ช้อปปิ้ง ของฝากจากญี่ปุ่น

คอลลาเจนญี่ปุ่น แบรนด์ไหนข้อดีข้อเสียอย่างไร พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อที่คุณต้องรู้

หนึ่งในเคล็ดลับที่ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำสุขภาพดีของสาวญี่ปุ่นคือคอลลาเจน ซึ่งจริงๆ แล้วคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่พบได้ในผิวหนัง กระดูกอ่อน กระดูก เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย ได้มาจากอาหารที่มีโปรตีน อย่างเช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ไก่ นม เป็นต้น โปรตีนจากอาหารเหล่านี้มีหน่วยย่อยเป็นกรดอะมิโน ซึ่งจะย่อยสลายและแตกตัวใหม่เป็นโปรตีนลักษณะอื่นๆ หรือคอลลาเจนรูปแบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าคอลลาเจนทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ทั้งยังช่วยลดริ้วรอยตามวัยได้ แต่ยิ่งเราอายุเพิ่มมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนของร่างกายก็น้อยตามลงไปด้วย จากช่วงวัยหนุ่มสาวที่ผิวหนังประกอบด้วยคอลลาเจนถึง 75% ก็จะค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปในแต่ละปีราว 1.5% ซึ่งยิ่งร่างกายผลิตคอลลาเจนน้อยลงก็ยิ่งก่อให้เกิดริ้วรอย ความเหี่ยวย่น และความแข็งแรงของข้อต่อที่ลดน้อยลงตามไป นั่นเป็นที่มาของคอลลาเจนหลายรูปแบบในท้องตลาด โดยเฉพาะคอลลาเจนญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าตลาดมายาวนาน ซึ่งบทความนี้เราได้รวมข้อมูล ข้อดีข้อเสียของแต่ละแบรนด์ยอดนิยม รวมทั้งเคล็ดลับว่าเราจะเลือกซื้ออย่างไรให้ปลอดภัย และช่วยให้ผิวหนัง ผม เล็บ รวมทั้งข้อต่อของเราแข็งแรงขึ้นได้


  • ร่างกายเรารับคอลลาเจนได้สูงสุด 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนที่เกินจะถูกขับออกจากร่างกาย
  • ควรเลือกซื้อคอลลาเจนที่ได้รับอนุญาติจากกรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งศึกษารายละเอียดของผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ
  • คอลลาเจนควรกินตอนท้องว่าง ได้ทั้งตอนเช้า หรือก่อนเข้านอน แล้วดื่มน้ำตามมากๆ
  • การกินคอลลาเจนให้เห็นผล ต้องกินติดต่อกัน 8 สัปดาห์ขึ้นไปเป็นอย่างน้อย
  • คอลลาเจนมีทั้งแบบผง เม็ด และเครื่องดื่มสำเร็จ จึงควรศึกษาผลิตภัณฑ์แต่ละแบบให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรา
  • วิตามินซี ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เพราะฉะนั้นจึงมีคำแนะนำให้ชงคอลลาเจนผงกับน้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง หรือการกินวิตามินซีควบคู่ไปด้วย
  • จริงๆ แล้วหากรับประทานอาหารเพียงพอ หลีกเลี่ยงแสงแดด ลดอาหารที่มีผลลดอนุมูลอิสระในร่างกาย ไม่สูบบุหรี่ คอลลาเจนในร่างกายก็มีเพียงพอ การกินคอลลาเจนเสริมจึงไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่แพ้อาหารทะเล และโปรตีน
  • สำหรับผู้ที่กินยาอื่นอยู่ด้วย อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการกินคอลลาเจนเพื่อความปลอดภัย

Note: คอลลาเจน Type I, II

คอลลาเจนแบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่หลักๆ ที่พบในร่างกายคนเราคือคอลลาเจนแบบที่ 1 ซึ่งมีปริมาณสูงที่สุดในร่างกายมนุษย์ คอลลาเจนประเภทนี้เกิดจากอีโอสิโนฟิลไฟเบอร์ ซึ่งสร้างส่วนต่างๆ ในร่างกายคือเอ็น เส้นเอ็น และผิวหนัง มีความสำคัญต่อความยืดหยุ่นของผิวหนังและป้องกันเนื้อเยื่อไม่ให้ฉีกขาด สำหรับคอลลาเจนแบบที่ 2 เป็นคอลลาเจนที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน ช่วยให้สุขภาพของข้อต่อดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น 

คอลลาเจนญี่ปุ่น ท็อปแบรนด์ในดวงใจ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็ถึงเวลาไปเลือกคอลลาเจนแบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นกันแล้ว เราได้รวบรวมแบรนด์ที่เน้นปริมาณคอลลาเจนเป็นหลัก พร้อมข้อดีข้อเสียที่ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาไปสับสนอยู่ในร้านตอนช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นอีกต่อไป

