สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ใครกำลังวางแผนมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าฝนเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมแถวคันไซ (โอซาก้า) บ้างคะ ยกมือขึ้นหน่อย! 🙋♀️ หลายคนอาจจะกังวลว่าฝนตกแล้วจะเที่ยวไม่สนุกใช่มั้ยล่ะคะ
บอกเลยว่าคิดผิด! เพราะแถวคันไซเนี่ย มีที่เที่ยวเจ๋งๆ เพียบ ที่ต่อให้ฝนตกพรำๆ ก็ยังสนุกสุดเหวี่ยงได้แน่นอนค่ะ วันนี้เราคัดมาให้เน้นๆ 5 ที่ ที่รับรองว่าถูกใจสายเที่ยวแบบเราแน่นอน ไปดูกันเลยค่ะ!
เที่ยวคันไซหน้าฝน…มันดียังไง
ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมที่คันไซเนี่ย จะเป็นช่วงฤดูฝน (สึยุ) ก็จริง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอฝนตกหนักตลอดวันนะคะทุกคน! บางทีฝนก็ตกปรอยๆ แล้วเดี๋ยวแดดก็ออก แถมช่วงนี้ต้นไม้ใบหญ้าจะเขียวชอุ่มเป็นพิเศษ ถ่ายรูปออกมาสวยปังแน่นอนค่ะ
ที่สำคัญคือคนไม่เยอะเท่าช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสีด้วยนะคะ จะเดิน จะถ่ายรูปก็สบายๆ ชิลล์ๆ แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ที่เที่ยวในร่มเค้าเยอะมาก! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสนุกกับคันไซในแบบที่ไม่เหมือนใครกันค่ะ!
5 ที่เที่ยวคันไซหน้าฝน…ที่คนไทยต้องเลิฟ!
ที่ 1: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)

ทำไมต้องที่นี่?
ใครมาโอซาก้าแล้วไม่มา "ไคยูคัง" ถือว่าพลาดมากค่ะ! ที่นี่เค้าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่สุดๆ ระดับโลกเลยนะคะ
ข้างในมีสัตว์ทะเลจากทั่วโลกให้ดูแบบจุใจ เหมือนเราได้นั่งเรือดำน้ำเที่ยวรอบมหาสมุทรแปซิฟิกเลยอ่ะค่ะ
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ "แทงก์แปซิฟิก" ขนาดมหึมา ที่มีน้อง "จินเบซามะ" หรือฉลามวาฬตัวใหญ่แหวกว่ายอย่างสง่างาม
นอกจากนี้ก็ยังมีน้องนากทะเลสุดน่ารัก เพนกวินขี้เล่น แล้วก็แมงกะพรุนเรืองแสงสุดอลังการให้เราได้ถ่ายรูปกันด้วยนะคะ
ใครชอบถ่ายรูปต้องห้ามพลาดโซน "Kura-ge Ginga" หรือ "ทางช้างเผือกแมงกะพรุน" เลยนะคะ ฟีลเหมือนหลุดไปในโลกแฟนตาซีเลย
ทำไมถึงเหมาะกับหน้าฝน?
"ไคยูคัง" เค้าเป็นที่เที่ยวในร่มแบบ 100% จ้า! ไม่ต้องกลัวฝนตกให้เปียกปอนเลยค่ะ เดินชมสัตว์ทะเลสวยๆ ได้ทั้งวันแบบสบายใจ
เดินทางยังไง?
- จากสถานีโอซาก้า: ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Midosuji ไปลงสถานี Honmachi แล้วเปลี่ยนไปขึ้นสาย Chuo ไปลงสถานี Osakako (ทางออก 1) เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที / หรือจะนั่งรถบัส Osaka City Bus สาย 88 ไปลงป้าย Tenposan Harbor Village เลยก็ได้ค่ะ
- จากสถานีนัมบะ: ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Midosuji ไปลงสถานี Honmachi แล้วเปลี่ยนไปขึ้นสาย Chuo ไปลงสถานี Osakako (ทางออก 1) เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที / หรือจะนั่งรถบัส Osaka City Bus สาย 60 ไปลงป้าย Tenposan เลยก็ได้ค่ะ
- จากสนามบินคันไซ: มีรถลิมูซีนบัสวิ่งตรงไปถึง Tenposan (Kaiyukan) เลยนะคะ สะดวกสุดๆ
เที่ยวให้สนุกต้องทำไง?
