ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นกับการรับมือ COVID-19 | แล้วเราจะกลับมาพบกัน

หัวข้อที่เกี่ยว
ญี่ปุ่นกับการรับมือ COVID-19 | แล้วเราจะกลับมาพบกัน

การระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ส่งผลกระทบกับคนทั้งโลก ทั้งในด้านสาธารณสุข สภาพสังคมและเศรษฐกิจ รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่างๆที่เรียกว่าแทบจะหยุดชะงักในทันทีที่ข่าวการแพร่ระบาดของโรคที่จีนเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

และญี่ปุ่นก็เช่นกัน ในช่วงเวลาที่ไวรัสกำลังระบาดอยู่นี้ เป็นโมงยามที่ดอกซากุระที่ญี่ปุ่นกำลังบานสะพรั่ง อากาศเย็นสบายไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป โดยปกตินี่ควรจะเป็นฤดูกาลที่ชาวญี่ปุ่นจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศให้เข้ามาใช้จ่าย กระจายเม็ดเงินอย่างแพร่สะพัด แต่ ณ วันนี้ ดูเหมือนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะบางตาลงเห็นได้ชัด เป็นผลมาจากที่หลายๆประเทศได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน Lockdown ประเทศหรือหัวเมืองสำคัญ ทั้งยังแนะนำให้ประชาชนอยู่กับบ้าน งดการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อรักษาชีวิต - สายการบินส่วนใหญ่ทั่วโลกลดจำนวนเที่ยวบินลง, โรงแรมที่พักถูกยกเลิกการจอง, รวมไปถึงร้านค้าร้านอาหารหลายแห่งตามแหล่งท่องเที่ยว เริ่มเงียบเชียบไร้ร้างผู้คน

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ได้ออกมาแถลงการณ์ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ว่า COVID-19 อาจทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียรายได้จากธุรกิจการท่องเที่ยวไปอย่างต่ำถึง 1.29 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ - แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน (ปลายเดือนมี.ค.) มีความเป็นไปได้สูงว่า มูลค่าความเสียหายน่าจะมากกว่านั้นหลายเท่าตัว เพราะเจ้าโรคระบาดตัวดียังไม่มีทีท่าว่าจะลดความโหดลงเลยแม้แต่น้อย!

สภาพถนนอันว่างเปล่าในเมืองอู่ฮั่น หลังถูกปิดเมืองเนื่องจากเกิดโรคระบาด (ภาพจาก The Guardian)

ภาพของโป๊ปฟรานซิสที่ออกมานำสวดอย่างโดดเดี่ยวกลางจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส (ภาพจาก Breakingnews)

A Spooky New York Lockdown (ภาพจาก thedigitalwise.com)

ฤดูดอกซากุระบานที่เกียวโตช่วงมีนาคม-เมษายน ในปีก่อนๆ ที่เคยมีนักท่องเที่ยวละลานตา

ชาวญี่ปุ่นใส่หน้ากากออกมาชมซากุระท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 (ภาพจาก ft.com)

รัฐบาลขอร้องให้ประชาชนงดออกจากบ้านเพื่อเลี่ยงการติดเชื้อ หลังมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการระบาดระลอกใหม่ (ภาพจาก CNN)

++++++++++

ความน่ากลัวของ COVID-19

หลังจากที่ต้องเผชิญชะตากรรมโรคระบาดใหญ่ร่วมกันมากว่า 3 เดือน เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก COVID-19 เป็นอย่างดี แต่เดี๋ยวเรามาย้ำกันอีกทีว่าเจ้าไวรัสตัวนี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงร้ายนัก!

 ▪ COVID-19 ย่อมาจาก Coronavirus Disease 2019 เป็นโรคที่เกิดจาก “ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” (SARS-CoV-2) สามารถแพร่เชื้อได้จากคนสู่คน และการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อแล้วนำมาสัมผัสร่างกาย

