Rating
ตอนที่ 4 Nikko Golden week trip 14 วัน อันแสนยาวนานของเรายังไม่ได้จบอยู่แค่ที่โตเกียวเท่านั้น ในครั้งนี้เราเลือกที่จะเดินทางไปยัง Nikko เมืองแห่งมรดกโลกที่จริงๆแล้วอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมากเท่าไร (แต่จริงๆก็ไกลอยู่นะ) ใน 14 วัน มีทั้งหมด 6 ตอน ตามไปอ่านตอนที่แล้วข้างล่างได้เลยนะคะ
ตอนที่ 1 Enoshima and Kamakura
![S__19578963](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/02/S__19578963-2-320x180.jpg.webp)
ตอนที่ 2 Edo Tokyo Musuem-Asakusa-Nippori-Kanda
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/S__19997029-1-320x180.jpg.webp)
ตอนที่ 3 Edo Tokyo Open Air Architechural Museum-Shimokitazawa-Odaiba
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/S__20373574-1-320x180.jpg.webp)
ตอนที่ 4 Nikko <ตอนนี้>
ตอนที่ 5 Fuchu,Tokyo Kurayami Festival
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/3A1B542D-2D32-4CB0-849F-9D5EE525E4CD-320x180.jpg.webp)
ตอนที่ 6 Izu,Shizuoka
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/04/S__21168146-1-320x180.jpg.webp)
ก่อนที่เราจะเดินทางไปนิกโก้เราได้เลือกที่พักในโตเกียวแถวๆ อาซาคุสะ เพราะเราจะใช้รถไฟสาย Tobu ไปนิกโก้ ซึ่งเราต้องเริ่มมาขึ้นที่อาซาคุสะนั่นเอง จริงๆแล้วพาสที่ไปนิกโก้มีพาสอื่นๆด้วย แต่ทริปนี้เราประหยัดและมีเวลาเหลือเฟือ แบบไม่รีบ (ยังไม่รู้สินะจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้) เราจึงซื้อพาส Nikko Pass all area จาก บริษัท Tobu railway มา ซึ่งNikko Pass all area ที่เราซื้อมาอยู่ที่ราคา 4600 เยน ใช้ได้ถึง 4 วัน เลยนะ ไอเจ้าพาสนี้นอกจากจะใช้ขึ้นรถไฟ (Local) ไปยัง นิกโก้ได้แล้ว ยังใช้นั่งรถบัสไปวัดต่างๆในนิกโก้ ออนเซ็น และที่เที่ยวอื่นๆในนิกโก้ได้ด้วย พาสนี้จึงเป็นพาสที่คุ้มเกินคุ้มมากจริงๆ แต่ราคา 4600 เยนนี้ เราก็จะได้นั่งรถไฟหวานเย็น แบบดูวิวสองข้างทางไปเพลินๆนะ แต่ถ้าใครมีเวลาน้อยก็เพิ่มเงินตอนซื้อตั๋วจองรถไฟ Express ได้ รายละเอียด ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้เลยนะคะ https://www.tobu.co.jp/foreign/en/pass/all.html วันแรกเราเดินทางออกจากอาซาคุสะประมาณ 10 โมง กว่าเราจะเดินทางไปถึงนิกโก้ ก็ต่อรถไฟประมาณ 3 ต่อก็เกือบจะบ่าย 3โมง แล้ว โรงแรมที่เรานอนเป็นโฮสเทลอยู่ใกล้สถานีรถไฟ สะดวกสบายมากๆ และราคาถูกที่สุดในเวลานี้แล้ว และตามคาดเลย คนมหาศาลมาก เหมือนทุกคนตามเรามาจากโตเกียวมาอยู่ที่นิกโก้ เวลาเหลือน้อยเต็มที เราเลยนั่งรถบัสไปลงเจ้าสะพานแดง ตอนขึ้นรสโชว์บัตรกับพาสปอร์ตให้พนักงานขับรถแล้วเดินขี้นได้เลย เจ้าสะพานแดงเนี่ยที่ทุกคนมานิกโก้แล้วต้องถ่ายรูปกัน มันคือที่นี่เองหรอ ... พยายามหามุมถ่ายรูปอยู่นาน แต่คนเยอะมากจริงๆ เลยยอมแพ้รีบวิ่งไปวัดเพราะเวลาเหลือน้อยๆมากจริงๆ เราเดินมาถึงวัด วัดก็ดันปิด เลยได้เดินชมดูภายนอก ที่นี่ถือเป็นที่รวบรวมวัดสวยๆ ที่ไม่เคยเห็นในญี่ปุ่นมาก่อนเลย แบบเดินได้หลายๆวัด ผู้ใหญ่ที่บ้านน่าจะชอบนิกโก้แน่นอน
ถึงแม้วัดจะปิด แต่ที่ไม่หายไปเลยคือคน คนค่ะ ยิ่งกว่าโตเกียวอีกค่ะ เหมือนว่าทุกคนจะตามเรามา เดินไปทางไหนก็คนเยอะมาก ร้านขายของฝาก ตามท้องถนน แต่เราว่าบรรยากาศแบบนี้ก็ดีไปอีกอย่างสำหรับการมาเที่ยวคนเดียว เพราะไม่เหงาดี ขากลับเราเลยเดินเลาะถนนลงตามเนิน เพราะถนนที่นี่จะเป็นเนินๆนะคะ กลับโรงแรม แวะดูร้านค้าที่เริ่มปิดพอฟ้าเริ่มมืดลง อากาศที่นี่หนาวตามภาษาพื้นที่ภูเขา เรานอนเร็วมาก เพราะพรุ่งนี้จะรีบตื่นไปทะเลสาบ Chuzenjiko
