ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

เจาะลึกการทำงานในประเทศญี่ปุ่น

หัวข้อที่เกี่ยว
|
เจาะลึกการทำงานในประเทศญี่ปุ่น

การทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ณ ประเทศญี่ปุ่น อาจเป็นความฝันของหลายคนที่ชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นและเรียนภาษาญี่ปุ่นมา ด้วยเหตุผลที่บริษัทญี่ปุ่นให้รายได้เริ่มต้นที่สูงและมีสวัสดิการให้อย่างเต็มที่ โดยเฉลี่ยแล้ว พนักงานจบใหม่จะมีรายได้เริ่มต้นที่ 200,000 เยนหรือประมาณ 57,000 บาท ไม่รวม allowance ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่ารถหรือค่าเช่าบ้านที่บริษัทใหญ่ๆจะมีให้พนักงานกัน เลยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ค่าแรงสูงและเป็นที่นิยมแก่ชาวต่างชาติหลายคนที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ย้ายมาหางานกันในญี่ปุ่น

แต่ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การปรับตัว ปรับความเข้าใจให้เข้ากับสังคมการทำงานในประเทศญี่ปุ่นนั้นสำคัญมาก วันนี้ผมได้สรุปข้อควรรู้และสิ่งที่ควรเข้าใจไว้ก่อนที่จะเริ่มทำงานกับชาวญี่ปุ่น เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้นแก่ผู้ที่สนใจอยากจะไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นครับ

1) การเริ่มงานวันแรก

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.illust-box.jp/sozai/132587/

สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเข้างานวันแรกในบริษัทญี่ปุ่นคือ การเดินแนะนำตัวและทักทายทุกแผนกและผู้ใหญ่ทุกคนในบริษัท ตั้งแต่ผู้บริหารชั้นสูงไปจนถึงผู้จัดการทุกแผนกไม่ว่าเราจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม นี่คือวัฒนธรรมการทักทายที่ชาวญี่ปุ่นถือกันมาตั้งแต่อดีตและให้ความสำคัญแก่การทักทายแนะนำตัวให้รู้จักกับทุกคนภายในบริษัท อย่างน้อยก็ต้องกล่าวให้รู้จักชื่อตัวเองและฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคน

ในแผนกตัวเองก็ควรจะแนะนำตัวให้มากขึ้นว่า ตัวเองมาจากที่ไหนและมีงานอดิเรก ความชอบอะไรเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานและรุ่นพี่ในแผนก ปิดท้ายด้วยการกล่าวฝากเนื้อฝากตัว ไม่ว่าตัวเองจะมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่ แต่การฝากเนื้อฝากตัวแบบถ่อมตัว ให้ช่วยสอนและแนะนำในเรื่องต่างๆเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในวันแรกครับ หัวหน้าแผนกจะเป็นคนพาเดินแนะนำอยู่แล้ว ให้เราเตรียมตัวไว้ได้เลย

2) การแต่งกาย

ขอบคุณรูปภาพจาก https://biz.menz-style.com/item/pr?pr_id=834

ความสุภาพและเรียบร้อยเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในวัฒนธรรมญี่ปุ่น การแต่งกายมาทำงานในกรณีที่ไม่มีชุดยูนิฟอร์ม เราควรจะเลือกเสื้อผ้าสีสุภาพ ตัวอย่างเช่นสีน้ำตาล สีดำ สีกรม หรือสีเทาในกรณีใส่สูท เสื้อเชิตก็ควรจะเป็นสีสะอาด สีขาวหรือสีฟ้าอ่อน ชาวญี่ปุ่นมองสีสดเช่น แดงหรือส้ม เป็นสีที่ไม่สุภาพและไม่เหมาะกับการใส่มาทำงาน ถึงแม้ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มีแฟชั่นสีสันมาก แต่เมื่อมาทำงานแล้ว ทุกอย่างต้องดูสุภาพและเรียบร้อย