  • “โคโรน่าไวรัส” เคยถูกค้นพบมาแล้ว 6 สายพันธุ์ ซึ่งใน COVID-19 นับเป็นสายพันธุ์ลำดับที่ 7 ซึ่งยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน
  • ตามสันนิษฐานคือ มีการแพร่เชื้อครั้งแรกจากตลาดค้าส่งอาหารทะเลและสัตว์หายากในอู่ฮั่น ประเทศจีน เคยมีข่าวลือว่าเป็นเชื้อที่หลุดออกมาจากห้องทดลองที่ตั้งอยู่ในละแวกนั้น ซึ่งทางการจีนได้ปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง (แน่นอนว่า ข่าวลือย่อมมีต่อไป) และทางนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ออกมายืนยันว่า ไวรัสตัวนี้ มีความคล้ายคลึงไวรัสโคโรน่าที่พบในค้างคาวและตัวนิ่ม 
  • แม้จะเป็นเหมือนเชื้อไข้หวัดธรรมดา แต่มีการแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ยังไม่มียารักษาโรคนี้ได้เฉพาะเจาะจง ณ ตอนนี้ทีมแพทย์ต้องทำการรักษาประคองไปตามอาการ ผู้ที่ติดเชื้อบางรายอาจจะหายได้เอง บางรายอาจต้องรักษากันแบบประคบประหงมมากกว่าปกติ และบางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตหากภูมิต้านทานร่างกายไม่แข็งแรงพอ
  • เป็นเชื้อไวรัสที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายปอดอักเสบ คือมีไข้สูง ไอจาม หายใจลำบาก อ่อนเพลีย ฯลฯ
  • โดยจากผล x-ray ของผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว พบว่าเนื้อเยื่อของปอดถูกทำลายแบบถาวร ไม่สามารถซ่อมแซมได้ ดังนั้น ผู้ที่ติดเชื้อขั้นรุนแรง แม้จะรักษาหายขาดแล้ว ก็จะยังมีปัญหาเรื่องการหายใจไปตลอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน

 ▪ การแพร่การะจายของเชื้อ COVID-19 เบื้องต้นระบุว่า เชื้อสามารถแพร่กระจายได้โดย;

  • ละอองจากการไอ/จามของผู้ที่มีเชื้อ
  • การอยู่ใกล้ผู้ติดเชื้อในระยะ 6 ฟุต
  • การสัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสอยู่ แล้วสัมผัสกับร่างกาย

▪ วีธีป้องกันและหลีกเลี่ยงการรับเชื้อ COVID-19

  • หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ/จาม น้ำมูกไหล เจ็บคอ เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนจำนวนมากหรือพื้นที่เสี่ยงตามประกาศ
  • ใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
  • หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ 70%
  • บุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ควรใส่หน้ากากอนามัย แว่นตานิรภัย ชุด PPE เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา

++++++++++

ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในญี่ปุ่นต่ำมาก – รัฐบาลรับมือได้จริง? หรือ ปิดบังข้อมูล?

▪ ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 นอกเขตแผ่นดินจีน มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน โดยที่สหรัฐอเมริกามียอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในโลกทะลุหลักแสน ส่วนที่อิตาลีมีผู้เสียชีวิตเกิน 10,000 รายเข้าไปแล้ว แต่เป็นที่น่าสนใจว่า ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในญี่ปุ่นกลับมีจำนวนน้อยมากและมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ยังไม่ได้มีการ Lockdown ประเทศและไม่ได้มีกฎบังคับการ Social Distancing (มีระยะห่างในสังคม) แต่อย่างใด

ตารางอัพเดทจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตทั่วโลก 15 อันดับแรก (ณ วันที่ 30 มีนาคม 2020)

ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในญี่ปุ่นอยู่ในอัตราที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศผู้นำอื่นๆ (ณ วันที่ 30 มีนาคม 2020)

ภาพผู้คนหนาแน่นในโตเกียวถูกชาวเน็ตทั่วโลกวิจารณ์ยับ จนภาครัฐต้องขอร้องให้ประชาชนตื่นตัวเรื่อง Social Distancing

▪ ด้วยตัวเลขที่ต่ำมากทั้งที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศแรกๆต่อจากจีน ที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 14 ม.ค.2020 จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนสงสัย และหลายคนเชื่อว่ารัฐบาลจะต้องมีการปิดบังข้อมูลเป็นแน่แท้ โดยส่วนใหญ่สันนิษฐานว่าเป็นเพราะรัฐหวาดหวั่นหากเปิดเผยตัวเลขตามจริง อาจส่งผลกระทบต่อการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ซึ่งเป็นอีเว้นท์ที่ญี่ปุ่นหมายมั่นปั้นมือว่าน่าจะทำรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล

โดย Barbara Holthus นักสังคมวิทยาจากสถาบัน German Institute for the Japan Studies ประจำกรุงโตเกียว ได้ออกมากล่าวว่า

“หลังจากเหตุการณ์ภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ ในปี 2011 รัฐบาลก็ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าสาเหตุเกิดจากการหลอมละลายของเตาปฏิกรณ์ และวันนี้ข้อมูลจากการแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ COVID-19 ก็ฟังดูไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่งยวดเช่นกัน”

▪ อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารสุขได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการปกปิดข้อมูลว่า "ไม่เป็นความจริง" แต่ยอมรับว่าสาเหตุหลักที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตต่ำนั้น อาจจะเนื่องมาจากการที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีการตรวจหาเชื้อในประชาชนอย่างกว้างขวางนัก โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกล่าวว่า

"ภาครัฐต้องพุ่งเป้าไปที่การรักษาเคสที่มีอาการชัดเจนให้หายขาด มากกว่าจะหว่านแหตรวจคนทั้งประเทศ อย่างที่เห็นกันในตอนเริ่มว่า ทันทีที่มีการพบเชื้อครั้งแรกในโรงเรียนประถมที่ฮอกไกโด ทางการได้สั่งปิดโรงเรียนทั่วจังหวัดและประกาศภาวะฉุกเฉินในทันทีเพื่อป้องกันการแพร่กระจายออกนอกพื้นที่ สามสัปดาห์หลังจากนั้นก็ไม่พบการแพร่ระบาดอีก"

ผู้ว่าการฯฮอกไกโด โพสต์ขอบคุณจดหมายให้กำลังใจจากชาวไทย หลังจากที่ฮอกไกโดพบผู้ติดเชื้อ COVID-19

ด้าน Sebastian Maslow นักวิทยาศาสตร์การเมืองประจำมหาวิทยาลัยโตเกียวชาวเยอรมัน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “สาเหตุของตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่อยู่ในอัตราต่ำนั้น เป็นเพราะทางรัฐต้องการให้แน่ใจว่าทรัพยากรสำหรับการตรวจรักษาจะมีปริมาณเพียงพอสำหรับเคสที่ติดเชื้อจริงๆ โดยเฉพาะหากเคสเหล่านั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและมีอาการทรุดลง”

▪ ซึ่งเหตุผลนี้ดูจะฟังขึ้นกว่าจะบอกว่า "รัฐปกปิดข้อมูล" เพราะเมื่อเช็คจำนวนของผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อในเกาหลีใต้หรืออิตาลี รวมไปถึงสหรัฐอเมริกาที่จริงจังเรื่องนี้อย่างมาก จะพบว่าญี่ปุ่นมีผู้ที่ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วเพียงประมาณ 28,760 ราย ขณะที่เกาหลีใต้มีผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไปแล้ว 376,961 ราย คิดเป็น 0.7% ของจำนวนประชากร ด้านสหรัฐอเมริกาซึ่งเพิ่งจะจริงจังกับเรื่องนี้ แต่ก็ได้ทำการตรวจไปแล้วถึง 540,718 ราย ในเวลาเพียง 8 วัน คิดเป็น 0.2% ของประชากรทั้งหมด (ตามรายงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2020)

กราฟชี้ว่าญี่ปุ่นมีการตรวจเชื้อน้อยกว่าหลายประเทศ (ข้อมูลวันที่ 20 มี.ค.)

สถิติและแผนที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในญี่ปุ่น (โดย Japantimes)

▪ และเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2020 โดยการหารือของนายกฯอาเบะกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิค ได้เห็นพ้องให้เลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่เดิมจะจัดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคม 2020 ไปเป็นประมาณวันที่ 24 กรกฎาคม 2021

แม้จะต้องสูญเสียรายได้มหาศาล แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่เช่นนี้ การเลื่อนการจัดการแข่งขันเพื่อรักษาชีวิตคนทั้งโลกจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทางญี่ปุ่นได้ประเมินมูลค่าความเสียหายจากการเลื่อนจัดการแข่งขัน + ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆในช่วง 1 ปีที่ต้องรอนี้ สรุปยอดความเสียหายสูงถึงเกือบๆ 5 ล้านล้านเยนเลยทีเดียว

โอลิมปิคและพาราลิมปิคถูกเลื่อนหนี COVID-19 ไปแข่งในปี 2021 เป็นที่เรียบร้อย

++++++++++

สรุปแล้ว ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการรับมือ COVID-19 หรือไม่?