เริ่มจากเดินลอดอุโมงค์ "Fish Thoroughfare Aqua Gate" เข้าไปสู่โลกใต้ทะเลกันก่อนเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็เดินชมแทงก์ต่างๆ ที่จำลองสภาพแวดล้อมของทะเลในแต่ละภูมิภาคของมหาสมุทรแปซิฟิก "โซนป่าญี่ปุ่น" ก็มีน้องนากเล็กน่ารัก "โซนทวีปแอนตาร์กติกา" ก็มีเพนกวินให้ดู ส่วนแทงก์หลัก "แปซิฟิก" ก็ต้องดูน้องจินเบซามะกับน้องกระเบนแมนต้าว่ายน้ำชิลล์ๆ อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับน้องแมงกะพรุนสวยๆ ที่ "Kura-ge Ginga" ด้วยนะคะ
ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นเจ้าหน้าที่ให้อาหารสัตว์ด้วย ที่สำคัญคือตั๋วเข้าชมสามารถกลับเข้าไปใหม่ได้ภายในวันเดียวกันด้วยนะคะ จะออกไปเดินเล่นแถว Tenposan Harbor Village ก่อนแล้วค่อยกลับเข้าไปใหม่ก็ได้ค่ะ
หิวแล้วกินไรดี?
ข้างๆ "ไคยูคัง" ก็มี "Tenposan Marketplace" ที่รวมร้านอาหารอร่อยๆ กับร้านขายของที่ระลึกไว้เพียบ จะลองกิน "โอโคโนมิยากิ" ที่ร้าน "Botejyu" หรือ "ข้าวห่อไข่" นุ่มๆ ที่ร้าน "Hokkyokusei" หรือ "ข้าวราดแกงกะหรี่" สุดฮิตที่ร้าน "Jiyuken" ก็ได้ค่ะ
ถ้าเดินไปอีกหน่อยก็มีร้าน "Tsukiji Menkobo Honten" ที่ขายอุด้งอร่อยๆ หรือร้าน "Tancho" ที่ขายราเม็งรสเด็ดด้วยนะคะ
ที่ 2: พิพิธภัณฑ์บ้านและการใช้ชีวิตแห่งโอซาก้า (Osaka Museum of Housing and Living)

ทำไมต้องที่นี่?
"พิพิธภัณฑ์บ้านและการใช้ชีวิตแห่งโอซาก้า" เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะเค้าจำลองบรรยากาศของเมืองโอซาก้าในสมัยเอโดะ (ยุคโบราณของญี่ปุ่น) ให้เราได้เดินชมกันแบบเสมือนจริงเลยอ่ะค่ะ
ทั้งบ้านเรือน ร้านค้าต่างๆ เค้าทำออกมาได้ละเอียดสุดๆ เหมือนเราได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตจริงๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีโซนที่แสดงให้เห็นถึงบ้านและการใช้ชีวิตของคนโอซาก้าในยุคเมจิ ไทโช และโชวะด้วยนะคะ ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองแบบชัดเจนเลย
ทำไมถึงเหมาะกับหน้าฝน?
"พิพิธภัณฑ์บ้านและการใช้ชีวิตแห่งโอซาก้า" ก็เป็นที่เที่ยวในร่มอีกที่ ที่เราสามารถมาเดินเล่น เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโอซาก้าได้แบบสบายๆ ไม่ต้องกลัวฝนค่ะ
เดินทางยังไง?
- จากสถานีอุเมดะ (โอซาก้า): ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Midosuji จากสถานี Umeda ไปลงสถานี Tenjinbashisuji 6-chome แล้วเดินตรงจากทางออก 3 ได้เลยค่ะ
- จากสถานีเท็มมะ: ขึ้นรถไฟ JR Osaka Loop Line ไปลงสถานี Tenma แล้วเดินขึ้นไปทางเหนือตามถนนคนเดินประมาณ 7 นาที
เที่ยวให้สนุกต้องทำไง?