ผู้ชายต้องให้ความสำคัญกับความเรียบร้อยของเสื้อเชิ้ตที่ต้องเรียบเสมอ และเนคไทต้องเป็นสีที่สุภาพไม่มีลายมากเกินไป ไม่ควรที่จะใช้เนคไทสีสันเด่นๆและมีลายการ์ตูนไปทำงาน ควรเลือกสีโทนเข้มไม่ว่าจะดำหรือสีกรม สามารถมีลายทางได้แต่ต้องดูแล้วสุภาพ

ผู้หญิงสามารถใส่ชุดเดรสที่มีสีอ่อน สีครีม สีขาว สีฟ้าได้ แต่ไม่ควรใส่สีฉูดฉาด การเลือกใช้กระเป๋าและรองเท้าก็ควรจะเป็นรายเรียบหรือมีลายทางสุภาพ ไม่ควรใช้กระเป๋าที่มีสีสันฉูดฉาดหรือมีลายดอกไม้ การ์ตูนต่างๆเพราะจะดูไม่เป็น Professional

การจัดทรงผม ไม่ว่าผู้หญิงกับผู้ชายต้องให้เรียบร้อย มีการจัดทรงที่ดี ไม่ยุ่งเหยิง สามารถลงแว๊กและจัดสไตล์ทรงผมได้

ขอบคุณรูปภาพจาก http://design-dtp.net/working-fashion/

3) การตรงต่อเวลา

ขอบคุณรูปภาพจาก  https://lostash.jp/sales/business-manners/1077327

ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อเวลามากแม้แต่นาที การตรงต่อเวลาเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในการทำงานถือเป็นหนึ่งคุณสมบัติที่ทุกคนต้องมีเป็นพื้นฐาน

เวลาเข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ก็จะมีการตอกบัตรโดยใช้บัตรประจำตัวพนักงานไปที่เครื่องตอกเวลา พนักงานทุกคนจะมาถึงออฟฟิศโดยประมาณ 10 ถึง 15 นาทีก่อนเวลาเริ่มงานเพื่อเตรียมตัวในการทำงาน ตัวอย่างเช่น เก็บกระเป๋า เปิดคอมพิวเตอร์หรือเซ็ตห้องประชุมไว้ก่อนเวลางาน ถ้ามีเวลาเหลือ ส่วนใหญ่ก็จะนั่งกินกาแฟกัน

ถ้ามีการนัดหมายในด้านธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกับแผนกอื่นๆในบริษัท หรือคู่ค้าภายนอก การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญและสามารถส่งผลถึงความสำเร็จในตัวงานและธุรกิจที่เรารับผิดชอบอยู่ได้ ถ้าเรามาสาย คู่ธุรกิจจะมองว่าเราขาดความรับผิดชอบทันทีและโอกาสสูงที่จะไม่เซ็นสัญญาหรือร่วมงานกับเรา

เราควรจะไปก่อนเวลานัด 10-15 นาที หรือถ้าเป็นสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ให้ไปล่วงหน้าก่อนอย่างน้อย 30 นาที เพื่อตรวจสอบสถานที่ให้ถูกต้องกันหลงทาง ส่วนเวลาที่เหลือ เราสามารถหาร้านกาแฟ นั่งเตรียมงานได้อยู่แล้ว ดีกว่าไปสายและเสียงาน

4) ภาษาในการสนทนา 

ภาษาญี่ปุ่นจะมีกลุ่มคำพิเศษที่มีชื่อว่า 敬語・尊敬語 (Keigo・Sonkeigo) หรือภาษาไทยเรียกว่า กลุ่มคำยกย่องและถ่อมตัว เป็นภาษาสุภาพที่ใช้ในการพูดกับผู้ใหญ่และในทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสนทนากับรุ่นพี่ หัวหน้า ผู้จัดการ ผู้บริหารหรือลูกค้าคู่ธุรกิจ ทุกคนจำเป็นต้องรู้จักการใช้คำยกย่องและถ่อมตัวให้ถูกต้อง ทั้งเวลาสนทนารวมถึงการส่งอีเมลต่างๆ