ไหนเรามาลองย้อนดูเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่การระบาดแรกในญี่ปุ่นเริ่มขึ้น แล้วเราอยากให้เพื่อนๆลองช่วยกันประเมินดูว่า แนวทางและมาตรการในการรับมือ COVID-19 ของรัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่น เรียกว่าสำเร็จได้หรือไม่?  

  • 14 ม.ค. พบผู้ติดเชื้อรายแรกในญี่ปุ่น เป็นชายชาวจีนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากอู่ฮั่น
  • พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม หลังจากที่มีการนำเครื่องบินไปรับชาวญี่ปุ่นที่ตกค้างอยู่ในอู่ฮั่น ทางการสั่งกักตัว 14 วัน
  • 31 ม.ค. สถาบันโรคติดต่อแห่งประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่
  • ญี่ปุ่นประกาศปิดรับผู้ที่เดินทางหรือเคยเดินทางในช่วง 14 วัน จากมณฑลหูเป่ยและเจ้อเจียง 
  • 5 ก.พ. อนุญาตให้เรือ Diamond Princess ที่บรรทุกผู้โดยสารกลุ่มเสี่ยงกว่า 3,700 คน เข้าเทียบท่าใกล้โยโกฮาม่า วันแรกตรวจพบผู้ติดเชื้อ 10 ราย ถูกแยกมารับการรักษา ผู้โดยสารที่เหลือถูกกักตัว 14 วัน - เอกชนร่วมสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อ
  • **7 ก.พ. นายแพทย์หลี่ เหวินเหลียง เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ด้วยวัยเพียง 34 ปี โดยหมอหลี่เคยออกมาเตือนรัฐบาลจีนเรื่องไวรัส ก่อนจะถูกตำรวจแจ้งข้อหา "เผยแพร่ข่าวลือ" 

Dr.Li Wenliang เสียชีวิตจาก COVID-19 | "ทุกความหายนะเกิดจากคนงี่เง่าบางกลุ่มที่ไม่ฟังคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ"

  • มีการแบ่งพื้นที่ในการรับมือกับไวรัสตามขนาดประชากร เช่น เขต, จังหวัด, เมือง เป็นต้น
  • มีการตั้งศูนย์ call center เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่า
  • **ไต้หวันร้องเรียนองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าจีนปิดบังข้อมูลเรื่องไวรัส - WHO ออกมาปกป้องว่าข้อมูลจากจีนโปร่งใสทุกอย่าง
  • **12 ก.พ. WHO ตั้งชื่อโรคจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ว่า "COVID-19" และประกาศให้เป็นภาวะโรคระบาดใหญ่ (Pandemic)
  • รัฐบาลญี่ปุ่นเล็งทุ่ม 5 แสนล้านเยน เพื่อเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19
  • หญิงชราวัย 80 ปี เป็นชาวญี่ปุ่นรายแรกที่เสียชีวิตจาก COVID-19 โดยรับเชื้อมาจากลูกเขยที่เป็นคนขับแท็กซี่ในโตเกียว 
  • นายกฯอาเบะ แถลงว่า COVID-19 อาจทำให้ญี่ปุ่นเสียรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวถึง 1.29 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ 
  • ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อนายกฯอาเบะ และ คณะรัฐมนตรี ลดฮวบจนน่าตกใจ หลังประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโรคระบาดผ่านพ้นไปได้
  • พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจากเรือ Diamond Princess (ยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมด 712 ราย ตามข้อมูล ณ วันที่ 24 มี.ค.)

ยอดผู้ติดเชื้อบนเรือ Diamond Princess จะไม่ถูกนับเป็นตัวเลขของญี่ปุ่น (ภาพจาก businessinsider)

