ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

ทัวร์มรดกโลกรอบญี่ปุ่น

world heritage

“มรดกโลก” คือสิ่งปลูกสร้างหรือสถานที่ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การยูเนสโกว่าเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและทางธรรมชาติในระดับนานาชาติ และไม่สามารถหาสร้างทดแทนได้อีก  มรดกโลกที่ทั่วโลกรู้จัก ตัวอย่างเช่น ทัชมาฮาล ของประเทศอินเดีย หรือ พีระมิดที่อียิปต์ ประเทศไทยเราก็มี นั่นคือ เมืองกรุงศรีอยุธยานั่นเอง

ประเทศญี่ปุ่นเขาก็มีสถานที่ที่ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกไว้หลายแห่ง โดยเฉพาะมรดกโลกด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ สถานที่เหล่านี้ ล้วนเป็นตัวแทนของประเทศ และสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศญี่ปุ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วมุมโลกเข้ามาสัมผัสคุณค่านั้นๆมายเลยทีเดียว

เรามาทัวร์ตั้งแต่เหนือจดใต้กันว่า มีสถานที่ท่องเที่ยวมรดกโลกอะไร ที่น่าไปสำรวจในประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง?

Shiretoko (Hokkaido)

photo by https://www.flickr.com/photos/teosaurio/9628557046

ทางภาคเหนือบนเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่น มีสถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกสำคัญของโลกทางด้านความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาตินั่นคือ Shiretoko ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะฮอกไกโด เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีทางรถยนต์เข้า เพื่อการอนุรักษ์ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศวิทยา  เราสามารถชมความสวยงามของสถานที่นี้ได้ด้วยการนั่งเรือชมรอบเกาะหรือการเดินเท่านั้น

Shiretoko เป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมีน้ำตาล สุนัขจิ้งจอกและนกนานาสายพันธุ์ นกเหยี่ยวขาสีขาว หรือที่รู้จักกันในนาม นกเหยี่ยวทะเล เป็นหนึ่งในนกสายพันธุ์ที่หายากและอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ในช่วงเดือนเมษายน ก็จะเป็นแหล่งของปลาวาฬ Minke whale มาว่ายวนเวียนหาอาหารแถวนี้

ความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะนี้ ทำให้ Shiretoko ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2005 และได้รับการคุ้มครองจากองค์การนานาชาติตลอดมา

photo by https://www.flickr.com/photos/veroyama/104565623/

Nikko Toshogu Shrine (Tochigi)

photo by https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Nikko_Tosho-gu_Yomeimon_Gate.jpg

สุดยอดศาลเจ้าชื่อดังในญี่ปุ่นที่อยู่ไม่ห่างจากเมืองโตเกียวนั่นคือ ศาลเจ้า Nikko Toshogu ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดโทจิกิ ถูกสร้างขึ้นด้วยโชกุนชื่อดัง Tokugawa Ieyasu ในต้นศตวรรษที่ 17 ท่ามกลางธรรมชาติ ในปี 1999 ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมโดยองค์การยูเนสโก

จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือ สถาปัตยกรรมการก่อสร้างที่โดดเด่น และความสวยงามของไม้แกะสลักที่มีความละเอียดและเรื่องราวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดตาและปิดปาก หรือลายสลักมังกร Yomeimon ที่ประตูหลัก ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมการตกแต่งที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายจุดที่น่าสนใจและใช้สถาปัตยกรรมการตกแต่งลวดลายของแต่ละอาคารอย่างสวยงาม ต่างจากศาลเจ้าอื่นๆทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น

photo by https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Three_Wise_Monkeys,Tosho-gu_Shrine.JPG

Nikko Toshogu ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ คนญี่ปุ่นเชื่อว่า เป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีพลังของเทพต่างๆในญี่ปุ่นสถิตอยู่ที่แห่งนี้ คนญี่ปุ่นนิยมมารับพลังบวกและขอพรจากเทพเจ้าในเรื่องต่างๆ ทั้งการงาน การเงินและความรัก และเขาว่ากันว่าประสบความสำเร็จตามความปรารถนากันอย่างดี

