ที่เที่ยวในญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น 10 วันกับเส้นทาง ฮอกไกโด – โทโฮคุ – เซนได – โตเกียว เราทำได้!

Untitled-1

ห่างหายไปนานกลับมาแล้ว วันนี้จะมาแนะนำเส้นทางเที่ยว โตเกียว ฮอกไกโด 10 วัน จะทำได้หรือไม่...เริ่มจากจองตั๋วไป-กลับ กรุงเทพ-โตเกียวก่อนเลย พอไปถึง ก็ต่อภายในประเทศไปที่ ฮอกไกโดกันเลยจ้า มาถึงฮอกไกโดแล้ว เที่ยวไหนดีเอ่ย มาฮอกไกโดก็ต้องซัปโปโรสินะ เราใช่เวลาอยู่ที่นี่ 3 คืนเท่านั้น ใน 3 คืนนี้มีที่ไหนแนะนำเด็ดๆมาดูเลยดีกว่าก่อนอื่นอยากให้มาช่วง เทศกาลหิมะเลยจ้า รับรองคุ้มสุดๆ เทศกาลนี้จะเริ่มช่วงต้นกุมภาพันธ์ของทุกปี อย่าลืมดูมากันนะจ่ะ

ในซัปโปโรเพื่อนๆหลายคนก็อาจะได้ยินตรอกราเมง หรือ ต้องกินราเมงให้ได้แต่เรามีร้านที่ไปหาจากรีวิวมาอีกที ซึ่งเป็นร้านที่ไม่มีรถไฟ ถึงเลยต้องเดินอย่างเดียวแต่ว่า อร่อยนะ เราให้ 9/10 ไปเลยจ้า ร้านมีชื่อว่า Ebisoba Ichigen Sohonten.

ซึ่งร้านจะอยู่ใกล้ๆกับ สถานีซูซุกิโนะ ความอร่อยของร้านนี้คือ ราเม็งที่เต็มไปด้วยกุ้งหวานอามะเอบิและกลายเป็นกระแสขึ้นมาทันทีของร้าน "Ebisoba Ichigen (เอบิโซบะ อิจิเก็น) สาขาใหญ่" ราเม็งมี 3 รสชาติ ได้แก่ ชิโอะ โชยุ และมิโซะ แถมยังเลือกระดับความเข้มข้นของซุปกุ้งได้อีก 3 ระดับ แต่ก่อนอื่นอยากให้ลอง "Ebishio sonomama (เอบิชิโอะ โซโนมะมะ : รสธรรมดา) ที่อยู่ในรูป (ราคารวมภาษี 780 เยน)4ส่วนน้ำซุปได้จากการต้มหัวกุ้งหวาน ในน้ำมันปรุงรสก็ใช้กุ้งด้วย ได้มาเป็นราเม็งที่ทั้งรสชาติและกลิ่นเป็นกุ้งล้วนๆ เมนูนี้คงไม่สามารถแนะนำให้กับคนที่แพ้กุ้งได้ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบทานกุ้งล่ะก็ รับรองโดนใจคุณแน่นอน

ปล. ห้ามพลาดเลยคือ ข้าปั้นหรือ โอนอิกิริ มันเป็นรสชาติที่แบบ เหมือนข้าวผัดบะจ่างเลยอะ แต่ไม่เหนียว (โดยส่วนตัวคือดีย์)

ปล.2 เราทานที่สาขา ซูซุกิโนะนะ ใครมาซัปโปโรมาลองได้เลย ทีนั่งมีประมาณ 10 ที่เอง หลังจากแนะนำร้านอาหารเสร็จแล้วก็ เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ใน 3 คืน เราไปไหนบ้างนะ

1.จิโกคุดานิ หรือ หุบเขานรก ที่ Noboribetsu!! ไปไม่ยาก ยากแย่างเดียวเดินยังไงไม่ให้ลื่น แอดคือล้มระนาวว น้ำแข็งแตก