ตัวอย่างเช่น

食べます เปลี่ยนเป็น召し上がります(ยกย่อง)頂きます(ถ่อมตัว)
Tabemasumeshiagarimasu itadakimasu

รูปธรรมดาจะใช้ในชีวิตประจำวันเวลาคุยสนทนากับคนรู้จักและเพื่อนๆ รูปยกย่องจะใช้เวลากล่าวถึงผู้ที่สูงกว่า ตัวอย่างเช่น หัวหน้าหรือลูกค้า ส่วนรูปถ่อมตัว ใช้ในการพูดถึงตัวเองเวลาอยู่กับผู้ที่อาวุโสกว่าครับ

ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับใช้ภาษาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในมารยาททางสังคมที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตลอด อาจจะยากสำหรับคนไทยในเบื้องต้น แต่เราสามารถฝึกฝนกันได้ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ต้องเรียนการใช้ภาษายกย่องและถ่อมตัวที่ถูกต้อง เพราะปกติแล้วคำพวกนี้จะไม่ใช้ในชีวิตประจำวัน ทางบริษัทจะจัดเทรนนิ่งในเรื่องของการใช้ภาษาและมารยาทในการทำงานที่ถูกต้องตามธรรมเนียมประเพณีญี่ปุ่นให้กับพนักงานที่จบใหม่ก่อนที่จะเริ่มทำงาน

โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว การโรงแรมและการบริการ เรื่องคำยกย่องและถ่อมตัวเป็นสิ่งสำคัญมาก บริษัทจะจัด Training อย่างเข้มงวดในเรื่องนี้เช่นเดียวกันเพื่อสามารถต้อนรับลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด

5) การจัดตำแหน่งงาน

ขอบคุณรูปภาพจาก https://schoo.jp/biz/column/391

พนักงานจบใหม่ที่เข้ามาทำงานในบริษัทญี่ปุ่นจะเริ่มต้นในตำแหน่งพนักงานทั่วไปหรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 総合職 (sougoushoku) สำหรับนักเรียนที่เรียนสายศิลป์มา และ 技術職 (gijutsushoku) สำหรับนักเรียนที่เรียนสายเทคโนโลยีหรือวิศวกรมา

บริษัทญี่ปุ่นจะจัดตำแหน่งให้หลังจากจบการ General Training ประมาณ 2-3 อาทิตย์ โดยที่เราสามารถยื่นเรื่องขอตำแหน่งหรืองานที่อยากจะทำได้ แต่ก็จะไม่มีการสัญญาว่าจะได้รับตำแหน่งที่อยากจะทำหรือเปล่า

ถ้าจบมาจากสายศิลป์ ไม่ว่าคุณจะจบมาจากคณะไหน คุณอาจจะได้ทำงานฝ่ายบุคคล งานบัญชี งานขาย งานmarketing การวางแผน ส่วนคนที่จบจากสายวิศวกรก็อาจจะได้ทำการพัฒนาสินค้า การพัฒนาการผลิต แล้วแต่ความเหมาะสมที่บริษัทจะจัดลงให้ ทั้งนี้ไม่รวมกับสายงานวิชาเฉพาะ เช่นหมอหรือพยาบาลเป็นต้น

ข้อดีของการรับตำแหน่งแบบทั่วไปคือเราสามารถค้นหาตัวเองได้ว่างานไหนเหมาะสมกับเราที่สุด เพราะจะมีการ rotation ของตำแหน่งและแผนกไปเรื่อยๆใน 3-5 ปีเพื่อให้ได้มีประสบการณ์ในหลายๆสายงาน ใครที่เรียนสายวิทย์ แต่อยากจะทำงานการบริหารในการจัดการ ก็สามารถขอเปลี่ยนได้ในอนาคตเช่นกัน ข้อเสียก็คือเราอาจจะไม่ได้รับงานที่เราอยากจะทำเป็นระยะเวลาหลายปีและต้องทนอยู่อย่างนั้น สุดท้ายอาจจะต้องตัดสินใจเปลี่ยนงานถ้าเราไม่ชอบจริงๆ เพราะบริษัทญี่ปุ่นจะไม่มีการยืดหยุ่นในการเปลี่ยนตำแหน่งงานได้ง่ายๆ