Fuji Mountain (Shizuoka/Yamanashi)

photo by https://pixabay.com/ja/photos/mt-fuji-mountain-5195924/

มรดกโลกที่ถูกบันทึกล่าสุดเมื่อปี 2013 นั่นคือ ภูเขาไฟฟูจิ ที่ทุกคนรู้จักนั่นเอง ด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมที่เปรียบเสมือนตัวแทนของคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ รวมกับความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ณ บริเวณโดยรอบของภูเขาไฟ ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำ ลำธาร น้ำตกและป่าไม้ และจุดศูนย์กลางของศาสนาพุทธนิกายชินโตที่มีศาลเจ้าตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟด้วย สร้างชื่อเสียงให้ภูเขาแห่งนี้ จนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติให้เป็นมรดกสำคัญของโลก

ภูเขาไฟฟูจิมีความสูงทั้งหมด 3776 เมตรเหนือน้ำทะเล ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท แต่เราสามารถชมความสวยงามของภูเขาไฟนี้ได้ตลอดปี จุดเด่นที่สุดคือ ในช่วงฤดูหนาว ที่มากกว่าครึ่งของภูเขาไฟปกคลุมด้วยหิมะสีขาว เป็นภาพถ่ายที่ทุกคนพูดถึง เมื่อนึกถึงประเทศญี่ปุ่น ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายนในช่วงฤดูร้อน เราสามารถปีนขึ้นไปบนยอดภูเขาไฟฟูจิ เพื่อชมแสงแรกของพระอาทิตย์ญี่ปุ่นได้ บริเวณโดยรอบของภูเขาไฟในเขตทั้งจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ นักท่องเที่ยวสามารถหาประสบการณ์แบบญี่ปุ่นโดยการแช่บ่อน้ำร้อนออนเซ็นของแท้ได้เช่นกัน

Shirakawago (Gifu)

photo by https://www.flickr.com/photos/urizev/7560879270/

สถานที่ที่ได้รับเป็นมรดกโลกโด่งดังในเขตจูบุหรือญี่ปุ่นตอนกลางคือ หมู่บ้าน Shirakawago ในเขตจังหวัดกิฟุ จุดเด่นของสถานที่นี้คือ landscape ที่เป็นวิวทิวทัศน์กลางธรรมชาติสวยงามแบบญี่ปุ่นต่างจังหวัดโบราณ ซึ่งหมู่บ้านนี้จะมีบ้านหลังเล็กใหญ่ที่มีหลังคาสามเหลี่ยม สร้างด้วยฟางหญ้า ตามสไตล์ gassho-zukuri ของญี่ปุ่นโบราณ

นักท่องเที่ยวสามารถชมธรรมชาติของหมู่บ้านแห่งนี้ได้ทุกฤดู โดยเฉพาะฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิจะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมาเยี่ยมหมู่บ้านแห่งนี้ เนื่องจาก ทัศนียภาพที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวโพลนในฤดูหนาว และทุ่งดอกไม้ทั่วหมู่บ้านในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้ Shirakawago เป็นหนึ่งในสถานที่โปรดของช่างภาพทั่วโลก

photo by https://pix4free.org/photo/539/winter-village-snow-shirakawa-go-japan.html

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารพื้นเมืองโบราณของญี่ปุ่น รวมถึงของดังในเขตจังหวัดนั่นคือ เนื้อวัว Hida Beef ซึ่งเป็นหนึ่งในเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงทั่วโลก ด้วยความนุ่มของตัวเนื้อที่เวลาเราทานเข้าไป จะละลายในปากได้เลย ยังมีของทานเล่นและขนมหวานต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้หาประสบการณ์ใหม่ๆของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่นี่อีกด้วย

Kyoto old city (Kyoto)

photo by https://www.flickr.com/photos/lukezemephotography/8152262561

เมื่อพูดถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ก็ขาดไม่ได้ที่จะพูดถึงเมืองเกียวโต  เมืองหลวงโบราณของประเทศญี่ปุ่น เมืองแห่งนี้เปรียบเสมือนกรุงศรีอยุธยาของประเทศไทยที่คลองเป็นเมืองหลวงเก่านานที่สุดของประเทศ