เราตื่นมา 7 โมงเช้านั่งกินซาลาเปาตรงสถานีรถไฟ ก่อนจะขึ้นรถบัสไปยัง Akechidaira Ropeway ซึ่งอยู่บนเขาอันไกลโพ้น น่าจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที แต่...เพราะนี่คือ Golden week รถติดแบบสุดๆ ติดแค่ถึงตรงสะพานแดงเท่านั้นก็เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็ใช้เวลา 40 นาทีก็ถึงแล้ว Golden week ทำพิษเลย ที่ Akechidaira Ropeway หากเรามีพาส ค่าขึ้นเราไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกแล้ว แค่โชว์พาสก็ขึ้นได้เลย (มันคุ้มมากจริงๆ) ขึ้นไปข้างบนเราสามารถชมวิวทะเลสาบ Chuzenjiko และน้ำตกKegon จากตรงนี้ได้เลย
Ropeway
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/1BDCD021-109E-48B3-8D55-EF51675B3692-768x512.jpg.webp)
วิวจากจุดชมวิว
หลังจากได้ชมวิวเราก็ขึ้นรถบัสเพื่อจะไปขึ้นเรือชมวิวในทะเลสาบChuzenjiko ซึ่งค่าตั๋วขึ้นเรือก็รวมอยู่ในพาสด้วย แต่พอเราไปถึงจุดขายตั๋วพนักงานบอกว่า วันนี้งดออกเรือ เนื่องจากลมแรงมากเกินไป เรือไม่น่าจะต้านทานไหว ซึ่งลมก็แรงจริงๆ แพลนล่มไปหนึ่งอย่าง นอกจะมาถึงช้ามาก ท้องก็ร้องมากด้วย ตรงข้ามกับท่าเรือ มีร้านทงคัตสึคนยืนต่อคิวรอหน้าร้านยาวมาก หิวแล้วก็ขอไปยืนรอด้วยล่ะกัน (ไม่รู้ว่าจะรอนานขนาดไหน) ลืมไปนี่มัน Golden week เรายืนรอหน้าร้านนี้ประมาณ 2 ชั่วโมง!!! แต่ระหว่างยืนรอก็ได้คุยกับคนญี่ปุ่นที่ยืนรออยู่ข้างๆกัน เป็นคุณป้ามาจาไซตามะ ถามว่าเรามาเที่ยวคนเดียวหรอ ก่อนจะบอกว่าถึงจะเป็นญี่ปุ่นก็ไม่ปลอดภัยนะ 555 พอเข้ามาในร้านเลยพอจะเข้าใจได้บ้าง เพราะร้านมีที่นั่งจำกัดนั่นเอง ราคาอาหารไม่เกิน 1000 เยน ซึ่งถือว่าโอเคสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญ อร่อยมากๆๆ นี่เป็นทงคัตสึที่อร่อยที่สุดในชีวิตอีกแล้ว
ท่าเรีอ
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/7B8B118E-4C6C-4887-A151-C39B26AAB9CF-768x512.jpg.webp)
ร้านทงคัตสึ
อิ่มแล้วเราก็นั่งรถขึ้นไปอีกฝั่งหนึ่งของทะเลสาบ เพราะอยากไปแช่ออนเซ็นที่ Yumoto Onsen วิวสองข้างทางก่อนถึงก็สวยประทับใจดีจริงๆ ก่อนมาเราได้หาว่าที่นี่มี Public Onsen อยู่ในวัด Onsenji ไม่รู้ว่าเป็นคนน่าสงสารหรืออะไร ออนเซ็นก็ปิดไปอีก หนาวก็หนาว น่าสงสารไปแล้วนะเรา เลยเดินเล่นละแวกนั้น ถ่ายรูปรอบๆทะเลสาบ Yunoko ก่อนจะนั่งรถบัสกลับมาที่ ทะเลสาบ Chuzenjiko ดูพระอาทิตย์ตก
ออนเซ็นปิด แต่วัดไม่ปิด
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/57EAC511-1668-4E05-91F1-994F3E5E517B-768x512.jpg.webp)
Yunoko Lake
![](https://ohhotrip.com/wp-content/webp-express/webp-images/doc-root/wp-content/uploads/2020/03/1C11379D-5074-4471-8DB4-84D76947DB1D-768x512.jpg.webp)
Yunodaira
จบวันเฟลๆด้วยพระอาทิตย์ตกที่ Chuzenjiko สวยงามประทับใจมาก ก่อนจะเดินทางกลับโรงแรมด้วยรถบัส วันสุดท้ายในนิกโก้ก่อนเดินทางกลับโตเกียว เราแวะไปซื้อชีสเค้กร้านเล็กๆข้างสถานีรถไฟ ชื่อร้าน Meji no Yakata ชีสเค้กนุ่มละมุนมาก หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟหวานเย็นกลับโตเกียว ผิดขบวน 5555 ชีวิตน่าสงสารเกินไปแล้ว ตอนต่อไปของเราจะเป็นการไปงานเทศกาลในโตเกียวครั้งแรกของเรา ติดตามตอนต่อไปกันนะคะ 🙂