ถ้าคุณมีโอกาสเข้าร่วมกับบริษัทใหญ่ๆที่มีอุตสาหกรรมและ Businessในหลายพื้นที่ เราก็จะไม่รู้ว่าจะได้ทำงานในอุตสาหกรรมไหนและจังหวัดไหนจนกว่าจะจบ General Training ตัวอย่างเช่น ถ้าร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Hitachi ซึ่งมี Business เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้าในอุตสาหกรรม  และอุปกรณ์เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและอื่นๆเป็นต้น เราจะทราบอีกทีว่า เราจะได้ทำงานใน business ไหนและในตำแหน่งไหนหลังจากจบ General Training  แน่นอน เราสามารถคุยกับทางบริษัทในตำแหน่งและสายงานที่อยากจะทำได้ แต่ก็ไม่รับรองว่าจะได้ทำในสายงานนั้นหรือจังหวัดนั้นหรือเปล่า หลายคนก็ได้ตามที่คาดหวังไว้ และหลายคนก็ผิดหวังและต้องโดนย้ายไปทำงานในพื้นที่อื่นๆที่ไม่อยากจะอยู่ก็ได้

ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น ให้ศึกษาข้อมูลวัฒนธรรมและการจัดตำแหน่งงานให้ดี เพราะต่างจากวัฒนธรรมการหางานที่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก แม้แต่บริษัทญี่ปุ่นที่ไทยด้วยกันเองก็ไม่เหมือนกับบริษัทญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นนะครับ

6) ระยะเวลาการทำงาน

ขอบคุณรูปภาพจาก https://biz.trans-suite.jp/32469

อาจเป็นที่รู้จักกันแล้วว่า คนญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ทำงานหนักตั้งแต่เช้ายันดึก ซึ่งมาจากสังคมของญี่ปุ่นโบราณที่ว่า ยิ่งทำงานนานเกินเวลา ถือว่าเป็นพนักงานที่ดี  ซึ่งแตกต่างจากบริษัทฝรั่งที่ถ้าทำงานเกินเวลา ถือว่าเป็นลบ เป็นคนไม่สามารถจัดการเวลาของตัวเองได้

ถ้าเดินตามเมืองหลังจากเวลาเลิกงานปกติ ก็จะเห็นไฟออฟฟิศเปิดสว่างตลอดจนถึงดึกๆค่ำคืน เพราะพนักงานหลายคนก็ยังนั่งทำงานกันอยู่ต่อ บางทีมีออกมาทานข้าวเย็นข้างนอก แล้วก็กลับเข้าไปทำงานต่ออีก จนถึงเกือบเที่ยงคืนถึงจะออกจากงานและกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นก็ตื่นมาเข้าออฟฟิศเวลา 9:00 น ตามปกติ

การทำงานล่วงเวลาเป็นเวลานานของชาวญี่ปุ่นได้เป็นที่วิจารณ์ในระดับนานาชาติ ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำธุรกิจกับต่างชาติได้มีการปรับวัฒนธรรมองค์กร โดยมีการจำกัดเวลาล่วงเวลาให้ไม่เกิน 30-40 ชั่วโมงต่อเดือน และเข้มงวดในการจัดสรรปริมาณงานให้แต่ละคน รวมถึงสนับสนุน work Life Balance ที่ดีขึ้นกว่าสมัยก่อน ในฐานะพนักงานต่างชาติที่จะทำงานในประเทศญี่ปุ่น ให้ตรวจสอบนโยบายการทำงานล่วงเวลาให้ดี เพราะบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง ไม่มีการให้ค่าแรงเพิ่มหลังจากเวลางานและได้ถูกขึ้นเป็น Blacklist แล้ว เราไม่ควรจะร่วมงานด้วยอย่างเด็ดขาด ไม่งั้นจะเกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งกายและใจภายหลังได้