เกียวโตล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและเป็นจุดศูนย์กลางของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ดังๆหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัดคิโยมิสึ หรือวัดทองคินคะคุจิ ที่ทุกคนรู้จัก ก็อยู่ในเขตเมืองหลวงเก่าทั้งนั้น เมืองเกียวโตประกอบไปด้วยวัดโบราณมากกว่า 16 วัดและ 1 ปราสาทเก่า ทำให้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ มาชมความสวยงามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม จนในปีค.ศ 1994 ก็ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมทั้งเมืองเลยทีเดียว

Himeji Castle (Hyogo)

photo by https://www.flickr.com/photos/jpellgen/31689569712

หนึ่งในสามปราสาทที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ปราสาทฮิเมจิ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเฮียวโกะ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ 1333 แต่เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1617 เป็นปราสาทที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งด้านขนาดที่กว้างขวางและสีขาวสะอาดของตัวปราสาท จนได้นามว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” อีกทั้ง ยังเป็นประสาทหนึ่งเดียวที่อยู่คงสภาพดีที่สุดในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยสร้างเสร็จ และไม่เคยถูกทำลาย ไม่ว่าจะเป็นจากสงครามหรือภัยธรรมชาติเลย

ด้วยความที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์โบราณของญี่ปุ่น อายุยาวนานกว่า 400 ปี และเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยการใช้ไม้ทั้งหมดในการสร้าง ยกเว้นส่วนของป้อมและกำแพงที่สร้างจากหินๆ ทำให้ปราสาทแห่งนี้ถูกบันทึกเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกเมื่อปี 1993 เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีนักท่องเที่ยวมาชมปราสาทแห่งนี้อย่างล้นหลาม เนื่องจาก ที่นี่มีต้นซากุระนับกว่า 1000 ต้น เรียงรายกันอย่างสวยงามในบริเวณของปราสาทนั้นเอง

photo by https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Japan_040416_Himeji_Castle_001.jpg

Horyuji Temple (Nara)

photo by https://denstoredanske.lex.dk/Japan_-_religioner

เมื่อพูดถึงมรดกโลกที่สำคัญของญี่ปุ่นแล้ว ชาวญี่ปุ่นจะนึกถึงวัดโฮริวจิกันก่อน วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่แห่งแรกของญี่ปุ่นที่ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1993 พร้อมกับปราสาทฮิเมจิ

วัดโฮริวจิเป็นวัดในศาสนาพุทธ ถูกสร้างขึ้นนานกว่า 1, 300 ปีก่อนตามประวัติศาสตร์โชกิ จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือ Main Hall ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของสถาปัตยกรรมการก่อสร้าง เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกว่าเป็นอาคารไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าจะมีการถูกทำลายจากไฟไหม้มาก่อน แต่ก็ได้มีการปรับปรุงพัฒนาให้คงสภาพเดิมมากที่สุด เป็นวัดที่มีความสำคัญมาก เปรียบเสมือนมรดกที่ไม่สามารถตีเป็นราคาได้ของประเทศญี่ปุ่น

Itsukushima Shrine (Hiroshima)

photo by https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Itsukushima_shrine_01.jpg

หนึ่งในศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโดงดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น “ศาลเจ้า Itsukushima” บนเกาะมิยาจิม่าในจังหวัดฮิโรชิม่า เอกลักษณ์ของที่นี่คือ ประตูแดงหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า “Tori” หนึ่งเดียวในญี่ปุ่นที่อยู่กลางทะเล ถูกสร้างขึ้นเมื่อสมัยเมจิที่ 8 หรือ ปีคริสตศักราช 1875

ประตูแดงแห่งนี้มีความสูงถึง 16 เมตรและหนักกว่า 60 ตัน อีกหนึ่งเอกลักษณ์ทางด้านสถาปนิกในอดีตที่ต่างจากประตูแดงอื่นๆนั่นคือ ประตูแดงที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ไม่ได้สร้างตั้งบนพื้นดิน แต่ใช้น้ำหนักของเสาที่หนักพอ ปักลงไปถึงใต้พื้นทะเลนั่นเอง เมื่อเวลาน้ำขึ้นก็จะเหมือนว่าประตูแดงลอยอยู่บนทะเล แต่เมื่อเวลาน้ำลง เราก็สามารถเดินเข้าไปใกล้ๆที่ประตูแดงนี้ได้ด้วย