เริ่มจากขึ้นไปที่ชั้น 10 เพื่อดูวิวเมืองจำลองสมัยเอโดะจากมุมสูงก่อนเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็ลงมาชั้น 9 แล้วเดินสำรวจเมืองจำลองกันแบบใกล้ชิด ลองเข้าไปดูข้างในบ้านเรือน หรือดูของใช้ต่างๆ ที่เค้าจัดแสดงไว้ ก็จะทำให้เราเห็นภาพชีวิตคนสมัยก่อนได้ชัดเจนขึ้น ถ้าอยากรู้ลึกรู้จริง ก็ลองเข้าร่วมทัวร์ชมเมืองจำลองฟรีได้นะคะ เค้าจะมีไกด์คอยอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง ส่วนชั้น 8 ก็จะเป็นโซนแสดงเกี่ยวกับโอซาก้าในยุคเมจิ ไทโช และโชวะ อย่าลืมดูแผนที่โอซาก้าขนาดใหญ่ที่ปูอยู่บนพื้นด้วยนะคะ
ลองเช็คเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ดู เผื่อเค้ามีอีเวนท์พิเศษหรือเวิร์คช็อปน่าสนใจที่เราเข้าร่วมได้ด้วยค่ะ
หิวแล้วกินไรดี?
"พิพิธภัณฑ์บ้านและการใช้ชีวิตแห่งโอซาก้า" อยู่ใกล้กับ "ถนนคนเดินเทนจินบาชิสุจิ" ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะคะ
ที่ถนนเส้นนี้มีร้านอาหารอร่อยๆ เพียบ! จะลองกินอาหารโอซาก้าแบบดั้งเดิม หรืออาหารนานาชาติก็มีให้เลือกเยอะแยะ หรือจะไปหาอะไรอร่อยๆ กินแถวสถานีอุเมดะก็ได้นะคะ เดินทางสะดวกเหมือนกัน ที่ถนนคนเดินเทนจินบาชิสุจิก็มีร้าน "Tensho" ที่ขายเทมปุระอร่อยๆ หรือร้าน "Sushi Tenshi" ที่ขายซูชิรสเลิศด้วยนะคะ
ที่ 3: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต (Kyoto Aquarium)

ทำไมต้องที่นี่?
"พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต" ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Umekoji Park เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ทันสมัยมากๆ แถมยังเป็นที่แรกในญี่ปุ่นที่ใช้น้ำทะเลเทียมทั้งหมดด้วยนะคะ
ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชีวิตที่เชื่อมโยงกับสายน้ำ" ที่นี่เค้ามีสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ตั้งแต่ "โอซันโชวอุโอะ" หรือซาลาแมนเดอร์ยักษ์ สัตว์หายากที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำของเกียวโต ไปจนถึงเพนกวินและโลมาที่มาจากทะเล
ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือโซน "Kyoto no Kawa" หรือ "แม่น้ำแห่งเกียวโต" ที่เราจะได้เจอกับน้องโอซันโชวอุโอะแบบใกล้ชิด
นอกจากนี้ก็ยังมีโซนเพนกวินน่ารักๆ แล้วก็โซน "Kurage Wonder" ที่เป็นโลกของแมงกะพรุนสุดอลังการให้เราได้ชมกันด้วย เค้ายังมีโชว์โลมาให้ดูด้วยนะคะ สนุกได้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เลย
ทำไมถึงเหมาะกับหน้าฝน?
"พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต" ส่วนใหญ่เป็นอาคารในร่ม ทำให้เราสามารถเที่ยวได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องฝนเลยค่ะ
แถม "Ilca Stadium" ที่จัดแสดงโชว์โลมาก็มีหลังคาด้วยนะคะ ไม่ต้องกลัวเปียกแน่นอน
เดินทางยังไง?
