เที่ยวซัมเมอร์ที่ชิโกกุ... Typical Summer in Shikoku

ชิโกกุ (Shikoku) เป็นทั้งภูมิภาคและหนึ่งในเกาะหลักทั้งสี่ของญี่ปุ่น อันได้แก่ ฮอนชู คิวชู ฮอกไกโด และชิโกกุ โดยชิโกกุถือเป็นเกาะน้องเล็กเพราะมีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาเกาะหลักด้วยกัน โอบล้อมด้วยทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) และมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดโทกุชิมะ จังหวัดคางาวะ จังหวัดเอฮิเมะ และจังหวัดโคจิ มีของขึ้นชื่อคือ “ซานุกิอุด้ง” (Sanuki Udon) ที่ใครๆ ต่างก็บอกว่าเป็นอุด้งแสนอร่อย เป็นเกาะหลักที่มีนักท่องเที่ยวไม่หนาแน่นมากเมื่อเทียบอีกสามเกาะหลักที่เหลือ จึงทำให้ชิโกกุยังคงรักษาความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและบรรยากาศอันเงียบสงบไว้ได้อย่างดี มีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานชื่นชมธรรมชาติอันเขียวขจี มีวัดวาอารามและศาลเจ้ามากมายให้ได้สักการะขอพร และมีเกาะน้อยใหญ่ที่เพียบพร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามของหาดทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม

สภาพอากาศของภูมิภาคชิโกกุในช่วงซัมเมอร์ค่อนข้างร้อนเพราะอยู่ในเขตภาคพื้นสมุทร อุณหภูมิเฉลี่ยอาจสูงไปถึงประมาณ 33 °C ในราวๆ เดือนสิงหาคม นักท่องเที่ยวควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสบายๆ และไม่หนาเกินไป เน้นความสะดวกทะมัดทะแมงในการทำกิจกรรมต่างๆ

Contents

การเดินทาง
- ไฮไลท์ท่องเที่ยวชิโกกุช่วงซัมเมอร์ (Shikoku Summer Traveling Highlight)

การเดินทาง

ถ้าเดินทางโดยเครื่องบิน สามารถใช้บริการไฟลท์ตรงจากสนามบินนาริตะไปลงที่สนามบินทาคามัตสึ (Takamatsu Airport) ในจังหวัดคางาวะ หรือลงที่สนามบินในโอซาก้าและฟุกุโอกะ จากนั้นต่อรถไฟชินคันเซ็นไปลงสถานีในจังหวัดโอคายามะ จากนั้นใช้บริการรถไฟทั่วไปเข้าสู่ภูมิภาคชิโกกุได้เลย

นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางโดยรถยนต์ ผ่านสะพานที่ทอดข้ามทะเลเซโตะเชื่อมระหว่างเกาะฮอนชูและชิโกกุ ซึ่งมีทั้งหมดสามแห่ง โดยเส้นทางแรกเชื่อมจากเมืองโกเบ มายังเมืองนารุโตะในจังหวัดโทกุชิมะ เส้นทางที่สองเชื่อมจากเมืองฮายาชิมะในจังหวัดโอคายามะ มายังเมืองซาคาอิเดะในจังหวัดคางาวะ และเส้นทางที่สามเชื่อมจากโอโนมิจิของฮิโรชิมะ มายังเมืองอิมาบาริในจังหวัดเอฮิเมะ

ด้านการเดินทางภายในภูมิภาค สามารถใช้บริการรถไฟทั่วไป รถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร แท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัว รวมไปถึงเช่าจักรยานเพื่อปั่นข้ามสะพานเพื่อชมวิวได้อีกด้วย

ไฮไลท์ท่องเที่ยวชิโกกุช่วงซัมเมอร์ (Shikoku Summer Traveling Highlight)