ศาลเจ้าแห่งนี้จริงๆแล้วถูกสร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณกว่า 1400 ปีก่อนและได้ถูกปรับปรุงและรักษาคุณภาพมาหลายครั้ง แต่ประตูแดงกลางทะเลนี้ได้ถูกสร้างขึ้นทีหลังเมื่อ 140 กว่าปีที่แล้ว จนในปีค.ศ 1996 ก็ได้ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเข้ามาถ่ายรูปกับประตูแดงที่อยู่กลางทะเลแห่งนี้ พร้อมกับมาขอพรที่ศาลเจ้เพื่อความโชคดีในชีวิตกัน

Atomic Bomb Dome (Hiroshima)

photo by https://www.flickr.com/photos/harquail/49833481792

อีกหนึ่งที่ในจังหวัดฮิโรชิม่าที่ไม่แนะนำไม่ได้เลยนั่นคือ “โดมแห่งสันติภาพ”  โดมนี้ถูกสร้างโดยสถาปนิกชาวตะวันตก เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดแสดงสินค้าต่างๆของจังหวัดฮิโรชิม่าในสมัยก่อน ทำให้มีรูปลักษณ์เหมือนสถาปัตยกรรมตะวันตกที่สวยงามในประเทศญี่ปุ่น

แต่ในปี 1945 เดือนสิงหาคม วันที่ 6 เมื่อเวลา 08:15 น ช่วงสงครามโลก สถานที่แห่งนี้ได้ถูกระเบิดนิวเคลียร์ลงกลางเมืองและเสียหายอย่างหนัก เหลือคงไว้แต่ซากของอาคารและโดมที่ยังคงรูปอยู่ องค์การยูเนสโกเลยได้เห็นความสำคัญในเรื่องสันติภาพและมนุษยธรรม จึงได้บันทึกสถานที่แห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมในปีค.ศ 1996 รวบรวมความรู้สึกเสียใจของทุกคนและความหวังเพื่อสันติสุขของโลกใบนี้ ระลึกถึงความทรงจำที่โหดร้ายและเตือนใจทุกคนให้ไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นอีก ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าจดจำและศึกษาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้

ทุกๆปีในวันที่ 6 ของเดือนสิงหาคม ก็จะมีการจัดงานอีเว้นต์ ระลึกถึงผู้คนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น รวมถึงการรณรงค์เพื่อสันติสุขของโลก ยังมีนกกระเรียนพับที่เป็นสัญลักษณ์ของสันติสุข พับและร้อยไว้อย่างสวยงามมากกว่าพันชิ้นอีกด้วย

Yakushima Island (Kakoshima)

photo by https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Shiratani_Unsui_Gorge,_Yakushima_Island,_Kagoshima;_July_2015_(05).jpg

ทางภาคใต้สุดของประเทศญี่ปุ่นก็มีสถานที่ที่ได้รับมรดกโลกนั่นคือ เกาะ Yakushima ตั้งอยู่ในจังหวัดคาโกชิม่า ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางทรัพยากรธรรมชาติโดดเด่นในปีค.ศ 1993

มีชื่อเสียงทางด้านความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ โดยเฉพาะป่าสนสีแดง (Cedar) และสัตว์ป่านานาชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ที่นี่ยังเป็นป่าที่มีต้นไม้ใหญ่ Jomon-sugi Cedar อายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่สำคัญของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีน้ำตก ลำธาร แม้แต่ชายหาดที่สวยงาม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกับธรรมชาติแบบเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ภูเขาจดทะเล ซึ่งเป็นหนึ่งในชายหาดที่จะมีเต่าทะเลมาวางไข่บนเกาะในฤดูของมัน


เห็นไหมครับว่าประเทศญี่ปุ่นยังมีหลายสถานที่ ที่น่าสนใจและรอให้นักท่องเที่ยวอย่างคุณไปค้นพบและสัมผัสกับคุณค่าทางด้านวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติอยู่ ใครที่เคยไปบางที่ใน List ที่ผมได้แนะนำไว้แล้ว ก็ให้ปักหมุดสถานที่มรดกโลกใหม่ๆของญี่ปุ่นในเขตอื่นๆกันนะครับ

Watch video in detail

 

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!