  • พบผู้ติดเชื้อในหลายจังหวัดทั่วประเทศ - ที่โตเกียว ประชาชนตื่นตัวในการใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
  • 27 ก.พ. นายกฯอาเบะ ออกคำสั่งปิดโรงเรียนระดับประถมและมัธยมทั่วประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระจายตัวของเชื้อ
  • 5 มี.ค. ญี่ปุ่นประกาศมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางจากจีนและเกาหลีใต้ให้อยู่ในที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้เฉพาะ เป็นเวลา 14 วัน 
  • 7 มี.ค. เกาหลีใต้เอาคืน! ด้วยการระงับวีซ่าชาวญี่ปุ่นที่จะเดินทางเข้าเกาหลีใต้เป็นการชั่วคราว
  • The Spring Grand Sumo Tournament จัดการแข่งขันแบบไร้แฟนซูโม่เข้าชม
  • เลื่อนวันเปิดฤดูกาลการแข่งขันเบสบอลเจลีกออกไปไม่มีกำหนด
  • รัฐบาลแสดงความเสียใจหลังพบว่ามีการซื้อ-ขายหน้ากากอนามัยในราคาที่สูงเกินจริง ทั้งนี้ภาครัฐได้ออกบทลงโทษผู้กระทำความผิดด้วยการปรับเป็นเงิน 1 ล้านเยน หรือจำคุก 1 ปี มีผล 15 มี.ค. เป็นต้นไป

ปรับ 1 ล้านเยน หรือ จำคุก 1 ปี สำหรับผู้ที่ขายหน้ากากอนามัยราคาสูงเกินจริง (ภาพจาก Japantimes)

  • **ประธานาธิบดีไต้หวัน ประกาศความสำเร็จในการผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับแจกประชาชนได้วันละ 10 ล้านชิ้น!
  • Tokyo Disneyland ปิดบริการจนถึงต้นเดือนเมษายน
  • Kumamon ตัวการ์ตูนขวัญใจชาวโลก ประกาศเลื่อนการจัดงานวันเกิดอายุครบ 10 ปี พร้อมกล่าวว่า "แม้ว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้เจอ แต่ใจเรายังเชื่อมถึงกัน ฉันหวังว่าเราจะกลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติในเร็ววันนี้"

Kumamon เลื่อนจัดงานวันเกิดอายุครบ 10 ปี (ภาพจาก Japantimes)

  • รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมประกาศกักตัวนักท่องเที่ยวจากอีก 4 ประเทศ คือ สเปน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ และไอซ์แลนด์ รวมทั้งนักท่องเที่ยวทุกชาติที่เคยเดินทางไปยังประเทศจีน เกาหลีใต้ อิตาลี และ อิหร่าน 
  • **สหรัฐอเมริกาทดลองวัคซีนรักษาโรคจากไวรัสโคโรน่าในอาสาสมัครชุดแรก
  • ญี่ปุ่นประกาศกักตัวนักท่องเที่ยวจากอียิปต์ อิหร่าน และยุโรปรวม 38 ประเทศ เป็นเวลา 14 วัน มีผลถึงสิ้นเดือนเมษายน
  • ผู้เชี่ยวชาญประกาศเตือนให้ทุกคนเตรียมรับมือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกสอง หลังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีน
  • สหรัฐฯระงับการออกวีซ่าสำหรับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
  • พบชาวญี่ปุ่นหลักพันออกมาสังสรรค์ใต้ต้นซากุระ ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19
  • ทางการญี่ปุ่นประกาศเตือนประชาชน งดเดินทางไปสหรัฐฯหากไม่มีความจำเป็น
  • ผู้ว่าฯโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ เตือนประชาชนให้พยายามกักตนเองอยู่ในบ้าน หลังพบว่ามีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องปิดเมืองโตเกียว
  • ประกาศเลื่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคและพาราลิมปิคไปอีก 1 ปี
  • ผู้ว่าฯ ยูริโกะ โคอิเกะ ประกาศเตือนประชาชนเป็นครั้งสุดท้ายให้หลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ ด้วยการงดออกจากบ้าน หรือพยายาม social distancing ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องประกาศปิดเมือง

Tokyo Skytree เปิดไฟสีน้ำเงินพร้อมข้อความ "Together We Can Win" (ภาพจาก Japantimes)