หาดชิจิบุกาฮามะ (Chichibugahama Beach), จังหวัดคางาวะ

ชายหาดความยาว 1 กม. เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวหน้าร้อนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในร้อยจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ได้รับความนิยมที่สุดในญี่ปุ่น ไฮไลท์คือเป็นจุดถ่ายภาพสะท้อนน้ำ ที่ได้ภาพราวกับสะท้อนจากกระจกธรรมชาติและมีความงดงามตราตรึงใจ คล้ายกับที่ “Salar de Uyuni” ของประเทศโบลิเวีย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.mitoyo-kanko.com/eng/chichibugahama/

เทศกาลโยสะโคอิ (Yosakoi Festival), จังหวัดโคจิ

หนึ่งใน 10 เทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่มีมานานกว่า 60 ปี จัดขึ้นในวันที่ 9-12 สิงหาคม ของทุกปี เพื่อเป็นกิจกรรมรื่นเริงในช่วงหน้าร้อนของชาวโคจิ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยจะเริ่มต้นงานในวันที่ 9 ด้วยพิธีกรรมและการแสดงดอกไม้ไฟเพื่อให้บรรยากาศคึกคักเร้าใจ จากนั้นในวันต่อมาจะเป็นเทศกาลหลัก โดยจะมีการเดินขบวนแสดงการร่ายรำแบบโยสะโคอิ การจัดริ้วขบวนด้วยรถบุปผชาติ รวมไปถึงการแสดงการตีกลองนารุโกะอันเลื่องชื่อ เป็นเทศกาลที่ทรงพลังและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศที่สนใจอยากเข้าร่วมเพื่อสัมผัสบรรยากาศอันเปี่ยมเสน่ห์นี้สักครั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://ohmatsuri.com/th/articles/kochi_yosakoi_matsuri

https://shikoku-tourism.com/en/

ภูเขาชิอุเดะ (Mt. Shiude), จังหวัดคางาวะ

ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโชไน (Shonai Peninsula) ในเมืองมิโตโยะ จังหวัดคางาวะ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 15 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ซากุระเท่านั้น เพราะในฤดูร้อน ภูเขาชิอุเดะจะถูกแต่งแต้มไปด้วยความงดงามของดอกไฮเดรนเยียที่ผลิดอกบานสะพรั่งละลานตา นอกจากนั้นคุณยังจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งของทะเลเซโตะขณะเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/20631

https://www.mitoyo-kanko.com/eng/mt-shiude/

เกาะนาโอชิมะ (Naoshima Island), จังหวัดคางาวะ

นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือทาคามัตสึ (Takamatsu Port) มายังท่าเรือมิยาโนะอุระ (Miyanoura Port) คุณจะพบกับ “ฟักทองสีแดง” (Yayoi Kusama’s Red Pumpkin) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนาโอชิมะ เกาะที่ได้ชื่อว่าเป็นเกาะแห่งศิลปะที่หลอมรวมธรรมชาติอันสวยงามของทะเลเซโตะ กับศิลปะและสถาปัตยกรรมของนาโอชิมะ ผสมผสานจนกลายเป็นจิตวิญญาณอันน่าหลงใหล แหล่งท่องเที่ยวสำคัญบนเกาะ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์บ้านเบเนสเซ่ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะชิจู เป็นต้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/10079

https://www.chushikokuandtokyo.org/spot_99/?language=th

หาดคาราโกะ (Karako Beach), จังหวัดเอฮิเมะ

ทัศนียภาพอันงดงามด้วยทิวต้นสนเขียวขจี ที่เรียงรายอยู่ริมหาดทรายสีขาวซึ่งทอดตัวยาว 8 กม. ตามแนวชายฝั่งทะเลเซโตะ ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ชายหาดที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น หาดคาราโกะในฤดูร้อนนับเป็นชายหาดยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลกีฬาทางน้ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/22290

เส้นทางแห่งผืนฟ้า (UFO Line), จังหวัดโคจิ

เส้นทางคดเคี้ยวไปตามสันเขาคาเมะกาโมริ ณ ดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดสูงสุดแห่งชิโกกุ ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 1,300-1,700 เมตร ผ่านพื้นที่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์อิชิซุจิ (Ishizuchi Mountain) ให้คุณได้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ของแนวภูเขาตระการตา ที่เมื่อทอดสายตาออกไปจะเห็นความกว้างใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างชัดเจนไร้สิ่งบดบังสายตา