Meiji Amino Collagen

เมจิ อะมิโน คอลลาเจน เป็นแบรนด์อันดับต้นๆ เรื่องคอลลาเจนในญี่ปุ่น มาตรฐานของแบรนด์เมจิรับประกันด้วยสินค้าคุณภาพดีมากมาย และตัวแบรนด์เองก็มีอายุร้อยกว่าปีแล้ว ไลน์คอลลาเจนของเมจิเริ่มวางจำหน่ายในปี 2002 และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้  คอลลาเจนของเมจิในตอนนี้มีทั้งแบบผง และแบบพร้อมดื่ม เราแนะนำแบบชงที่เหมาะกับการติดบ้านเอาไว้เลย ตอนนี้มีทั้งหมด 3 แบบ คือแบบมาตรฐาน (Standard), แบบพรีเมี่ยม (Premium) และแบบเพิ่มแคลเซียม (Plus Calcium) ถ้าเป็นหนุ่มสาวก็เลือกแบบมาตรฐานได้เลย สำหรับใครที่อายุ 40 ขึ้นไปเลือกแบบพรีเมียมก็จะมีเซราไมท์, กรดไฮยารูโลนิก และโคเอนไซน์คิวเทน ที่ทำให้ผิวชุ่มชื้นสุขภาพดียิ่งขึ้น ส่วนแบบเพิ่มแคลเซียม จะมีส่วนผสมแคลเซียมเพิ่มขึ้น และกลูโคซามีนที่สูงกว่าสูตรอื่นหนึ่งเท่า ช่วยเพิ่มน้ำเลี้ยงในข้อต่อ ทั้งสามสูตรเป็นคอลลาเจนจากปลาที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก 5,000 มิลลิกรัม ทั้งยังมีวิตามินซี, กลูโคซามีน และกรดอะมิโน เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งครบถ้วนความเป็นคอลลาเจนที่ดี รับประทานเพียงวันละ 1 ช้องตวง หรือ 7 กรัม ก็จะได้คอลลาเจน 5,000 มิลลิกรัม  Meiji Amino Collagen รายละเอียด: แบบมาตรฐาน หนึ่งกระป๋อง 200 กรัม สำหรับ 28 วัน ราคา 2,980 เยน (ราคาอ้างอิงตามเวบไซต์เมจิ) ข้อดี: แบรนด์มาตรฐาน ได้รับความนิยม คอลลาเจน 5,000 มิลลิกรัม พร้อมวิตามินซี กลูโคซามีน และกรดอะมิโน ข้อเสีย: พกพาไม่สะดวก เหมาะสำหรับชงดื่มในบ้าน มีกลิ่นอยู่บ้างแต่ชงดื่มบ่อยๆ จะเริ่มชิน เวบไซท์: https://www.meiji.co.jp/health/amicolla/th/