- จากสถานีเกียวโต: เดินไปทางทิศตะวันตกจากทางออกกลางของสถานีเกียวโตประมาณ 15 นาที / หรือจะขึ้นรถไฟ JR San-in Main Line ไปลงสถานี Umekoji-Kyoto-nishi แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาทีก็ได้ค่ะ
- รถบัส: จากสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัส Kyoto City Bus ไปลงป้าย "Shichijo Omiya / Kyoto Aquarium-mae" ก็ถึงเลยค่ะ
เที่ยวให้สนุกต้องทำไง?
เริ่มจากโซน "Kyoto no Kawa" ไปดูน้องโอซันโชวอุโอะหน้าตาแปลกๆ กันก่อนเลยค่ะ
ต่อไปก็ไปดูน้องเพนกวินที่เค้าจะว่ายน้ำอย่างสง่างามในแทงก์ หรือเดินเตาะแตะบนบกให้เราได้ถ่ายรูปกัน ที่แทงก์ใหญ่ "Kyoto no Umi" หรือ "ทะเลแห่งเกียวโต" ก็มีปลาหลากหลายชนิดว่ายรวมกันเป็นฝูงให้เราได้ชม
แล้วก็อย่าลืมไปสัมผัสความสวยงามของแมงกะพรุนหลากสีสันที่โซน "Kurage Wonder" ด้วยนะคะ
เช็คตารางโชว์โลมา แล้วไปดูน้องโลมาแสดงความสามารถสุดน่ารักกันด้วย
ก่อนกลับก็อย่าลืมแวะไปที่โซน "Kyoto no Satoyama" หรือ "หมู่บ้านชนบทแห่งเกียวโต" ที่เค้าจำลองบรรยากาศของหมู่บ้านในเกียวโตไว้ ให้เราได้สัมผัสธรรมชาติกัน
หิวแล้วกินไรดี?
รอบๆ "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเกียวโต" ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ เยอะแยะ โดยเฉพาะแถวสถานีเกียวโต ในสวน Umekoji Park ที่มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำตั้งอยู่ก็มีคาเฟ่ด้วยนะคะ แถวสถานีเกียวโตก็มีร้าน "Beto Kitchen" ที่ขายอาหารเวียดนาม ร้าน "Kyo no Obanzai Tokoro Rokkakuy" ที่ขายอาหารเกียวโตแบบดั้งเดิม หรือร้าน "Wine Shokudo Ki no Hachi Kyoto Ekimae" ที่เป็นร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์ไวน์บิสโทรให้เลือก
ที่ 4: ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine)

ทำไมต้องที่นี่?
"ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ" โด่งดังมากๆ เรื่อง "เสาโทริอิพันต้น" ที่เรียงรายกันเป็นทางยาวบนไหล่เขา สีแดงสดของเสาโทริอิกับสีเขียวของต้นไม้รอบข้างเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจมากๆ ค่ะ
ที่นี่เค้าเป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นเคารพนับถือในเรื่องของความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขายและการเกษตร ยิ่งเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ วิวเมืองเกียวโตก็จะสวยงามมากขึ้นด้วยนะคะ
ทำไมถึงเหมาะกับหน้าฝน?
"ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ" ส่วนใหญ่เป็นที่เที่ยวกลางแจ้งก็จริง แต่ทางเดินที่มีเสาโทริอิพันต้นเรียงรายกันอยู่นั้นมีต้นไม้ปกคลุม ทำให้พอจะหลบฝนปรอยๆ ได้บ้าง แถมสีแดงของเสาโทริอิที่เปียกฝนก็จะยิ่งสดใส ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ดูสวยงามและลึกลับไปอีกแบบ ช่วงหน้าฝนคนอาจจะไม่เยอะเท่าช่วงอื่น ทำให้เราสามารถเดินชมศาลเจ้าได้อย่างเงียบสงบมากขึ้นด้วยนะคะ
เดินทางยังไง?