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://visitkochijapan.com/th/see-and-do/10501

https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/20647

ศาลเจ้าสึชิมะ (Tsushima Shrine), จังหวัดคางาวะ

ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งมิโนะ เมืองมิโตโยะ จังหวัดคางาวะ เป็นที่ประดิษฐานของเทพผู้พิทักษ์ด้านสุขภาพและการเติบโตของเด็กๆ ในทุกวันที่ 4-5 สิงหาคม ของทุกปี จะมีการสร้างสะพานเชื่อมจากชายฝั่งไปยังเกาะ เพื่อใช้ในงานเทศกาลฤดูร้อนที่ผู้คนจะสามารถข้ามไปยังเกาะได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น ทำให้ช่วงเวลานี้ภายในเกาะจะคลาคล่ำไปด้วยฝูงชนที่มาร่วมงานเทศกาลตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/23647

ที่ราบสูงโอกาวะฮาระ (Okawahara Plateau), จังหวัดโทกุชิมะ

จุดที่อยู่ใกล้ท้องฟ้ามากที่สุดในโทกุชิมะ เป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมในการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินระหว่างภูเขาตามแนวสายตา เป็นที่ตั้งของ “ไฮเดรนเยีย 30,000 ต้น” ซึ่งก่อให้เกิด “เทศกาลชมดอกไฮเดรนเยีย” ที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ที่ราบสูงโอกาวะฮาระนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนที่เย็นสบายแม้ในฤดูร้อน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://ne-np.facebook.com/tourismshikoku.en/posts/346624364312582

https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/23726

เทศกาลดอกไม้ไฟเมืองโทกุชิมะ (Tokushima Firework in Suito Festival), จังหวัดโทกุชิมะ

สถานที่หลักของงานจัดขึ้นที่สวนสาธารณะไอบะฮามะ ในเมืองโทกุชิมะ โดยภายในงานจะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมมากมาย มีโซนขายอาหารและเครื่องดื่มรสเลิศจากทั่วญี่ปุ่นที่ยกขบวนกันมาตั้งแผงขายอย่างคึกคัก ไฮไลท์ของงานอยู่ช่วงค่ำ กับการแสดงดอกไม้ไฟที่จะแต่งเติมสีสันของท้องฟ้ายามค่ำคืนของโทกุชิมะให้ดูสวยงามมีเสน่ห์และชวนตะลึงไปพร้อมๆกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/20657

เส้นทางชิโกกุคาสท์ (Shikoku Karst), จังหวัดเอฮิเมะ

อุทยานซึ่งเป็นที่ราบสูงที่เกิดจากการกัดเซาะของหินปูนบนพื้นผิวโลก มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,485 เมตร เป็นหนึ่งในสามคาสต์ที่ใหญ่ที่ในญี่ปุ่น มีเส้นทางที่รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามของถนนที่ทอดยาวประมาณ 25 กม. เหมาะสำหรับขับรถหรือปั่นจักรยาน รวมถึงตั้งแคมป์ได้ตลอดปียกเว้นในฤดูหนาวที่ปิดให้บริการเนื่องจากหิมะที่ตกอย่างหนักทุกปี โดยนักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับภาพของวัวที่หากินบนทุ่งหญ้าในตอนกลางวัน และตื่นตาตื่นใจกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวในยามค่ำคืน

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.jnto.or.th/newsletter/ehime-unseen-sightseeing/

https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/10025

ทะเลสาบคินชา (Lake Kinsha), จังหวัดเอฮิเมะ

ทะเลสาบคินชาเป็นทะเลสาบเทียมความยาว 7 กม. ตั้งอยู่ระหว่างภูเขาชิโกกุและภูเขาฮูซานมิยากุ พื้นน้ำของทะเลสาบ ณ ระดับความสูง 290 เมตร จะสะท้อนภาพของภูเขาเขียวขจีที่ตั้งตระหง่านตัดกับสีแดงเข้มของสะพานฮิราโนะที่ทอดข้ามลำน้ำกลายเป็นความงามอย่างน่าทึ่ง ทะเลสาบคินชาเป็นสถานที่ตกปลากะพงน้ำจืดที่มีชื่อเสียง จนมีเทศกาลริมทะเลสาบคินชาปีละสองครั้งในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/22326