  • นายกฯ อาเบะ ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้มีส่วนร่วมในการไม่แพร่เชื้อ "หากเราไม่สามารถควบคุมวงจรการแพร่เชื้อได้ เชื้อไวรัสอาจแพร่กระจายอีก 30 เท่าใน 2 สัปดาห์ ณ เวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นเทียบไม่ได้กับที่ยุโรปและอเมริกา แต่หากเราพลาดเพียงนิดเดียว เชื้อโรคอาจลุกลามได้ ขอให้ประชาชนตระหนักเสมอว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน"
  • 27 มี.ค. รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเลิกฟรีวีซ่าสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติ 11 ประเทศ เป็นการชั่วคราวเพื่อสะกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งรวมประเทศไทยด้วย!! โดยจะมีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2020 เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป โดยในส่วนของผู้ถือหนังสือเดินทางประเทศไทยจะไม่สามารถเข้าญี่ปุ่นได้เป็นเวลา 15 วัน (โดยทางญี่ปุ่นจะยกเลิกวีซ่าที่ออกให้ก่อน 28 มีนาคม 2020) ยกเว้นผู้ที่มีวีซ่าแบบ Re-Entry จะยังได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าญี่ปุ่นได้แต่จำเป็นต้องกักตนเป็นเวลา 14 วัน และหลีกเลี่ยงระบบขนส่งสาธารณะภายในญี่ปุ่นทุกประเภท

▪ และด้วยเหตุผลที่ว่า การตรวจหาเชื้อ COVID-19 ในสังคมทั่วไปของญี่ปุ่นยังไม่ครอบคลุม รวมไปถึงการที่ประชาชนในประเทศมีความตื่นตัวน้อยเกินไปในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะรับเชื้อ และแน่นอนว่าชาวญี่ปุ่นบางส่วนเองก็ไม่ค่อยพอใจกับมาตรการในการรับมือโรคระบาดของรัฐบาลชุดปัจจุบัน จึงอาจพูดไม่เต็มปากนักว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่ต่ำนักหนานั้นคือความสำเร็จ

▪ แต่ไม่ได้แปลว่าแนวทางของญี่ปุ่นคือความล้มเหลวแต่อย่างใด การควบคุมทรัพยากรด้านการแพทย์เพื่อให้เพียงพอในการรักษาผู้ติดเชื้อ ฟังดูเป็นเหตุผลที่พอรับได้ แม้จะแตกต่างจากประเทศที่ได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จจริง เช่น เกาหลีใต้, ไต้หวัน และเยอรมัน ฯลฯ - การรีบปิดพรมแดนและกักตัวนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแต่เนิ่นๆ ก็นับว่าเป็นการป้องกันที่เห็นผลชัดเจน

▪ การให้ความร่วมมือจากประชาชนคือส่วนสำคัญ ทุกคนสามารถช่วยกันหยุดการแพร่เชื้อได้ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ล้างมือเป็นประจำ และทำ social distancing รวมไปถึงไม่ไปในพื้นที่เสี่ยงตามประกาศ ฯลฯ - ยอมรับว่าคนบ้านเราคงแปลกใจไม่น้อย ที่เห็นชาวญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่ามีระเบียบวินัย พากันออกมาเดินพลุกพล่านไม่ใส่ใจเสียงเตือนจากทางการ ท่ามกลางสถานการณ์อันสุ่มเสี่ยงเช่นนี้

▪ แต่ถ้าหากสถานการณ์บานปลายจนเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องประกาศ พรก.ฉุกเฉิน และงดการออกมานอกบ้านโดยไม่จำเป็น รัฐบาลเองก็ต้องแน่ใจว่า จะมีเงินทุนสำรองเพียงพอที่จะเยียวยาประชาชนที่ต้องสูญเสียรายได้ - ซึ่งนายกฯ อาเบะ ก็เคยกล่าวว่าได้เตรียมงบประมาณส่วนนี้ไว้แล้ว

++++++++++

โลกหลังภาวะ COVID-19 จะเป็นอย่างไร?

แน่นอนว่าภาวะโรคระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ได้สร้างความเสียหายให้กับประชาคมโลกอย่างยิ่งยวด ผู้คนเจ็บป่วยนับแสนล้มตายนับหมื่น เสียงร่ำไห้ในอิตาลี ความเหนื่อยยากและจิตตกของบุคลากรทางการแพทย์ หลายธุรกิจต้องชะลอตัวและบางรายถึงกับต้องปิดกิจการ ประชาชนตกงานขาดรายได้เลี้ยงปากท้องและครอบครัว เป็นต้น ทุกอย่างที่กล่าวมาเกิดขึ้นในเวลาเพียง 3 เดือน!

นับเป็นช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์บทบาทของเหล่าผู้นำโดยแท้ ว่าจะพาคนในประเทศผ่านพ้นวิกฤติไปได้อย่างไรและต้องสูญเสียกันมากน้อยแค่ไหน จากบทเรียนที่ธรรมชาติคัดสรรมาให้ครั้งนี้!