- จากสถานีเกียวโต: ขึ้นรถไฟ JR Nara Line ไปลงสถานี Inari ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เดินออกจากสถานีก็ถึงเลยค่ะ
- รถไฟเคฮัน: ขึ้นรถไฟ Keihan Main Line ไปลงสถานี Fushimi-inari แล้วเดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 5 นาที
- รถบัส: ขึ้นรถบัส Kyoto City Bus สาย South 5 ไปลงป้าย Inari Taisha-mae แล้วเดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 7 นาที
เที่ยวให้สนุกต้องทำไง?
หลังจากไหว้พระขอพรที่อาคารหลักแล้ว ก็ได้เวลาเดินลอด "เสาโทริอิพันต้น" กันแล้วค่ะ!
การได้เดินลอดเสาโทริอิสีแดงนับพันต้นที่เรียงรายกันเป็นทางยาวเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากๆ ค่ะ ถ้าเดินขึ้นไปถึง "Okusha Hohaisho" จะมี "หินโอะโมะคะรุ" หรือหินทำนายโชคลาภให้เราลองยกดูด้วยนะคะ
ถ้าใครยังไหว ก็ลองเดินขึ้นเขาไปจนถึงยอดเขาเลยก็ได้นะคะ ระหว่างทางก็จะมีศาลเจ้าเล็กๆ และร้านน้ำชาให้เราได้พักเหนื่อยและชมวิวด้วย
ถ้าไปช่วงเช้าๆ คนจะยังไม่เยอะมาก บรรยากาศจะเงียบสงบเป็นพิเศษ
หิวแล้วกินไรดี?
ตรงทางเดินขึ้นศาลเจ้าฟูชิมิอินาริก็มีร้านขาย "อินาริซูชิ" หรือซูชิเต้าหู้ทอด กับ "คิทสึเนะอุด้ง" หรืออุด้งหน้าเต้าหู้ทอด ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่เยอะแยะเลยค่ะ
ถ้าอยากพักเหนื่อยก็แวะจิบชาที่ร้านน้ำชา "Inari Saryo" ที่อยู่ตรงกลางเขาได้นะคะ วิวสวยมากๆ รอบๆ ศาลเจ้าก็มีร้าน "Yakiniku Kaishintei" ที่ขายเนื้อย่างอร่อยๆ หรือร้าน "Doi Katsuunagi" ที่ขายปลาไหลย่างรสเด็ดด้วยนะคะ
ที่ 5: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Nara (Nara National Museum)

ทำไมต้องที่นี่?
"พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Nara" เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นเลยนะคะ ที่นี่เค้ามีcollection งานศิลปะทางพุทธศาสนาเยอะมากๆ ทั้งพระพุทธรูป ภาพวาด เครื่องเขิน ตั้งแต่สมัยอาซึกะไปจนถึงสมัยคามาคุระ มีทั้งสมบัติชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญมากมายให้เราได้ชม โดยเฉพาะ "ห้องพระพุทธรูปแห่งนารา" ที่มีพระพุทธรูปสวยงามเรียงรายกันอยู่ เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเลยค่ะ
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ใน Nara Park ซึ่งรอบๆ ก็จะมีวัดเก่าแก่ เช่น วัดโทไดจิ แล้วก็น้องกวางน่ารักๆ เดินเล่นอยู่เต็มไปหมด
ทำไมถึงเหมาะกับหน้าฝน?
"พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Nara" เป็นอาคารในร่มทั้งหมด ทำให้เราสามารถเดินชมงานศิลปะได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกลัวฝนค่ะ
บรรยากาศข้างในก็เงียบสงบ เหมาะกับการมาดื่มด่ำความงามของศิลปะทางพุทธศาสนาของญี่ปุ่นมากๆ
เดินทางยังไง?
- จากสถานี Kintetsu Nara: เดินไปทางทิศตะวันออกประมาณ 15 นาที
- จากสถานี JR Nara: ขึ้นรถบัส Nara Kotsu Bus หรือรถบัส City Loop Bus (สาย 2 วิ่งวนรอบเมือง) ไปลงป้าย "Himuro Jinja / Kokuritsu Hakubutsukan" ก็ถึงเลยค่ะ
เที่ยวให้สนุกต้องทำไง?