หอนาฬิกาโนระ (Nora Dokei), จังหวัดโคจิ

หอนาฬิกาภูมิปัญญาชาวบ้านที่เดินมานานกว่า 130 ปี สร้างขึ้นโดยคุณเก็นมะ ฮาทาเกะนากะ เจ้าของที่ดินในขณะนั้นผู้ซึ่งมีความหลงใหลในการทำงานอันซับซ้อนของนาฬิกา และทำการศึกษาด้วยตนเองโดยการแยกชิ้นส่วนนาฬิกาที่ผลิตจากอเมริกาแล้วนำกลับมาประกอบใหม่ซ้ำๆ จนเข้าใจและได้สร้างหอนาฬิกาสไตล์ญี่ปุ่นแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์ให้ชาวนาที่ทำงานกลางทุ่งแจ้งในละแวกนั้นได้รับรู้เวลาเพียงเงยหน้าขึ้นมองเท่านั้น และได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในท้องถิ่นในเวลาต่อมา ในฤดูร้อนหอนาฬิกาโนระจะรายล้อมด้วยทุ่งดอกทานตะวันที่แข่งกันเบ่งบานอยู่ใกล้ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปทิวทัศน์จากด้านนอกได้ แต่จะไม่สามารถเข้าชมภายในเนื่องจากเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://visitkochijapan.com/th/see-and-do/10006

https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/13966

ช่องเขานาเมโทโกะ (Nametoko Gorge), จังหวัดเอฮิเมะ

เพลิดเพลินกับศิลปะที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ณ หุบเขาที่ทอดตัวไปตามพื้นที่ตอนบนริมแม่น้ำเมกุโระ มีลำธารใสสะอาดไหลผ่านตามโขดหินท่ามกลางป่ามอสที่สวยงาม และน้ำตกยูกิวะไหลลงมาตามผาหินขนาดยักษ์ น้ำตกที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของหุบเขาและได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 100 น้ำตกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ช่องเขานาเมโทโกะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบเดินป่าและจุดชมวิวที่มีเสน่ห์อย่างมากโดยเฉพาะในฤดูร้อนและฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.visitehimejapan.com/en/see-and-do/698

https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/22369

ทุ่งดอกทานตะวันนากายามะ (Nakayama Sunflower Field), จังหวัดคางาวะ

ดอกทานตะวันกว่า 310,000 ต้น เหลืองอร่ามเบ่งบานภายใต้ท้องฟ้าสีครามบนภูเขาอาซัน โดยเฉพาะวิวบนยอดเขานั้นยิ่งงดงามราวกับภาพวาดและยังสื่อถึงความเป็นฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี ทุ่งดอกทานตะวันนากายามะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวจากทั้งในและนอกประเทศแวะเวียนมาเยี่ยมชมอย่างมากมาย เพราะนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศหน้าร้อนแสนโรแมนติก ที่นี่ยังเป็นจุดถ่ายรูประดับพรีเมี่ยมอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/20646

เทศกาลดอกไม้ไฟฤดูร้อนที่สถานีไซโจ (Summer Fireworks Festival @Saijo Station), จังหวัดเอฮิเมะ

เทศกาลดอกไม้ไฟฤดูร้อนของชาวไซโจ จัดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำคาโมกาวะใกล้สถานีรถไฟ Iyo Saijo เป็นหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของจังหวัด ภายในงานมีแผงขายอาหารตั้งเรียงรายตามจุดจัดงานที่ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศมากมายขณะชมดอกไม้ไฟกว่า 4,500 ดอกที่ถูกจุดเพื่อแต่งแต้มสีสันของท้องฟ้ายามค่ำคืนเหนือแม่น้ำคาโมกาวะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://shikoku-tourism.com/en/see-and-do/20682