SHISEIDO The Collagen

อีกแบรนด์คอลลาเจนยอดนิยมที่อยู่มายาวนานในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะตัวแบรนด์ Shiseido ก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ก่อตั้งในปี 1872 โดย อาริโนบุ ฟุกุฮาระ หัวหน้าเภสัชให้กับโรงพยาบาลกองทัพเรือญี่ปุ่น ในตอนนั้นเขาได้เปิดร้านขายยาแบบตะวันตกแห่งแรกขึ้นที่ย่านกินซ่า หลังจากนั้นชินโซ ฟุกุฮาระ ทายาทของแบรนด์ได้เริ่มนำวัตถุดิบชั้นดีทั่วโลกมาผลิตเป็นยารักษาโรค ซึ่งพัฒนาจนเป็นแบรนด์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และอีกมากมายกระทั่งคอลลาเจนที่ Shiseido ถือว่ายืนหนึ่งอยู่แถวหน้ามาโดยตลอด SHISEIDO The Collagen ทุกวันนี้หลักๆ แล้วมีทั้งรูปแบบผงชง (The Collagen Powder) แบบเม็ด (The Collagen Tablet, The Collagen Enriched Tablet V, The Collagen EX Tablet) และแบบเครื่องดื่ม (The Collagen EX Drink V, The Collagen Enriched Drink V) จำง่ายๆ คือ V รุ่นยอดนิยม สำหรับใครที่อายุน้อยกว่า 35, EX รุ่นกลาง สำหรับอายุ 30-40 ปี และ Enriched รุ่นพรีเมียม สำหรับอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือแบบเครื่องดื่มที่เราน่าจะเห็นจนชินตาเวลาไปช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น ซึ่งดื่มง่ายด้วยรสผสไม้รวมออกเปรี้ยวสดชื่น โดยภาพรวมคอลลาเจนของชิเซโด เป็นคอลลาเจนโมเลกุลต่ำจากปลาทะเลที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี 5,000 มิลลิกรัม พร้อมด้วยสารสลัดเพื่อความงาม 7 อย่าง เช่น สารสกัดจากส้มแมนดาริน, ลินกอนเบอรี่ ​(Lingonberry) ที่เป็นเอกสิทธิ์ของแบรนด์ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสายตา, ส่วนผสมสารสกัดจากมะยมอินเดีย (Amla Fruit) ที่ใช้ในการแพทย์อายุรเวทมานับพันปี, รวมถึงกรดไฮยารูโลนิก เซราไมด์ และวิตามินซีอยู่ด้วย  SHISEIDO The Collagen รายละเอียด: แบบผงชง ซองละ 126 กรัม สำหรับ 21 วัน (วันละ 1 ช้อน หรือ 6 กรัม)  ราคา 2,160 เยน, แบบเม็ด หนึ่งกระปุกมี 126 เม็ด สำหรับ 21 วัน (วันละ 6 เม็ด) ราคา 3,240 เยน, ส่วนแบบเครื่องดื่ม แพค 10 ขวด สำหรับ 10 วัน ราคา 2,700 เยน (ราคาอ้างอิงตามเวบไซต์ชิเซโด้) ข้อดี: แบรนด์มาตรฐาน แบบผงชงเหมาะสำหรับติดบ้าน แบบเครื่องดื่มขวดเล็กพกพาง่าย รสเปรี้ยวดื่มง่าย ข้อเสีย: แบบเครื่องดื่มราคาสูงพอสมควร ส่วนแบบเม็ดต้องกินวันละ 6 เม็ด เวบไซท์: https://www.shiseido.co.jp/collagen/

DHC Collagen

DHC คือแบรนด์ที่คุ้นหูคุ้นตามายาวนาน ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1972 ในชื่อเริ่มต้นว่า Olive Virgin Oil ผู้ผลิตเครื่องสำอาง วิตามิน และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมาตลอด ความโดดเด่นคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยเน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติ มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลา  ยิ่งเข้าสู่ยุคที่ร่างกายแข็งแรงคือสินทรัพย์สำคัญ DHC ยิ่งเติบโตกว้างขวางและก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นในด้านอาหารสุขภาพและเครื่องสำอาง วิตามินของ DHC น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์คู่ใจของหนุ่มสาวญี่ปุ่น เพราะมีครบครันทุกความต้องการ ซึ่งในหมวดของคอลลาเจน DHC Collagen ก็ได้รับความนิยมแพร่หลายด้วยความที่มาเป็นแบบเม็ดเพียง ทำให้พกพาสะดวก ทานง่ายไม่ต้องชงเครื่องดื่มให้วุ่นวาย  DHC Collagen เป็นอะมิโนคอลลาเจนที่มาจากปลาทะเล พร้อมด้วยวิตามิน B1 และ B2 ที่ช่วยเรื่องความเรียบเนียนอ่อนเยาว์ของผิว โดยหนึ่งวันรับประทานทั้งหมด 6 เม็ด แนะนำว่าควรกินพร้อมกันหลังอาหารเย็น ซึ่งในคอลลาเจน 6 เม็ดจะมีคอลลาเจนเปปไทด์ 2050 มิลลิกรัม วิตามิน B1 จำนวน 14 มิลลิกรัม และวิตามิน B2 จำนวน 2 มิลลิกรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 7.8 แคลอรี่ DHC Collagen รายละเอียด: ซองสำหรับ 90 วัน (วันละ 6 เม็ด) ราคา 2,048 เยน (ราคาอ้างอิงตามเวบไซท์ DHC) ข้อดี: ราคาถูกกว่าแบรนด์อื่น พกพาง่าย ไม่ต้องชงดื่ม, แบรนด์มาตรฐานและเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ข้อเสีย: การรับประทานครั้งละ 6 เม็ด ใครที่กินยายากคงไม่ชอบใจนัก เวบไซท์: https://www.dhc.co.jp/en/goods/goodsdetail.jsp?gCode=32168

วิตามิน DHC ที่น่าสนใจ พร้อมวิธีกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด“การมีสุขภาพดีคือทรัพย์สินรูปแบบใหม่” เคยได้ยินคำนี้กันไหม ในยุค 202...
วิตามิน DHC
อาหารเสริม และ วิตามิน DHC ยอดนิยม 10 อันดับสำหรับคนยุคปัจจุบันที่มีชีวิตเร่งรีบ จนยากที่จะรับประทานอาหารได้อย่า...

