่ที่สามารถไปชมความงดงามของดอกฟุจิได้สำหรับคนที่ชอบเดินทางคนเดียว นั่นก็คือวัดฟุจิอิเดระ ซึ่งสถานที่ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ชมความงามของดอกฟุจิประจำโอซาก้า
การเดินทาง
ถ้าหากใครพักแถวนัมบะหรือเทนโนจิสามารถนั่งรถไฟสายคินเทตสึมินามิโอซาก้า (近鉄南大阪: Kintetsuminami osaka) จากสถานีโอซาก้าอาเบะโนะบาชิ (大阪阿部野橋: Osaka Abenobashi) โอมาลงสถานีฟุจิอิเดระ (藤井寺:Fujiidera) และเดินต่อไปอีกประมาณ 3-5 นาที
ดอกฟุจิแห่งวัดฟุจิอิเดระ (藤井寺:Fujiidera)
ในปีนี้อากาศค่อนข้างอุ่นเร็วกว่าปกติ ทำให้ดอกฟุจิบานค่อนข้างเร็ว ปีนี้ทางวัดฟุจิอิเดะระได้จัดเทศกาลชมดอกฟุจิ ตั้งแต่วันที่ 16-24เมษายน ส่วนดอกฟุจิที่วัดฟุจิอิเดระมีทั้งหมดสองสี คือ สีม่วงปนและสีขาว โดยสีขาวจะบานช้ากว่า
วัดฟุจิอิเดระเป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 725 โดยจักรพรรดิโชมุ(聖武天皇:Shoumu Tennou) ตั้งอยู่เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อองค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางพันกร ที่มีครบทั้งพันกร (ตามปกติแล้วรูปหล่อหรือรูปปั้นขององค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางพันกรในประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีเพียง 42 กรเท่านั้น) ของประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งใน 33 สถานศักดิ์สิทธิ์ที่ที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่ที่มีการแสดงอภินิหารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเพื่อโปรดสัตว์โลก (西国三十三所 : Saikoku Sanjyuusansho) สถานที่ทั้งหมด 33 แห่งจะอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น อันได้แก่ จังหวัดวากายามะ โอซาก้า เกียวโต เฮียวโงะ นารา ชิกะ และกิฟุโดยวัดฟุจิอิเดะระอยู่ในลำดับที่ 5
เมื่อเดินออกจากสถานีมาประมาณ3-5 นาที ก็จะถึงตัววัด วัดแห่งนี้เป็นวัดที่สงบไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชื่นชอบความแออัด สาเหตุที่เราเลือกวัดแห่งนี้เพราะคิดว่าคนไม่น่าจะเยอะเท่ากับวัดเบียวโดอินที่เกียวโตและสวนดอกไม้ และเดินทางสะดวกก็เลยลองมาที่วัดนี้ บวกกับเราเป็นคนชอบสะสมโกะชุอิน (御朱印: Goshuin) เป็นสมุดที่คล้ายแสตมป์แรลลี่สำหรับคนชอบไปวัดและศาลเจ้า โดยเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าจะเป็นคนเขียนให้ มีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำครั้งละ 300 เยน ถ้าเป็นของพิเศษก็จะแพงขึ้น ยิ่งเป็นวัดที่เป็นอยู่ใน 33 แห่งของสถานที่ที่มีการแสดงอภินิหารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ก็จะมีลวดลายพิเศษ ทำให้เราเลือกวัดแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางของเรา และพอได้มาก็ไม่ผิดหวังค่ะ
ดอกฟุจิเป็นระย้าสีม่วงไล่เฉดกับสีขาว สวยงามอลังการมากค่ะ แต่ดอกฟุจิที่นี่ต้องไม่ย้อยลงมาต่ำมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่อยากถ่ายรูปหน้าใกล้ชิดกับดอกฟุจิ หรือมีฉากหลังเป็นดอกฟุจิเยอะ ๆ นะคะ แต่ถ้าใครเป็นสายชอบถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ก็ขอแนะนำเลยค่ะ
วันที่ไปก็มีบางส่วนที่เริ่มจะร่วงแล้ว แต่ยังมีบางส่วนที่บานสวยอยู่ค่ะ
ดอกฟุจิแบบใกล้ๆ ค่ะ
ดอกฟุจิพันธุ์สีขาวจะบานช้ากว่าพันธ์ุสีม่วง พันธุ์สีขาวก็สวยแปลกตาไปอีกแบบค่ะ แถมเป็นโค้งระย้าสวยมาก เหมือนกับหางจิ้งจอก
ดอกฟุจิสีชมพู พันธุ์นี้ระย้าจะสั้นกว่าพันธุ์สีม่วงและขาวค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.fujiidera-temple.or.jp/
Instagram: https://www.instagram.com/fujiidera_temple3305/
ที่อยู่ 1-16-21 Fujiidera, Fujii-shi, Osaka 583-0024
เบอร์โทรศัพท์ 072-938-0005
ค่าใช้จ่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม แต่ถ้าหากใครบริจาคเงิน 300 สมทบทุนจะได้รับของที่ระลึกค่ะ
เวลาเข้าชม 08:00-17:00