เดินชมห้องจัดแสดงต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ แล้วค่อยๆ ดูกันไปทีละชิ้น ทั้งพระพุทธรูป ภาพวาด เครื่องเขิน โดยเฉพาะ "ห้องพระพุทธรูปแห่งนารา" ที่มีพระพุทธรูปจากหลายยุคสมัยมาจัดแสดงรวมกัน ความงามของแต่ละองค์จะทำให้เราตะลึงเลย ถ้าช่วงที่เราไปมีนิทรรศการพิเศษ ก็อย่าลืมแวะเข้าไปชมด้วยนะคะ ในร้านขายของที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์ก็มีหนังสือและของที่ระลึกเกี่ยวกับงานแสดงให้เราได้ซื้อกลับบ้านด้วย ถ้ามีเวลาก็ลองเข้าร่วมการบรรยายหรือเวิร์คช็อปที่พิพิธภัณฑ์จัดขึ้นก็ได้นะคะ
หิวแล้วกินไรดี?
รอบๆ Nara Park ที่มีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ Nara ตั้งอยู่ ก็มีร้านอาหารให้เลือกเยอะแยะ แถวสถานี Kintetsu Nara ก็มีร้าน "Nakatanido" ที่ขายโมจิสดๆ ร้อนๆ ร้าน "Kanakana" ที่เป็นคาเฟ่ ร้าน "Awa Nara-machi" ที่ขายอาหารเกียวโต หรือร้าน "NOROMA." ที่ขายราเม็งอร่อยๆ ให้เราได้ลิ้มลอง
ทริคเที่ยวหน้าฝนให้สนุกสุดเหวี่ยง! ☔️✨
- เตรียมร่มและเสื้อกันฝน: พกร่มพับขนาดเล็กที่พกพาสะดวก หรือเสื้อกันฝนเนื้อผ้าเบาๆ ที่ระบายอากาศได้ดี จะช่วยให้เราเที่ยวได้สบายตัวมากขึ้นค่ะ
- เลือกรองเท้าที่ใส่สบาย: เลือกรองเท้าที่ไม่ลื่น และทำจากวัสดุที่โดนน้ำได้ จะช่วยให้เราเดินเที่ยวได้อย่างมั่นใจค่ะ
- ใช้ประโยชน์จากที่เที่ยวในร่ม: นอกจาก 5 ที่ที่เราแนะนำไปแล้ว คันไซยังมีที่เที่ยวในร่มอีกเพียบ! ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ห้างสรรพสินค้า โรงละคร หรือออนเซ็น
- สนุกกับบรรยากาศหน้าฝน: ลองมองหาความสวยงามของธรรมชาติในวันที่ฝนตก เช่น ต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่มเป็นพิเศษ หรือบรรยากาศเงียบสงบที่หาไม่ได้ในวันแดดออก
- เช็คพยากรณ์อากาศ: คอยเช็คพยากรณ์อากาศอยู่เสมอ แล้วปรับแผนการเดินทางของเราให้ยืดหยุ่นตามสภาพอากาศค่ะ
- ใช้บริการขนส่งสาธารณะ: ระบบขนส่งสาธารณะของคันไซพัฒนามากๆ ทำให้เราเดินทางได้สะดวกสบาย แม้ในวันที่ฝนตก หลายสถานีหรือสถานที่ท่องเที่ยวก็เชื่อมต่อกับอาคารโดยตรง ทำให้ไม่ต้องเดินตากฝนเยอะค่ะ
- ช้อปปิ้งให้จุใจ: ในวันที่ฝนตก การไปเดินช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าใต้ดินก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ได้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยค่ะ
สรุป
ถึงแม้ว่าช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมจะเป็นฤดูฝนของคันไซ แต่ถ้าเราเตรียมตัวให้พร้อม แล้วเลือกไปเที่ยวในสถานที่ที่เราแนะนำไป ก็รับรองว่าทริปคันไซของเราจะสนุกและประทับใจแน่นอนค่ะ! ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกนะคะ!