เดินทาง

ตั้งต้นจากสถานี JR Sapporo นั่งรถไฟสาย Limited Express Hokuto ใช้เวลา 75 นาที งานนี้ไม่เสียค่ารถเพราะเราใช้ JR Pass เดินทางเหมือนเคย พอถึงที่สถานี Noboribetsu แล้ว ให้เดินออกด้านหน้าเลี้ยวขวา ไปรอขึ้นรถบัสสาย Muroran ต่อไปที่ Noboribetsu Onsen ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 340 เยน

2.โอตารุ มีอะไรห้ามพลาดบ้างนะ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดปลา คลอง หรือ แม้พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี

2.1 มาแล้วไม่กิน ถือว่ามาไม่ถึง แต่กินธรรมดาโลกไม่จำ จัดไปอย่างละกล่อง

โฮตาเตะ กล่องนี่ราคา 3000 เยน//อุนิ กล่องนี้ 4500 เยน

ถูกมากจ้าาา แถมสดด้วย ใครมาโอตารุ อย่าลืมแวะตลาดปลาข้างสถานีนาจา เดินทางง่ายเว่อ ออกจากสถานีโอตารุละ เลี้ยวซ้ายทะลุซอยไปเลยจ้า

2.2 ส่วนคลองโอตารุ ก็เป็นที่จุดเชคพ้อยที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป ก็แวะมาหน่อยละกันนะ เพื่อนๆ

หมด 3 วัน ต่อมาไปที่ ฮาโกะดาเตะ เราอยู่ เพียง 1 คืน รวมเป็น 4 คืนล้าว จากซัปโปโรมาฮาโกดาเตะด้วยชินคันเซน ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น พอมาถึงเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ เที่ยววันเดียวก็ครบจ้า ตลาดปลาที่นี่ก็เป็นอีกพ้อยที่ต้องไม่พลาด คือทริปกินจริงๆจ้า ในตลาดปลานั้น ถึงจะอากาศไม่ค่อยอำนวยแต่เราก็สู้ เดินตลาดแบบแฉะๆนี่แระ

?ตลาดปลาฮาโกดาเตะ อยู่ใกล้สถานีรถไฟ ฮาโกดาเตะมาก? ในตลาดก็จะเป็นเหมือนตลาดสดบ้านเรา แต่ด้วยความที่เป็นปลาที่เราไม่เคยเห็นมันก็เลยตื่นเต้นหน่อย

?พ้อยของตลาดก็จะเป็น ปลาหมึกชาชิมิที่ทางเชฟจะตกขึ้นมาแล้วแร่ลงชามให้ทานสดๆเลย มันไม่คาวนะ อร่อยอยู่แถมหนวดยังดิ้นอยู่เลย ใครอยากลองก็แนะนำเลย และที่นี่ก็มีศาลเจ้ากับความชิลๆของเมืองเล็กๆอีกนะ โชคไม่ค่อยดีวันที่เราไปฝนตกหนักมาก ทำให้ไม่ค่อยได้เดินที่ไหนเท่าไหร่ จบ 1 วัน อีกล้าว

ต่อไปเพิ่มความหนาวกันต่อที่ ยามากาตะ หรือ ไปดูสโนว์ มอนสเตอร์ กันดีกว่า นั่งชินคันเซนลงมาอีก ประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง เซนได้ แล้วเปลี่ยนรถไฟเข้ามาที่ ยามากาตะต่อได้เลยค่ะ จริงตอนน่งรถไฟลงมา จะถึงเซนไดก่อน ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีหิมะเลย แต่พอเข้าสู่ยามะกาตะเท่านั้น หิมะมารัวๆ ก็งงเหมือนกัน แต่เพราะว่ามีเขาเยอะ เลยทำให้มีความหนาวกว่าจุดอื่น ในโทโฮคุนั่นเอง หนาวแบบนี้มาทำอะไรที่โทโฮคุกันหลอ... เราขอแนะนำ snow monster เลยว่าแต่มัน จะเป็นปีศาจยังไงนะ ต้องมาในช่วง light up เท่านั้นนะคะ เพื่อนๆถึงจะเป็นปีศาจได้ เพราะตอนเช้าก็จะเป็นลานสกีทั่วไปค่า ซึ่งคิดไว้แล้วต้องมาดู ปีศาจหิมะให้ได้ ถึงแม้วันที่เรามาฟ้าจะไม่เป็นใจก็ตาม แต่ว่าเราก็จะให้สุด เราเนี่ยนะขึ้นไปตอนประมาณ 4 โมงเย็นเพื่อรอ เค้าเปิดไฟตอน 5 โมง ระหว่างทางขึ้นไปนั้น ถ้าฟ้าโปร่งคิดว่าจะสวยมากๆเลยทีเดียว