7) สังคมแบบแนวตั้ง

สังคมการทำงานในญี่ปุ่นจะเป็นแบบแนวตั้ง นั่นคือรุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่ ลูกน้องต้องเคารพเจ้านาย ในลำดับเหมือนพีระมิดที่มีผู้บริหารสูงสุดอยู่บนยอด การทำงานก็จะเป็นแนวตั้งที่รับคำสั่งลงมาอีกทีจากผู้บริหารต่อๆลงมา ไม่ว่าจะเป็น project หรือการเสนอความคิดไอเดียใดๆ ต้องทำเรื่องไปเป็นตามลำดับโดยผ่านเป็นแนวตั้งขึ้นไป ตั้งแต่ ผู้จัดการฝ่าย ผู้จัดการแผนก ผู้จัดการสาขา ผู้จัดการเขต ไปเรื่อยๆเป็นต้น

ต่างจากวัฒนธรรมสังคมแบบตะวันตกที่เป็นเหมือนพี่น้องและผองเพื่อน ที่ทุกคนสามารถแชร์ไอเดียกันและเสนอความคิดเห็นได้อย่างอิสระอย่างเท่าเทียม ความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานทั่วไปกับผู้บริหารก็จะมีระยะห่างอยู่สมควรในบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งทุกคนต้องรู้มารยาทและสำนวนภาษาในการเข้าพบและสนทนากับผู้บริหารอย่างเหมาะสม

ด้วยเหตุผลนี้การตัดสินใจใน Project ใดๆก็ตามของบริษัทจะล่าช้า เนื่องจากต้องผ่านขั้นตอนและบุคคลหลายชั้นจนกว่าจะสามารถหาข้อสรุปและข้อตัดสินใจได้ ทำให้บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งเสียตลาดในระดับโลกที่บริษัทอื่นต่างชาติมีความเคลื่อนไหวและการตัดสินใจรวดเร็วกว่าบริษัทญี่ปุ่น

8) 印鑑 (Inkan)

ขอบคุณรูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Inkan.JPG

ตัวสแตมป์ชื่อของตัวเองแทนการเซ็นชื่อที่เรียกว่า 印鑑 (inkan) เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่โดดเด่นของชาวญี่ปุ่นมาตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันหลายบริษัทก็ยังใช้แสตมป์นี้ในการอนุมัติและรับรองเอกสารต่างๆ เวลาเข้าบริษัทญี่ปุ่นเขาก็จะให้เราไปสร้างตัวสแตมป์ชื่อของเรามาใช้กับเอกสารทุกอย่างในบริษัท น้อยครั้งที่จะมีการเซ็นชื่อเป็นลายเซ็นด้วยปากกา เพราะสถานที่ราชการ รวมถึงธนาคารต่างๆ ก็จะให้ความสำคัญกับตัวแสตมป์นี้ในการรับรองและอนุมัติเอกสารมากกว่าลายเซ็นด้วยมือ

9) การเลี้ยงสังสรรกับคนในบริษัท

ขอบคุณรูปภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Enkai_in_Kumamoto.jpg

ชาวญี่ปุ่นคลายเครียดจากงานด้วยการไปดื่มและทานอาหารด้วยกันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะวันศุกร์ที่จะเห็นกลุ่มพนักงานชาวญี่ปุ่นไปรวมตัวกันที่อิซากายะหรือบาร์ต่างๆหลังเลิกงาน เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่ถ้าผู้ใหญ่หรือรุ่นพี่ในบริษัทชวนให้เราไป เราจะปฏิเสธได้ยาก อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่รุ่นพี่จะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนมากหรือทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อเราทำงานได้สักพัก แล้วเป็นรุ่นพี่แล้ว เราก็ต้องถือความรับผิดชอบนี้เวลาไปดื่มกับรุ่นน้องในบริษัทเช่นกัน