Asahi Collagen

สำหรับอาซาฮี คงแทบไม่ต้องอธิบายให้มากความ เพราะเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม ชา กาแฟ รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหาร และอาหารเสริมต่างๆ มากมาย ประวัติยาวนานตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปี 1949 คอลลาเจนของอาซาฮีมีทั้งแบบผงชง เจลลี่ และเครื่องดื่ม แต่ที่เป็นผลิตภัณฑ์ยอดฮิตก็ต้องยกให้แบบผงชง ซึ่งยังแยกออกเป็น 3 แบบ คือ Perfect Asta Collagen Premier Rice สีทอง (คอลลาเจน 5,500 มิลลิกรัม + รกแกะ 1,500 มิลลิกรัม), Perfect Asta Collagen Powder สีชมพู (คอลลาเจน 5,300 มิลลิกรัม + กรดไฮยารูโลนิก 30 มิลลิกรัม) และ Perfect Asta Collagen Grand Rice สีขาว (คอลลาเจน 5,500 มิลลิกรัม + กรดไฮยารูโลนิก 30 มิลลิกรัม)  คอลลาเจนทั้ง 3 แบบของอาซาฮีเป็นคอลลาเจนเปปไทด์จากปลาทะเลน้ำลึก ทั้งยังผสมวิตามินซี, กลูโคซามีน ไฟเบอร์ และโคคิวเท็นอีกด้วย  Asahi Collagen รายละเอียด: แบบผงชง Perfect Asta Collagen Powder สีชมพู หนึ่งกระป๋อง 210 กรัม สำหรับ 28 วัน ราคา 2,000 เยน (ราคาอ้างอิงตามเวบไซต์อาซาฮี) ข้อดี: ไม่มีกลิ่น ละลายน้ำเร็ว มีส่วนผสมแลคติกแอซิดแบคทีเรีย ที่ช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ แบรนด์อาซาฮีที่มีมาตรฐานได้รับการยอมรับ ข้อเสีย: ไม่สะดวกในการพกพา  เวบไซท์: https://www.asahi-gf.co.jp/special/perfectcollagen/products/powder.html

Milcolla

อาจจะเป็นคอลลาเจนคุ้นหูน้อยที่สุดที่คัดเลือกมา แต่ Milcolla เป็นคอลลาเจนของแบรนด์ SUNTORY ที่ตัวแบรนด์เองก็เป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งมานานกว่า 120 ปี ซึ่งคอลลาเจน Milcolla ก็ได้รับการพัฒนาและผลิตภายใต้มาตรฐานสากล  Milcolla มีส่วนผสมของคอลลาเจนเปปไทด์ 5,000 มิลลิกรัม ที่ซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว มีวิตามีซี แคลเซียม เซราไมท์นม ไม่มีน้ำตาล ไม่มีคอเรสโตรอล และให้พลังงานเพียงซองละ 25 กิโลแคลอรี่ รสชาติดีคล้ายรสนมอ่อนๆ กินง่ายด้วยการฉีกซองแล้วเทผสมกับเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น  ความน่าสนใจของ Milcolla คือรูปของคอลลาเจนที่มีอะมิโนเรียงต่อกันเพียงสองตัว PO/OG (Proline + Hydroxyproline และ Hydroxyproline + Glycine) มีขนาดโมเลกุลเล็กมากเพียง 200 ดาลตัน ทำให้ร่างกายดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว  Milcolla รายละเอียด: หนึ่งกล่องมี 30 ซอง สำหรับ 30 วัน ราคา 4,500 เยน (อ้างอิงราคาจากเวบไซท์ซันโตรี) ข้อดี: แบรนด์มาตรฐาน ปลอดภัย กินง่ายวันละหนึ่งซอง พกพาสะดวก ข้อเสีย: ราคาสูง เมื่อเทียบกับคอลลาเจนแบรนด์อื่น เวบไซท์: https://www.suntory-kenko.com/supplement/main/43370/


Note: นอกจากอาหารเสริมคอลลาเจน อาหารที่เรากินในชีวิตประจำวันก็มีคอลลาเจนเช่นเดียวกัน ซึ่งอาหารที่มีคอลลาเจนสูงอย่างเช่น

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
paperback_writer
เกิดและเติบโตมาพร้อมๆ กับการเดินทางบนเบาะหลังรถของพ่อแม่ ปัจจุบันเขียนหนังสือเป็นอาชีพ และหลงรักการท่องเที่ยวด้วยความเชื่อว่าโลกใบนี้ยิ่งใหญ่ เราเป็นเพียงฝุ่นจิ๋วในจักรวาล ชอบโตเกียวและเกียวโต หลงรักวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เรียบง่ายแต่งดงาม ปัจจุบันกำลังหลงใหลการอาบน้ำร้อนและการอาบป่า
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!