▪ แต่มีข้อเท็จจริงหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ นั่นคือ COVID-19 เกิดขึ้นมาเพื่อกำจัดมนุษย์อย่างมองเป็นอื่นไม่ได้ ในขณะที่มนุษย์ทั้งโลกกำลังเผชิญชะตากรรม กลับเป็นเวลาที่เหล่าสรรพสัตว์และธรรมชาติได้โอกาสเยียวยาตัวเอง - เหตุการณ์หลังธานอสดีดนิ้วใน Avengers End Game ไม่ใช่เรื่องที่ยกมาพูดแล้วจะฟังดูตลกโปกฮาอีกต่อไป;

  • โลมาเริงร่าในคลองเวนิซ เกิดขึ้นจริงหลังอิตาลี Lockdown 
  • กวางหลายตัวในนารา เดินเพ่นพ่านใกล้สถานีรถไฟที่ว่างเปล่า
  • ไก่งวงป่าออกมาเดินกันเรื่อยเปื่อยตามถนนในโอ๊คแลนด์
  • เสือพูม่าปรากฎตัวใจกลางเมืองซานติอาโก้ ประเทศชิลี หลังประกาศเคอร์ฟิว
  • ฝูงนกในเมืองใหญ่ ไม่ต้องทนกับมลพิษทางอากาศที่มนุษย์ขยันสร้างอีกต่อไป
  • แม่น้ำ ลำคลอง สะอาดใสขึ้น หลังไม่มีเรือมาคอยกวนน้ำให้ขุ่นอยู่ทุกวัน
  • ฝุ่น ควัน และมลพิษในอากาศลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมนุษย์เก็บตัวอยู่ในบ้าน

ฝูงโลมาในทะเลเมดิเตอเรเนียน ว่ายเข้ามาใกล้ชายฝั่งมากขึ้นเมื่อสายน้ำเงียบสงบ (ภาพจาก Japantimes)

แม้แต่เหล่าสัตว์ที่ถูกนำมาฝึก ก็ยังมีโอกาสได้พักรักษาสภาพร่างกายเมื่อไม่ต้องทำงานหนักรับใช้มนุษย์ - ธรรมชาติปรับตัวเร็วมากเมื่อพวกมันเห็นว่าเมืองเงียบไร้ผู้คน และในวันที่มนุษย์กลับมา พวกสัตว์เหล่านี้ก็จะถูกรบกวนอีกครั้ง แต่กว่าจะถึงวันนั้นโลกของเราคงแข็งแรงขึ้น ไม่ใช่เจ้าดาวเคราะห์สีน้ำเงินขี้โรคเหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะ

▪ ไม่เพียงแค่ธรรมชาติเท่านั้น แม้แต่มนุษย์เองก็จะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงหลังโรคระบาดหายไปในช่วงแรกๆ;

  • พวกเราจะใส่ใจสุขภาพมากขึ้น หวาดกลัวโรคภัยไข้เจ็บกันมากขึ้น
  • สถานีรถไฟและพื้นที่สาธารณะคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์เพื่อรักษาความสะอาด
  • ใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากกว่าเดิม
  • ให้ความสำคัญด้านเทคโนโลยีมากขึ้น
  • ทำงานจากบ้านมากขึ้น ติดต่อสื่อสารกันน้อยลง
  • ผู้คนปฏิสัมพันธ์กันน้อยลง ผู้ที่มีปัญหาทางสภาพจิตใจอาจมีผลกระทบมากยิ่งกว่าเดิม

▪ และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางและหากเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังอยู่ พวกเราก็คงจะกลับมาสรรหากิจกรรมใหม่ๆให้โลกต้องปวดหัวเช่นเดิม ... แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอนาคต!

+++++++++

ญี่ปุ่นหลังภาวะ COVID-19 | แล้วเราจะกลับมาพบกัน

เชื่อว่าหลังจากภาวะโรคระบาดผ่านพ้นไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน? อาจจะเป็นกลางปีหรือปลายปีนี้ หรือจะลากยาวจนถึงปีหน้า? แทบไม่อยากคิดว่าถ้าเป็นกรณีนี้ มนุษย์ต้องสูญเสียไปเท่าไหร่? แต่ที่แน่ๆทุกประเทศทั่วโลกคงประสบปัญหาคล้ายๆกันหมด โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ที่อาจจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูกันนานเลยทีเดียว

ญี่ปุ่นอาจจะเจอหนักตรงที่เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิค!