ฟังดูแล้วการทำงานในบริษัทญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่น ดูเหมือนจะซีเรียสและมีระบบวัฒนธรรมทางสังคมที่แตกต่างอย่างมากกับประเทศไทย แต่ถ้าเราสามารถปรับตัวได้และหาบริษัทที่อยากร่วมทำงานที่ดี นอกจากจะได้ค่าตอบแทนสูงแล้ว เราจะได้พัฒนาความสามารถให้ดีขึ้นได้ด้วย เพราะเวลาบริษัทญี่ปุ่นรับเข้าทำงานจะไม่มีการไล่ออกนอกจากจะทำความผิดใดๆร้ายแรงทางกฎหมาย

บริษัทญี่ปุ่นดีอย่างที่มีความรับผิดชอบในการรับบุคคลเข้ามาทำงาน จะช่วยผลักดันพัฒนาให้บุคคลนั้นมีความสามารถมากขึ้นเพื่อให้บริษัทมีความก้าวหน้าต่อไป

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
Ammer
Ammer
สวัสดีครับ ผมแอมเมอร์ ครับ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Nanzan University ที่ประเทศญี่ปุ่นและใช้ชีวิตอยู่ญี่ปุ่นกว่า 7 ปี อดีต เป็นพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินและบินเส้นทางญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ ทำให้มีความคุ้นเคยกับญี่ปุ่นตั้งแต่เหนือจดใต้ ประเทศญี่ปุ่นเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 ปัจจุบันทำงานเป็นให้กับบริษัทเอกชนชื่อดัง นอกเหนือจากงานเขียนบน OhHoTrip ยังมีผบงานเขียนหนังสือออนไลน์ เรียน"ญี่ปุ่น" ยังไงให้รอด และช่อง Youtube เกี่ยวกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถ้าชอบ Blog ที่ผมเขียน ช่วยกด LIKE กดแชร์ด้วยนะครับ :) https://www.youtube.com/c/Ammerkongtangjitt-japan
RELATED POST
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

7 หลักปฎิบัติของคนญี่ปุ่นที่เราควรทำตาม

คนญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในชาติที่สร้างความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและสิ่งใหม่ … 19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
jr pass
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

10 เคล็ดลับสำหรับมือใหม่หัดเที่ยวญี่ปุ่น

1.อย่าลืมซื้อเจแปนเรลล์พาสหรือ JR Pass ถ้าวางแผนเดินทางข้ามเมือง นักท่ … 01/07/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
29739463_1996553513995601_2651749783923851264_n
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

9 วิธีเรียนรู้สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในญี่ปุ่นที่ห้ามพลาด! ก่อนไปญี่ปุ่น

สำหรับคนที่ไม่เคยไปญี่ปุ่น แต่ต้องไปเที่ยวหรือต้องไปอยู่ คงสนใจเรื่องด … 28/06/2020
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
drink-43a6f1c0
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

รู้จักวัฒนธรรมการดื่มของคนญี่ปุ่น

การดื่มสังสรรค์เป็นการกระชับสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลไม่ว่าจะเป็นผู้คน … 19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
cover
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

9 สายงานยอดนิยม เด็กญี่ปุ่นจบใหม่

การหางานในประเทศญี่ปุ่นคือ อีกหนึ่งสนามแข่งขันครั้งใหญ่ในชีวิต เหมือนส … 19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
Avoid
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

คำศัพท์ที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น

ในสังคมญี่ปุ่น ความสุภาพและการให้เกียรติซึ่งกันและกัน นับเป็นสิ่งที่สำ … 31/03/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.