?พอขึ้นไปถึงแล้วเรียกได้ว่าอากาศข้างบนหนาวมากๆ ติดลบได้เลยแระ แต่ว่าเค้าก็มีที่อุ่นให้หลบความหนาวอยู่นะ เราหลบจนไฟเปิดแล้วก็วิ่งออกไปถ่ายรูปแล้วก็เข้ามา คือมันหนาวมากจนไม่สามารถยืนได้เลย ลมแรงมากด้วย

*ค่าใช้จ่ายดังนี้*

ค่าโดยสาร Zao Ropeway

Sanroku Line: Zao Sanroku Statiohn – Juhyo Kogen Station

ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป): เที่ยวเดียว 800 เยน / ไปกลับ 1,500 เยน

เด็ก (ชั้นประถม): เที่ยวเดียว 400 เยน / ไปกลับ 800 เยน

Sancho Line: Juhyo Kogen Station – Jizo Sancho Station

ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป): เที่ยวเดียว 1,500 เยน / ไปกลับ 2,600 เยน

เด็ก (ชั้นประถม): เที่ยวเดียว 800 เยน / ไปกลับ 1,300 เยน

ค่าโดยสาร Zao Chuo Ropeway

ผู้ใหญ่: เที่ยวเดียว 800 เยน / ไปกลับ 1,300 เยน

เด็ก: เที่ยวเดียว 400 เยน / ไปกลับ 650 เยน

และที่สำคัญและห้ามพลาด เมื่อมาโทโฮคุ ต้องแช่ออนเซนซึ่งย่านนี้มีออนเซนมากมายให้แช่กันเลยทีเดียว ใช้เวลาสัก 2 คืนกับสถานที่แห่งนี้ จากนั้นก็กลับมาที่ โตเกียวแหล่งช้อปปิ้ง อีก 3-4 คืน ก็กลับบ้านได้อย่างสบายใจละหล่ะจริงมั้ย ไม่ใช่ไรนะ ล้มละลายที่โตเกียวนี่แหละ ยังไงเดินทางจาก ยามากาตะมาโตเกียวก็ชินคันเซนประมาณ 2 ชั่วโมง นั่งยาวๆมาเลยค่า ถึงโตเกียวแล้วก็เป็นที่ที่คุ้นๆกัน สำหรับคนที่มาแล้ว ส่วนมือใหม่ ก็จะแนะนำสถานที่สำคัญ อย่างวัด อาซากุสะ ศาลเจ้าเมจิ หรือ โอไดบะ ที่ไม่ควรพลาด หรือ แม้แต่แหล่งช้อปปิ้ง อย่างชินจูกุ ฮาราจูกุ และ ชิบูย่าเป็นต้น 4 วันที่เหลือ จะพอกันรึเปล่านะ

Credit: freepic

Credit: freepic

***ยังไงเรื่องราวนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะมากๆที่อยู่ตามสถานที่ต่างๆที่เราไม่ได้แนะนำ อยากให้ไปดูเรื่องราวที่เราเคยเขียน ไว้นะคะ กลัวโพสจะยาวแล้วไม่อยากจะอ่านกัน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ***

ค้นหาตั๋ว JR Pass ราคาถูกใน Klook

ข้อมูลในหน้านี้อาจมีข้อมูลในวันที่เผยแพร่ แม้ว่าเราจะพยายามอัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง แต่โปรดทราบว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ได้รับการอัปเดต
ABOUT ME
kimbellz
เป็นคนชอบเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และ ตั้งใจว่าจะไปให้ได้ทุกปี
RELATED POST

ถ้าคุณชอบบทความนี้
กด "ถูกใจ" ด้วย!

กด “ถูกใจ” และรับข้อมูลล่าสุด!