นึกภาพว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์โรคระบาดเกิดขึ้น ญี่ปุ่นจะมีรายได้เข้ามาอย่างมหาศาล แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ นอกจากจะต้องเสียรายได้ที่คาดการณ์เอาไว้ รวมไปถึงยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องสำรองไปก่อนจนกว่าจะครบ 1 ปี ที่ประกาศเลื่อน... ที่สำคัญก็คือ ยังไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่า เมื่อถึงเวลาที่สามารถจัดการแข่งขันได้ ...ณ วันนั้นผู้คนจะอยู่ในสภาพที่พร้อมแล้วหรือยัง? รายได้ที่เข้ามาจะเพียงพอชดเชยเม็ดเงินที่ลงทุนไปได้ทั้งหมดหรือไม่? ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลา ถ้าโรคระบาดถูกจัดการได้เร็ว เศรษฐกิจก็คงฟื้นกลับมาได้เร็ว ซึ่งเราหวังให้เป็นเช่นนั้น

โชคยังดีที่ญี่ปุ่นเองก็เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว ซึ่งธุรกิจด้านเทคโนโลยีจะเป็นธุรกิจที่ทรงคุณค่าอย่างมากในอนาคตอันใกล้ และเมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติและโลกของเราหลุดพ้นจากโรคร้าย ดินแดนซามูไรจะกลับมารุ่งเรืองได้ในระยะเวลาไม่นานนัก!

และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่จะต้องกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งอย่างแน่นอน หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ! เพราะผู้คนที่บอบช้ำล้วนโหยหาความสุขจากการเดินทาง! ในระหว่างนี้ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเอง ก็จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และกลับมางดงามยิ่งกว่าเมื่อก่อน น้ำใสขึ้น อากาศบริสุทธิ์ขึ้น สัตว์ทั้งหลายสุขภาพดี ต้นไม้พืชพรรณอุดมสมบูรณ์ ออกดอกออกใบงดงามหลากหลายสีสัน แค่นึกถึงวันนั้นก็อยากให้วันนี้ผ่านพ้นไปเร็วๆแล้ว

ส่วนเราน่ะเหรอ? ถ้ารอดจาก COVID-19 ได้ วางแผนไว้แล้วล่ะว่าจะไปเที่ยวฮอกไกโดก่อนเลย .. ขออย่างเดียวว่าถ้าถึงตอนนั้น ญี่ปุ่นคงจะปลดแบนฟรีวีซ่าให้ไทยแลนด์แล้วด้วยนะ สาธุ เพี้๊ยง! 

แล้วเราจะกลับมาพบกัน 🙂

++++++++++

เครดิตข้อมูล:

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
RELATED POST
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

Items ต้องมี! เวลาเที่ยวญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ  เราควรจะพร้อมในการเดิน … 07/01/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
snow-in-spring
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

คู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่น เดือนมีนาคม

มีนาคมคือเดือนแห่งการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยสีสันและความรื … 06/03/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ข้อระวังในการขับรถที่ญี่ปุ่น
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

ข้อระวังในการขับรถที่ญี่ปุ่น

อีกหนึ่งวิธีท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นที่นิยมมากขึ้นคือ การเช่าร … 17/08/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

พักแรมในวัด..สัมผัสบรรยากาศพุทธแท้ในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีรากฐานซึ่งได้รับอิทธิพลจากศาสนาอย่างลึกซึ้ง ไม่ว … 07/02/2022
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
japan trip
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

ทางเลือก...เที่ยวญี่ปุ่นให้ประหยัดที่สุด

ประเทศญี่ปุ่นยังคงครองอันดับ 1 ประเทศที่คนไทยนิยมเที่ยวกันมากที่สุด ตั … 19/11/2021
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ
How to_cv
ข้อควรรู้ญี่ปุ่น

HOW TO ... หากเจ็บไข้ได้ป่วยระหว่างทริปเที่ยวญี่ปุ่น

ในการออกทริปท่องเที่ยวแต่ละครั้ง เราจำเป็นต้องเตรียมตัวและวางแผนการเที … 31/03/2024
คำแนะนำสไตล์การท่องเที่ยวญี่ปุ่น 100 แบบ

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!

OhHotrip.com icon
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.